แนะนำ เลื่อยตัดกิ่งไม้ ฟันละเอียด vs ฟันหยาบ ใช้แบบไหนดีที่สุด?

เลื่อยตัดกิ่งไม้ G-MAN 233H14 ขนาด 350 mm.

600 บาท

เลื่อย ตัดกิ่งไม้ภายในบ้าน ZET SAW PRUNING S-175 ขนาด 175 mm.

400 บาท

เลื่อยตัดกิ่งไม้ เลื่อยพับญี่ปุ่น ZET SAW TUCK-IN 240 COARSE ขนาด 240 mm.

1,070 บาท

ใบเลื่อยเครื่องตัดแต่งกิ่งไม้ Bosch ขนาด 120 มม.

650 บาท

ด้ามต่อขยาย 2-4 เมตร G MAN 400EX สำหรับเลื่อยตัดกิ่งไม้ 233H14 / 350LH

1,790 บาท

เลื่อยตัดกิ่งไม้ G-MAN 350LH Samurai ขนาด 350 mm.

770 บาท

การตัดแต่งกิ่งไม้เป็นหนึ่งในงานสำคัญสำหรับการดูแลต้นไม้และสวน ซึ่งต้องใช้เครื่องมือช่างที่เหมาะสมเพื่อให้การทำงานมีประสิทธิภาพ เลื่อยตัดกิ่งไม้ เป็นเครื่องมือหลักที่นิยมใช้กันมาก โดยเฉพาะ เลื่อยตัดกิ่งไม้ ที่มีฟันสองประเภทหลัก ได้แก่ ฟันละเอียด และ ฟันหยาบ นั่นเองครับ

เลื่อยตัดกิ่งไม้ ฟันละเอียดและฟันหยาบ คืออะไร?

เลื่อยตัดกิ่งไม้ ฟันละเอียด

คุณสมบัติหลักของ เลื่อยฟันละเอียด

• ฟันเลื่อยมีขนาดเล็กและเรียงตัวอย่างถี่ ทำให้สามารถตัดได้อย่างละเอียดและแม่นยำ
• ให้แนวตัดที่เรียบเนียน ลดเสี้ยนไม้ และลดโอกาสเกิดรอยหยาบบนพื้นผิวไม้
• ต้องใช้เวลาในการตัดนานกว่าเลื่อยฟันหยาบ เนื่องจากต้องใช้การเคลื่อนที่ของเลื่อยที่สม่ำเสมอและต้องการความประณีตมากขึ้น
• ลดโอกาสที่ไม้จะแตกหัก เนื่องจากแรงกระแทกจากฟันเลื่อยมีน้อย และการตัดเป็นไปอย่างราบรื่น
• เหมาะสำหรับงานที่ต้องการความเรียบร้อย เช่น การตัดแต่งไม้เนื้ออ่อน งานเฟอร์นิเจอร์ และงานตัดแต่งกิ่งไม้ขนาดเล็ก

เลื่อยตัดกิ่งไม้ ฟันหยาบ

คุณสมบัติหลักของ เลื่อยฟันหยาบ

• ฟันเลื่อยมีขนาดใหญ่และมีระยะห่างมากกว่า ช่วยให้การตัดมีประสิทธิภาพสูงขึ้น โดยสามารถขจัดเนื้อไม้ได้มากในแต่ละจังหวะการเลื่อย
• ตัดไม้ได้เร็วกว่าและใช้แรงน้อยกว่า เนื่องจากฟันเลื่อยสามารถตัดผ่านเนื้อไม้ได้ลึกขึ้น ทำให้ลดจำนวนครั้งในการเลื่อย
• อาจทำให้แนวตัดหยาบและมีเสี้ยนไม้เกิดขึ้น ซึ่งอาจต้องมีการขัดหรือตัดแต่งเพิ่มเติมหากต้องการแนวตัดที่เรียบร้อย
• เหมาะสำหรับกิ่งไม้ขนาดใหญ่และไม้เนื้อแข็ง โดยเฉพาะงานที่ต้องการความรวดเร็ว เช่น การตัดแต่งกิ่งไม้ขนาดใหญ่ หรือตัดไม้เนื้อแข็งที่ต้องใช้แรงน้อยที่สุดในการตัด

