Customers Also Purchased
เสื้อกั๊กสะท้อนแสง ภาษาอังกฤษ เรียกว่า Safety Vest เป็นเสื้อกั๊กที่ใส่เพื่อความปลอดภัยในพื้นที่เสี่ยงอันตราย หรือเป็นจุดสังเกตบอกตำแหน่งหน้าที่ จึงไม่แปลกที่จะเห็นว่า เสื้อกั๊กสะท้อนแสง มีหลายสีมากๆ
อ่านเพิ่มเติม >>> เสื้อกั๊กสะท้อนแสง แต่ละสี ต่างกันยังไง? <<<
นอกจากต้องเลือกสีให้เหมาะกับงานแล้ว เสื้อกั๊กสะท้อนแสง ก็มีคุณสมบัติที่สำคัญอื่นๆ ที่ต้องพิจารณาเมื่อจะเลือก เสื้อกั๊กสะท้อนแสง สักตัวด้วยเช่นกัน บทความนี้จึงรวบรวมวิธีการเลือก เสื้อกั๊กสะท้อนแสง เพื่อให้คนอ่านทุกท่านมีความเข้าใจและเลือก เสื้อกั๊กสะท้อนแสง ได้เหมาะกับงานของตัวเองมากที่สุด
***หากใครมีข้อสงสัยเพิ่มเติมสามารถสอบถามหรือคอมเมนต์เข้ามาพูดคุยกันได้ที่ด้านล่างของบทความ***
คุณสมบัติจำเป็นของ เสื้อกั๊กสะท้อนแสง
1. ต้องได้มาตรฐาน ANSI
เสื้อกั๊กสะท้อนแสง จะมีบอกว่าได้มาตรฐาน American National Standards Institute (ANSI) หรือไม่ และยังแบ่งชนิดเป็น Roadway (R), Off-Road (O) หรือ Public Safety (P) ซึ่ง Type R จะเป็น เสื้อกั๊กสะท้อนแสง ชนิดที่ให้ทัศนวิสัยดี มองเห็นได้ง่ายและชัดทั้งกลางวันและกลางคืน เหมาะสำหรับคนที่ทำงานใกล้ทางหลวงหรือข้างถนน Type O เป็นชนิดที่ให้ทัศนวิสัยจำกัด เหมาะสำหรับคนที่ทำงานในอาคาร เช่น โกดังหรือโรงงาน ส่วน Type P จะเป็นชนิดที่ออกแบบมาสำหรับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยทั่วไป รวมถึงพนักงาน EMS และเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ANSI ยังให้คะแนน เสื้อกั๊กสะท้อนแสง เป็นกลุ่มๆ ซึ่งมีตั้งแต่ Class 1 ถึง Class 3 ยิ่งคลาสสูงจะยิ่งซับซ้อน เพราะต้องทำให้มองเห็นได้ในทัศวิสัยที่พิเศษออกไปจากปกติ เช่น เสื้อกั๊กสะท้อนแสง Class 2 จะเพิ่มการมองเห็นในระยะทางที่ไกลขึ้น ในขณะที่ Class 3 ให้การมองเห็นที่ดีขึ้นเมื่อคนใส่อยู่ในสถานที่ที่พื้นหลังซับซ้อน มองเห็นยาก
2. ต้องมีสีที่ดี
สีที่ดีหมายถึงต้องชัดเจน ตรงตามหลักสากลเพื่อให้คนทั่วไปเข้าใจความหมายของสีตรงกัน และมองเห็นได้ชัดเจนในสถานการณ์ฉุกเฉินหรือเสี่ยงภัย เสื้อกั๊กสะท้อนแสง ส่วนใหญ่มักมีสีเหลืองหรือสีส้มเรืองแสง แต่ก็มีสีอื่นๆ เช่น เขียว ชมพู แดง และน้ำเงิน ซึ่งจะมีการเรืองแสงน้อยหรือไม่เรืองแสงเลย
