วิธีเลือกซื้อ เครื่องพ่นสี ควรพิจรณาอย่างไรให้ตรงตามความต้องการ

Customers Also Purchased

      เหตุใดจึงควรเปลี่ยนมาใช้ เครื่องพ่นสี หากว่าคุณยังใช้แปรง และลูกกลิ้ง ในการทาสีอยู่แบบเดิม ๆ ละก็อาจจัต้องเจอกับปัญหาที่ตามมาไม่หยุด ทั้งปริมาณสีที่ใช้ค่อนข้างมาก เปลืองค่าใช้จ่าย งานไม่มีความสม่ำเสมอ ควบคุมรายละเอียดได้ยาก ใช้เวลาการทำงานที่นานจนน่าท้อใจ ต้องคอยมากังวลสิ่งต่าง ๆ ว่าส่วนไหนจะพังก่อน พอได้รึยังที่คุณจะทำงานแบบเดิม ๆ ในเมื่อปัจจุบันผู้คนเริ่มหันมาใช้เครื่องพ่นสีกันแล้ว


แล้ว “เครื่องพ่นสี” คืออะไรล่ะ?
      เราต้องพูดกันตามตรงว่าเครื่องพ่นสีไม่ใช่สิ่งสามัญประจำบ้านที่หาได้ง่าย ๆ และมีราคาถูกเหมือนลูกกลิ้งและแปรงทาสีหรอก แต่เชื่อว่าคุณก็สามารถที่จะเดาออกว่ามันใช้ทำอะไรจากชื่อของมัน การทำงานของเครื่องพ่นสี มีหลักการโดยใช้การพ่นละอองสีออกจากหัวฉีด ดังนั้นมันจึงมีความสามารถในการจัดการงานสีได้เร็วกว่า แปรงทาสี และลูกกลิ้ง ได้ครอบคลุมและรวดเร็วกว่า รวมทั้งประหยัดปริมาณสีที่ใช้ และยังสามารถใช้ทาพ่นสีลงบนพื้นผิวที่ไม่เรียบได้ดีกว่าอีกด้วย


แล้วควรคำนึงถึงอะไรก่อนการเปลี่ยนมาใช้ เครื่องพ่นสี

      ด้วยความที่ว่ามันไม่ใช่อุปกรณ์สามัญประจำบ้านนี่แหละที่คุณควรรู้ไว้ เพราะเครื่องพ่นสีต้องการการดูแลที่ดีกว่า อีกทั้งยังมีราคาที่สูงกว่า แปรง และลูกกลิ้งทาสีแบบทั่ว ๆ ไป คุณควรจะต้องคิดเอาไว้แล้วว่างานของคุณที่ต้องการทาสีนั้นเหมาะสมและคุ้มค่ากับการเลือกซื้อเครื่องทาสี ใหม่หรือไม่ เสกลงานที่มีความเหมาะสมเช่น การทาสีบ้านทั้งหลัง การทาภายใน ภายนอก หากว่าอยากทาสีเพียงไม่กี่เมตร มันก็คงไม่คุ้ม แต่ถ้าหากว่าคุณอยากจะทาสีแบบครอบคลุมพื้นที่กว้างมาก ๆ บอกได้เลยว่ามันตอบโจทย์ความคุ้มแบบสุด ๆ ที่บอกว่าราคาสูงกว่าแปรงทาสีกับลูกกลิ้ง ก็ไม่ใช้ว่ามันจะแพงจนคุณเอื้อมไม่ถึง ในปัจจุบันมีหลากหลายเจ้าหลายยี่ห้อ มาให้เลือกซื้อในราคาหลักพันก็มี


ข้อดีของการใช้งานเครื่องพ่นสี
      ข้อดีอย่างหนึ่งของการใช้เครื่องพ่นสีคือ ด้วยความที่เครื่องพ่นสีสามารถทำงานได้ในทุกสถาพพื้นผิวและปรับใช้งานได้กับชนิดและประเภทสีเกือบทั้งหมด และยังใช้ปริมาณของสัดส่วนสีน้อยกว่าตามอัตราส่วนในการพ่นพื้นที่ให้มีความครอบคลุมทั้งหมดที่ค่อยข้างจะกว้าง อีกอย่างคือสามารถช่วยลบล้างร่องรอยหรือพื้นผิวที่ไม่เรียบได้ง่ายเพราะละอองสีสามารถเข้าถึงได้ทุกสภาพพื้นผิว เช่น ช่องว่าง รอยร้าว รอยขรุขระ เป็นต้น ที่ลูกกลิ้งหรือแปรงทาสีไม่สามารถเข้าถึงได้ดีนัก เนื่องจากข้อจำกัดด้านกายภาพของมัน อีกทั้งเครื่องพ่นสียังเหมาะสำหรับงานเก็บรายละเอียดและงานชิ้นเล็ก ๆ แต่กระนั้นก็มีข้อเสียอยู่บ้างด้วยที่ว่าการพ่นสีจะออกมาในรูปแบบของละอองฝอยเล็กดังนั้นคุณจึงควรทำการมากส์ปิดพื้นที่ที่ไม่ต้องการทาสีด้วยเพราะละอองสีอาจจะกระจายออกไปโดนทำให้เกิดสีที่ไม่ต้องการไปเปื้อนได้ 


