ในสายตาคนทั่วไป “สายยาง” ก็ดูเหมือนจะเหมือนกันหมด — เส้นกลม ๆ ยืดหยุ่นได้ ต่อเข้ากับหัวปั๊มหรือเครื่องมือแล้วใช้งานได้เลย แต่ในโลกของโรงงานและงานอุตสาหกรรมจริง ๆ แล้ว ความแตกต่างของ เนื้อวัสดุ คือสิ่งที่แยก สายยาง ราคาหลักสิบออกจาก สายยาง ราคาหลักพัน
วัสดุแต่ละชนิด เช่น PVC, PU, NBR หรือ EPDM ไม่ได้แค่ต่างกันเรื่องราคา แต่มันส่งผลโดยตรงต่อ แรงดันที่รับได้, สารเคมีที่ทนได้, อุณหภูมิที่ใช้งานได้, และ อายุการใช้งาน ของระบบ ถ้าเลือกวัสดุผิด แค่เปลี่ยนของเหลวจากน้ำเป็นน้ำมัน — สายที่เคยดี ๆ ก็อาจบวม แตก หรือรั่วภายในไม่กี่วัน วันนี้น้องช่างเลยชวนมาเปิดดูว่า วัสดุที่ใช้ผลิตสายยางอุตสาหกรรมมีอะไรบ้าง และควรเลือกยังไงให้ไม่พลาด
ทำไม “วัสดุ” ถึงสำคัญที่สุดใน สายยาง อุตสาหกรรม
ในระบบลำเลียงของเหลว (Fluid System) “สายยาง” คือเส้นเลือดของเครื่องจักร ต้องรับทั้งแรงดัน แรงดูด ความร้อน และสารเคมีพร้อมกัน การเลือกวัสดุผิดเท่ากับเอา “เส้นเลือดคน” ไปใช้กับ “เครื่องจักร” — อยู่ได้ไม่นานแน่ ๆ
- ใช้ PVC กับน้ำมันเครื่อง → สายพอง นิ่ม และรั่ว
- ใช้ PU ลม ไปดูดน้ำร้อน → เนื้อยางเสียรูป
- ใช้ EPDM กับน้ำมัน → สายแตกภายในไม่กี่ชั่วโมง
วัสดุ สายยาง อุตสาหกรรมยอดนิยม 8 ชนิด
1) PVC (Polyvinyl Chloride)
PVC คือวัสดุมาตรฐานที่ทุกโรงงานต้องเคยใช้แน่ ๆ มันเป็นพลาสติกกึ่งแข็งที่ถูกปรับให้นิ่มด้วยสาร plasticizer เพื่อให้ยืดหยุ่นได้พอเหมาะ ไม่แตกง่ายเมื่อโดนแรงงอ จึงเหมาะกับการใช้งานทั่วไป เช่น สายน้ำ สายลม หรือสายดูด–ส่งแรงดันต่ำ ความดีงามของ PVC คือราคาย่อมเยา น้ำหนักเบา และผลิตง่าย ทำให้กลายเป็นวัสดุที่พบได้แทบทุกหมวด ตั้งแต่โรงงานผลิตอาหารไปจนถึงงานก่อสร้าง
แต่ ข้อจำกัด ของมันก็ชัดเจน — PVC ไม่ทนความร้อนเกิน 60°C และไม่ถูกกับสารละลายอินทรีย์ เช่น น้ำมัน หรือทินเนอร์ หากใช้ผิดงาน สายจะเริ่มนิ่ม บวม และสุดท้ายแตกรั่วเป็นรอยย่น ๆ นอกจากนี้ มันยังเสื่อมสภาพไวเมื่อโดนแสง UV นาน ๆ จึงไม่ควรใช้กลางแจ้งโดยไม่มีการป้องกัน
2) PU (Polyurethane)
ถ้า PVC คือสายเบสิกของวงการ PU ก็เหมือน “รุ่นพี่สายลุย” ที่ทั้งยืดหยุ่น แข็งแรง และทนแรงดันได้มากกว่า ผลิตจากปฏิกิริยาระหว่าง polyol และ isocyanate ทำให้ได้วัสดุที่มีความเหนียว คืนรูปไว และไม่หักงอง่าย แม้พับซ้ำ ๆ ก็ไม่เสียทรง จุดเด่นของ PU คือทนแรงดันได้สูงกว่า PVC หลายเท่า จึงนิยมใช้ในระบบลม เครื่องอัดลม หรือแขนกลในโรงงานอัตโนมัติ
PU มีอยู่สองตระกูลหลักที่ควรรู้ คือ
