TH
English
Customers Also Purchased
คุณเคยไหมครับ... วันหยุดสุดสัปดาห์ ตั้งใจจะล้างรถ ล้างพื้น ล้างกำแพงให้สะอาดเอี่ยม หยิบ เครื่องฉีดน้ำแรงดันสูง ตัวเก่งออกมา เปิดเครื่องด้วยความมั่นใจเต็มร้อย แต่ยังไม่ทันจะได้ฉีดจริงจังดี ก็ได้ยินเสียง “ฟ่อออ...” แล้วน้ำก็พุ่งกระจายออกตรงหัวฉีดเฉยเลย ทั้งที่ เครื่องฉีดน้ำแรงดันสูง ก็เพิ่งซื้อมาไม่ถึงเดือน! ใจหายวาบ เพราะ เครื่องฉีดน้ำแรงดันสูง มันไม่ใช่ของราคาถูก ๆ ซะด้วยสิ หลายคนอาจคิดทันทีว่า “ของไม่ดีแน่เลย” หรือ “โดนของจีนแดงเข้าแล้วแน่ ๆ” แต่เดี๋ยวก่อนครับ... อย่าเพิ่งรีบโทษเครื่อง เพราะจากที่ผมได้คุยกับช่างหลายคนมา ปัญหา “หัวฉีดรั่ว” เนี่ย มันไม่ได้มาจากคุณภาพ เครื่องฉีดน้ำแรงดันสูง เสมอไปหรอกครับ
ส่วนใหญ่แล้วมักมาจาก “พฤติกรรมของเราเอง” นี่แหละ ใช้งานผิดวิธีโดยไม่รู้ตัว เช่น วาง เครื่องฉีดน้ำแรงดันสูง ผิดตำแหน่ง ดึงสายแรงเกินไป หรือแม้แต่ปล่อย เครื่องฉีดน้ำแรงดันสูง ค้างไว้หลังใช้งานโดยไม่ระบายน้ำออก ก็อาจทำให้ซีลยางด้านในเสื่อมเร็วกว่าปกติ จนเกิดอาการรั่ว
ในบทความนี้ เราเลยอยากชวนทุกคนมานั่งคุยกัน และมาดูกันว่าจริง ๆ แล้ว “หัวฉีดรั่ว” มันเกิดจากอะไรบ้าง ใช้อย่างไรถึงจะยืดอายุ เครื่องฉีดน้ำแรงดันสูง ได้ยาวนาน พร้อมแชร์เคล็ดลับดูแลเครื่องฉีดน้ำแรงดันสูง แบบง่าย ๆ ที่คุณทำตามได้ที่บ้าน
ทำไม “หัวฉีดรั่ว” ถึงเป็นปัญหายอดฮิตของ เครื่องฉีดน้ำแรงดันสูง?
หัวฉีดรั่วนี่เรียกได้ว่าเป็น “โรคประจำตัว” ของ เครื่องฉีดน้ำแรงดันสูง เลยก็ว่าได้ครับ ไม่ว่าจะเป็นยี่ห้อดังอย่าง Karcher, Bosch, Makita ก็หนีปัญหานี้ไม่ค่อยพ้นกันเท่าไหร่ ฟังดูน่าตกใจใช่ไหมครับ? ทั้งที่บางเครื่องราคาหลายพัน บางรุ่นแตะหลักหมื่น แต่ก็ยังรั่วอยู่ดี สาเหตุจริง ๆ ไม่ได้ซับซ้อนเลยครับ เพราะแรงดันน้ำในเครื่องพวกนี้มันสูงมาก บางรุ่นแรงถึง 120–180 บาร์ หรือบางเครื่องอุตสาหกรรมทะลุ 200 บาร์ ด้วยซ้ำ แรงขนาดนี้ ถ้ามีจุดไหนหลวม แตก หรือมีเศษทรายเล็ก ๆ ไปขัดในทางน้ำเพียงนิดเดียว มันก็พอจะทำให้เกิดรอยรั่วได้แล้ว
เราเคยคุยกับช่างล้างรถมืออาชีพคนนึง เขาพูดว่า “บางคนฉีดไปเรื่อย ๆ แล้วเอาหัวฉีดไปเคาะพื้น เพราะเห็นว่าคราบมันแน่น อยากให้หลุดไว ๆ แต่รู้ไหมครับ... เคาะแค่สองสามที หัวฉีดร้าวแล้วไม่รู้ตัว สุดท้ายวันถัดมาน้ำรั่วกระจายเต็มพื้นเลย!”