การพิจรณาในการเลือกซื้อเครื่องพ่นสี
      อัตราส่วนการพ่นสี สัมพันธ์กับปริมาตร : เครื่องพ่นสี ในแง่ของการพ่นครอบคลุมด้วยโดยเครื่องพ่นจะเป็นตัวกำหนดปริมาตร เช่นเครื่องพ่นแบบถ้วยจะมีขนาดเล็ก โดยปกติแล้วจะสามารถบรรจุสีได้ไม่เกิน 150-600 ml ดังนั้นจึงออกแบบมาเพื่อสามารถที่จะเติมสีได้อย่างต่อเนื่องเพื่อให้สามารถที่จะพ่นสีให้ครอบคลุมพื้นที่ได้อย่างง่ายดาย และประหยัดเวลามากขึ้น

      วัสดุตัวเครื่อง : เครื่องพ่นสีมีขนาดที่แตกต่างกันไปตามรูปแบบการใช้งาน ส่วนใหญ่เครื่องพ่นสีราคาถูกจำนวนมากในตลาดปัจจุบันนี้มักทำจากพลาสติก ซึ่งอาจจะทำให้สีจับตัวกันเป็นก้อนและไม่สามารถใช้งานต่อไปได้ ดังนั้นคุณควรจะคำนึงถึงความสะดวกและง่ายต่อการทำความสะอาดในภายหลังการใช้งาน เพราะถ้าหากเครื่องไม่เอื้อต่อการทำความสะอาดอาจจะส่งผลให้ทำความสะอาดได้ยากยิ่งขึ้นและส่งผลให้เครื่องเสียได้ง่ายกว่า ตัวเครื่องที่ทำมาจาก โลหะ หรือ แสตนเลส

      ขนาดของตัว เครื่องพ่นสี : เครื่องพ่นสี มีหลายขนาดนับตั้งแต่เครื่องพ่นสีแบบถ้วย หรือที่เรียกว่ากาพ่นสี ไปจนถึงเครื่องพ่นขนาดใหญ่ที่ต้องมีตัวลากติดตั้งถังอากาศเข้าไปด้วย เป็นรูปแบบ รถเข็นแบบมีล้อ และอื่น ๆ อีก นอกจากขนาดของตัวเครื่องที่มีความแตกต่างกันแล้ว เครื่องพ่นสีแบบไร้อากาศ (Airless) ก็ยังมีความซํบซ้อมต่อปัจจัยการเลือกซื้อเช่น การดูว่าขนาดขอบหัวฉีดสัมพันธ์กับขนาดใบพัดหรือไม่ ขนาดปากหรือรู และการวัดความจุต่อนาทีที่ผ่านรูได้กี่นิ้วต่อวินาทีเป็นต้น จึงควรทำการศึกษาเสปคของเครื่องพ่นสีอย่างดีก่อนเลือกซื้อมาใช้งาน

      คุณสมบัติ : คุณสมบัติที่มีประโยชน์ของเครื่องพ่นสีที่ควรจะต้องคำนึงถึง ได้แก่ การปรับความหนาของชั้นเคลือบ ความเร็วการพ่น หรือรูปแบบการพ่น นอกจากนี้ เครื่องพ่นสีบางรุ่นยังสามารถทำการติดตั้งสายยางแบบสวนได้ ซึ่งช่วยให้สามารถล้างด้วยน้ำเพื่อทำความสะอาดได้ง่ายมากยิ่งขึ้น การเคลื่อนย้ายอาจจะเป็นหนึ่งในปัจจัยเสี่ยงได้ ดังนั้นคุณอาจจะต้องการรถเข็นแบบมีล้อ หรือเครื่องมีขนย้าย ที่ดีพอหากคุณมีตัวเลือกเพิ่มขึ้น รุ่นแบบพกพาเป็นตัวเลือกที่ไม่เลวนัก แต่อาจจะต้อง แลกมาด้วยการทำการโหลดสีซ้ำอย่างต่อเนื่องหากคุณกำลังทำโปรเจ็กต์ขนาดใหญ่ และอาจเริ่มรู้สึกยุ่งยากหากใช้งานเป็นเวลานานควรคำนึงถึง การพิจารณาอีกประการหนึ่งคือแบบเคลื่อนย้ายได้ คุณสามารถทำการเสียบปลั๊กและเริ่มทำงานได้เลย อาจจะเป็นตัวเลือกที่เหมาะกว่าเมื่อเทียบกับรุ่นอื่น ๆ 


