TH
English
Customers Also Purchased
Dymo คืออะไร?
Dymo (ไดโม) คือ เครื่องปั๊มอักษรหรือตัวหนังสือ (ภาษาอังกฤษ : Label Maker) ใช้สำหรับทำเครื่องหมาย หรือระบุข้อความไว้บนสิ่งของต่างๆ คนทั่วไปอาจไม่รู้จัก แต่ถ้าเป็นคุณแม่บ้าน แม่ค้าออนไลน์ หรือพนักงานออฟฟิศอาจจะพอรู้จักหรือเคยใช้มาบ้าง เพราะมันจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับการจัดระเบียบสิ่งของ เช่น เอกสาร แฟ้มต่างๆ กระปุกเครื่องปรุงในครัว ขวดครีมต่างๆ ในห้องน้ำ หรือจะใช้ช่วยเพิ่มกิมมิคให้กับสินค้าและแพ็กเกจสินค้าก็ได้เช่นกัน
->> Dymo <<- มีทั้งแบบอะนาล็อกและดิจิตัล เลือกได้ว่าอยากให้ปั๊มอักษรนูนหรือธรรมดา ใช้กับเทปกระดาษ เทปพลาสติก เทปโลหะ หรือเทปฉลากที่มีกาวในตัวแบบสติกเกอร์ เนื่องจากมีตัวเลือกที่หลากหลาย บทความนี้จึงมีเคล็ดลับการเลือกและการใช้งานเครื่องปั๊มอักษร Dymo มาฝากมือใหม่หัดใช้ทุกท่าน หรือคนที่ยังไม่รู้ว่ามีวิธีใช้ที่หลากหลายอยู่
10 เคล็ดลับการใช้งาน Dymo ให้สร้างสรรค์และน่าสนใจ
นอกจากประโยชน์ที่บอกไปตอนต้นแล้ว ยังมีวิธีใช้ Dymo ที่น่าสนใจอีกมาก ซึ่งหลายคนอาจคาดไม่ถึง โดยจะนำมาบอกเล่าทั้งหมด 10 วิธีด้วยกัน ถ้าใครมีวิธีหรือแนวทางการใช้ Dymo แบบอื่นๆ ก็สามารถบอกให้เราหรือคนอื่นรู้ได้ที่คอมเมนต์ด้านล่างบทความนี้
1. ★ ใช้ Dymo ทำฉลากบรรจุภัณฑ์และของขวัญ
คุณสามารถทำฉลาก โลโก้ หรือป้ายข้อความ ที่ต้องการเองได้โดยไม่ต้องพึ่งโรงพิมพ์ วิธีนี้ยังแสดงถึงความสร้างสรรค์และจริงใจต่อลูกค้าหรือผู้รับของขวัญด้วย ก่อให้เกิดความประทับใจที่ไม่ซ้ำกับคนอื่น แต่ต้องระวังเรื่องความชื้นหรือความร้อนที่อาจทำให้ข้อความเลือนหาย ดังนั้นจึงไม่ควรใช้เทปกระดาษ ให้ใช้เทปพลาสติกหรือสติกเกอร์ใสแทนจะเหมาะกว่า เพราะข้อความจะชัดและติดอย่างแน่นหนา
2. ★ ใช้ Dymo ติดฉลากเครื่องครัวหรือเครื่องเทศ
บ้านไหนที่ใช้เครื่องปรุงแบบรีฟิล ใส่ในกระปุกหรือขวดที่ซื้อมาเป็นชุดเพื่อความสวยงาม เป็นระเบียบเรียบร้อย เป็นเรื่องง่ายมากที่จะลืมว่าขวดไหนกระปุกไหนใส่อะไรเอาไว้ หรือต่อให้มีคนคนหนึ่งจำได้ก็คงไม่มีใครอยากเรียกคนอื่นมาหยิบของให้ทุกครั้งอย่างแน่นอน