- Ether-base PU ทนน้ำ ไม่บวมเมื่อโดนความชื้น เหมาะกับระบบลมและของเหลว
- Ester-base PU ทนน้ำมันดีกว่า เหมาะกับระบบที่มีน้ำมันหล่อลื่นปนอยู่
ข้อจำกัด คือ PU ไม่ชอบแสงแดด ถ้าเก็บในที่โดน UV หรือความร้อนจัดนาน ๆ เนื้อยางจะเริ่มเหลือง กรอบ และแตกในที่สุด
3) NBR (Nitrile Butadiene Rubber)
พูดถึง “สายทนน้ำมัน” ไม่มีใครแทน NBR ได้ เพราะนี่คือยางสังเคราะห์ที่เกิดจากการรวมตัวของ Acrylonitrile (AN) กับ Butadiene (BD) ซึ่งให้ทั้งความยืดหยุ่นและความทนน้ำมันในตัวเดียวกัน ยิ่งมีสัดส่วน AN มากเท่าไร ความทนน้ำมันก็ยิ่งสูงตาม แต่จะแลกมาด้วยความแข็งขึ้นเล็กน้อย
NBR ถูกใช้ในระบบที่ต้องสัมผัสกับน้ำมัน เครื่องจักร หรือเชื้อเพลิงโดยตรง เช่น สายดูด–ส่งน้ำมันในโรงงานหล่อลื่น หรือสถานีเติมน้ำมัน จุดเด่นคือทนต่อจาระบี น้ำมันเครื่อง และสารไฮโดรคาร์บอนได้ดีเยี่ยม อีกทั้งยังรับแรงดันได้สูงโดยไม่บวม
จุดอ่อนของ NBR คือไม่ทนโอโซนและรังสี UV ถ้าใช้กลางแจ้งต้องหุ้มป้องกัน และไม่เหมาะกับของเหลวที่เป็นกรดหรือด่างแรง
4) EPDM (Ethylene Propylene Diene Monomer)
EPDM คือยางสังเคราะห์ที่สร้างมาเพื่อรับความร้อนและสารเคมีโดยเฉพาะ โครงสร้างโมเลกุลของมันทนต่อการออกซิเดชันสูงมาก ทำให้สามารถใช้งานได้ยาวนานแม้อยู่ในสภาพร้อนจัดหรือโดน UV ตลอดเวลา สาย EPDM จึงเหมาะอย่างยิ่งกับโรงงานเคมี โรงงานอาหาร หรือระบบล้างท่อ (CIP) ที่ต้องเจอน้ำร้อนหรือไอน้ำแรง ๆ เป็นประจำ
คุณสมบัติที่โดดเด่นของ EPDM คือทนกรด ด่าง และสารเคมีอ่อน ๆ ได้ดีมาก รวมถึงไอน้ำและน้ำร้อนถึง 150°C โดยไม่เสียรูป จุดอ่อน มีเพียงอย่างเดียว — มันไม่ทนน้ำมันเลย ถ้าใช้ผิดงานจะบวมและฉีกภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมง
5) Silicone Rubber
ซิลิโคน คือวัสดุที่สะอาดที่สุดในกลุ่ม สายยาง ถูกนำมาใช้ในอุตสาหกรรมอาหาร ยา และเครื่องมือแพทย์ เพราะมันไม่ดูดซึมกลิ่น ไม่ละลาย และทนความร้อนได้สูงถึง 200°C โครงสร้างของซิลิโคนเป็นพันธะระหว่างซิลิกากับออกซิเจน (Si–O–Si) ซึ่งให้ทั้งความยืดหยุ่นและความคงตัวทางเคมีในเวลาเดียวกัน
สายยาง ซิลิโคน มีทั้งแบบธรรมดาและแบบ Food Grade ซึ่งผ่านมาตรฐาน FDA และ RoHS ทำให้มั่นใจได้ว่าไม่มีสารปนเปื้อนเข้าสู่อาหารหรือยา จุดเด่นคือผิวภายในเรียบ ของเหลวไม่เกาะตะกอน เหมาะกับระบบบรรจุ เครื่องกรอง หรือการลำเลียงของเหลวบริสุทธิ์ในห้องแลป
อย่างไรก็ตาม ซิลิโคนไม่ทนน้ำมันแร่และแรงดันสูงมากนัก หากต้องใช้ในระบบอุตสาหกรรมหนักอาจต้องเสริมโครงลวดหรือเลือกวัสดุอื่นแทน
