TH
English
Customers Also Purchased
เคยเป็นไหมครับ? หยิบ ระดับน้ำ มาวัดชั้นวางของ แล้วก็มองดูฟองอากาศ มันก็อยู่ตรงกลางพอดี แต่พอถอยหลังออกมาดูเท่านั้นแหละ! ทำไมมันดูเอียงเฉยเลย! หันซ้ายหันขวาก็แล้ว เอียงคอก็ยังดูเหมือนมันเบี้ยวอยู่ดี จนเริ่มไม่มั่นใจแล้วว่าเราตาฝาดหรือว่า ระดับน้ำ มันเพี้ยนกันแน่!
หากคุณเคยเจอปัญหานี้ ผมจะพาคุณมาหาคำตอบด้วยกันเลยครับ ว่าทำไมถึงรู้สึกแบบนั้น พร้อมแชร์เทคนิคง่ายๆ ในการเช็ก ระดับน้ำ ว่าแม่นจริงไหม? แบบที่ไม่ต้องใช้อุปกรณ์ให้ยุ่งยาก แค่มีใจอยากลองและมองให้ละเอียดขึ้นอีกนิด รับรองว่าอ่านจบแล้ว คุณจะมั่นใจขึ้นเยอะว่าตรงแน่นอน
ทำไมถึงรู้สึกว่าเอียง? ทั้งที่ใช้ ระดับน้ำ แล้ว?
ความรู้สึกไม่ตรงกับสายตา
- บางทีตาเราก็โดนหลอกง่าย ๆ ครับ อย่างผนังบ้าน พื้น หรือแม้แต่เฟอร์นิเจอร์รอบ ๆ ตัวเรา ถ้ามันเอียงจริงบ้างนิด ๆ หน่อย ๆ หรือมีลายไม้ ลายกระเบื้องที่เฉียงอยู่ เราก็จะรู้สึกไปเองว่าอะไรก็ตามที่เราวางไว้ตรงหน้าเอียงตาม ทั้งที่จริง ๆ มันอาจตรงเป๊ะอยู่แล้วก็ได้!
- บางครั้งแสงในห้องก็แกล้งเราได้เหมือนกันครับ ถ้ามีแสงสว่างฝั่งเดียว หรือเงาตกกระทบไม่เท่ากัน มันอาจทำให้มองเห็นชั้นวางหรือกรอบรูปเหมือนมันเอียง ทั้งที่จริง ๆ อาจจะตรงเป๊ะก็ได้! โดยเฉพาะถ้าใช้ไฟสีเหลืองกับไฟขาวผสมกัน ยิ่งทำให้ภาพที่เราเห็นเพี้ยนเข้าไปใหญ่เลยครับ
ระดับน้ำ อาจเพี้ยนแบบไม่รู้ตัว
- อย่าเพิ่งวางใจแค่เห็นฟองอากาศอยู่ตรงกลางนะครับ เพราะมันอาจหลอกเราได้! หลายคนไม่รู้ว่าแค่หลอดฟองน้ำหลวม หรือเคยโดนกระแทกแรง ๆ สักครั้งเดียว ก็เพี้ยนได้แล้วแบบไม่รู้ตัวเลยครับ เพราะงั้น ต่อให้ฟองอยู่ตรงกลางเป๊ะ แต่ถ้าตัวหลอดมันเคลื่อนนิดเดียว มันก็วัดไม่ตรงแล้วครับ
- อากาศบ้านเราบางทีก็ไม่เบาเลยครับ เดี๋ยวร้อนจี๋ เดี๋ยวหนาวฉ่ำ (โดยเฉพาะถ้าเปิดแอร์แรง ๆ) ซึ่งความร้อนหรือเย็นสุดขั้วแบบนี้มันมีผลกับวัสดุของระดับน้ำได้ครับ เพราะวัสดุพวกนี้จะมีการขยายหรือหดตัวเล็กน้อยตามอุณหภูมิ ถ้าใช้งานในสภาพที่ร้อนจัดหรือเย็นจัดตลอดเวลา ค่าการวัดอาจจะคลาดเคลื่อนได้นิด ๆ แบบที่เราไม่ทันสังเกตเลยก็ได้
วิธีเช็กว่า ระดับน้ำ ของคุณยังแม่นอยู่ไหม?
