TH
English
Customers Also Purchased
ไขความลับใต้ความนุ่มสบาย ทำไมพรมถึงสะสมเชื้อโรคเร็วกว่าที่คิด และ เครื่องซักพรม คือคำตอบ
หลายคนชอบพรมเพราะมันทำให้บ้านดูหรูหราและน่าอยู่ เวลาลองเดินบนพรมที่เพิ่งซื้อมาปูใหม่ ๆ ความรู้สึกมันช่างต่างจากพื้นแข็งอย่างกระเบื้องหรือไม้ มันให้สัมผัสนุ่มสบายเหมือนเดินบนก้อนเมฆเล็ก ๆ ทำให้เราหลงรักและรู้สึกว่าบ้านสมบูรณ์แบบขึ้นทันที แต่ความจริงที่หลายคนไม่ทันคิดก็คือ พรมที่ดูเหมือนนุ่มและสะอาดนั้น จริง ๆ แล้วอาจเป็นที่สะสมสิ่งสกปรกที่ใหญ่ที่สุดในบ้านเลยก็ว่าได้ เพราะทุกวันที่เราเดิน นั่ง หรือนอนเล่นบนพรม เรากำลังเอาฝุ่น ขนสัตว์ และคราบเล็ก ๆ น้อย ๆ มาฝากพรมโดยไม่รู้ตัว แล้วมันก็ซึมลงไปอยู่ในเส้นใยอย่างแนบเนียน นานวันเข้าพรมที่เคยหอมใหม่ ๆ อาจกลายเป็นตัวการที่ทำให้บ้านเริ่มมีกลิ่นอับ และที่สำคัญกว่านั้นคือมันกระทบต่อสุขภาพโดยตรงด้วย
ทำไมพรมถึงสกปรกเร็วกว่าที่คิด?
พรมมีโครงสร้างที่เต็มไปด้วยเส้นใยละเอียดนับหมื่นนับแสนเส้น และเส้นใยเหล่านี้ก็ทำงานเหมือนตาข่ายเล็ก ๆ ที่คอยดักจับทุกสิ่งทุกอย่างที่ลอยเข้ามา ไม่ว่าจะเป็นฝุ่นละอองที่ปลิวมากับอากาศ เศษผมที่ร่วงโดยที่เราไม่รู้ตัว ขนจากสัตว์เลี้ยงที่หลุดออกตามธรรมชาติ หรือแม้แต่ละอองน้ำเล็ก ๆ เวลาที่เราเดินเข้าบ้านในวันที่ฝนตก สิ่งเหล่านี้ไม่ได้หายไปเพียงเพราะเราใช้เครื่องดูดฝุ่นดูดบนผิว เพราะเครื่องดูดฝุ่นจัดการได้แค่สิ่งที่เกาะอยู่ด้านบน แต่สิ่งที่ซึมลึกลงไปในเส้นใยมันยังคงอยู่เหมือนเดิม
รู้หรือไม่? พรมหนึ่งตารางเมตรสามารถเก็บฝุ่นได้มากถึง 3–4 กิโลกรัม ตลอดอายุการใช้งานเลยนะคะ ฟังแล้วอาจขนลุก เพราะฝุ่นที่เก็บอยู่นั่นแหละคือสิ่งที่เราหายใจเข้าไปทุกวัน
ยิ่งไปกว่านั้น พรมยังทำตัวเหมือนฟองน้ำที่เก็บความชื้นได้ดีมาก เวลาที่น้ำหกบนพรม ต่อให้รีบเอาผ้ามาซับ น้ำส่วนหนึ่งก็ยังคงซึมลึกลงไปและอยู่ตรงนั้น ความชื้นที่สะสมเหล่านี้กลายเป็นแหล่งเพาะเชื้อชั้นดีของเชื้อราและแบคทีเรีย และนี่แหละคือจุดเริ่มต้นของกลิ่นอับที่หลายบ้านบ่นว่าหาสาเหตุไม่เจอ แต่จริง ๆ แล้วมันซ่อนอยู่ใต้พรมที่เรายืนอยู่ทุกวันนั่นเอง
น้องช่างบอกให้รู้ ถ้าเจอว่าพรมเริ่มมีกลิ่นโดยหาสาเหตุไม่เจอ ส่วนใหญ่ไม่ใช่หมาหรือแมวหรอกค่ะ ตัวการจริง ๆ คือความชื้นที่สะสมอยู่นี่เอง!
