เสื้อสะท้อนแสง ควรซัก-ควรเก็บรักษายังไงถึงจะใช้ได้ไปนานๆ

เสื้อจราจรสะท้อนแสง YAMADA GR-6666AF ผ้าแฟบริค สีเขียวแถบสีเงิน

160 บาท

เสื้อจราจร YAMADA OR-6050X

140 บาท

เสื้อสะท้อนแสง WADFOW WRV1802 Size XL สีเหลือง

85 บาท

เสื้อจราจรสะท้อนแสง ด้านหลังสายไขว์ YAMADA YL6050X แถบเหลือง

140 บาท

เสื้อกั๊กสะท้อนแสง 3M V05M2 (2925) สีแดงส้ม Size M

310 บาท

เสื้อจราจรตาข่าย YAMADA GR-6045U ทรงตัวUสีเขียวแถบเงิน

120 บาท

เคยสงสัยไหมครับว่า เสื้อสะท้อนแสง ที่เราใส่ทำงาน ออกไซต์งาน หรือแม้กระทั่งปั่นจักรยานยามตอนกลางคืน นั้น จริง ๆ แล้วมันมีอายุการใช้งานนานไหม? หลายๆคนคิดว่าแค่เสื้อผ้า ใส่แล้วซักเหมือนเสื้อยืดทั่วไปจบ ๆ แต่ในความเป็นจริง เสื้อสะท้อนแสง ไม่ได้เหมือนเสื้อผ้าธรรมดาเลยครับ เพราะแถบสะท้อนแสงที่เย็บติดอยู่ มันคือหัวใจสำคัญที่ช่วยให้เรามองเห็นได้ในที่มืด และนั่นหมายถึงความปลอดภัยโดยตรงของเรา

จากที่เราลองใช้มาหลายครั้ง ตั้งแต่ เสื้อสะท้อนแสง ราคาไม่แพง ไปจนถึงแบบมาตรฐานงานอุตสาหกรรมที่ราคาเป็นพัน ๆ ต่างก็มีทั้งข้อดีข้อเสีย และที่ชัดที่สุดคือเรื่องการดูแลรักษา ถ้าเราใช้ไม่ระวัง ซักแรง ๆ ตากแดดจัด ๆ ไม่กี่เดือนแถบสะท้อนแสงก็เริ่มซีด เหมือนเป็นเสื้อธรรมดาไปเลย

เพราะงั้นในบทความนี้ เราจะมาบอกเทคนิคเล็ก ๆ น้อย ๆที่เราเจอเอง เช่น ซักยังไงไม่ให้แถบสะท้อนหลุด เก็บยังไงไม่ให้ย่น หรือแม้กระทั่งวิธีเช็กง่าย ๆ ว่าเสื้อเรายังสะท้อนแสงดีอยู่ไหม ก่อนเอาไปใช้จริง ๆ จะได้มั่นใจว่าปลอดภัยนั่นเองครับ 

ทำไม เสื้อสะท้อนแสง ถึงต้องดูแลเป็นพิเศษ?

หลายคนอาจลืมไปว่า เสื้อสะท้อนแสง มัน “บอบบาง” กว่าเสื้อผ้าธรรมดาเยอะ เพราะแถบสะท้อนแสงมันทำจากวัสดุพิเศษที่ไว้สะท้อนแสงไฟจากรถหรือไฟส่องสว่าง โดยการเคลือบหรือฝังเม็ดเล็ก ๆ ลงบนผ้า ถ้าเราเผลอซักหรือเก็บแบบไม่ระวัง แถบพวกนี้ก็จะเสื่อมเร็ว ทำให้ เสื้อสะท้อนแสง ดูเหมือนยังใส่ได้ แต่ความสามารถในการสะท้อนแสงลดลงไปเยอะเลยครับ

เราเองก็เคยพลาดมาแล้ว ตอนทำงานโครงการกลางคืน ใช้ เสื้อสะท้อนแสง อยู่ได้ไม่ถึงเดือน แต่เผลอซักรวมกับกางเกงยีนส์หนัก ๆ แล้วโยนเข้าเครื่องแบบปั่นแรง ๆ แค่ไม่กี่ครั้ง แถบสะท้อนแสงก็แตก ลอก หมอง จนไฟส่องไม่สะท้อนเหมือนเดิม สุดท้ายต้องซื้อใหม่อีก! 