6) PTFE / FEP / PFA (Fluoropolymer)
นี่คือ สายยาง ชั้นสูงที่คนในวงการเรียกติดปากว่า “เทฟลอน (Teflon)” ทั้งหมดอยู่ในกลุ่ม ฟลูออโรโพลิเมอร์ ซึ่งทนสารเคมีได้แทบทุกชนิด ไม่ว่าจะกรดกำมะถันเข้ม ด่างแรง หรือสารละลายอินทรีย์ จุดเด่นคือทนอุณหภูมิสูงสุดถึง 260°C โดยไม่ละลายหรือกรอบ
สาย PTFE/FEP/PFA มีผิวในเรียบลื่น ของเหลวไหลผ่านได้โดยไม่เกิดคราบหรือแรงเสียดทาน ใช้ในงานเคมี โรงงานยา หรืออุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ที่ต้องการความสะอาดและความบริสุทธิ์สูงสุด แต่ราคาก็สูงตาม และเพราะเนื้อค่อนข้างแข็ง ทำให้โค้งงอยาก ต้องใช้กับระบบที่มีพื้นที่เพียงพอในการติดตั้ง
7) NR / SBR (Natural Rubber / Styrene-Butadiene Rubber)
กลุ่มยางธรรมชาติและยางสังเคราะห์พื้นฐานที่ยังคงถูกใช้กันแพร่หลายในงานอุตสาหกรรมหนัก เช่น งานดูดทราย ดูดโคลน หรือระบบดูดแรง เพราะยืดหยุ่นสูงมากและรับแรงสั่นสะเทือนได้ดี NR มีความนิ่มและยืดหยุ่นเหนือกว่ายางอื่น ขณะที่ SBR ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อลดต้นทุนและเพิ่มความทนทานต่อการเสียดสี
สองวัสดุนี้ใช้ได้ดีในอุณหภูมิ –20 ถึง 80°C แต่ไม่ทนน้ำมันและแสง UV หากอยู่กลางแจ้งหรือสัมผัสน้ำมันนาน ๆ จะเริ่มแตกร้าว จึงควรใช้ในงานภายในโรงงานหรือสภาพแวดล้อมควบคุม
8) TPE / TPV / TPR (Thermoplastic Elastomer)
วัสดุรุ่นใหม่ที่อยู่กึ่งกลางระหว่าง “ยาง” กับ “พลาสติก” เป็นการผสมคุณสมบัติของทั้งสองโลกเข้าด้วยกัน ทำให้ได้สายที่เบา ยืดหยุ่น แต่ขึ้นรูปได้ง่ายแบบพลาสติก เหมาะกับงานเบา เช่น อุปกรณ์ทดลอง เครื่องมือแพทย์ หรือระบบที่ไม่ต้องรับแรงดันสูงมาก
TPE สามารถรีไซเคิลได้ จึงเริ่มได้รับความนิยมในอุตสาหกรรมที่ต้องการลดของเสีย แต่ยังไม่ใช่วัสดุหลักของสายอุตสาหกรรมหนัก เพราะไม่ทนแรงดันและสารเคมีแรงเท่า NBR หรือ EPDM
เปรียบเทียบวัสดุ สายยาง อุตสาหกรรม
เลือกวัสดุที่ต้องการเปรียบเทียบ (สูงสุด 3 ชนิด)
PVC (Polyvinyl Chloride)
- แรงดัน: ⭐⭐ ปานกลาง
- อุณหภูมิใช้งาน: –10 ถึง ~60°C
- ทนน้ำมัน: ❌ ไม่ทน
- ทนสารเคมี: ⭐ พอประมาณ
- คุณสมบัติเด่น: เบา ราคาถูก ผนังใสเห็นการไหล
- งานแนะนำ: น้ำ/ลมทั่วไป งานเบาในร่ม
NBR (Nitrile Butadiene Rubber)
- แรงดัน: ⭐⭐⭐ สูง
- อุณหภูมิใช้งาน: –30 ถึง ~100°C
- ทนน้ำมัน: ⭐⭐⭐⭐ ดีเยี่ยม
- ทนสารเคมี: ⭐ ต่ำ (กรด/ด่างแรงไม่เหมาะ)
- คุณสมบัติเด่น: ทนน้ำมัน จาระบี เชื้อเพลิง
- งานแนะนำ: น้ำมัน ระบบหล่อลื่น เครื่องจักร
TH
English








