Schneider Electric แบรนด์ไฟฟ้าระดับโลกที่อยู่ใกล้ตัวเรากว่าที่คิด

ในทุกบ้านมักมีอุปกรณ์ไฟฟ้าชื่อหนึ่งที่เราพบอยู่บ่อย ๆ แม้ไม่ทันสังเกต โลโก้สีเขียวอ่อนบนเบรกเกอร์หรือสวิตช์ไฟที่เขียนว่า “Schneider Electric” นั้น ไม่ได้เป็นแค่ชื่อของผู้ผลิต แต่คือสัญลักษณ์ของระบบไฟฟ้าที่ปลอดภัย มีประสิทธิภาพ และถูกพัฒนาอย่างต่อเนื่องมากว่า 180 ปี

Schneider Electric เป็นบริษัทจากประเทศฝรั่งเศสที่เชี่ยวชาญด้านการจัดการพลังงานและระบบอัตโนมัติ ปัจจุบันมีสำนักงานและโรงงานผลิตอยู่กว่า 100 ประเทศทั่วโลก ผลิตภัณฑ์ของเขาครอบคลุมตั้งแต่ระบบไฟฟ้าในบ้านไปจนถึงเทคโนโลยีการควบคุมพลังงานในระดับอุตสาหกรรม

จุดเริ่มต้นสู่ผู้นำพลังงานโลก

Schneider Electric ก่อตั้งขึ้นในปี 1836 ที่เมือง Le Creusot ประเทศฝรั่งเศส โดยสองพี่น้อง Eugène และ Adolphe Schneider ธุรกิจในยุคแรกเป็นโรงหล่อเหล็กขนาดเล็กที่ผลิตเครื่องจักรกลสำหรับอุตสาหกรรม ก่อนจะขยายกิจการเข้าสู่ยุคไฟฟ้าและพลังงาน ซึ่งกลายเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของบริษัท

จากโรงหล่อเหล็กสู่การเป็นผู้ผลิตระบบจ่ายไฟและอุปกรณ์ควบคุม พวกเขามองเห็นอนาคตของ “พลังงานไฟฟ้า” ว่าจะกลายเป็นหัวใจของชีวิตมนุษย์ทุกคน ภายใต้แนวคิดที่ต่อมาได้กลายเป็นสโลแกนหลักของบริษัทว่า

       Life Is On – พลังงานเพื่อชีวิตที่เชื่อมต่อได้เสมอ

แนวคิดนี้ไม่ได้เป็นเพียงคำโฆษณา แต่เป็นหลักการที่ชไนเดอร์ใช้ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ทุกชิ้นให้ตอบโจทย์ความปลอดภัย ความยั่งยืน และการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด

แบรนด์ที่อยู่ในทุกวงจรของชีวิต

หากเปิดตู้ไฟในบ้านสักแห่ง เราจะเห็นเบรกเกอร์ที่แบ่งวงจรไฟออกเป็นส่วน ๆ ไม่ว่าจะเป็นห้องครัว ห้องนั่งเล่น หรือปั๊มน้ำ เบรกเกอร์ของ Schneider Electric ทำหน้าที่ตัดกระแสไฟโดยอัตโนมัติเมื่อเกิดไฟฟ้าลัดวงจรหรือกระแสเกิน ซึ่งช่วยป้องกันความร้อนสะสมและลดความเสี่ยงจากไฟไหม้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ในกลุ่มผลิตภัณฑ์สำหรับที่อยู่อาศัย Schneider Electric มีตั้งแต่เบรกเกอร์รุ่น Easy9 ที่ได้รับมาตรฐาน มอก. เหมาะกับบ้านทั่วไป ไปจนถึงรุ่น Acti9 ที่รวมระบบป้องกันไฟรั่วในตัว (RCBO) และรองรับงานที่ต้องการความแม่นยำสูง นอกจากนี้ยังมีชุดสวิตช์–ปลั๊ก AvatarOn ที่ออกแบบเรียบหรู สามารถเปลี่ยนหน้ากากได้ตามสไตล์ของห้อง ถือเป็นตัวอย่างของการผสมผสานระหว่างความปลอดภัยกับความสวยงามในการออกแบบ

