Customers Also Purchased
หากใครเคยประกอบเฟอร์นิเจอร์เอง หรือขันสกรูในที่แคบ ๆ อย่างใต้โต๊ะ หรือพวกหลังตู้ คงเคยเจอเหตุการณ์คล้ายๆกัน สกรูหล่นไปไหนไม่รู้ แล้วต้องใช้เวลาหลายนาทีค่อย ๆ เอานิ้วล้วงหา “นิ้วเราดันอ้วนอีก!” ต้องลงไปนอนคลานเก็บในซอกพื้นก็มี
จนวันหนึ่งมีรุ่นพี่ช่างคนหนึ่งอยู่ๆพูดขึ้นว่า “ก็ใช้ ไขควง แม่เหล็กสิ! จะไปเสียเวลาเก็บทำไม” พอได้ลองใช้จริงครั้งแรกเท่านั้นแหละครับ “เออสะดวกจริง!” แค่จ่อปลาย ไขควง เข้าไปตรงหัวสกรู มัน “ดูดติด” เองเลย ไม่ต้องกลัวหล่น ไม่ต้องใช้มือช่วยประคอง พอจับจังหวะได้ งานที่เคยใช้เวลาหลายนาที กลายเป็นแค่ไม่กี่วินาที มันช่วยให้ทำงานเร็วขึ้นแบบเห็นได้ชัด โดยเฉพาะเวลาทำงานคนเดียว ไม่มีใครช่วยถือของ หรือทำงานในมุมที่เอื้อมยาก ๆ แค่มี ไขควง แม่เหล็กดี ๆ ตัวเดียว ก็เหมือนมี ผู้ช่วยล่อยู่ข้าง ๆ เลยครับ.
ไขควง แม่เหล็ก คืออะไร? ไม่ใช่แค่ดูดน็อตได้เท่านั้น
หลายคนคิดว่า “ไขควง แม่เหล็ก” (Magnetic Screwdriver) ก็คือ ไขควง ที่มีแม่เหล็กตรงปลาย เอาไว้ช่วยดูดสกรูไม่ให้หล่นตอนขัน ซึ่งก็ถูกครับ... แต่จริง ๆ แล้ว ประโยชน์ของแม่เหล็กมันไม่ได้มีแค่นี้
เราเคยคิดเหมือนกันว่ามันก็แค่กิมมิกเล็ก ๆ จนได้ลองใช้จริงในวันที่ต้องขันสกรูอยู่บนเพดาน แล้วมือสั่น ๆ เพราะเอื้อมจนสุดแขน สกรูนั่นแทบจะหล่นทุกวินาที แต่พอใช้ ไขควง แม่เหล็ก เท่านั้นแหละครับ… มันดูดติดแน่น แถมไม่ต้องใช้มืออีกข้างมาช่วยประคองให้ยุ่งยาก เหมือนชีวิตช่างดีขึ้นในพริบตา
- ช่วยให้เริ่มขันได้แม่นกว่าเดิม ปลายของ ไขควง ที่มีแม่เหล็กจะดูดหัวสกรูไว้แน่น ๆ เวลาจ่อเข้ารู มันจะไม่หลุดหรือเอียง ทำให้เราเริ่มขันได้พอดีเป๊ะตั้งแต่แรก โดยเฉพาะเวลาขันเหนือหัว หรืออยู่ในจุดที่มองไม่เห็น ต้องใช้ความรู้สึกมากกว่าสายตา ไขควง แม่เหล็ก คือเพื่อนที่ช่วยประคองสกรูให้คุณแบบไม่บ่นเลยครับ
- ลดความเสี่ยงสกรูหล่นระหว่างงาน ใครที่เคยทำงานติดตั้งบานพับ เฟอร์นิเจอร์ หรืองานเครื่องกลจะรู้ดีครับ ว่าสกรูหนึ่งตัวที่หล่นไป มันพาเวลาเราไปด้วยหลายสิบนาที บางทีกลิ้งเข้าใต้ตู้ หรือหล่นในช่องเครื่อง ต้องหยุดโปรเจกต์ไว้ก่อนแล้วค่อยหาของที่หายไปอีก แต่ถ้ามี ไขควง แม่เหล็ก ดี ๆสักตอัน ปัญหานี้แทบจะไม่เกิดเลย เพราะมันช่วยจับสกรูไว้ตลอดการทำงาน
- ช่วยเก็บเศษโลหะหรือสกรูที่ตกคาเครื่อง ในงานเครื่องจักรหรืออิเล็กทรอนิกส์นี่สำคัญมากเลยครับ เศษเหล็กเล็ก ๆ หรือสกรูจิ๋วที่ตกในช่องแคบ ๆ บางทีมองเห็นแต่เอาไม่ถึง ถ้าไม่มีเครื่องมือเฉพาะก็ต้องถอดเครื่องทั้งตัวออกมา แต่ถ้ามีไขควงแม่เหล็ก แค่แตะเบา ๆ มันก็ดึงออกมาให้เลย ง่ายแบบไม่ต้องออกแรงเยอะ
เคยใช้ ไขควง ธรรมดา แล้วเข้าใจเลยว่าแม่เหล็กมันจำเป็นแค่ไหน
เรายังจำได้ดี ตอนนั้นต้องไปช่วยเพื่อนประกอบชั้นเหล็กในโกดัง งานง่าย ๆ แต่พอใช้ ไขควง แบนธรรมดา ปรากฏว่าสกรูหล่นไปให้หมด! บางครั้งหล่นลงร่องเหล็ก บางครั้งกระเด็นไปอีกฝั่งของโกดัง เสียเวลาเก็บมากกว่าขันอีกครับ
หลังจากนั้นผมเลยลองหยิบไขควงแม่เหล็กมาลองอีกชุด คราวนี้… ทุกอย่างเปลี่ยนไปเลย สกรูดูดติดปลายพอดี ไม่ต้องกังวลว่าจะหล่น แถมจับมือเดียวก็ขันได้สะดวกขึ้นเยอะ ตั้งแต่นั้นมา ผมไม่เคยกลับไปใช้ไขควงปลายธรรมดาอีกเลย โดยเฉพาะในงานที่ต้องทำอยู่ในจุดแคบ หรือบนที่สูงอย่างงานติดตั้งไฟเพดาน หรือโครงอลูมิเนียมเหนือหัว
ไขควง แม่เหล็กช่วย ประหยัดเวลา ได้แค่ไหน?