วิธีซัก เสื้อสะท้อนแสง แบบถูกต้อง

1. แยกซัก เสื้อสะท้อนแสง ไม่รวมกับผ้าหนักหรือผ้าที่มีซิป

อันนี้คือข้อแรกเลยครับ ที่หลายๆคนพลาด คิดว่าเสื้ออะไรก็ซักรวมกันได้ แต่จริง ๆ แล้ว เสื้อสะท้อนแสง ควรแยกออกมาต่างหาก ไม่ควรเอาไปปั่นรวมกับกางเกงยีนส์ เสื้อแจ็กเก็ต หรือผ้าที่มีซิป มีตะขอ เพราะสิ่งพวกนี้มันจะไปขูดกับแถบสะท้อนแสงได้ง่าย ๆเลยครับ และนั่นแหละคือจุดที่ทำให้แถบสะท้อนแสงเริ่มลอก หลุด หรือเป็นรอยขีดจนไม่สะท้อนดีเหมือนเดิมครับ

2. ซักมือดีที่สุด แต่ถ้าต้องใช้เครื่อง เลือกโหมดถนอมผ้า

พูดตรง ๆ เลยนะครับ เราเองก็ไม่ใช่คนขยันซักมือทุกครั้งหรอก เพราะบางทีเหนื่อย ๆ “พูดง่ายๆครับ ขี้เกียจนั่นแหะล!” ก็โยนเข้าซักเครื่องไปเลย แต่ถ้าอยากให้ เสื้อสะท้อนแสง อยู่ได้นานจริง ๆ ซักมือเบา ๆ ด้วยสบู่หรือน้ำยาซักผ้าอ่อน ๆ จะช่วยได้เยอะเลยครับ แต่ถ้าจำเป็นต้องซักเครื่องจริง ๆ ก็เลือกโหมดถนอมผ้า ห้ามใช้การปั่นแรง ๆ เด็ดขาด และควรใส่ถุงซักก่อนด้วย จะได้ช่วยกันไม่ให้แถบสะท้อนแสงไปโดนแรงเสียดสีตรง ๆ

3. ห้ามใช้น้ำร้อน และห้ามใช้น้ำยาฟอกขาว

หลายคนคิดว่าใช้น้ำร้อนซักแล้วสะอาดกว่า แต่กับ เสื้อสะท้อนแสง นี่ถือว่าเป็นการเร่งให้เสื้อพังเลยครับ เพราะกาวที่ยึดแถบสะท้อนแสงมันจะเสื่อมสภาพเร็วขึ้น ส่วนพวกน้ำยาฟอกขาวหรือน้ำยาที่มีสารเคมีแรง ๆ ก็ยิ่งอันตรายใหญ่ มันจะกัดชั้นเคลือบสะท้อนแสงจนพัง เห็นมาแล้วครับ เสื้อที่เคยวิ้ง ๆ อยู่ดี ๆ กลายเป็นหมอง ๆ เหมือนเสื้อธรรมดาไปเลย เสียดายเงินแบบสุด ๆ

4. ห้ามขัดแรง ๆ โดยตรงบนแถบสะท้อนแสง

ถ้าซักมือ เวลาถึงตรงแถบสะท้อนแสง อย่าไปขัดหรือถูแรง ๆ นะครับ ให้ใช้วิธีบีบเบา ๆ หรือถ้าสกปรกเฉพาะจุดก็ซักเฉพาะตรงเนื้อผ้า แล้วค่อยล้างน้ำออกก็พอ ไม่ต้องไปตั้งใจถูตรงแถบสะท้อนแสงจนเกินเหตุ เพราะนั่นแหละครับ ที่ทำให้แถบเสื่อมเร็ว

5. ตากในที่ร่ม ลมโกรก ไม่ตากแดดจัด

นี่คืออีกจุดที่เราเคยพลาดเองกับมือเลยครับ เอา เสื้อสะท้อนแสง ไปตากกลางแดดจัด ๆ ผลคือไม่กี่เดือนเท่านั้น แถบสะท้อนแสงกรอบ แตก และซีดจนแทบใช้ไม่ได้เลย สุดท้ายต้องซื้อใหม่ เสียดายมาก ๆ เพราะฉะนั้นวิธีที่ดีที่สุดคือ ตากในที่ร่ม มีลมพัดผ่าน ไม่ต้องเจอแดดตรง ๆ เสื้อก็จะแห้งเร็วและอยู่กับเราได้นานกว่าครับ

