TH
English
Customers Also Purchased
ในวันที่เครื่องมือไฟฟ้าครองโลก แทบทุกอย่างบนโลกจะต้องใช้ไฟ ไม่ว่าจะเป็น เลื่อยวงเดือน เลื่อยจิ๊กซอว์ ทั้งแบบมีสายและไร้สาย เต็มไปหมด จนหลายคนอาจหลุดปากว่า "เดี๋ยวนี้ใครเขาใช้ เลื่อยมือ กันแล้ว!"
แต่เอาเข้าจริงๆ... เคยลองหยิบ เลื่อย ขึ้นมาใช้ดูสักครั้งไหมครับ? ความรู้สึกตอนที่ไม้ค่อย ๆ ขาดออกจากกันด้วยแรงมือของเราเอง มันมีเสน่ห์บางอย่างที่เครื่องไฟฟ้าให้ไม่ได้เลย มันเหมือนเราได้ควบคุมทุกอย่างอยู่ในมือจริง ๆ เห็นแบบนี้แล้ว?... เลื่อย จะเรียกว่า "ตกยุค" ไปแล้วจริงๆหรอ?
บนชั้นวางของร้านเครื่องมือวันนี้...ยังมี เลื่อย อยู่ไหม?
หากคุณมีโอกาสไปร้านเครื่องมือช่าง ลองเดินผ่านโซนเครื่องมือตัดใดูสิครับ คุณจะเห็นว่า เลื่อยไฟฟ้าแทบจะครองทั้งชั้น ไม่ว่าจะเป็นเลื่อยจิ๊กซอว์, เลื่อยวงเดือน, เลื่อยชัก, หรือแม้แต่เลื่อยสายพานตัวใหญ่ ๆของเขาก็มี ดูเหมือนว่า เลื่อยมือ ที่เคยเฉิดฉายในยุคก่อน เริ่มถูกผลักไปอยู่มุมเล็ก ๆ อย่างเงียบ ๆ หลายๆคนอาจคิดว่า...
“เดี๋ยวนี้ใครเขาใช้ เลื่อย กันแล้วล่ะ?” “มีไฟ มีแบตแล้ว จะเหนื่อยทำไม?”
...แต่นั่นคือสิ่งที่เรา เห็น จากมุมหนึ่งเท่านั้นครับ ผมได้เคยลองคุยกับช่างไม้รุ่นเก๋า ยุค OG เลย เขาพูดกันว่า “มีไฟก็ดี แต่บางงาน...นะ มือยังแม่นกว่าเครื่องนะ”
บทบาทของ เลื่อย ในโลกที่หมุนเร็วกว่าเดิม
เราจะพาย้อนอดีตกันสักหน่อย ย้อนกลับไปสมัยก่อน เลื่อย เนี่ยเป็นเครื่องมือช่าง หลักๆในงานไม้ งานก่อสร้าง หรือแม้แต่งานซ่อมแซมทั่วไป ไม่ว่าจะตัดไม้ ตัดท่อ เลื่อย ถือว่าเป็นพระเอกของงานเหล่านี้เลยก็ว่าได้
กาลเวลาเปลี่ยน อะไรก็เปลี่ยนตาม พอมายุคที่ไฟฟ้าทำให้ทุกอย่างเร็วขึ้น แรงขึ้น และดูมือโปร มากกว่า หลายๆคนก็เริ่มถอยห่างจาก เลื่อย ไปเรื่อย ๆ
แต่แปลกไหมครับ? ที่ในหลายอู่ซ่อมรถ หลายเวิร์กช็อป หลายบ้านคนรัก DIY หรือแม้แต่ในมือช่างไม้จริง ๆ ก็ยังมี เลื่อย อยู่ดี ไม่ใช่แค่เก็บไว้ แต่มันถูกหยิบมาใช้เรื่อยๆ ด้วยซ้ำไป
แล้ว เลื่อย ยังมีดีอะไร? ถึงยังไม่หายไปจากวงการ?
