ทำไม เครื่องมือไฟฟ้า ตัวเปล่า ถึงไม่แถมแบตเตอรี่ และแท่นชาร์จ?

battery not included

      เครื่องมือไฟฟ้ามีจำหน่าย 2 แบบ คือแบบปลีกและแบบชุด แบบปลีกก็คือขายทีละตัว และเป็นตัวเปล่า คือมีเฉพาะเครื่องมือ 1 ชิ้น ไม่มีแบตเตอรี่และแท่นชาร์จ 

      ทำไมถึงไม่ขายพร้อมกันล่ะ? แยกขายให้ยุ่งยากวุ่นวายทำไม? 

      ต้องมีคนคิดแบบนี้อยู่แน่ๆ เลยใช่มั้ย แต่นั่นไม่ใช่ความยุ่งยากแต่อย่างใด กลับเป็นประโยชน์ต่อผู้ใช้เสียด้วยซ้ำ โดยเฉพาะคนที่ไม่ได้เป็นช่างมืออาชีพ มีความจำเป็นต้องใช้เครื่องมือแค่ไม่กี่ชิ้น การใช้แบตเตอรี่และแท่นชาร์จร่วมกันกับเครื่องมือทุกตัวได้ก็ช่วยให้ประหยัดไปได้มากทีเดียว เนื่องจากแบตเตอรี่และแท่นชาร์จเป็นสินค้าต้นทุนค่อนข้างสูง แม้แบตเตอรี่จะมีวันเสื่อม แต่แท่นชาร์จนั้นใช้ได้เรื่อยๆ จนกว่าจะพัง สองสิ่งนี้มีราคาแพง หากซื้อเครื่องมือพร้อมแบตเตอรี่และแท่นชาร์จด้วยทุกครั้งคุณจะสิ้นเปลืองอย่างยิ่ง

      นอกจากนี้ยังเป็นการมอบทางเลือกให้คุณสามารถเลือกใช้แบตเตอรี่ได้อย่างอิสระด้วย รู้หรือไม่ว่าแบตเตอรี่ที่มีแรงดันไฟ (Voltage) เท่ากันก็มีกระแสและความถึกทนต่างกันได้ หมายความว่า แบตเตอรี่ 18V เหมือนกันอาจใช้งานได้ไม่เท่ากัน ตัวหนึ่งอาจหมดเร็วกว่าอีกตัวก็ได้ ดังนั้น แต่ละแบรนด์จึงมีแบตเตอรี่หลายรุ่น เป็นรุ่นที่พัฒนาหรืออัปเกรดคุณสมบัติให้ใช้งานได้ดีและยาวนานขึ้นนั่นเอง

      เพื่อให้เข้าใจง่ายยิ่งขึ้น เรามาดูกันก่อนว่าแบตเตอรี่ประกอบด้วยอะไรบ้าง ก่อนจะไปดูตัวอย่างแบตเตอรี่ของแบรนด์ต่างๆ นี่ก็เพื่อให้คุณสามารถเลือกซื้อแบตเตอรี่ได้ดี เหมาะกับเครื่องมือและการใช้งานมากยิ่งขึ้นนั่นเอง


แบตเตอรี่เครื่องมือไฟฟ้าคืออะไร? ประกอบด้วยอะไรบ้าง?

      แบตเตอรี่ของเครื่องมือไฟฟ้าไร้สายเป็นพลังงานสำรอง เรียกว่า Cordless Power Tool ทำงานโดยเก็บพลังงานไว้ภายใน และปล่อยออกมาเมื่อวงจรไฟฟ้าทำงานเสร็จ ซึ่งพลังงานนี้สามารถถูกควบคุมและนำไปใช้เพื่อสร้างแสง ความร้อน หรือการเคลื่อนไหวเชิงกลได้ พลังงานนี้เรียกกันทั่วไปว่าไฟฟ้า จึงกักเก็บในแบตเตอรี่ได้จากกระแสไฟตามบ้านและอาคารผ่านแท่นชาร์จ โดยกักเก็บได้จำนวนจำกัด

