Customers Also Purchased
พรมที่บ้าน หรือในออฟฟิศของคุณ ตอนนี้เป็นยังไงบ้างคะ? ใช้ไปนาน ๆ มันก็มักจะมีคราบสกปรกฝังแน่น มีกลิ่นอับ ๆ แล้วก็ดูหมอง ๆ ไม่สดใสเหมือนตอนใหม่ๆ ใช่ไหมคะ? บางทีเราก็ลองดูดฝุ่นแล้วนะ แต่มันก็ยังดูไม่ค่อยสะอาดเท่าที่เราอยากได้เลย นั่นแหละค่ะ ถึงเวลาที่เราต้องใช้ตัวช่วยอย่าง เครื่องซักพรม มาจัดการแล้วล่ะค่ะ
การจะใช้ เครื่องซักพรม ให้ได้ผลดีนั้น ไม่ใช่แค่เดินเครื่องไปบนพรมเฉย ๆ นะคะ มันมีเทคนิคและขั้นตอนสำคัญมาก ๆ เลยค่ะ ถ้าทำไม่ถูกวิธี นอกจากพรมจะไม่สะอาดอย่างที่ตั้งใจแล้ว อาจทิ้งคราบขาว ๆ ไว้ หรือทำให้พรมอับชื้น แห้งช้า จนอาจเกิดเชื้อราตามมาได้อีกด้วยนะคะ
วันนี้เราจะมาบอก เคล็ดลับแบบมืออาชีพ ในการใช้ เครื่องซักพรม ให้พรมของคุณสะอาดลึกถึงเส้นใย ไม่ทิ้งคราบกวนใจ และแห้งไวอย่างไม่น่าเชื่อค่ะ ลองมาดูกันเลยนะคะว่ามีขั้นตอนและวิธีทำอะไรบ้างที่คุณควรรู้
"เครื่องซักพรม" คืออะไร? รู้จักหลักการทำงานเบื้องต้น
เครื่องซักพรม (Carpet Cleaner / Carpet Extractor) คืออุปกรณ์ที่ออกแบบมาเพื่อทำความสะอาดพรมโดยเฉพาะ โดยทั่วไปจะทำงานโดยการ ฉีดน้ำยาซักพรม ที่ผสมกับน้ำลงไปบนพรม เพื่อช่วยละลายสิ่งสกปรกและคราบที่ฝังแน่น จากนั้นเครื่องก็จะ ขัด ด้วยแปรงหมุน (ในเครื่องบางชนิดจะมีแปรงสำหรับขัดด้วย แต่บางเครื่องก็ไม่มี) เพื่อช่วยขจัดคราบให้หลุดออก และสุดท้ายก็จะ ดูดน้ำเสีย (ที่ผสมน้ำยาและสิ่งสกปรก) กลับขึ้นมาเก็บไว้ในถังของเครื่องค่ะ
การทำงานแบบครบวงจรนี้เองค่ะ ที่ทำให้ เครื่องซักพรม สามารถทำความสะอาดพรมได้ลึกกว่าการดูดฝุ่นธรรมดามาก ๆ เลย
เตรียมตัวก่อนเริ่มซัก เรื่องสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม!