วิธีที่ 1 พลิกกลับหัว
- เริ่มจากวางระดับน้ำบนพื้นผิวที่คุณมั่นใจว่าเรียบจริง ๆ ครับ เช่น โต๊ะไม้เนียน ๆ หรือชั้นที่วางของได้แนว ถ้าพื้นผิวมันแอ่นหรือมีรอยนูน แม้แต่นิดเดียวก็มีผลกับฟองอากาศได้เลยนะครับ
- สังเกตตำแหน่งของฟองอากาศให้ดี ลองเพ่งดูแบบใจเย็น ๆ ครับว่าฟองมันอยู่ตรงกลางจริงไหม ไม่เอียงไปข้างใดข้างหนึ่ง แม้แค่นิดเดียวก็ไม่ควรมองข้าม เพราะความเบี้ยวระดับมิลลิเมตรก็ทำให้ชั้นวางของดูเอียงได้แล้ว
- จากนั้นให้พลิกระดับน้ำกลับด้านครับ หมุนกลับ 180 องศาแบบเอาด้านหัวไปไว้ท้าย แล้ววางบนจุดเดิมเป๊ะ ๆ เลย แบบนี้เราจะได้รู้ว่าฟองอากาศยังนิ่งอยู่ที่เดิมหรือเปล่า
- ถ้าฟองอากาศยังอยู่ตำแหน่งเดิมเป๊ะ ๆ หลังจากกลับด้าน แสดงว่าเจ้าแท่งระดับน้ำของคุณยังไว้ใจได้ครับ ใช้งานต่อได้สบายใจ ไม่ต้องกังวลว่างานจะเบี้ยวเพราะเครื่องมือเลย
- แต่ถ้าฟองอากาศมันเลื่อนจากตำแหน่งเดิมแบบเห็นได้ชัดเลย แปลว่าเจ้าเครื่องมือของเราน่าจะเริ่มเพี้ยนแล้วครับ อาจจะต้องพักมันไว้ก่อน หรือไม่ก็หาตัวใหม่มาแทนดีกว่า เดี๋ยวใช้งานไป งานออกมาเบี้ยวไม่รู้ตัว จะเสียเวลาแก้งานกันอีก
วิธีที่ 2 วางเทียบกับแนวที่รู้ว่า ตรงแน่ๆ
ลองมองหาอะไรที่เราเชื่อมั่นได้ว่าแนวตรงชัวร์ ๆ ครับ อย่างกรอบหน้าต่าง เสา หรือแนววงกบประตูที่ทำจากช่างมือดี แล้วเอา ระดับน้ำ ไปวางเทียบดูเลย ถ้าฟองอากาศนิ่งเหมือนเดิมก็โอเคครับ แต่ถ้าขยับไปขยับมา ทั้งที่ของตรงแน่ ๆ อันนี้เริ่มน่าสงสัยแล้วว่าอุปกรณ์เราอาจจะมีปัญหา
วิธีที่ 3 ใช้ ระดับน้ำ 2 อันเทียบกัน
ถ้าโชคดีคุณมี ระดับน้ำ อยู่ 2 อัน ลองหยิบมาวางเทียบกันเลยครับ วางในจุดเดียวกันเป๊ะ ๆ จากนั้นดูว่าฟองอากาศมันอยู่ตรงตำแหน่งเดียวกันไหม ถ้าตรงกันก็สบายใจครับ แปลว่าทั้งสองอันน่าเชื่อถือได้ แต่ถ้าค่าไม่ตรงกัน ให้เชื่ออันที่คุณเคยทดสอบแบบพลิกหัวแล้วว่ายังเป๊ะอยู่ อันนั้นน่าจะไว้ใจได้มากกว่าครับ
เลือก ระดับน้ำ ยังไงให้เป๊ะ?
แล้วจะเลือก ระดับน้ำ ยังไงให้เป๊ะ ไม่หลอกสายตา? ระดับน้ำ ที่ดีควรมีอะไรบ้าง? วัสดุ ความยาว และความแม่นยำ
ดูค่าความแม่นยำ (Accuracy)
- ถ้าใครต้องทำงานที่ต้องการความเป๊ะระดับมิล ๆ อย่างงานไม้ หรืองานติดตั้งเฟอร์นิเจอร์แบบบิลต์อิน ผมแนะนำให้เลือกที่มีค่าความแม่นยำ ±0.5 mm/m ขึ้นไปเลยครับ จะได้วางใจได้ว่าทำงานแล้วไม่ต้องมานั่งแก้งานซ้ำเพราะระดับมันเบี้ยว
- ถ้าใช้งานทั่วไปในบ้าน อย่างแขวนรูป ติดชั้นวางเล็ก ๆ หรือจัดของในห้องต่าง ๆ ค่าแม่นยำที่ ±1.0 mm/m ก็ถือว่าใช้ได้ครับ ไม่ต้องเป๊ะระดับช่างมือโปร แต่แนะนำให้เลือกจากแบรนด์ที่ไว้วางใจได้นิดนึงนะครับ จะได้ไม่ต้องมานั่งสงสัยทุกครั้งที่ใช้ว่าเครื่องมือเรามันตรงรึเปล่า
ยี่ห้อมีผล
- แบรนด์อย่าง Stabila นี่ถ้าใครเคยใช้จะรู้เลยครับว่าไว้ใจได้จริง ทั้งเรื่องความเป๊ะของการวัด ความแข็งแรง และการประกอบหลอดที่แน่นหนา ไม่หลวมง่าย ๆ แถมหลายรุ่นยังใช้งานหนัก ๆ ได้แบบไม่ต้องกลัวพัง
- ระดับน้ำราคาถูกมาก ๆ บางทีตอนซื้อมาใหม่ ๆ ก็วัดเป๊ะอยู่นะครับ แต่พอใช้ไปไม่นาน เจอหล่นบ้าง โดนกระแทกบ้าง ความแม่นยำก็เริ่มเพี้ยนแบบไม่รู้ตัวเลย แล้วเราก็จะงง ๆ ว่าทำไมงานมันดูเอียง ทั้งที่เราก็วัดแล้วนั่นแหละ!