      เมื่อเรากดสวิตช์ 'เปิด' ของเครื่องมือไฟฟ้าไร้สายซึ่งใส่แบตเตอรี่แล้ว วงจรไฟฟ้าก็จะสมบูรณ์ ทำให้พลังงานไหลจากแบตเตอรี่เข้าสู่เครื่องมือ แบตเตอรี่ AA เป็นแบตเตอรี่เซลล์เดียว ใช้หมดต้องทิ้งหรืออาจนำไปรีไซเคิลได้ ขึ้นอยู่กับวัสดุ ส่วนแบตเตอรี่เครื่องมือไฟฟ้าไร้สายเป็นแบตเตอรี่หลายเซลล์ สามารถชาร์จพลังงานซ้ำได้เมื่อใช้หมด

cordless power tool

      แบตเตอรี่แบบชาร์จซ้ำได้ที่ออกแบบมาสำหรับเครื่องมือไฟฟ้าไร้สายจะประกอบด้วย 'เซลล์' หลายเซลล์ เรียกว่าชุดแบตเตอรี่ ยิ่งมีเซลล์มากเท่าไรแบตเตอรี่ก็จะยิ่งทำงานได้มากขึ้นเท่านั้น

      สิ่งสำคัญที่ทำให้แบตเตอรี่แต่ละก้อนแตกต่างกัน และส่งผลต่อการใช้งานคือ Amps และ Volts ซึ่ง Amps (แอมป์) คือ ปริมาณอัตราการไหลของกระแสไฟฟ้า หรือ 'กระแสไฟฟ้า' นั่นเอง ถ้ากระแสไฟฟ้าในแบตเตอรี่ไหลได้ไม่มากแสดงว่าแอมป์มีค่าน้อย สำหรับเครื่องมือไฟฟ้าที่ต้องใช้กำลังในการทำงานสูงก็ควรมีกระแสไฟที่ไหลได้ปริมาณสูง โดยแบตแต่ละก้อนจะบอกค่าแอมป์ไว้เสมอ แต่จะบอกเป็นหน่วยต่อชั่วโมงซึ่งเราเรียกกันติดปากว่าแอมป์อาวนั่นเอง ตัวย่อ Ah เช่น 2.5 Ah หรือ 8.0 Ah เป็นต้น 

      ส่วน Volts (โวลต์) เป็นปริมาณของแรงไฟฟ้าหรือแรงดันในวงจร โวลต์แสดง 'แรงดันไฟฟ้า' ที่ผลักกระแสไฟฟ้าให้ไหลไปตามวงจร เป็นตัวที่บ่งบอกความเข้มของแหล่งจ่ายไฟซึ่งในที่นี้คือแบตเตอรี่ มันจะแสดงให้เห็นว่าแบตเตอรี่ก้อนนั้นสร้างพลังงานได้เท่าไหร่ที่กระแสไฟจำนวนหนึ่ง 

      เมื่อแบตเตอรี่มี Amps และ Volts สูงจะทำให้เครื่องมือใช้งานได้ยาวนานขึ้น และมีกำลังไฟมากขึ้น 

cordless power tool


ประเภทของแบตเตอรี่สำหรับเครื่องมือไฟฟ้า

      แบตเตอรี่มี 3 ประเภท ทำจากสสารที่แตกต่างกัน ได้แก่ นิกเกิลแคดเมียม, นิกเกิลเมทัลไฮไดรด์ และลิเธียมไอออน ปัจจุบันประเภทลิเธียมไอออนเป็นที่นิยมมากที่สุด เพราะชาร์จเร็วและใช้งานได้ยาวนาน มีความหนาแน่นของพลังงานสูง ขนาดเล็ก แต่ก็ยังมีความแตกต่างด้านอื่นๆ อีกหลายข้อเช่นกัน ดังนี้

      ✦ นิกเกิลแคดเมียม (NiCd) : ทำงานได้ดีเมื่อใช้งานเป็นประจำ มีความทนทานสูง เหมาะอย่างยิ่งหากใช้เป็นแบตเตอรี่สำหรับงานประจำหรืองานหนัก ตอบสนองได้ดีต่อการถูกชาร์จซ้ำแล้วซ้ำเล่า แต่การทิ้งไว้ในที่ชาร์จและใช้งานเป็นครั้งคราวจะทำให้อายุการใช้งานสั้นลง 

      สามารถชาร์จซ้ำได้มากกว่า 1,000 ครั้ง จากนั้นประสิทธิภาพจะเริ่มลดลง ใช้งานได้ดีในสภาพอากาศที่เย็นมากกว่าประเภทอื่นๆ แต่น้ำหนักมากกว่าแบตเตอรี่ประเภทอื่นๆ และมีความหนาแน่นของพลังงานต่ำที่สุด ซึ่งหมายความว่าในการผลิตพลังงานเท่ากับแบตเตอรี่ NiMH หรือ Li-ion แบตเตอรี่นี้จะต้องมีขนาดใหญ่กว่าและหนักกว่า