ดังนั้น เครื่องปั๊มอักษร Dymo จะช่วยคุณแยกแยะสิ่งต่างๆ ได้ โดยที่ยังคงไว้ซึ่งความเป็นระเบียบ สวยงาม คุมโทน ไม่ต้องเสียเวลาเปิดดูทุกกระปุก ดมดูทุกขวดเวลาจะทำอาหาร และเมื่อคนที่ไม่ค่อยเข้าครัวจำเป็นต้องทำอาหารก็จะไม่มีปัญหาเรื่องหาเครื่องปรุงไม่เจอหรือหยิบผิด
ไม่ใช่แค่ชื่อเครื่องปรุงเท่านั้น แต่การติดฉลากยังช่วยระบุวันที่ได้ด้วย ซึ่งจำเป็นกับพวกของแห้ง ของสด หรือของหมักดอง การรู้วันที่จะช่วยให้วางแผนมื้ออาหาร หยิบมาทานหรือทำอาหารในเวลาที่เหมาะสม ดีกว่าการคาดเดาหรือเขียนติดด้วยปากกา เพราะปากกาบางอย่างโดนความชื้นแล้วหายหรือลบไม่ออกไปเลย ซึ่งจะกลายเป็นปัญหากับภาชนะในภายหลัง ไม่ว่าจะเป็นความสะอาดหรือสารตกค้าง
3. ★ ใช้ Dymo ติดฉลากของใช้ในห้องน้ำ
เช่นเดียวกับเครื่องครัว แต่ปัญหาแยกขวดแชมพู ครีมนวด ครีมอาบน้ำไม่ได้นั้นมักจะเจอในโรงแรมหรือที่พักระหว่างท่องเที่ยวมากกว่า ต้องเข้าใจก่อนว่าไม่ใช่ทุกคนที่สามารถพกของใช้ทุกอย่างในห้องน้ำติดกระเป๋าด้วยได้เสมอ ดังนั้น ธุรกิจที่พักที่ไม่ได้สั่งทำขวดของใช้เป็นพิเศษจึงควรมีเครื่องปั๊มอักษร Dymo เอาไว้ เพื่อใช้เพื่อระบุขวดของใช้ในห้องน้ำให้กับผู้เข้าพัก และเทปที่เลือกใช้ก็ต้องติดแน่น โดนน้ำแล้วไม่เสียหาย ให้อายุการใช้งานที่ยาวนาน เมื่อต้องติดใหม่ก็ไม่เปลืองงบประมาณ
ทั้งนี้ นอกจากประเภทของใช้ยังระบุชื่อที่พักหรือโลโก้กำกับไว้ได้ด้วย เป็นการสร้างความจดจำและประทับใจให้กับลูกค้าได้ในราคาประหยัด
4. ★ ใช้ Dymo ติดฉลากอุปกรณ์งานฝีมือ
งานฝีมือหรืองาน Hand Made เป็นงานที่ต้องใช้ของจุกจิกเยอะมาก โดยเฉพาะงานที่เน้นการตกแต่งและความสวยงาม การติดฉลากอุปกรณ์ที่ต้องใช้จึงช่วยจัดของเป็นระเบียบ เป็นสัดส่วน เช่น แยกเบอร์ แยกสี แยกชนิด หรือแยกรูปแบบ ทำให้หยิบใช้ง่าย ลดการสูญหายหรือทำปะปนกัน ซึ่งจะทำให้ยุ่งยากและเสียเวลาโดยใช่เหตุ
ตัวอย่างของที่ต้องแยก เช่น ลูกปัด ด้าย ไหมพรม กลิตเตอร์ กระดาษ ฯลฯ
5. ★ ใช้ Dymo ช่วยจัดระเบียบออฟฟิศและโฮมออฟฟิศ