เล็ก ง่าย เงียบ พร้อมใช้ทันที
ไม่ต้องเสียเวลาหาปลั๊ก ไม่ต้องรอชาร์จแบต ไม่ต้องกลัวเสียงดังปลุกเพื่อนบ้าน แค่หยิบขึ้นมาเล็ง แล้วลงมือตัดได้เลย ง่ายไหมครับ แค่นี้เอง มันจะเหมาะกับงานเร่งรีบ งานเล็กๆ หรืองานในพื้นที่แคบที่เครื่องใหญ่เข้าไม่ถึง บางทีแค่จะตัดไม้นิดเดียว ถ้าต้องเสียบปลั๊ก เตรียมเครื่อง บอกตรง ๆ ว่า “เหนื่อย เสียเวลา!”
ควบคุมจังหวะได้ดีกว่า โดยเฉพาะงานละเอียด
ถ้าคุณเคยพยายามใช้เลื่อยไฟฟ้าตัดไม้อัดบาง ๆ แล้ว "หัวไม้แตก" หรือ "กินเข้าเกินแนวตัด" คุณจะรู้ว่า เครื่องมีแรงมากเกินไปสำหรับบางงาน หลบไปให้พระเอกอย่าง เลื่อย ช่วยให้คุณค่อยๆ บังคับแนวตัดได้ตามต้องการ จังหวะช้า–เร็ว อยู่ที่มือเราเอง ไม่ต้องฝืนไม้ ไม่ต้องพึ่งระบบเบรก หรือโหมด Soft-Start ให้ยุ่งยาก
ใช้มือ = ใช้ใจ
อาจฟังดูโรแมนติกไปนิดนึง แต่สำหรับหลายคน การใช้ เลื่อย ตัดชิ้นงาน คือการ “อยู่กับงานอย่างจริงใจ” การฟังเสียงฟัน เลื่อย เสียดสีกับเนื้อไม้ การรู้สึกถึงแรงต้านเล็ก ๆ และการกะระยะด้วยสายตาแบบละเอียด มันคือประสบการณ์ที่ต่างจากแค่ “กดปุ่มแล้วปล่อยให้เครื่องทำงาน”
ไม่ต้องกลัวมือใหม่
บางคนอาจรู้สึกว่า “ใช้ เลื่อย ต้องมีทักษะเยอะ ต้องใช้แรงเยอะ” หรือป่าว? ความจริงคือ ถ้าคุณเลือก เลื่อย ให้เหมาะกับงาน และรู้เทคนิคพื้นฐาน เช่น การเลื่อยให้ฟันกินเนื้อไม้พอดี หรือการตั้งแนวเริ่มต้นให้แม่น เราคิดว่า เลื่อย ไม่ได้ใช้แรงมากอย่างที่คิดเลยครับ ที่หลายๆคนรู้สึกเหนื่อย อาจเพราะใช้ฟันเลื่อยผิดแบบ หรือจับมุมเลื่อยผิดเสียมากกว่า อย่าไปโทษตัว เลื่อย เลยครับ
ยิ่งไปกว่านั้น เลื่อย ยังช่วยให้ฝีมือของเราพัฒนาขึ้นด้วย เพราะทุกครั้งที่ใช้ เราจะค่อยๆ เข้าใจเนื้อไม้ เข้าใจองศา และรู้สึกได้ถึงน้ำหนักมือที่พอดี มันคือการฝึกความแม่นยำแบบคลาสสิกที่เครื่องไฟฟ้าให้ไม่ได้นั่นเอง
ราคาน่าคบ ไม่ต้องตามกระแสใคร
อีกข้อดีที่หลายๆคนมองข้าม คือ “ราคา” ที่ต่างกันมากๆเมื่อเทียบกับเลื่อยไฟฟ้า คุณสามารถเริ่มต้นด้วย เลื่อย คุณภาพดีในราคาหลักร้อย ไปจนถึงพันได้เลย และที่สำคัญคือ มันไม่ต้องเปลี่ยนบ่อย ไม่ต้องห่วงเรื่องแบตเสื่อม หรือชิ้นส่วนมอเตอร์พัง เพียงแต่คุณลับฟันเลื่อนให้ดีพอ ประกอบกับการบำรุงดี ๆ เลื่อย สามารถอยู่ได้เกิน 10 ปีด้วยซ้ำ “อันนี้ไม้ได้โม้นะ ถามช่างรุ่นเก๋ามาแล้ว”
แล้วเราก็คาใจ เลื่อย อะไร?อยู่ได้นานจัง?