      แบตเตอรี่นิเกิลแคดเมียมมีโลหะที่เป็นพิษ ซึ่งจำเป็นต้องกำจัดอย่างระมัดระวัง การทิ้งแบตเตอรี่ NiCd ยังเป็นประเด็นเนื่องจากมีวัสดุที่เป็นพิษซึ่งทำลายสิ่งแวดล้อม ทางเลือกที่ดีที่สุดขณะนี้คือการนำไปรีไซเคิล

      ✦ นิกเกิลเมทัลไฮไดรด์ (NiMH) : มีความหนาแน่นของพลังงานสูงกว่าแบตเตอรี่ NiCd 40% จึงมีขนาดเล็กลงและเบาขึ้นในระดับพลังงานที่เท่ากัน อุณหภูมิสูงจะทำให้แบตเตอรี่ NiMH เสียหายได้ จึงไม่เหมาะกับงานหนัก เพราะอุณหภูมิสูงและการใช้งานหนักอาจทำให้อายุการใช้งานของแบตเตอรี่ลดลง จากรอบการชาร์จ 300-500 รอบ จะเหลือแค่ 200-300 รอบ

      เอฟเฟกต์หน่วยความจำไม่ใช่ปัญหาสำหรับแบตเตอรี่ NiMH แม้ว่ามันจำเป็นต้องคายประจุจนหมดเป็นครั้งคราว แต่ก็ไม่ไวต่อผลของหน่วยความจำเท่าแบตเตอรี่ NiCd และยังทำลายสิ่งแวดล้อมน้อยกว่าด้วย แต่ต้องใช้เวลาชาร์จนานกว่า เนื่องจากแบตเตอรี่ร้อนง่ายซึ่งอาจสร้างความเสียหายได้ นอกจากนี้ยังมีอัตราการคายประจุเองที่สูงกว่าแบตเตอรี่ NiCd ถึง 50%

      ✦ ลิเธียมไอออน (Li-ion) : ลิเธียมเป็นโลหะน้ำหนักเบาที่ก่อตัวเป็นไอออนได้ง่าย จึงเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการผลิตแบตเตอรี่ แบตเตอรี่ Li-ion จึงมีราคาแพงที่สุด แต่ก็คุ้มค่าในหลายๆ ด้าน ทั้งยังมีขนาดเล็กและน้ำหนักเบามากกว่าแบตเตอรี่อีก 2 ประเภทมากด้วย เพราะมีความหนาแน่นของพลังงานเป็นสองเท่าของแบตเตอรี่ NiCd

      แบตเตอรี่ Li-ion ไม่ได้รับผลกระทบจากเอฟเฟกต์หน่วยความจำ หมายความว่าสามารถชาร์จแบตเตอรี่จากระดับการชาร์จใดก็ได้ ไม่ต้องใช้จนหมดก็ชาร์จได้ นอกจากนี้ยังไม่ต้องบำรุงรักษามากนัก แบตเตอรี่ Li-ion บางรุ่นสามารถเก็บไว้ได้นานกว่า 500 วันโดยไม่จำเป็นต้องชาร์จเมื่อใช้งานครั้งต่อไป (พลังงานไม่ลดลงแม้ปล่อยทิ้งไว้ไม่ได้ใช้งานนานๆ)

      แบตเตอรี่ Li-ion จะคายประจุเอง แต่อัตรานี้ก็น้อยกว่าครึ่งหนึ่งของแบตเตอรี่ NiCd แต่แบตเตอรี่ Li-ion ค่อนข้างบอบบาง และต้องมีวงจรป้องกันที่คอยตรวจสอบแรงดันและอุณหภูมิอยู่เสมอ เพื่อป้องกันความเสียหายที่จะเกิดกับแบตเตอรี่ และค่อนข้างเสื่อมสภาพเร็ว ประสิทธิภาพของแบตเตอรี่ Li-ion จะลดลงอย่างเห็นได้ชัดหลังจากใช้งานไปเพียงหนึ่งปีเท่านั้น 