ประเภทของ เครื่องพ่นสี ที่นิยมใช้กันในปัจจุบัน

1. เครื่องพ่นสีแบบไร้อากาศ (Airless Paint Sprayer) 
      เครื่องพ่นสีแบบไร้อากาศเป็นเครื่องมือที่ใช้ปั๊มแรงดันสูงในการพ่นสีเป็นละอองและพ่นสีลงบนพื้นผิว สีจะแตกออกเป็นละอองเล็ก ๆ โดยใช้หัวฉีด จากนั้นก็จะถูกดันออกมาและจะถูกส่งไปยังพื้นผิวโดยใช้แรงดันที่สูง เครื่องพ่นสีแบบไร้อากาศสามารถใช้พ่นสีลงบนพื้นที่ขนาดใหญ่ได้อย่างรวดเร็วและเปี่ยมไปด้วยประสิทธิภาพ และยังสามารถใช้พ่นสีในพื้นที่ที่เข้าถึงยากได้อีกด้วย มักใช้ในโครงการทาสีเชิงพาณิชย์และที่อยู่อาศัย และงานตกแต่งแบบอื่น ๆ 

2. เครื่องพ่นสีแบบนิวเมตริก (Pneumatic Paint Sprayer)
      เครื่องพ่นสีแบบใช้ลมหรือที่เรียกว่าเครื่องพ่นสีแบบใช้อากาศอัดหรือเครื่องพ่นแบบใช้อากาศช่วย ใช้อากาศอัดจากการอาศัยพลังงานแรงดันอากาศ เพื่อที่จะสามารถทำให้เป็นละอองและพ่นสีลงบนพื้นผิว สีเข้าไปผสมกับอากาศอัดในปืนฉีดแล้วพ่นลงบนพื้นผิวโดยใช้แรงลมอัด เครื่องพ่นสีแบบใช้ลมมักใช้ในงานพ่นสีอุตสาหกรรมและเป็นที่รู้จักในด้านของความแม่นยำและความสม่ำเสมอ พวกเขายังใช้กันทั่วไปในอุตสาหกรรมยานยนต์และงานไม้ โดยทั่วแล้วจะมีราคาแพงกว่าเครื่องพ่นสีแบบไร้อากาศและต้องใช้คอมเพรสเซอร์ในการทำงานร่วมด้วย

3. เครื่องพ่นสีแบบปริมาตรสูงแรงดันต่ำ (Hight-Volume Low-Pressure) “HVLP” Sprayer
      HVLP นั้นย่อมาจาก "High Volume Low Pressure" เครื่องพ่นสี HVLP จะใช้ลมปริมาณมากที่ความดันต่ำเพื่อทำให้เป็นละอองและพ่นสีลงบนพื้นผิว ส่งผลให้ใช้สีพ่นได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เมื่อเทียบกับเครื่องพ่นสีแบบใช้ลมแบบดั้งเดิม สีจะผสมกับอากาศในปืนฉีด และปริมาณอากาศจะถูกควบคุมโดยใช้ตัวควบคุมรูปแบบพัดลม สิ่งนี้ทำให้ผู้ใช้สามารถปรับความกว้างของรูปแบบสเปรย์ให้เหมาะกับโครงการที่อยู่ในมือ เครื่องพ่นสี HVLP มักใช้สำหรับงานตกแต่งละเอียด เช่น ในการทำเฟอร์นิเจอร์ ตู้เก็บของ และงานไม้อื่นๆ รวมถึงงานยานยนต์และงานอุตสาหกรรมอื่นๆ พวกเขายังใช้สำหรับโครงการทาสีที่อยู่อาศัยและเชิงพาณิชย์

      โดยสรุปแล้ว เครื่องพ่นสีมีสามประเภทหลัก ๆ แบบไร้อากาศ แบบใช้ลม และแบบ HVLP เครื่องพ่นสีแบบไร้อากาศใช้ปั๊มแรงดันสูงเพื่อพ่นสีและพ่นสีลงบนพื้นผิว ทำให้มีประสิทธิภาพที่มากที่สุดที่จะสำหรับพื้นที่ขนาดใหญ่พิเศษและบริเวณที่เข้าถึงยาก มาก ๆ เครื่องพ่นสีประเภทแบบใช้ลมหรือที่เรียกว่าเครื่องพ่นสีแบบลมนี้ จะใช้อากาศอัดในการทำให้เป็นละอองและพ่นสี ทำให้ได้สีที่แม่นยำและสม่ำเสมอนั้น แต่ต้องใช้คอมเพรสเซอร์ปั๊มลมประกอบด้วย เครื่องพ่นสีแบบ HVLP ประเภทนี้ใช้ปริมาณอากาศสูงและใช้ความดันอากาศที่ความดันต่ำในกระบวนการทำให้เป็นละอองและทำการพ่นสีออกมา  จะส่งผลให้การใช้สีพ่นน้อยลงและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และมักใช้สำหรับงานตกแต่งละเอียด เช่น การทำเฟอร์นิเจอร์ ตู้เก็บของ และงานไม้เช่นกัน เป็นยานยนต์และงานอุตสาหกรรม หรืองาน DIY หรืองานอาร์ทเวิร์กอืน ๆ ทำความรู้จักกับ เครื่องพ่นสี หลักการทำงานและการใช้งาน อีกมากมายเป็นต้น