จริงครับ เพราะแรงดันน้ำมันเหมือนแรงยิงของปืนลม ถ้าเราพา “ปืนแรงดันสูง” แบบนี้ไปเคาะกับกำแพงหรือพื้นแข็ง ๆ หัวฉีดที่ทำจากโลหะบาง หรือพลาสติกคุณภาพสูงแค่ไหน ก็มีสิทธิ์เกิดรอยร้าวได้เหมือนกัน และรอยเล็ก ๆ พวกนี้แหละครับ ที่จะค่อย ๆ ขยายจนกลายเป็นรูรั่วในที่สุด แล้วหลายคนก็เริ่มสงสัยใช่ไหมครับว่า… แรงดัน เครื่องฉีดน้ำแรงดันสูง คืออะไร? เลือกเท่าไรถึงพอ?
พฤติกรรมสุดฮิตที่ทำให้ หัวฉีด เครื่องฉีดน้ำแรงดันสูง? พังเร็ว (แบบไม่รู้ตัว)
ฉีด เครื่องฉีดน้ำแรงดันสูง ใกล้เกินไป
เชื่อไหมครับ... หัวฉีดพังอันดับหนึ่ง มักไม่ได้มาจาก เครื่องฉีดน้ำแรงดันสูง ห่วยหรือของปลอม แต่มาจาก “ความใจร้อน” ของคนใช้นี่แหละ! หลายคนคิดว่า “ยิ่งฉีดใกล้ คราบยิ่งออกไว” แต่จริง ๆ แล้วแรงดันน้ำที่กระแทกกลับเข้าหาหัวฉีด มันเหมือนเรายิงปืนเข้ากำแพงแล้วให้แรงสะท้อนกลับมาหาตัวเองเลยครับ ผลก็คือ... ซีลยางและโอริงด้านในเสื่อมเร็วมาก แบบไม่ทันรู้ตัวเลยจริง ๆ
เคล็ดลับ ควรเว้นระยะหัวฉีดจากพื้นผิวสัก 20–30 เซนติเมตร จะช่วยลดแรงสะท้อนของน้ำได้ดี แล้วค่อยปรับองศาให้เหมาะกับงาน เช่น หัวพ่นแบบพัด (25–40 องศา) สำหรับล้างรถ หรือหัวพ่นแบบจุด (0–15 องศา) สำหรับคราบฝังแน่น ถ้าฉีดใกล้เกินไปนอกจากหัวจะรั่วไวแล้ว ยังเสี่ยงทำลายสีรถหรือพื้นผิวได้อีกด้วยนะครับ
ใช้น้ำไม่สะอาด
ข้อนี้หลาย ๆ คนมักมองข้ามครับ แต่บอกเลยว่า “ตะกอนเล็ก ๆ” นี่แหละ ตัวดี! น้ำจากประปาหรือถังที่มีสนิม มันจะมีพวก ดิน หรือหินปูนเล็ก ๆ ติดอยู่ สิ่งเหล่านี้มันสามารถไหลเข้าไปในหัวฉีดได้โดยตรง และเมื่อเจอกับแรงดันสูงระดับร้อยบาร์ขึ้นไป สิ่งสกปรกพวกนี้จะกลายเป็นเหมือน “กระสุนจิ๋วๆ” ที่คอยกัดกร่อนหัวฉีดจากด้านในแบบช้า ๆ แต่แน่นอน
ช่างหลาย ๆ คนบอกเหมือนกันว่า “อย่าเสียดายเงินกับฟิลเตอร์กรองน้ำเลย เพราะมันถูกกว่าซื้อหัวฉีดใหม่เยอะ!” ถ้ามีพื้นที่ก็แนะนำให้ใช้ ถังพักน้ำ ด้วยครับ จะช่วยให้ตะกอนตกก่อนน้ำเข้าตัวเครื่อง ลดโอกาสที่หัวฉีดจะพังเพราะสิ่งสกปรกได้เยอะมาก
ปล่อย เครื่องฉีดน้ำแรงดันสูง ทำงานโดยไม่ฉีดน้ำออก
อันนี้เรียกว่า “พังแน่ถ้าทำบ่อย” เลยครับ! หลายคนเปิดเครื่องทิ้งไว้โดยไม่บีบไก หรือบีบค้างนาน ๆ เพราะคิดว่าไม่เป็นไร แต่จริง ๆ แล้ว แรงดันจะค่อย ๆ สะสมในระบบเรื่อย ๆ จนซีล และวาล์วข้างในรับไม่ไหว แล้วสุดท้ายหัวฉีดก็รั่วก่อนเวลาอันควรแน่นอน