      อย่างไรก็ตาม แบตเตอรี่ Li-ion มีรุ่นใหม่ๆ ถูกพัฒนาขึ้นอยู่เสมอ บางรุ่นสามารถใช้งานได้ยาวนานขึ้นกว่าเดิมมากกว่า 100% และยังมีการออกแบบให้เคสแบตเตอรี่รองรับแรงกระแทกได้ด้วย จึงทนทานใช้งานได้สะดวกขึ้นมาก

cordless power tool


การเลือกเครื่องมือตัวเปล่าและแบตเตอรี่ที่เหมาะสมกัน

      ★ เลือกที่โวลต์เท่ากัน

      เครื่องมือตัวเปล่าแต่ละตัวจะระบุแรงดันไฟฟ้า (Volts) ไว้ชัดเจนเสมอ คุณควรเลือกแบตเตอรี่ที่มีแรงดันไฟเท่ากัน เพราะถ้าเลือกน้อยกว่าพลังงานจะไม่พอสำหรับเครื่องมือและใช้งานไม่ได้ แต่ถ้าเลือกแบตเตอรี่ที่มีแรงดันไฟสูงเกินก็เป็นการสิ้นเปลือง เพราะพลังงานจะถูกปล่อยในอัตราปกติ อาจทำให้เครื่องมือรับพลังงานมากขนาดนั้นไม่ไหวจนพังหรือเสื่อมสภาพได้ แต่โดยมากเครื่องมือตัวเปล่าที่ต่างโวลต์กับแบตเตอรี่จะใช้งานไม่ได้ โดยเฉพาะในยี่ห้อเดียวกัน เป็นกลยุทธ์การขายและเพื่อความปลอดภัยในการใช้งาน

      ★ เลือกประเภทที่เหมาะกับงาน

      แบตเตอรี่ทั้ง 3 ประเภทมีข้อดีข้อเสียต่างกัน แต่ปัจจุบัน Li-ion ได้ถูกพัฒนามากขึ้นเรื่อยๆ กลบข้อด้อยทั้งเรื่องกำลังและอายุการใช้งาน ซึ่งจะเป็นรุ่นพิเศษหรือรุ่นใหม่ที่ราคาสูงขึ้น แต่ก็คุ้มค่ากับการใช้งานมาก แถมยังเข้ากับเครื่องเก่าๆ ในโวลต์เท่ากันได้ด้วย ถ้าเป็นไปได้ก็อยากให้เลือกใช้ Li-ion กันมากกว่าแบตเตอรี่ประเภทอื่น เพราะเป็นพิษกับสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด

      ★ เลือกขนาดที่เหมาะกับงาน

      แบตเตอรี่มักมีทั้งรุ่นธรรมดาและรุ่นพิเศษ รุ่นใหม่ๆ จะน้ำหนักเบา ขนาดกะทัดรัด แต่ยังคงใช้งานได้ดีเทียบเท่าหรือมากกว่ารุ่นธรรมดามาก จึงเหมาะกับงานที่ต้องจัดการกับฝ้า เพดาน หรือออกนอกสถานที่เป็นอย่างมาก แต่หากต้องการประหยัดและเครื่องมือไม่ได้หนักเกินไปจนเป็นภาระข้อมือก็อาจใช้แค่รุ่นธรรมดาได้เหมือนกัน

cordless power tool


ตัวอย่างแบตเตอรี่ของแต่ละยี่ห้อ

      ➤ BOSCH ProCORE : เป็นซีรี่ส์แบตเตอรี่ประสิทธิภาพสูง เทียบเท่ากับการใช้เครื่องมือแบบมีสาย คือให้พลังงานที่เสถียรและใช้ต่อเนื่องได้ยาวนาน ให้กำลังไฟสูงกว่า 87% เมื่อเทียบกับแบตเตอรี่รุ่นธรรมดาในขนาดเดียวกัน ใช้ได้กับเครื่องมือทั้งรุ่นเก่าและรุ่นใหม่ของ BOSCH มีเทคโนโลยี COOLPACK 2.0 ที่ช่วยป้องกันแบตเตอรี่ทั้งภายในและภายนอก แก้ไขข้อบกพร่องเรื่องความแข็งแรงของแบตเตอรี่ประเภท Li-ion และทำให้ไม่เกิดความร้อนสูงเกินไป ลดความเสียหายของเซลล์แบตเตอรี่ จึงช่วยยืดอายุการใช้งานได้ยาวนานขึ้นถึง 135% ทำให้สามารถใช้งานได้นานกว่าแบตเตอรี่รุ่นธรรมดามากๆ