การเก็บรักษา เสื้อสะท้อนแสง

• เก็บในที่แห้งและไม่ชื้น ข้อนี้สำคัญมาก ๆ ครับ หลายครั้งที่เราเก็บเสื้อสะท้อนแสงไว้ในล็อกเกอร์ ห้องเก็บของ หรือท้ายรถ โดยไม่ทันระวังเรื่องความชื้น ผลคือเสื้อขึ้นราได้ง่าย และราก็ทำให้ผ้าแข็ง กระด้าง แถมยังดูเก่าเกินจริงอีกต่างหาก วิธีที่ดีที่สุดคือหาที่เก็บที่อากาศถ่ายเทได้สะดวก ไม่อับ ไม่ชื้น เท่านี้ก็ช่วยยืดอายุเสื้อได้เยอะแล้วครับ
• ไม่พับทับตรงแถบสะท้อนแสง นี่คือข้อที่ผมเองก็เคยพลาดครับ เวลารีบเก็บเสื้อก็พับ ๆ ยัด ๆ เข้าตู้ ผลคือแถบสะท้อนแสงกลายเป็นรอยพับ พอทำบ่อย ๆ ก็แตกเป็นเส้นจนสะท้อนแสงไม่สวยเหมือนเดิม ถ้าเป็นไปได้ผมแนะนำว่าแขวนไว้เลยดีกว่า ไม่เกะกะด้วย และยังช่วยให้แถบสะท้อนแสงเรียบตลอดเวลา
• เก็บให้พ้นจากแสงแดด หลายคนอาจคิดว่าไม่ได้ใส่ เสื้อสะท้อนแสง แล้วก็คงไม่เป็นไร แต่จริง ๆ ถ้าแขวนไว้ตรงที่แดดส่องเข้ามา เช่น ใกล้หน้าต่าง หรือในรถที่จอดตากแดดตลอดวัน แถบสะท้อนแสงก็เสื่อมได้เหมือนกันครับ จากที่เคยเงาวิ้ง ๆ พอเจอแดดบ่อย ๆ จะซีด หมอง และบางทีก็กรอบแตกเลย เพราะงั้นหาที่เก็บในร่ม ปลอดแดด จะดีที่สุด
• ตรวจเช็กสภาพ เสื้อสะท้อนแสง เป็นระยะ ๆ บางครั้งเราอาจคิดว่า เสื้อสะท้อนแสง ยังใช้ได้ แต่พอเอาไปใส่หน้างานจริงกลับไม่สะท้อนแล้ว วิธีเช็กง่าย ๆ ที่ผมใช้คือ เปิดไฟฉายในห้องมืดแล้วส่องไปที่เสื้อ ถ้าแถบยังสะท้อนกลับมาเป็นเส้นแสงชัด ๆ แปลว่ายังใช้ได้ แต่ถ้าเริ่มหมอง ดูไม่ค่อยสะท้อนแล้ว นั่นคือสัญญาณว่าควรหาตัวใหม่แทนครับ อย่าปล่อยให้เสื่อมจนเสี่ยงอันตรายตอนใช้งานจริง

ประสบการณ์จริง ซัก เสื้อสะท้อนแสง ผิดครั้งเดียว = จบ

จำได้ว่าครั้งหนึ่ง เราได้เอาผ้าไปให้ร้านซักเสื้อ แล้วกันลืมเอา เสื้อสะท้อนแสง รวมไปด้วย ร้านก็จัดเต็มครับ ซักรวมกับผ้าอื่นไปหมด แถมยังใจดีใส่น้ำยาฟอกขาวลงไปอีก ผลลัพธ์คือ... เสื้อที่เคยสะท้อนแสงวิ้ง ๆ กลายเป็นหมอง ๆ ในเวลาแค่สองอาทิตย์ สุดท้ายต้องจำใจทิ้ง โทษใครไม่ได้เลย นอกจากตัวเอง