ขั้นตอนการเตรียมตัวนั้นสำคัญมาก ๆ เลยนะคะ ไม่แพ้ขั้นตอนการซักจริงเลยค่ะ เพราะมันจะช่วยให้การซักพรมออกมาสะอาดที่สุดค่ะ
1. ดูดฝุ่นพรมให้ทั่วที่สุดเท่าที่จะทำได้
- ทำไมต้องทำ: ก่อนจะเริ่มซักด้วยน้ำยา คุณต้องใช้เครื่องดูดฝุ่นแบบธรรมดา ดูดฝุ่นพรมให้ทั่วที่สุดเท่าที่จะทำได้ เลยนะคะ เพราะถ้ามีฝุ่นหรือเศษผงชิ้นใหญ่ ๆ หลงเหลืออยู่ พอเราฉีดน้ำยาลงไป มันจะกลายเป็นโคลน ทำให้พรมสกปรกหนักกว่าเดิม หรือทำให้เครื่องซักพรมทำงานหนักเกินไปได้ค่ะ
- วิธีทำ: ค่อย ๆ ดูดฝุ่นช้า ๆ ให้ทั่วทั้งผืนพรม โดยเฉพาะบริเวณที่มีฝุ่นเยอะ ๆ หรือบริเวณที่คนเดินบ่อย ๆ อาจจะดูดซ้ำ 2 - 3 รอบก็ได้ค่ะ
2. จัดการคราบหนัก ๆ ก่อน (ทำความสะอาดเฉพาะจุด)
- ทำไมต้องทำ: คราบที่ฝังแน่นมาก ๆ บางอย่าง เช่น คราบกาแฟ คราบไวน์ คราบอาหาร หรือคราบดินโคลนนั้น เครื่องซักพรม อาจจะขจัดคราบออกได้ไม่หมดในครั้งเดียว คุณจึงต้องจัดการกับคราบพวกนี้ก่อนค่ะ
- วิธีทำ: ใช้ผลิตภัณฑ์กำจัดคราบเฉพาะจุดสำหรับพรมโดยเฉพาะ ฉีดหรือป้ายลงไปที่คราบ ทิ้งไว้สักครู่ตามคำแนะนำบนผลิตภัณฑ์ แล้วใช้ผ้าสะอาดเช็ดซับออกเบา ๆ (ห้ามถูนะคะ เพราะอาจทำให้คราบยิ่งกระจาย หรือเส้นใยพรมเสียหายได้) ทำซ้ำจนคราบจางลงค่ะ
3. เตรียมพื้นที่และอุปกรณ์ให้พร้อม
- ย้ายเฟอร์นิเจอร์: ควรย้ายเฟอร์นิเจอร์ออกจากพรมให้หมดเท่าที่จะทำได้นะคะ เพื่อให้คุณสามารถซักพรมได้ทั่วถึงทุกซอกทุกมุม แล้วก็ป้องกันไม่ให้ขาเฟอร์นิเจอร์เปียกน้ำหรือน้ำยาด้วยค่ะ
- ตรวจสอบรอบ ๆ: ดูว่ามีสายไฟ ปลั๊กไฟ หรือของมีค่าที่อาจโดนน้ำกระเด็นใส่ได้ไหม ถ้ามีก็ควรเก็บให้เรียบร้อย หรือหาอะไรมาคลุมไว้
- เตรียมน้ำยาและน้ำสะอาด: ผสมน้ำยาซักพรมกับน้ำเปล่าตามอัตราส่วนที่ผู้ผลิตแนะนำนะคะ แล้วเทลงในถังเก็บน้ำสะอาดของ เครื่องซักพรม ค่ะ แล้วก็เตรียมถังเปล่าสำหรับใส่น้ำเสียไว้ด้วยนะ (ปกติ เครื่องซักพรม ส่วนใหญ่จะมีถังน้ำสะอาดและถังน้ำเสียแยกกันอยู่แล้ว จึงไม่จำเป็นต้องเตรียมในบางกรณี)
ขั้นตอนการใช้ "เครื่องซักพรม" (เคล็ดลับให้สะอาดลึกและแห้งไว!)
1. เริ่มด้วยการฉีดน้ำยาแล้วดูดกลับทันที (เคล็ดลับสำคัญ!)