      ➤ Makita XGT 40V max : มีโครงสร้างป้องกัน 3 ชั้น ดูดซับแรงกระแทกได้ดี กันน้ำกันฝุ่น แข็งแรงทนทาน ใช้ในงานหนักและงานสมบุกสมบันได้ ให้แรงดันไฟสูงถึง 40 และ 80 โวลต์ มีไมโครชิปทั้งในตัวเครื่องมือและแบตเตอรี่ ทำให้สื่อสารข้อมูลกันได้ผ่านระบบดิจิตัลที่จะทำงานแบบเรียลไทม์ ตรวจจับความร้อน overload และ over-discharge ได้ทันที มีพลังงานสำหรับใช้งานสูงสุด 2 เท่า

      ➤ Milwaukee High Output : มีเทคโนโลยี REDLINK intelligence protects ที่ทำให้แบตเตอรี่แข็งแรงทนทาน ใช้งานในสถานที่อันตรายสมบุกสมบันได้ รองรับแรงกระแทกและแรงสั่นสะเทือน ใช้กับงานหนักได้ ให้พลังงานมากกว่าเดิม 50% ขนาดกะทัดรัดขึ้น และมีอายุการใช้งานยาวนานกว่ารุ่น REDLITHIUM-ION ปกติ อีกทั้งยังมีความร้อนต่ำหรือเย็นลงขณะใช้งาน 50% จึงไม่ทำให้เซลล์แบตเตอรี่เสียหาย มีไฟแสดงระดับพลังงานในตัว

cordless power tool


แบตเตอรี่แต่ละยี่ห้อใช้ร่วมกันได้หรือไม่?

      สำหรับคนที่มีเครื่องมือหลายยี่ห้อก็คงไม่แปลกที่จะคาดหวังให้เครื่องมือของคุณสามารถใช้แบตเตอรี่ร่วมกันได้ เพื่อจะได้ประหยัดมากขึ้นอีกนิด นั่นไม่ใช่เรื่องผิด และแบตเตอรี่ก็สามารถใช้ข้ามยี่ห้อได้ แต่ก็แค่บางรุ่นเท่านั้น โดยต้องมี Catch, Contacts และ Attachment ที่เข้ากันได้ และควรพยายามใช้โวลต์ที่ใกล้เคียงกันที่สุด เพื่อความปลอดภัยและป้องกันไม่ให้เครื่องมือช็อตหรืออื่นๆ จนเสียหาย จากที่จะช่วยประหยัดและสะดวกขึ้นจะกลายเป็นเสียน้อยเสียยากแทน

cordless power tool

cordless power tool

      อย่างไรก็ตาม ไม่แนะนำให้ทำในระยะยาว เพราะแบตเตอรี่แต่ละก้อนมีรอบการชาร์จที่แน่นอนอยู่แล้ว เมื่อใช้ไปนานๆ เซลล์ไฟฟ้าจะเสื่อมประสิทธิภาพหรือลดจำนวนลง หมายความว่า เมื่อใช้และชาร์จไปจนครบจำนวนรอบที่เต็มประสิทธิภาพแล้วก็ถึงเวลาต้องเปลี่ยนใหม่ การใช้แบตเตอรี่ก้อนเดียวกับเครื่องมือจำนวนมากทำให้ต้องซื้อแบตเตอรี่ก้อนใหม่เร็วขึ้น อีกทั้งการใช้แบตเตอรี่ข้ามยี่ห้อก็เสี่ยงต่อผลกระทบด้านลบกับเครื่องมือที่เรามองไม่เห็นด้วย


แบตเตอรี่ยี่ห้อไหนใส่ข้ามโวลต์ได้บ้าง?

      ยี่ห้ออื่นๆ อาจทำไม่ได้ แต่ Dewalt เป็นยี่ห้อที่สามารถใช้แบตเตอรี่ข้ามโวลต์ได้ อย่างเช่น เครื่องรุ่นเก่าๆ 18V สามารถใช้กับแบตเตอรี่ 20V ได้ ขอแค่ลักษณะรูปร่างและขั้วเข้ากันได้ หรือเครื่องรุ่น 60V ก็สามารถใช้กับแบตเตอรี่ 20V ได้เช่นกัน แต่ตอนชาร์จต้องใช้เครื่องชาร์จที่ถูกต้อง Dewalt มีแบตเตอรี่ที่ทำมาให้ใช้กับโวลต์ 2 ขนาดได้ คือรุ่น Dewalt FLEXVOLT 

cordless power tool