ประสบการณ์ทำให้เราจำ พอลองซัก เสื้อสะท้อนแสง เอง คอยแยกซัก ไม่ให้เจอผ้าหนัก ตากก็เลือกตากในร่ม แขวนเก็บให้ดี ๆ ใช้งานทุกวันจริง เสื้อสะท้อนแสง ยังอยู่รอดมาจนถึงตอนนี้เป็นปีแล้วครับ ถึงมันจะเก่าบ้างแต่แถบสะท้อนแสงก็ยังชัดเจนดี เวลาออกหน้างานตอนกลางคืนก็ยังมั่นใจว่าคนเห็นแน่นอน ที่สำคัญคือไม่ต้องซื้อบ่อย ประหยัดเงินไปเยอะเลย

เคล็ดลับเล็ก ๆ ที่ทำให้ เสื้อสะท้อนแสง อยู่กับเราได้นานๆ

• ซักเมื่อจำเป็น อย่าซักบ่อยเกินไปถ้า เสื้อสะท้อนแสง ไม่ได้เลอะมาก บางคนชอบใส่ เสื้อสะท้อนแสง แล้วซักทุกครั้งเหมือนเสื้อยืดปกติ จริง ๆ ไม่จำเป็นเลยครับ ถ้าไม่ได้เลอะโคลนหรือเจอคราบหนัก ๆ ก็แค่เอามาตากลมให้หายอับก็พอ เพราะการซักบ่อยเกินไปนี่แหละ ทำให้แถบสะท้อนแสงเสื่อมเร็วโดยใช่เหตุ
• ใช้น้ำยาซักผ้าแบบอ่อนโยน ไม่ใส่น้ำยาปรับผ้านุ่มมากเกินไป น้ำยาซักผ้าแบบอ่อน ๆ จะช่วยถนอมเนื้อผ้าและแถบสะท้อนแสงได้ดีกว่า แต่ที่สำคัญคืออย่าเทน้ำยาปรับผ้านุ่มจนเพลินนะครับ เพราะมันอาจไปเคลือบผิวสะท้อนแสง ทำให้เวลาใช้งานจริงแสงไฟสะท้อนออกมาไม่ชัดเท่าเดิ
• ถ้าหากว่า เสื้อสะท้อนแสง เปียกเหงื่อ ควรตากให้แห้งก่อนเก็บ อย่าโยนกองไว้ ผมเคยพลาดครับ กลับจากไซต์งานเหนื่อย ๆ ถอดเสื้อแล้วโยนกองทิ้งไว้ ผลคือตื่นมาเจอกลิ่นอับกับคราบเหงื่อฝังเต็ม ๆ แถมเสื้อสะท้อนแสงเสื่อมสภาพไวกว่าเดิมอีก ถ้าเปียกเหงื่อ แค่เอาไปผึ่งลมให้แห้งก่อนค่อยเก็บ เท่านี้ก็ช่วยยืดอายุเสื้อไปได้อีกเยอะครับ
• พก เสื้อสะท้อนแสง สำรองสัก 1–2 ตัว เผื่อเอาไว้ก็ดีครับ อันนี้เป็นเคล็ดลับที่เราทำเองแล้วได้ผลครับ ถ้ามี เสื้อสะท้อนแสง แค่ตัวเดียว ใช้ทุกวัน ซักทุกอาทิตย์ มันก็สึกเร็วแน่นอน แต่ถ้าเรามี 2–3 ตัว สลับกันใส่ สุดท้ายแต่ละตัวก็จะอยู่กับเราได้นานขึ้นเยอะครับ ไม่ต้องซื้อใหม่บ่อย ๆ คุ้มทั้งเงินและเวลาเลย

เสื้อสะท้อนแสง ไม่ใช่แค่เครื่องแต่งกาย แต่เป็น อุปกรณ์เซฟตี้ ที่ช่วยให้เรามีชีวิตรอดในสภาพแวดล้อมเสี่ยงอันตราย ดังนั้น การดูแลรักษาจึงไม่ใช่เรื่องเล็กน้อยเลยครับ ซักถูกวิธี เก็บให้ดี ก็ช่วยยืดอายุการใช้งานไปได้หลายเท่า ประหยัดทั้งเงิน และที่สำคัญคือประหยัดความเสี่ยงในชีวิตจริงของเราเอง

เลือก เสื้อสะท้อนแสง เพิ่มเติม