วิธีที่ถูกต้องคือ หลังใช้งานให้ ปิด เครื่องฉีดน้ำแรงดันสูง ก่อน แล้วบีบไกปล่อยน้ำออกจากสายฉีดให้หมด อย่าเก็บ เครื่องฉีดน้ำแรงดันสูง ทั้งที่ยังมีแรงดันค้างอยู่ เพราะนั่นคือสาเหตุให้หัวฉีดอายุสั้นแบบไม่รู้ตัวเลยครับ
หมุนหัวฉีดตอน เครื่องฉีดน้ำแรงดันสูง ยังทำงาน
ใครใช้หัวฉีดแบบ Turbo หรือ Vario Jet ฟังไว้เลยครับ! หัวฉีดพวกนี้มีฟันล็อกและซีลข้างใน ถ้าเราหมุนเปลี่ยนองศาหรือปรับแรงตอนที่เครื่องยังจ่ายแรงดันอยู่ มันจะทำให้ฟันล็อกสึกเร็วมาก แล้วแรงดันน้ำก็จะดันซีลหลุดออกมาเอง จากนั้นก็ตามสูตรครับ “ฟ่ออออ...” น้ำรั่วกระจายแน่นอน ทางที่ดี ปล่อยไกก่อน หมุนเปลี่ยนองศาหรือหัวพ่น แล้วค่อยฉีดใหม่ แบบนี้ เครื่องฉีดน้ำแรงดันสูง จะอยู่กับเราไปได้อีกนานเลยครับ
ใช้น้ำยาแรงเกินไป
ข้อนี้หลายคนไม่รู้ครับ โดยเฉพาะเวลาล้างคราบน้ำมัน หรือคราบดินโคลนฝังแน่น หลายคนจะชอบใช้น้ำยาเข้มข้นสุด ๆ แบบไม่ผสมเลย คิดว่าจะช่วยให้คราบออกเร็ว แต่จริง ๆ แล้วน้ำยาหลายชนิด โดยเฉพาะพวกที่มี สารกัดกร่อน เช่น โซดาไฟ หรือกรดอ่อน มันกัดซีลยางในหัวฉีดและข้อต่อแบบตรง ๆ เลยครับ ใช้ไม่กี่ครั้งก็เห็นผล ซีลบวม ยางแตก หัวรั่วแน่นอน
วิธีปลอดภัย อ่านฉลากก่อนใช้ทุกครั้ง และผสมน้ำตามสัดส่วนที่แนะนำไว้ อย่าคิดว่าเข้มข้นเท่ากับสะอาดไว เพราะสุดท้ายอาจต้องซื้อน้ำยาใหม่ + หัวฉีดใหม่พร้อมกันเลยก็ได้
หัวฉีดแต่ละแบบของ เครื่องฉีดน้ำแรงดันสูง มีความต่าง และบางแบบพังง่ายกว่าที่คิด!
ไม่ใช่หัวฉีดทุกแบบจะทนเท่ากันครับ โดยทั่วไปหัวฉีดเครื่องฉีดน้ำแรงดันสูงจะแบ่งออกได้เป็น 3 แบบหลัก ๆ
- หัวพ่นแบบพัด (Fan Nozzle) – ให้แรงกระจายสม่ำเสมอ เหมาะกับการล้างรถหรือพื้นทั่วไป อายุใช้งานยาวที่สุด พูดง่าย ๆ คือหัวนี้ใช้งานได้ครอบจักรวาล ฉีดได้แทบทุกพื้นผิว ล้างรถก็สะอาด ไม่ทำลายสี ไม่แรงจนเกินไปครับ
- หัวพ่นแบบจุด (Pencil Jet) – แรงที่สุดในบรรดาทั้งหมด ใช้ล้างคราบฝังแน่นหรือคราบตะไคร่ แต่ถ้าใช้บ่อยเกินไป หัวจะสึกเร็วมาก เรียกได้ว่าเหมาะกับงานเฉพาะทางมากกว่าใช้งานประจำวัน
- หัวพ่นแบบหมุน (Rotary / Turbo Nozzle) – รวมแรงพ่นจุดกับการหมุนรอบตัว ช่วยให้ล้างได้แรงขึ้นและคราบหลุดไวขึ้น แต่ก็ถือว่าเปราะบางที่สุด โดยเฉพาะถ้าเจอน้ำสกปรกหรือมีเศษดินเข้าไปในหัวหมุน ช่างมักบอกว่า “ใช้ได้ดีถ้าใช้อย่างรู้จังหวะ” นั่นเองครับ