เสื้อกั๊กสะท้อนแสง ที่มองเห็นได้ชัดเจนมักจะมาพร้อมกับแถบสะท้อนแสงได้ซึ่งจะเป็นสีเทาอ่อนหรือเทาเข้ม เมื่อโดนไฟจากรถยนต์จะมองเห็นเหมือนแสงจากหลอดไฟ ถือเป็นรูปแบบที่มองเห็นได้ชัดเจนที่สุด ใช้ในสภาพการทำงานที่มีความเสี่ยงสูง เช่น งานทางหลวง จราจร เหตุฉุกเฉินพิเศษ หรือก่อสร้างตอนกลางคืน
3. วัสดุต้องเหมาะสมกับสภาพแวดล้อมการทำงาน
วัสดุของ เสื้อกั๊กสะท้อนแสง มีหลายแบบ ไม่ว่าจะเป็นตาข่าย ผ้าใบ PPE หรือหลายๆ อย่างผสมกัน ซึ่งแบบตาข่ายจะช่วยให้คนใส่รู้สึกเย็นสบายในวันที่อากาศร้อน ระบายเหงื่อได้ดี จึงเหมาะกับการใช้งานตอนกลางวันและกลางแดดเป็นหลัก เสื้อกั๊กสะท้อนแสง บางชนิดทำจากวัสดุทนไฟ (FR) ทำให้ไม่ติดไฟหรือดับไฟได้เอง ส่วนใหญ่จะใช้ทำ เสื้อกั๊กสะท้อนแสง สำหรับเจ้าหน้าที่ดับเพลิงหรืองานที่มีความเสี่ยงว่าจะต้องผจญเพลิง เช่น พนักงานสถานีน้ำมัน
4. ต้องมีความสบายและความพอดีเวลาสวมใส่
เสื้อกั๊กสะท้อนแสง มีหลายขนาด ตั้งแต่ไซซ์ S ไปจนถึง XXXL เพราะต้องสวมทับเครื่องแบบปกติ ซึ่งอาจรวมถึงอุปกรณ์ป้องกันความหนาวหนาๆ ด้วย เสื้อกั๊กสะท้อนแสง จึงมีขนาดใหญ่กว่าไซซ์เสื้อผ้าปกติ เพื่อให้ผู้สวมใส่ไม่อึดอัดและเคลื่อนไหวได้สะดวกคล่องแคล่ว แต่ก็ไม่ควรเลือกที่หลวมเกินไป เพื่อป้องกันไม่ให้ผ้าพันหรือเกี่ยวกับอุปกรณ์การทำงานอื่นๆ โดยเฉพาะถ้าต้องทำงานใกล้เครื่องจักร
โดยปกติ เสื้อกั๊กสะท้อนแสง จะเป็นซิปหรือตะขอ เพื่อให้ถอดหรือใส่ได้ง่าย รวดเร็ว เสื้อกั๊กสะท้อนแสง แบบรูดซิปมีความน่าเชื่อถือและใช้งานง่ายกว่า เพราะแบบตะขอจะยึดเข้าด้วยกันแค่ส่วนใดส่วนหนึ่ง แต่ก็มีแบบที่ใช้ทั้งซิปและตะขอด้วยเช่นกัน เพื่อให้ปรับความกระชับบางส่วนได้
7 วิธีเลือก เสื้อกั๊กสะท้อนแสง
1. เลือกสีให้เหมาะกับสภาพแวดล้อมการทำงาน
ถ้าต้องทำงานภายในอาคาร เช่น คลังสินค้า ห้างสรรพสินค้า โรงงาน ฯลฯ ให้เลือก เสื้อกั๊กสะท้อนแสง สีเข้มจะมองเห็นได้ง่ายกว่า เพราะภายในอาคารจะมีไฟส่องสว่างมากจนทำให้ทุกอย่างดูชัดเจนเท่าๆ กันหมด ถ้ามีวัตถุสีเข้มจะเป็นที่สะดุดตามากกว่าสิ่งอื่น แต่ก็มีข้อยกเว้นสำหรับคนที่ทำงานใกล้เครื่องจักร ซึ่งจะใช้สีส้มหรือแดง