เปรียบเทียบ เลื่อยตัดกิ่งไม้ ฟันละเอียด กับ ฟันหยาบ

ความเร็วในการตัด

• เลื่อยตัดกิ่งไม้ ฟันละเอียด: ตัดช้ากว่าเพราะต้องใช้การเคลื่อนที่ที่ละเอียดและแม่นยำ ใบเลื่อยมีฟันเลื่อยขนาดเล็กที่ออกแบบมาให้ตัดได้อย่างประณีตและเรียบเนียน จึงต้องใช้จังหวะการเลื่อยที่สม่ำเสมอและต่อเนื่อง นอกจากนี้ การใช้เลื่อยฟันละเอียดต้องใช้แรงกดที่สมดุลและการควบคุมที่แม่นยำเพื่อลดการสั่นสะเทือน ซึ่งช่วยให้แนวตัดมีความเรียบร้อยมากขึ้น เหมาะสำหรับงานที่ต้องการรายละเอียดสูง เช่น การแต่งกิ่งไม้ขนาดเล็ก งานไม้เนื้ออ่อน หรือการทำงานเฟอร์นิเจอร์ที่ต้องการแนวตัดที่สมบูรณ์แบบ
• เลื่อยตัดกิ่งไม้ ฟันหยาบ: ตัดได้เร็วกว่าเพราะฟันเลื่อยสามารถกัดเข้าเนื้อไม้ได้ลึกกว่าในการเคลื่อนที่แต่ละครั้ง ทำให้สามารถกำจัดเนื้อไม้ได้มากขึ้นต่อรอบการเลื่อย ส่งผลให้ลดจำนวนครั้งที่ต้องเลื่อยและใช้แรงน้อยลง นอกจากนี้ ฟันเลื่อยขนาดใหญ่ยังช่วยระบายเศษไม้ที่เกิดขึ้นระหว่างการตัดได้ดี ลดโอกาสที่เลื่อยจะติดขัดหรือเกิดแรงต้านสูง เหมาะสำหรับการตัดกิ่งไม้ขนาดใหญ่หรือไม้เนื้อแข็งที่ต้องการกำลังในการตัดที่มากขึ้น

ความเรียบของแนวตัด

• เลื่อยตัดกิ่งไม้ ฟันละเอียด: ให้แนวตัดที่เรียบเนียน ไม่มีเสี้ยนไม้ และลดความเสียหายของเนื้อไม้ขณะตัด ฟันเลื่อยที่ถี่ช่วยให้การกัดเข้าเนื้อไม้เป็นไปอย่างนุ่มนวล ลดแรงกระแทกและแรงต้าน ซึ่งช่วยให้ต้นไม้ฟื้นตัวได้เร็วขึ้นหลังการตัด เหมาะสำหรับการใช้งานที่ต้องการความละเอียดสูง เช่น งานไม้ประณีต การตกแต่งเฟอร์นิเจอร์ไม้ หรือการตัดแต่งกิ่งไม้ที่ต้องการแนวตัดเรียบร้อยโดยไม่ต้องขัดแต่งเพิ่มเติม
• 
  เลื่อยตัดกิ่งไม้ ฟันหยาบ: ให้แนวตัดที่ค่อนข้างหยาบ และอาจมีเสี้ยนไม้เกิดขึ้น เนื่องจากฟันเลื่อยที่มีขนาดใหญ่และมีระยะห่างมากกว่าทำให้การกัดเข้าเนื้อไม้เป็นไปอย่างรวดเร็ว แต่ไม่สามารถควบคุมความละเอียดของแนวตัดได้ดีเท่ากับเลื่อยฟันละเอียด เสี้ยนไม้ที่เกิดขึ้นอาจต้องมีการขัดแต่งเพิ่มเติมหากต้องการให้พื้นผิวเรียบเนียน โดยเฉพาะเมื่อต้องนำไม้ไปใช้ในงานตกแต่งหรือทำเฟอร์นิเจอร์ อย่างไรก็ตาม เลื่อยฟันหยาบยังคงเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับการตัดไม้เนื้อแข็ง หรือกิ่งไม้ขนาดใหญ่ที่ต้องการความรวดเร็วและลดแรงที่ต้องใช้ในการตัด

การใช้แรงในการเลื่อย

• เลื่อยตัดกิ่งไม้ ฟันละเอียด: ต้องใช้แรงมากกว่าเนื่องจากฟันเลื่อยมีขนาดเล็กและตัดได้ทีละน้อย โดยเฉพาะเมื่อทำงานกับไม้เนื้อแข็งหรือกิ่งไม้ที่มีความหนาแน่นสูง เนื่องจากฟันเลื่อยที่ถี่และละเอียดสามารถตัดได้อย่างแม่นยำ แต่ต้องออกแรงมากขึ้นเพื่อให้ใบเลื่อยสามารถกัดเข้าไปในเนื้อไม้ได้ การใช้เลื่อยฟันละเอียดจึงต้องอาศัยความสม่ำเสมอในการเคลื่อนไหวและการควบคุมแรงกดเพื่อให้ได้แนวตัดที่เรียบร้อยและลดโอกาสที่ใบเลื่อยจะติดขัดหรือสะดุดระหว่างการใช้งาน
• เลื่อยตัดกิ่งไม้ ฟันหยาบ: ใช้แรงน้อยกว่า เพราะฟันเลื่อยสามารถตัดได้ลึกกว่าในการเคลื่อนที่แต่ละครั้ง โดยฟันเลื่อยที่มีขนาดใหญ่ช่วยให้การเลื่อยผ่านเนื้อไม้เป็นไปอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ลดจำนวนรอบที่ต้องเลื่อยเพื่อให้กิ่งไม้ขาดออก นอกจากนี้ ฟันเลื่อยที่มีระยะห่างมากขึ้นยังช่วยลดแรงเสียดทานและป้องกันไม่ให้ใบเลื่อยติดขัดระหว่างการตัด จึงเหมาะสำหรับการตัดกิ่งไม้ขนาดใหญ่หรือไม้เนื้อแข็งที่ต้องใช้แรงกดน้อยลงและต้องการความเร็วในการทำงาน