การจัดระเบียบในสำนักงานทั้งเล็กและใหญ่ช่วยประหยัดเวลาได้มาก ไม่ใช่แค่จะหาของง่ายขึ้นเท่านั้น แต่ยังช่วยให้ไม่ต้องคอยอธิบายที่ทางสิ่งของทุกอย่างให้กับพนักงานใหม่อยู่เสมอด้วย Dymo สามารถทำป้ายกำกับเอกสาร แฟ้ม และลิ้นชักต่างๆ ได้อย่างเรียบร้อยสวยงาม ช่วยประหยัดเวลาในการค้นหาเอกสารหรือของใช้สำนักงานได้เป็นอย่างดี
6. ★ ใช้ Dymo แยกอาหารหรือขนมหวานในงานเลี้ยง
ตั้งแต่ปี 2020 เป็นต้นมา เรื่องสุขอนามัยก็เป็นสิ่งที่ทุกคนให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง ทั้งกับอาหารและของใช้ ในงานเลี้ยงที่มีคนมากหน้าหลายตา การตั้งอาหารไว้เฉยๆ โดยไม่มีฝาปิดอาจทำให้คนมาร่วมงานรู้สึกไม่สะอาดได้ ยิ่งถ้าจัดงานในที่เปิดโล่งหรือมีต้นไม้เยอะก็เสี่ยงที่จะมีแมลงมาตอมอาหาร
เพื่อให้คนในงานแยกออก ถ้าหากไม่มีป้ายเหมือนในโรงแรมก็ใช้ Dymo ทำป้ายออกมาติดได้ คนในงานจะได้ไม่ต้องเปิดฝาภาชนะอาหารทุกอันเพื่อดูว่าอะไรเป็นเมนูไหน วิธีนี้ยังเป็นประโยชน์สำหรับคนที่แพ้อาหารบางชนิดด้วย
อีกเหตุผลหนึ่งคือ อาหารหรือขนมบางอย่างก็อาจเป็นสิ่งที่หลายๆ ยังไม่รู้จัก ไม่เคยกินมาก่อน การติดชื่อเป็นการแนะนำให้คนในงานเลี้ยงรู้จักไปในตัว ถ้าพวกเขาชอบจะได้ไปหาทานทีหลังอีกได้
นอกจากนี้ก็ยังเป็นการตกแต่งอีกอย่างหนึ่งด้วย เพราะ Dymo สามารถให้รูปแบบอักษรหลายสไตล์ หรือเพิ่มสีสันให้กับป้ายข้อความด้วยสติกเกอร์เพื่อให้เข้ากับงานเลี้ยงก็ได้เช่นกัน
7. ★ ใช้ Dymo ติดฉลากที่เป็นมิตรกับเด็ก
รูปและสีเป็นสิ่งที่ช่วยเสริมสร้างพัฒนาการให้เด็กได้ดี คุณพ่อคุณแม่หรือคุณครูสามารถใช้เครื่องปั๊มอักษร Dymo ทำสติกเกอร์น่ารักๆ ในการส่งเสริมให้เด็กๆ ค้นหาของเล่นและนำไปเก็บเข้าที่ได้เอง อาจทำเป็นชื่อหรือเครื่องหมายก็ได้ ขึ้นอยู่กับวัยของเด็กๆ หรือใช้ทำป้ายแยกของเล่นของใช้ของลูกแต่ละคนถ้าหากคุณมีลูกหลายคน เพื่อป้องกันการแย่งของกันและกัน และส่งเสริมให้ลูกมีความรับผิดชอบต่อของของตัวเอง
8. ★ ใช้ Dymo ติดฉลากอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์
ช่างไอทีมักปวดหัวกับสายต่างๆ ที่พันกันยุ่งเหยิงหรือต่อกับปลั๊กตัวเดียวกันจำนวนมาก ถ้าหากไม่มีเคเบิ้ลไทร์ก็สามารถจัดระเบียบสายไฟหรือสายต่างๆ ได้ด้วยเทปอักษรที่ระบุได้ทั้งชื่อสายไฟและตัวเลขสำคัญๆ