ระบบไฟฟ้าในอุตสาหกรรมและโครงสร้างพื้นฐาน

นอกเหนือจากงานภายในบ้าน Schneider Electric ยังเป็นผู้นำด้านระบบไฟฟ้าสำหรับอาคารพาณิชย์และอุตสาหกรรม โดยเฉพาะเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมและบริหารพลังงาน บริษัทพัฒนาอุปกรณ์หลากหลาย เช่น

• ตู้คอนโทรลไฟ (Control Panel)
• อุปกรณ์ควบคุมมอเตอร์ (Motor Starter)
• ระบบป้องกันไฟฟ้าแรงสูง–แรงต่ำ
• ระบบอัตโนมัติ (Automation System) และ IoT

หัวใจของเทคโนโลยีเหล่านี้คือแพลตฟอร์ม EcoStruxure™ ซึ่งเป็นระบบบริหารพลังงานอัจฉริยะที่เชื่อมต่อข้อมูลแบบเรียลไทม์ผ่าน IoT และ Cloud Computing EcoStruxure สามารถวิเคราะห์การใช้ไฟในโรงงาน แจ้งเตือนความผิดปกติล่วงหน้า และช่วยวางแผนการใช้พลังงานอย่างคุ้มค่า ถือเป็น “สมองกล” ของระบบไฟยุคใหม่ที่ช่วยลดต้นทุนและเพิ่มความปลอดภัยไปพร้อมกัน

มาตรฐานที่สร้างชื่อให้ ชไนเดอร์

เหตุผลที่ช่างมืออาชีพและวิศวกรทั่วโลกไว้วางใจในแบรนด์นี้คือความละเอียดในทุกขั้นตอนของการออกแบบและการผลิต

• มาตรฐานระดับสากล ทุกผลิตภัณฑ์ผ่านการทดสอบตามมาตรฐาน IEC และ ISO รวมถึง มอก. ของไทย
• กลไกตัดไฟความแม่นยำสูง เบรกเกอร์สามารถตัดวงจรได้ภายในเวลาไม่ถึง 0.02 วินาที เมื่อเกิดกระแสเกินหรือไฟรั่ว
• วัสดุทนความร้อนและไม่ลามไฟ ใช้พลาสติกชนิด Thermoset ทนความร้อนได้มากกว่า 960°C
• ดีไซน์เพื่อความสะดวกในการติดตั้ง ใช้ราง DIN Rail มาตรฐานโลก ทำให้ติดตั้งได้ง่ายและประหยัดเวลา
• อายุการใช้งานยาวนาน ทดสอบการเปิด–ปิดมากกว่า 20,000 ครั้งโดยไม่เสื่อมคุณภาพ

ด้วยคุณสมบัติเหล่านี้ Schneider Electric จึงกลายเป็นชื่อที่ถูกเลือกใช้ตั้งแต่บ้านพักอาศัยจนถึงอาคารสูงและโรงงานขนาดใหญ่

เลือกใช้ Schneider ให้เหมาะกับงาน

แม้จะเป็นแบรนด์ระดับโลก แต่ผลิตภัณฑ์ของ Schneider Electric ถูกออกแบบให้เข้าถึงได้ง่ายและเหมาะกับการใช้งานหลากหลายระดับ

แบรนด์ที่อยู่เบื้องหลังไฟสว่างทุกวัน

ตลอดเวลากว่า 180 ปี Schneider Electric ไม่เคยหยุดพัฒนา จากโรงหล่อเหล็กสู่เทคโนโลยี IoT จากเบรกเกอร์ตัวเล็กในบ้านสู่ระบบควบคุมพลังงานระดับเมือง ทั้งหมดนี้สะท้อนแนวคิดเดียวกัน — ทำให้พลังงานปลอดภัย ใช้งานได้ต่อเนื่อง และเป็นมิตรต่อโลกใบนี้

ทุกครั้งที่เราเปิดไฟหรือเสียบปลั๊กไฟที่บ้าน อาจไม่ทันรู้ว่าเบื้องหลังความเรียบง่ายนั้นคือเทคโนโลยีที่ผ่านการคิด ควบคุม และทดสอบอย่างละเอียดจากแบรนด์หนึ่งในฝรั่งเศสที่ชื่อว่า Schneider Electric ชื่อที่ช่างมืออาชีพทั่วโลกไว้วางใจ และยังคงยืนอยู่ในวงการพลังงานด้วยความเชื่อว่า “Life Is On.”