นี่คือเทคนิคสำคัญที่มืออาชีพใช้เพื่อให้พรมไม่ทิ้งคราบและแห้งเร็วค่ะ
หลักการ: คุณจะใช้ เครื่องซักพรม เดินไปข้างหน้าและถอยหลัง โดยเน้นการ ฉีดน้ำยาตอนเดินไปข้างหน้า แล้วดูดกลับมาทันทีขณะเดินถอยหลัง นะคะ ไม่ใช่ฉีดน้ำยาแช่ไว้บนพรมค่ะ
วิธีทำ
- เดินเครื่องช้า ๆ: เริ่มเดิน เครื่องซักพรม อย่างช้า ๆ ให้เป็นแนวตรง (เหมือนเวลาดูดฝุ่นเลยค่ะ)
- ฉีดน้ำยาตอนเดินไปข้างหน้า: กดปุ่มฉีดน้ำยา (บางเครื่องก็เป็นคันโยก) เพื่อฉีดน้ำยาลงบนพรมขณะที่คุณเดินเครื่องไปข้างหน้า
- ดูดกลับทันทีตอนเดินถอยหลัง: พอดันเครื่องไปข้างหน้าจนสุดแนวแล้ว ให้ปล่อยปุ่มฉีดน้ำยา แล้ว ค่อย ๆ ดึงเครื่องถอยหลังกลับมาในแนวเดิมช้า ๆ ค่ะ จังหวะนี้เครื่องจะดูดน้ำยาและสิ่งสกปรกกลับขึ้นมาอย่างมีประสิทธิภาพ
- ทำไปทีละแถบ: ทำแบบนี้ไปเรื่อย ๆ เป็นแถบ ๆ ซ้อนกันเล็กน้อย เพื่อให้ครอบคลุมพื้นที่ทั้งหมดของพรมค่ะ
2. ล้างด้วย "น้ำเปล่า" (Rinsing) - ขั้นตอนนี้แหละที่ทำให้ไม่ทิ้งคราบ!
ขั้นตอนนี้สำคัญมาก ๆ เลยนะคะ สำหรับการทำให้พรมไม่ทิ้งคราบขาว ๆ หลังจากแห้ง ซึ่งเป็นปัญหาที่เจอกันบ่อยถ้าซักไม่ถูกวิธีค่ะ
ทำไมต้องทำ: หลังจากซักด้วยน้ำยาไปแล้ว พรมของเราจะยังมีน้ำยาตกค้างอยู่ ถ้าเราปล่อยให้แห้งไปเลย น้ำยาจะแห้งและทิ้งคราบขาว ๆ หรือคราบเหนียว ๆ ไว้บนพรม ทำให้พรมกลับมาสกปรกง่ายขึ้นด้วยนะคะ การใช้น้ำเปล่าซักซ้ำจะช่วยล้างน้ำยาที่ตกค้างออกไปค่ะ
วิธีทำ
- เทน้ำเสียทิ้งและเติมน้ำสะอาด: หลังจากซักด้วยน้ำยาจนทั่วแล้ว ให้เทน้ำเสียในถังน้ำเสียของ เครื่องซักพรม ทิ้งไป แล้วล้างถังให้สะอาด จากนั้นเติมน้ำสะอาดเปล่าๆ ลงในถังเก็บน้ำสะอาดแทนน้ำยาค่ะ
- ซักด้วยน้ำเปล่า: เดิน เครื่องซักพรม ในลักษณะเดียวกันกับตอนซักน้ำยาเลยค่ะ คือ ฉีดน้ำเปล่าตอนเดินหน้า แล้วดูดกลับทันทีตอนเดินถอยหลัง
- ทำซ้ำหลาย ๆ รอบ: คุณควรทำขั้นตอนนี้ซ้ำประมาณ 2-3 รอบ หรือจนกว่าน้ำที่ดูดกลับมาในถังน้ำเสียจะใสสะอาดที่สุดเท่าที่จะทำได้ค่ะ ยิ่งน้ำเสียใสเท่าไหร่ ก็แปลว่าน้ำยาตกค้างน้อยลงเท่านั้น
3. เน้น "ดูดน้ำ" กลับให้พรมแห้งไวที่สุด!