เรื่องเล็ก ๆ ที่ยืดอายุ เครื่องฉีดน้ำแรงดันสูง ได้อีกหลายปี
อยากให้เครื่องฉีดน้ำแรงดันสูงของคุณอยู่กับคุณไปนาน ๆ ช่างหลายคนมีทริกเล็ก ๆ ที่อยากให้ทุกคนทำตามง่าย ๆ
- ต่อฟิลเตอร์กรองน้ำก่อนเข้าตัวเครื่องเสมอ – ช่างบอกเลยครับว่าข้อนี้สำคัญสุด ๆ เพราะน้ำบ้านเราบางพื้นที่มีตะกอนหรือสนิมจากท่อ ถ้าไม่กรองไว้ก่อน หัวฉีดจะสึกเร็วแบบไม่รู้ตัว
- ปล่อยแรงดันทุกครั้งก่อนเก็บ – พอปิดเครื่องแล้วอย่าลืมบีบไกปืนให้แรงดันที่เหลือออกจนหมด เสียง “ฟ่ออ...” สั้น ๆ นั่นแหละคือสัญญาณว่าปลอดภัย เก็บได้แล้วครับ
- อย่าใช้สายไฟพ่วงยาวเกินไป – หลายคนคิดว่าไม่เป็นไร แต่จริง ๆ แล้วไฟจะตก มอเตอร์เลยต้องทำงานหนักจนร้อนจัด สุดท้ายก็พังไวโดยไม่รู้ตัว
- อย่าฉีดใกล้พื้นผิวที่มีการสะท้อนแรงสูง เช่น เหล็กหรือกระจก เพราะแรงน้ำมันดีดกลับมาใส่หัวฉีดแรงมาก เผลอ ๆ โดนหน้าเองด้วย ช่างบางคนถึงขั้นใส่แว่นกันไว้ทุกครั้งเลยครับ
- เปลี่ยนน้ำยาและล้างระบบทุกเดือน ถ้าใช้ประจำ เพื่อป้องกันการอุดตันจากคราบสบู่ ทำง่าย ๆ แค่ผสมน้ำเปล่าฉีดไล่คราบทิ้ง ไม่ถึง 5 นาที แต่ช่วยยืดอายุเครื่องได้อีกเป็นปีเลยครับ
แล้วถ้าหัวฉีดรั่วไปแล้ว... ซ่อมได้ไหม?
คำตอบคือ “ได้ครับ” แต่ก็ต้องดูสาเหตุและรุ่นของเครื่องด้วยเหมือนกัน บางครั้งอาการเล็ก ๆ ก็ซ่อมเองได้ง่ายมาก แต่บางกรณีต้องเปลี่ยนใหม่ถึงจะจบ
- ถ้าเป็นแค่รั่วจากโอริงหรือซีลเสื่อม แค่เปลี่ยนยางไม่กี่สิบบาทก็จบ ทำเองยังได้เลยครับ ช่างหลายคนถึงบอกว่าอย่ากลัวจะเปิดดู เพราะมันแค่ขันน็อตไม่กี่ตัวเท่านั้นเอง
- แต่ถ้ารั่วเพราะพลาสติกแตกร้าว หรือหัวโลหะสึกตรงจุดที่โดนน้ำแรง ๆ กระแทกบ่อย ๆ แบบนี้ต้องเปลี่ยนหัวใหม่ทั้งชุดครับ ถึงจะคุ้มและใช้งานได้ยาว ๆ ไม่ต้องกลัวว่าจะรั่วซ้ำ
เตือน! อย่าพยายามใช้กาวอุดรอยรั่วนะครับ แรงดันระดับ 100 บาร์ขึ้นไปมันดันหลุดออกมาง่ายมาก แถมบางคนเคยโดนน้ำแรงดันสูงกระเด็นใส่มือจนเป็นแผลมาแล้วด้วย!
ถ้าไม่อยากได้ยินเสียง “ฟ่อออ...” จากหัวฉีดอีก รีบเช็กวิธีใช้งานของคุณตั้งแต่วันนี้ แล้วเครื่องฉีดน้ำแรงดันสูงของคุณจะกลายเป็นเพื่อนคู่ใจ ที่ล้างอะไรก็สะอาด และอยู่กับคุณไปได้อีกหลายปีแน่นอนครับ!
เลือก เครื่องฉีดน้ำแรงดันสูง เพิ่มเติม