หรือหากต้องการความสวยงาม อยากตกแต่งแท็บเล็ต โน็ตบุ๊ก และมือถือให้มีลายไม่ซ้ำใคร ก็ใช้ Dymo ทำได้เช่นเดียวกัน
9. ★ ใช้ Dymo ติดป้ายเครื่องสำอาง
ในส่วนของผู้ขายสามารถใช้ทำอักษรติดสินค้าตัวอย่างหรือตัวทดลองใช้ได้ จะติดกี่ชิ้น ติดเมื่อไหร่ สีอะไร ฟอนต์แบบไหนก็เลือกได้ทั้งนั้น
สำหรับคุณผู้หญิงที่มีเครื่องประดับและเครื่องสำอางเยอะ สามารถแยกกล่องหรือลิ้นชักเป็นสัดส่วนแล้วติดป้ายกำกับไว้ หรือลิปสติกตัวไหนที่มองเห็นเบอร์ไม่ชัดก็ติดสติกเกอร์เอาไว้ เวลาใช้จะได้หยิบสะดวก หรือเครื่องสำอางชิ้นไหนที่ระบุวันที่แค่เฉพาะบนกล่องแต่คุณไม่อยากเก็บกล่องไว้ก็ติดสติกเกอร์วันหมดอายุด้วยเครื่องปั๊มอักษร Dymo ได้เช่นกัน
10. ★ ใช้ Dymo ช่วยให้การเรียนรู้เป็นเรื่องสนุกสนานและมีระเบียบ
สำหรับสถาบันการศึกษา ครูและนักเรียนสามารถใช้ Dymo ทำฉลากติดบนอุปกรณ์การเรียนการสอนหรือสิ่งของส่วนตัวต่างๆ ป้องกันคนอื่นหยิบไปใช้งานได้ หรือจะใช้ติดสมุดหนังสือเพื่อแยกห้องเรียนและวิชาก็สะดวกต่อการตรวจงานและส่งคืนสมุดการบ้านเช่นกัน
สำหรับเด็กที่รู้สึกว่าเนื้อหาการเรียนน่าเบื่อ สามารถใช้ความสวยงามจากเครื่องปั๊มอักษรเพิ่มความน่าสนใจให้กับสื่อสารเรียนการสอนที่เป็นชิ้นงานเก็บคะแนนได้ เพิ่มความอยากเรียนลงไปเล็กน้อยให้เด็กรู้สึกอยากตั้งใจทำชิ้นงานส่งครูมากขึ้น
วิธีการเลือกเครื่องปั๊มอักษร Dymo
1. คีย์บอร์ดต้องเป็น QWERTY และมีฟอนต์ให้เลือก
QWERTY เป็นรูปแบบแป้นพิมพ์ที่คุ้นเคย และมีทั้งตัวอักษร สัญลักษณ์ อีโมจิต่างๆ ครบครัน ทำให้พิมพ์ข้อความได้หลากหลาย ดูไม่น่าเบื่อ ถ้าต้องการใช้งานเชิงครีเอทีฟจึงควรเลือก Dymo รุ่นที่มีคีย์บอร์ด QWERTY และต้องมีฟอนต์ให้เลือกอย่างน้อย 3 แบบ 3 สไตล์ ให้เหมาะกับวัตถุประสงค์ที่แตกต่างกัน เช่น หากใช้สำหรับออฟฟิศต้องดูเป็นทางการ ถ้าใช้กับสินค้าต้องดูสวย มีสไตล์ แต่ถ้าเป็นข้อความสำหรับเด็กต้องเป็นฟ้อนที่อ่านง่ายและน่ารัก เป็นต้น
2. ความเร็วในการพิมพ์ต้องสัมพันธ์กับปริมาณงาน