ในทางตรงกันข้าม ถ้าเป็นงานนอกอาคารซึ่งความเข้มแสงและสภาพอากาศควบคุมไม่ได้ให้เลือกสีสว่าง เช่น สีเหลืองหรือสีเขียว จะทำให้มองเห็นได้ง่ายกว่า โดยเฉพาะในวันที่แดดครึ้ม และยังเป็นสีที่ตัดกับท้องฟ้าด้วย แต่ก็ไม่ตายตัวเสมอไป เพราะมีการเลือกสีเฉพาะลงไปอีก เช่น ตอนกลางวันให้ใส่สีส้ม ตอนกลางคืนให้สวมสีเหลืองและมีแถบสะท้อนแสง เป็นต้น
อ่านเพิ่มเติม >>> เสื้อกั๊กสะท้อนแสง แต่ละสี ต่างกันยังไง? <<<
2. เลือก เสื้อกั๊กสะท้อนแสง ที่มีคุณภาพมากพอ
เสื้อกั๊กสะท้อนแสง แบ่งเป็น Class ต่างๆ แต่ไม่จำเป็นต้องเลือก Class สูงๆ เสมอไป เลือกให้พอดีกับงานก็พอ ซึ่งแต่ละ Class จะเหมาะกับงานดังต่อไปนี้
- Class 1 : สำหรับคนที่ทำงานก่อสร้างในพื้นที่เขตสัญจรน้อย และเขตจำกัดความเร็วน้อยกว่า 40 กิโลเมตร/ชั่วโมง ควรเป็นสีส้มหรือสีเหลือง มักจะมีแถบสะท้อนแสงแคบๆ สีเทาคาดบริเวณไหล่และกลางลำตัว
- Class 2 : สำหรับคนที่ต้องทำงานในเขตสัญจรปกติที่มีความเสี่ยงสูงว่าอาจถูกรถชนหากคนขับรถมองไม่เห็น เป็นพื้นที่กำหนดความเร็วน้อยกว่า 80 กิโลเมตร/ชั่วโมง แถบสะท้อนแสงจะกว้างกว่า Class 1
- Class 3 : จะเป็นเสื้อแขนสั้นสะท้อนแสง ไม่ใช่แค่เสื้อกั๊ก มีแถบนะท้อนแสงที่กว้างและเห็นชัดกว่า 2 แบบแรก เหมาะกับเจ้าหน้าที่เหตุฉุกเฉิน ทีมสำรวจ พนักงานสาธารณูปโภค และคนงานก่อสร้างในพื้นที่ความเสี่ยงสูง พื้นที่คนพลุกพล่านหรือทัศนะวิสัยแย่มากๆ ต้องมีความระมัดระวังและปลอดภัยเป็นพิเศษ
อ่านคลาสต่างๆ เพิ่มเติม >>> รู้หรือไม่? เสื้อกั๊กสะท้อนแสง คุณภาพ ต้องดูยังไง? <<<
3. คำนึงถึงสภาพอากาศที่จะใช้ในงานให้ครอบคลุม
เสื้อกั๊กสะท้อนแสง สำหรับใส่ในสภาพอากาศต่างๆ จะมีเนื้อผ้าแตกต่างกัน โดยเฉพาะในต่างประเทศที่มีสภาพอากาศหลากหลาย เช่น ในช่วงต้นฤดูใบไม้ร่วง ฤดูใบไม้ผลิ และฤดูร้อน คนงานสามารถทำงานได้สบายขึ้นถ้าใส่แบบที่เป็นผ้าตาข่ายซึ่งจะระบายลมได้ดี และในฤดูหนาวจะเลือกแบบที่บุวัสดุเสริมความอบอุ่น
แต่สำหรับประเทศไทยซึ่งมีสภาพอากาศร้อน ร้อนมาก และร้อนจัด จะเห็นว่ามีการจำหน่าย เสื้อกั๊กสะท้อนแสง ผ้าตาข่ายเสียเป็นส่วนใหญ่ ยกเว้นสำหรับ เสื้อกั๊กสะท้อนแสง สีเข้มที่ใส่ภายในอาคารที่การออกแบบจะค่อนข้างอิสระ เนื้อผ้าก็ทนทานการซักซ้ำเรื่อยๆ
4. พิจารณาคุณภาพของเนื้อผ้า เสื้อกั๊กสะท้อนแสง