ผลกระทบต่อสุขภาพจากพรมที่ไม่สะอาด
หลายคนอาจคิดว่าพรมสกปรกก็แค่ไม่น่ามอง แต่ผลจริง ๆ มันร้ายแรงกว่านั้น เพราะสิ่งที่ซ่อนอยู่ในพรมสามารถส่งผลโดยตรงต่อสุขภาพของเราได้แบบที่ไม่ทันรู้ตัว เวลาที่เราเดินบนพรม ฝุ่นละอองเล็ก ๆ จะฟุ้งขึ้นมาในอากาศ และเราก็หายใจเอามันเข้าไปอย่างเลี่ยงไม่ได้ สำหรับบางคนอาจจะรู้สึกแค่จามหรือคัดจมูกเล็กน้อย แต่สำหรับคนที่มีภูมิแพ้หรือโรคหอบหืด การอยู่ในบ้านที่มีพรมสกปรกก็เหมือนการอยู่ในที่ที่มีตัวกระตุ้นอาการอยู่ตลอดเวลา
เด็กเล็กที่คลานหรือเล่นของเล่นบนพรมยิ่งเสี่ยงใหญ่ เพราะระบบภูมิคุ้มกันของเด็กยังไม่แข็งแรง การสัมผัสฝุ่นและเชื้อโรคโดยตรงอาจทำให้เจ็บป่วยได้ง่าย ส่วนผู้สูงอายุที่ระบบหายใจอ่อนแอ ก็อาจมีอาการระคายเคือง คัดจมูก หรือหายใจติดขัดได้ง่ายขึ้น ไหนจะเชื้อราที่เติบโตได้ดีในสภาพอากาศชื้น ๆ อีก แบบนี้ถ้าพรมไม่ถูกทำความสะอาดอย่างจริงจัง บ้านที่เราคิดว่าปลอดภัยอาจกลายเป็นพื้นที่เสี่ยงโดยที่เราไม่รู้ตัวเลยก็ได้
น้องช่างแนะนำ ถ้ามีเด็กเล็กในบ้าน ควรทำความสะอาดพรมถี่กว่าปกติ อย่างน้อยเดือนละครั้งจะดีกว่าปล่อยไว้เป็นไตรมาส เพราะเด็กอยู่ใกล้พื้นที่สุดและชอบเอามือเข้าปาก
เครื่องซักพรม คืออะไร และทำงานต่างจาก เครื่องดูดฝุ่น ยังไง
เวลาพูดถึงการดูแลพรม หลายคนอาจนึกถึงแค่การดูดฝุ่นหรือส่งร้านซัก แต่ เครื่องซักพรม คืออุปกรณ์ที่ออกแบบมาโดยเฉพาะเพื่อจัดการสิ่งที่ซ่อนอยู่ลึก ๆ ในพรม มันไม่ใช่แค่ดูดฝุ่นออก แต่ทำงานโดยการฉีดน้ำหรือน้ำยาทำความสะอาดลงไปในพรม ให้ซึมเข้าไปถึงชั้นเส้นใย จากนั้นก็ดูดน้ำกลับขึ้นมาพร้อมกับสิ่งสกปรกทั้งหมดที่ติดอยู่ตรงนั้น ผลที่ได้ก็คือพรมสะอาดลึกจริง ๆ แบบที่ เครื่องดูดฝุ่น ธรรมดาทำไม่ได้
เครื่องซักพรม สมัยใหม่ยังถูกออกแบบมาให้ใช้งานง่ายขึ้น ไม่ต้องกังวลเรื่องพรมเปียกแล้วแฉะเป็นวัน ๆ เพราะระบบดูดที่มีแรงสูงสามารถดึงน้ำกลับขึ้นมาได้เกือบหมด ทำให้พรมแห้งภายในไม่กี่ชั่วโมง และกลับมาใช้งานได้ตามปกติ
น้องช่างเพิ่มให้ เครื่องซักพรม บางรุ่นไม่ได้ซักได้แค่พรม แต่ยังมีหัวฉีดสำหรับทำความสะอาดโซฟา เบาะรถยนต์ หรือแม้แต่เบาะเก้าอี้ในบ้านได้ด้วย ซื้อทีเดียวใช้ได้หลายอย่าง คุ้มอยู่นะคะ
เครื่องซักพรม ช่วยดูแลสุขภาพได้อย่างไร
การซักพรมอย่างสม่ำเสมอช่วยลดฝุ่นและไรฝุ่นในบ้านได้อย่างเห็นผลจริง เพราะมันไม่ใช่การปัดหรือดูดบนผิวเท่านั้น แต่คือการดึงเอาสิ่งที่ซ่อนอยู่ลึก ๆ ออกมาด้วย นี่แหละที่ทำให้คนในบ้านหายใจได้โล่งขึ้น อาการจามหรือคัดจมูกโดยไม่รู้สาเหตุก็ลดลงไปมาก