การเหมาะสมกับประเภทของไม้

• เลื่อยตัดกิ่งไม้ ฟันละเอียด: เหมาะกับไม้เนื้ออ่อน ไม้แห้ง หรือกิ่งไม้ขนาดเล็กที่ต้องการความประณีต เช่น กิ่งไม้จากต้นไม้ผลไม้ ต้นไม้ในร่ม หรือไม้สำหรับงานเฟอร์นิเจอร์ที่ต้องการแนวตัดที่เรียบร้อยและแม่นยำ ฟันเลื่อยที่ถี่ช่วยลดโอกาสที่เนื้อไม้จะแตกหรือเกิดเสี้ยน ทำให้สามารถใช้งานได้ในงานที่ต้องการความละเอียดสูง
• เลื่อยตัดกิ่งไม้ ฟันหยาบ: เหมาะกับไม้เนื้อแข็ง กิ่งไม้ขนาดใหญ่ หรือไม้ที่ต้องการตัดอย่างรวดเร็ว เช่น ไม้จากต้นไม้เนื้อแข็งอย่างมะค่า ตะเคียน หรือไม้เนื้อแน่นที่ต้องใช้แรงมากในการตัด ฟันเลื่อยที่มีขนาดใหญ่ช่วยให้สามารถตัดผ่านเนื้อไม้ได้เร็วขึ้น ลดแรงต้านและช่วยให้สามารถตัดงานที่ต้องใช้กำลังมากได้อย่างมีประสิทธิภาพ

วิธีดูแลรักษา เลื่อยตัดกิ่งไม้ ให้ใช้งานได้นาน

ทำความสะอาดใบเลื่อย

• เช็ดทำความสะอาดหลังใช้งานทุกครั้ง เพื่อลดการสะสมของยางไม้และเศษไม้ที่อาจส่งผลต่อประสิทธิภาพของการตัด ควรใช้ผ้าแห้งหรือผ้าชุบน้ำหมาด ๆ เช็ดใบเลื่อยเพื่อลดการเกาะตัวของเรซินที่มาจากต้นไม้
• ใช้แปรงขัดเศษไม้ที่ติดค้างอยู่ในซอกฟันเลื่อย แนะนำให้ใช้แปรงลวดขนาดเล็กหรือแปรงสีฟันเก่าช่วยขัดออก หากมีเรซินหรือยางไม้ติดแน่นมาก สามารถใช้น้ำมันก๊าดหรือน้ำมันทำความสะอาดเช็ดซ้ำเพื่อให้ใบเลื่อยสะอาดและคงความคมได้นานขึ้น

ทาน้ำมันกันสนิม

• ใช้น้ำมันหล่อลื่นบาง ๆ เคลือบใบเลื่อยหลังการทำความสะอาดทุกครั้ง เพื่อป้องกันสนิมและการกัดกร่อน แนะนำให้ใช้น้ำมันกันสนิมเฉพาะทางหรือน้ำมันเครื่องที่มีคุณสมบัติช่วยลดความชื้น ซึ่งจะช่วยยืดอายุการใช้งานของใบเลื่อย
• หากเลื่อยเริ่มมีจุดสนิม ให้ใช้กระดาษทรายเนื้อละเอียดหรือน้ำยาลบสนิมขัดออกเบา ๆ แล้วเช็ดให้แห้งก่อนทาน้ำมันหล่อลื่นซ้ำ เพื่อป้องกันการเกิดสนิมซ้ำและรักษาความคมของใบเลื่อยให้อยู่ในสภาพที่ดี

เก็บเลื่อยในที่แห้งและปลอดภัย

• หลีกเลี่ยงการเก็บเลื่อยในที่ชื้น หรือโดนแสงแดดโดยตรง เนื่องจากความชื้นอาจทำให้เกิดสนิมและการกัดกร่อนของใบเลื่อยได้ ในขณะที่แสงแดดและความร้อนอาจทำให้ด้ามจับพลาสติกหรือยางเสื่อมสภาพเร็วขึ้น
• ใช้ปลอกหรือซองเก็บใบเลื่อยเพื่อป้องกันการเกิดสนิม และป้องกันอุบัติเหตุจากฟันเลื่อยที่คม ควรเลือกปลอกที่ทำจากวัสดุกันสนิมหรือระบายอากาศได้ดี เพื่อลดการสะสมของความชื้นและช่วยรักษาความคมของใบเลื่อยให้อยู่ในสภาพดี

เลือก เลื่อยตัดกิ่งไม้ เพิ่มเติม