เลือกขนาด ระดับน้ำ ให้เหมาะกับงาน
- งานพื้นที่เล็ก: 20–30 ซม. — เหมาะมากสำหรับใครที่ต้องทำงานในที่แคบ ๆ อย่างวัดชั้นวางในตู้ ลิ้นชัก หรืองาน DIY เล็ก ๆ ที่ไม่อยากพกแท่งใหญ่เกะกะ เอาใส่กระเป๋าเครื่องมือได้สบาย แถมเบาอีกต่างหาก!
- งานทั่วไปในบ้าน: 60 ซม. — ขนาดนี้ถือว่าเป็นระดับกลางที่ใช้ได้สารพัดเลยครับ ไม่ว่าจะติดตั้งชั้นวาง แขวนทีวี หรือวางเฟอร์นิเจอร์ให้ได้แนวตรง ใช้งานง่าย พกพาไม่ลำบาก เหมาะกับคนที่ชอบทำงานเองที่บ้านสุด ๆ
- งานโครงสร้าง หรืองานระยะยาว: 100 ซม. ขึ้นไป — ถ้าคุณต้องทำงานที่ต้องเช็กแนวยาว ๆ เช่น วางแนวผนัง ปูกระเบื้องพื้น หรือจัดระดับคานเหล็ก พวกนี้แหละที่ควรใช้ระดับน้ำยาว 1 เมตรขึ้นไปครับ เพราะยิ่งแท่งยาว ก็ยิ่งช่วยให้มองแนวตรงได้แม่นขึ้น ไม่ต้องขยับไปวัดหลายจุดให้เสียเวลา แถมยังลดโอกาสเพี้ยนด้วย
ฟีเจอร์เสริมก็ช่วยได้เยอะ
- มีแม่เหล็ก : ใครที่ต้องทำงานกับโครงเหล็ก ท่อ หรือวัสดุโลหะบ่อยๆ ฟีเจอร์นี้คือของดีครับ แค่แปะ ระดับน้ำ ลงไป มันก็ยึดติดเลย ไม่ต้องใช้สองมือช่วยจับให้วุ่นวาย ทำงานได้สะดวก แถมแม่นกว่าเยอะด้วย
- มีไฟหรือหลอดเรืองแสง : เคยไหมครับ ทำงานตอนกลางคืนหรือตามมุมอับแสงแล้วต้องเพ่งตาแทบแยกไม่ออกว่าฟองอากาศอยู่ตรงกลางหรือยัง? ฟีเจอร์นี้ช่วยได้มากเลยครับ เพราะมันช่วยให้เห็นฟองอากาศชัดเจน แม้อยู่ในที่มืดหรือตอนทำงานดึกๆ ไม่ต้องพึ่งไฟฉายให้ยุ่งยาก
- มีบับเบิลหลายตำแหน่ง : บางรุ่นเขาให้มาทั้งฟองอากาศแนวนอน แนวตั้ง และแบบเอียง 45 องศาเลยครับ ใครที่ต้องติดราวบันได ติดชั้นเฉียง หรืออยากวางของแบบเท่ๆ เอียงนิดๆ ไม่ตรงเป๊ะ ฟีเจอร์นี้ช่วยให้วัดมุมได้ง่าย ไม่ต้องเดาเองหรือไปควานหาโปรแทรกเตอร์ให้วุ่น
- ดิจิตอล : ใครที่ชอบความเป๊ะระดับตัวเลขจะถูกใจกับฟีเจอร์นี้เลยครับ เพราะมันแสดงผลออกมาเป็นตัวเลของศาชัดๆ ไม่ต้องมานั่งเพ่งฟองอากาศให้ตาลาย แค่ดูหน้าจอก็รู้เลยว่าตรงหรือเอียงกี่องศา ใช้ง่าย แถมแม่นสุดๆ
เลือก ระดับน้ำ ให้เหมาะกับการใช้งาน