การใช้น้ำยาที่มีคุณสมบัติฆ่าเชื้อยังช่วยจัดการเชื้อโรคและเชื้อราที่สะสมอยู่ในพรม ทำให้บ้านไม่เป็นแหล่งแพร่เชื้อโรคอีกต่อไป สำหรับบ้านที่มีเด็กเล็ก การซักพรมอย่างสม่ำเสมอคือการสร้างพื้นที่ปลอดภัยให้ลูกน้อยได้คลาน เล่น และเรียนรู้บนพื้นโดยไม่ต้องกังวลว่ากำลังสัมผัสกับฝุ่นหรือสิ่งสกปรก ส่วนบ้านที่มีสัตว์เลี้ยงก็จะได้บ้านที่ไม่มีกลิ่นอับติดอยู่ในพรม และไม่ต้องนั่งถอนหายใจเวลามีแขกมาเพราะกลัวคนอื่นจะได้กลิ่น
รู้หรือไม่? กลิ่นอับในบ้านที่กำจัดไม่หาย แม้จะถูพื้น ล้างห้องน้ำแล้ว ส่วนใหญ่ต้นตอจริง ๆ มาจากพรมที่ไม่เคยซักค่ะ
วิธีใช้ เครื่องซักพรม ให้คุ้มค่าและได้ผลที่สุด
การมี เครื่องซักพรม ถือว่าเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า แต่การใช้งานอย่างถูกวิธีก็สำคัญไม่แพ้กัน ควรเลือกใช้น้ำยาที่ออกแบบมาสำหรับพรมโดยเฉพาะ เพราะน้ำยาทั่วไปอาจทำให้เส้นใยพรมเสียหายได้ง่าย และอย่าลืมซักเป็นประจำทุก ๆ สองถึงสามเดือน แต่ถ้ามีสัตว์เลี้ยงหรือมีการใช้งานพรมหนักกว่าปกติ ก็ควรซักบ่อยขึ้น หลังซักควรเปิดหน้าต่างเพื่อให้อากาศถ่ายเท เปิดพัดลมหือใช้เครื่องอบพรมช่วย เพื่อให้พรมแห้งเร็วและไม่เกิดกลิ่นอับ
น้องช่างแนะนำ หลังซักเสร็จลองหาของใช้ในบ้านง่าย ๆ อย่างเก้าอี้หรือขาตั้งเล็ก ๆ มารองพรมขึ้นเล็กน้อย จะช่วยให้อากาศไหลผ่านด้านล่าง ทำให้พรมแห้งไวขึ้นจริง ๆ ค่ะ
อย่าลืมดูแลเครื่องซักพรมเองด้วย เช่น ล้างถังน้ำและทำความสะอาดหัวฉีดทุกครั้งหลังใช้ เพราะเครื่องที่สะอาดจะทำงานได้เต็มประสิทธิภาพและใช้งานได้ยาวนานกว่า
บทความที่เกี่ยวข้อง
- วิธีใช้ "เครื่องซักพรม" ให้สะอาดลึกถึงเส้นใย ไม่ทิ้งคราบและแห้งไว
- คู่มือที่คนใช้ เครื่องซักพรม ต้องอ่านก่อนตัดสินใจซื้อ
พรมสะอาดคือบ้านที่หายใจได้เต็มปอด
พรมคือของที่ทำให้บ้านดูสวยหรูและให้ความรู้สึกนุ่มสบาย แต่ในขณะเดียวกันมันก็เป็นแหล่งสะสมสิ่งสกปรกได้ง่ายกว่าที่เราคิด การดูแลพรมด้วย เครื่องซักพรม จึงไม่ใช่เรื่องฟุ่มเฟือย แต่คือการลงทุนเพื่อสุขภาพของทุกคนในบ้านจริง ๆ การซักพรมช่วยลดฝุ่น เชื้อโรค และกลิ่นอับ ทำให้บ้านสดชื่นขึ้น และทำให้พื้นที่ที่เราใช้ชีวิตอยู่ทุกวันสะอาดจริง ๆ การดูแลพรมให้สะอาดคือการดูแลคุณภาพชีวิตของทั้งบ้าน เพราะบ้านที่สะอาดจริง ๆ คือบ้านที่เราทุกคนหายใจได้เต็มปอดโดยไม่ต้องกังวลอะไรเลย
น้องช่างบอกให้รู้ บางที เครื่องซักพรม ไม่ได้แค่ทำให้บ้านสะอาดนะคะ แต่ยังทำให้เรา “หายใจโล่ง” ขึ้นจริง ๆ ลองสังเกตดูหลังซักเสร็จ บ้านจะสดชื่นขึ้นเหมือนเปิดหน้าต่างรับลมเลยทีเดียวเมื่อพรมกลายเป็นแหล่งเชื้อโรค