ช่างรุ่นเก๋า พูดถึง เลื่อย อย่าง ZET-SAW เลื่อยมือคุณภาพจากญี่ปุ่น เขาบอกให้ลองใช้ดู เหมือนกับเราใช้ดาปซามูไรเลยก็ว่าได้
แล้ว เลื่อย มันยังคุ้มอยู่ไหม?
เอางี้ดีกว่าครับ เราจะพูดแบบตรงไปตรงมา ถ้าคุณต้องทำงานตัดไม้ทั้งวัน วันละหลายชิ้น ต้องตัดไม้หนา ๆ ต่อเนื่องแบบไม่มีพัก เครื่องเลื่อยไฟฟ้าก็ยังเป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์อยู่ดีครับ เพราะมันทั้งแรง ทั้งเร็ว แถมยังช่วยประหยัดแรงไปได้เยอะ
แต่ในทางกลับกัน ถ้างานที่คุณทำ…เป็นแค่การตัดชิ้นเล็ก ๆ นิดเดียว และยังต้องการความเงียบ เพราะไม่อยากรบกวนคนอื่น หรือต้องการตัดให้เนียน ๆ แบบประณีตสุด ๆ แบบนี้ตอบโจทย์
- ช่างมือใหม่ ที่ยังฝึกควบคุมการตัด อยากได้ฟีลการทำงานแบบรู้สึกถึงแรงที่ตัวเองใส่เข้าไปจริง ๆ เลื่อยมือเป็นครูที่ดีเลยครับ เพราะมันสอนให้เราเข้าใจจังหวะและน้ำหนักมือ
- ผู้ที่ชื่นชอบ DIY ที่ชอบทำงานด้วยมือแบบละเอียด บางคนอาจแค่ทำชั้นวางเล็ก ๆ หรือกล่องไม้เก๋ ๆ การได้ใช้ เลื่อย เหมือนเป็นส่วนหนึ่งของงานศิลป์เลยทีเดียว
- ช่างไม้แนวคลาสสิก ที่เน้นงานฝีมือ งานไม้บางชิ้นต้องการความรู้สึก ไม่ใช่แค่ความเร็ว ซึ่งเลื่อย ให้ตรงนั้นได้
- เจ้าของบ้านทั่วไป ที่แค่อยากมีเครื่องมือง่าย ๆ ไว้ใช้เป็นครั้งคราว บางครั้งแค่จะตัดไม้แผ่นเล็ก ๆ หรือซ่อมของจุกจิก การมี เลื่อย อยู่ใกล้มือก็คือคำตอบที่ไม่ต้องคิดเยอะ
เห็นแบบนี่แล้ว เลื่อย ก็ยังอยู่ตรงนี้เสมอ โดยเฉพาะถ้าคุณไม่ได้ใช้งานหนักเป็นประจำ การลงทุนกับ เลื่อย ดี ๆ สักตัวสองตัว มันก็คุ้มค่าสุด ๆ แบบไม่ต้องคิดเยอะเลยครับ เพราะนอกจากจะไม่ต้องพึ่งแบตหรือปลั๊กไฟแล้ว มันยังอยู่ได้นานเป็นสิบปีแบบไม่งอแงเลยนะ บำรุงรักษาง่าย ไม่จุกจิก แถมถ้าใช้จนชิน บางทีคุณอาจรู้สึกว่า มันก็เร็ว และแม่นกว่าที่คิดไว้มากเลยนะ... ลองหยิบ เลื่อย ขึ้นมาใช้อีกครั้งในวันที่คุณมีเวลาว่าง… ตัดไม้ง่าย ๆ สักชิ้น ทำกล่องใส่ของเล็ก ๆ แล้วคุณอาจจะได้พบคำตอบด้วยตัวเองว่า "เลื่อยนี่แหละ... ยังไม่เคยจากไปไหนเลย"