คล้ายกับข้อ 3. แต่ต้องพิจารณาเรื่องความแข็งแรงทนทาน การกันน้ำกันไฟเพิ่มด้วย หรือถ้าทำงานในพื้นที่ที่มีสารอันตรายก็ต้องพิจารณาวัสดุที่มีคุณสมบัติพิเศษกว่าปกติทั่วไป เช่น คนที่ทำงานในปั๊มน้ำมัน เหมืองแร่ หรือห้องทดลองสารบางอย่าง เป็นต้น
5. ดูฟังก์ชันเสริมที่เข้ากับงานมากกว่า เสื้อกั๊กสะท้อนแสง ธรรมดาทั่วไป
งานบางอย่างอาจต้องการมากกว่าการมองเห็นที่ชัดเจนและการระบุตำแหน่งงาน เช่น ให้การถ่ายเทความร้อน, การพิมพ์ข้อความแบบสะท้อนแสง หรือการพิมพ์สีเต็มรูปแบบ ไม่ต้องเลือกที่มีครบทุกอย่าง เลือกที่เป็นประโยชน์กับงานก็พอ
เช่น มีการพิมพ์คำว่า POLICE หรือ EMERGENCY ให้มองเห็นสะดุดตาเป็นพิเศษเพื่อให้มองเห็นคนสวมได้ชัดเจนในสถานการณ์ไม่คาดฝัน เช่น ระหว่างอุบัติเหตุรถชนหรือไฟไหม้ จะช่วยให้เจ้าหน้าที่ทำงานสะดวกขึ้น เข้าถึงที่เกิดเหตุได้รวดเร็ว ฝูงชนไม่ขวางทาง ผู้ประสบภัยก็จะขอความช่วยเหลือได้ถูกคนด้วย
อย่างไรก็ตาม การพิมพ์ข้อความหรือโลโก้ต้องไม่กินพื้นที่เนื้อผ้าจนลดคุณสมบัติการมองเห็นที่ชัดเจนเพื่อความปลอดภัยลง
6. เลือกการออกแบบที่ส่งเสริมการทำงานได้มากขึ้น
เสื้อกั๊กสะท้อนแสง เป็นมากกว่าเสื้อที่สวมเพื่อความปลอดภัยเมื่อมีการออกแบบให้ใช้ประโยชน์ได้มากขึ้น เช่น มีกระเป๋าหลายช่อง เหมาะสำหรับใส่เครื่องมือขนาดเล็ก เช่น เครื่องคิดเลข ดินสอ ปากกา ตลับเมตร บางรุ่นก็มีตัวล็อกพิเศษหรือ Breakaways ซึ่งช่วยป้องกันเสื้อกั๊กหลุดออกจากร่างกายเมื่อออกแรงดึงมากเกินไปหรือบังเอิญไปเกี่ยวกับอย่างอื่นขณะทำงาน คุณสมบัตินี้จำเป็นสำหรับคนในไซต์งานก่อสร้าง เพราะมันจะช่วยป้องกันอุบัติเหตุหากเสื้อกั๊กพันหรือติดอยู่ในอุปกรณ์หรือเครื่องจักรขนาดใหญ่ซึ่งมีความอันตรายสูง
7. ต้องคำนึงว่าจะให้ใครสวม เสื้อกั๊กสะท้อนแสง บ้าง
เสื้อกั๊กสะท้อนแสง ไม่ได้ออกแบบมาสำหรับร่างกายทุกประเภท ตัวอย่างเช่น เสื้อกั๊กสะท้อนแสง ทั่วไปจะไม่รองรับสรีระของผู้หญิง เสื้ออาจใหญ่หรือหลวมเกินไปจนไม่คล่องตัวเวลาทำงาน และยังเสี่ยงจะเกี่ยวกับอุปกรณ์และเครื่องจักรต่างๆ ถ้าจะให้คนงานผู้หญิงสวมต้องเลือก เสื้อกั๊กสะท้อนแสง บางยี่ห้อที่สามารถปรับขนาดให้กระชับขึ้นได้
ดูเรื่อง >>> เสื้อกั๊กสะท้อนแสง <<< เพิ่มเติม