ปริมาณงานที่ทำออกมาได้จะบ่งบอกศักยภาพของเครื่องมือนั้นๆ Dymo เองก็เช่นเดียวกัน ความเร็วในการพิมพ์ต่อนาทีมีความสำคัญสำหรับคนที่ต้องใช้งานทั้งวัน หรือต้องพิมพ์เทปอักษรออกมาจำนวนมาก ดังนั้น ถ้าต้องใช้งานหนักให้เลือก Dymo ตัวที่มีความเร็วในการพิมพ์สูงกว่ารุ่นธรรมดาทั่วไป อาจเป็นรุ่นที่มีปุ่มพิมพ์เยอะและปรินต์ออกมาทีเดียว ไม่ใช่รุ่นอะนาล็อกที่ต้องค่อยๆ หมุนหาอักษร
3. มีการเชื่อมต่อที่ทันสมัย
สำหรับคนที่ต้องพิมพ์ข้อความเดิมซ้ำๆ ถ้าสั่งงานผ่านมือถือหรือเดสท็อปได้ก็จะสะดวกอย่างยิ่ง ไม่ต้องเสียเวลาพิมพ์ทีละตัวอักษรเหมือนเดิมซ้ำๆ ทุกรอบ จะเชื่อมต่อแบบบลูทูธหรือ USB ก็ได้ แต่แบบบลูทูธจะสะดวกกว่า
4. ต้องใช้ไฟได้สะดวก
แม้เครื่องมือที่ใช้ถ่าน AA ยังมีให้เห็นอยู่ ซึ่งข้อดีคือถูกและไม่เปลืองไฟฟ้า แต่ก็จะได้ขยะที่ย่อยสลายยากมาแทน และยังต้องเปลี่ยนประจำ ดังนั้น แบตเตอรี่แบบชาร์จไฟได้จึงเหมาะกับการใช้งานในระยะยาวมากกว่า หรือใครที่ไม่ได้ใช้งานหนักก็ใช้รุ่นอะนาล็อกได้ เพราะไม่ต้องใช้ทั้งถ่านไฟและแบตเตอรี่
5. มีความเข้ากันของเครื่องและเทป
อันดับแรกต้องถามตัวเองก่อนว่าอยากได้ป้ายข้อความแบบไหน วัสดุอะไร เพราะแต่ละแบบมีข้อดีข้อเสียต่างกัน เช่น ถ้าต้องการปั๊มอักษรนูน เทปกระดาษอาจไม่ดีเท่าเทปพลาสติกหรือเทปโลหะ เครื่องที่ใช้จึงต้องรองรับเทปทั้งสองแบบได้ด้วย
6. เลือกความละเอียดในการพิมพ์ที่เหมาะสม
ค่า DPI (Dot Per Inch) จะบ่งบอกความละเอียดในการพิมพ์อักษร ตัวเลขยิ่งมากความละเอียดจะยิ่งสูง ถ้าจะทำป้ายสำหรับติดของซึ่งอยู่ในที่แห้ง ความละเอียดไม่ต้องมากก็ได้ แต่ถ้าติดภาชนะที่จะมีการเปียกน้ำหรือโดนความชื้น รวมทั้งวัสดุที่จะต้องผ่านไปรษณีย์ ควรเลือกรุ่นที่ให้การพิมพ์คมชัดและติดทน 350 DPI ขึ้นไป
7. มีจำนวนบรรทัดที่เหมาะกับงาน
ถ้าจะทำป้ายข้อความหรือป้ายติดสิ่งของ Dymo แบบพิมพ์บรรทัดเดียวก็เพียงพอแล้ว แต่ถ้าต้องการติดชื่อที่อยู่บนกล่องไปรษณีย์ เครื่องบรรทัดเดียวจะต้องพิมพ์ยาวและนาน ทั้งยังต้องมาตัดก่อนติด จะเป็นการใช้งานที่ยุ่งยากและเสียเวลาเกินไป Dymo หลายบรรทัดจึงเหมาะมากกว่า นอกจากนี้ยังมีการพิมพ์ QR code โลโก้ หรืออื่นๆ ที่ไม่สามารถใช้เทปหรือเครื่องพิมพ์บรรทัดเดียวด้วย
ดูเรื่อง >>> Dymo <<< เพิ่มเติม