หลังจากซักด้วยน้ำยาและล้างด้วยน้ำเปล่าแล้ว ขั้นตอนสุดท้ายคือการทำให้พรมแห้งเร็วที่สุดค่ะ
ทำไมต้องทำ: พรมที่แห้งไวจะช่วยป้องกันการเกิดกลิ่นอับ และเชื้อราได้ดีมากๆ เลยค่ะ
วิธีทำ
- เน้นดูดน้ำอย่างเดียว: คราวนี้ไม่ต้องฉีดน้ำแล้วนะคะ (ไม่ต้องกดปุ่มฉีดน้ำ) ให้เดิน เครื่องซักพรม ไปข้างหน้าและถอยหลังอย่างช้า ๆ เน้นการดูดน้ำที่ยังหลงเหลืออยู่ในพรมกลับขึ้นมาให้ได้มากที่สุด
- ทำซ้ำหลายๆ รอบ: เดินเครื่องดูดน้ำกลับซ้ำ ๆ หลาย ๆ รอบไปเรื่อย ๆ จนกว่าคุณจะรู้สึกว่าพรมมีความชื้นเหลือน้อยที่สุดค่ะ
- ใช้พัดลมช่วยเป่า: หลังจากซักเสร็จแล้ว ให้เปิดพัดลมเป่าพรมในบริเวณที่ซักทันทีค่ะ จะช่วยให้พรมแห้งเร็วขึ้นเยอะมาก ๆ เลย เปิดหน้าต่าง ประตู เพื่อให้อากาศถ่ายเทสะดวกด้วยยิ่งดีค่ะ
ข้อควรรู้และเคล็ดลับเพิ่มเติมจากมืออาชีพ
- ลองใช้น้ำยาซักพรมกับมุมเล็ก ๆ ก่อน: ก่อนจะซักพรมผืนใหญ่ ควรลองทดสอบน้ำยาซักพรมกับบริเวณเล็ก ๆ ที่ไม่ค่อยมีใครเห็นก่อนนะคะ เช่น มุมพรมด้านใน เพื่อดูว่าน้ำยาไม่ทำให้สีพรมตก หรือเกิดความเสียหายอื่น ๆ
- อย่าใช้น้ำยาเยอะเกินไป: การฉีดน้ำยามากเกินไป ไม่ได้ทำให้สะอาดขึ้นนะคะ แต่มันจะทำให้พรมเปียกมากเกินไป แห้งช้า และทิ้งคราบได้ง่ายขึ้นด้วยค่ะ
- ดูแลถังน้ำเสียให้สะอาด: หมั่นเทน้ำเสียทิ้งและล้างถังน้ำเสียให้สะอาดอยู่เสมอ เพื่อไม่ให้สิ่งสกปรกที่ดูดมาไปปนเปื้อนกับน้ำสะอาด
- อ่านคู่มือเครื่องซักพรม: เครื่องซักพรม แต่ละรุ่นอาจมีวิธีใช้หรือคำแนะนำที่แตกต่างกัน คุณควรอ่านคู่มือของเครื่องที่คุณมีให้ละเอียดก่อนเริ่มใช้งานนะคะ
- รอให้พรมแห้งสนิทก่อนใช้งาน: หลังจากซักแล้ว คุณต้องปล่อยให้พรมแห้งสนิทจริง ๆ ก่อนที่จะกลับมาใช้งาน หรือวางเฟอร์นิเจอร์ลงไปนะคะ ถ้าพรมยังชื้นอยู่ อาจทำให้เกิดกลิ่นอับหรือเชื้อราได้ค่ะ อาจใช้เวลาประมาณ 6-24 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศและการระบายอากาศ
พรมสะอาดลึก ไม่ทิ้งคราบ แห้งไว ทำเองได้ง่าย ๆ!
การใช้ เครื่องซักพรม ให้ได้ผลลัพธ์เหมือนมืออาชีพนั้น ไม่ใช่เรื่องยากเลยใช่ไหมคะ แค่คุณเข้าใจหลักการที่ถูกต้อง และทำตามขั้นตอนที่เราแนะนำ ไม่ว่าจะเป็นการเตรียมพร้อมที่ดี การซักด้วยเทคนิคฉีดแล้วดูดกลับ การล้างด้วยน้ำเปล่าให้สะอาดหมดจด และการเน้นดูดน้ำกลับจนพรมแห้งสนิท
การทำความสะอาดพรมด้วยวิธีเหล่านี้ จะช่วยให้พรมของคุณกลับมาสะอาด สดใส ไร้คราบกวนใจ แถมยังแห้งไวอีกด้วยค่ะ ลองนำเคล็ดลับเหล่านี้ไปใช้ดูนะคะ แล้วคุณจะได้พรมที่น่าเดิน เหมือนใหม่เลยค่ะ