อย่าคิดว่าเป็นเรื่องเล็กครับ! จากการทดลองในงานประกอบเครื่องกลของผมเอง ขันสกรู 10 ตัว ถ้าใช้ ไขควง ธรรมดาเฉลี่ยใช้เวลาประมาณ 5 นาที แต่ถ้าใช้ไขควงแม่เหล็ก เวลาเหลือแค่ 3 นาทีเท่านั้น ต่างกันเพียง 2 นาทีต่อชุด แต่ในงานจริงที่ต้องขันวันละร้อย ๆ ตัว มันช่วยประหยัดเวลาได้เป็นชั่วโมง แถมลดความหงุดหงิดเวลาสกรูหล่นหายอีกต่างหาก
ใครที่ทำงานเกี่ยวกับไฟฟ้าอาจสงสัยว่า ไขควง แม่เหล็ก มันจะมีผลต่อวงจรไหม? คำตอบคือ ขึ้นอยู่กับประเภทงานครับ ในงานแรงดันต่ำหรือระบบทั่วไป (เช่น งานเฟอร์นิเจอร์ หรืองานซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน) ไม่มีปัญหาเลย แต่ถ้าเป็นงานอิเล็กทรอนิกส์ที่มีวงจรไวต่อสนามแม่เหล็ก เช่น HDD, PCB หรืออุปกรณ์วัดบางชนิด ควรใช้ ไขควง แบบไม่แม่เหล็ก (Non-Magnetic) เพื่อป้องกันความเสียหาย
ช่างที่ทำงานไฟฟ้าระดับอุตสาหกรรม มักเลือก ไขควง กันไฟฟ้าพร้อมแม่เหล็ก ซึ่งผลิตจากวัสดุฉนวนพิเศษ เช่น VDE certified ที่มีแรงดูดสกรูเหมาะสมและยังปลอดภัยต่อกระแสไฟ
เคล็ดลับการดูแล ไขควง แม่เหล็ก ให้ใช้งานได้ยาวนาน
- อย่าโดนความร้อนสูงเกินไป – ข้อนี้หลายคนอาจไม่รู้ครับ แต่จริง ๆ แล้ว “ความร้อน” คือศัตรูตัวร้ายของแม่เหล็กเลยนะ เพราะถ้าโดนความร้อนสูงเกินไป แรงดูดจะค่อย ๆ หายไปแบบไม่รู้ตัว เหมือนมีพลังแต่ใช้ไม่ออก ดังนั้นถ้าเพิ่งขันงานที่ต้องใช้เป่าลมร้อนหรืออยู่ใกล้เตาไฟ อย่าเพิ่งเอาไขควงแม่เหล็กไปแปะไว้ใกล้ ๆ รอให้เย็นก่อนค่อยใช้งานดีกว่าครับ
- หลีกเลี่ยงการกระแทกแรง ๆ – ไขควง แม่เหล็ก ก็เหมือนเพื่อนร่วมงานดี ๆ ที่ถ้าโดนโยนบ่อย ๆ ก็พังได้ครับ การตกกระแทกแรง ๆ จะทำให้ตัวแม่เหล็กภายในหลุดหรือเสื่อมแรงได้ไวกว่าเดิม เพราะงั้นเวลาใช้งานเสร็จ อย่าปล่อยให้กลิ้งตกโต๊ะหรือโยนรวมกับเครื่องมืออื่น ควรเก็บไว้ดี ๆ จะได้อยู่กับเราไปนาน ๆ
- เก็บให้ห่างจากอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์สำคัญ – เรื่องนี้อย่าเผลอครับ! เพราะแรงแม่เหล็กจากปลาย ไขควง อาจไปรบกวนอุปกรณ์บางอย่าง เช่น HDD, แถบบัตรเครดิต, หรือแม้แต่การ์ดเข้าระบบต่าง ๆ เคยมีคนวางไขควงแม่เหล็กไว้บนโต๊ะทำงานใกล้โน้ตบุ๊ก แล้วจู่ ๆ ฮาร์ดดิสก์มีปัญหาเฉยเลย เพราะงั้นเก็บแยกไว้หน่อย สบายใจกว่าเยอะ
- หมั่นเช็ดทำความสะอาดปลายไขควง – ระหว่างทำงาน มักจะมีเศษเหล็กหรือฝุ่นโลหะเล็ก ๆ ติดปลายไขควงอยู่เสมอครับ ถ้าปล่อยไว้นาน มันจะสะสมจนแรงดูดลดลงหรือขันสกรูได้ไม่แม่น เพราะสกรูไปติดเศษฝุ่นแทนที่จะติดแม่เหล็ก ใช้ผ้าสะอาดเช็ดทุกครั้งหลังใช้งานแป๊บเดียวเอง แต่ช่วยยืดอายุไขควงแม่เหล็กได้ยาวเลยครับ
ช่างรุ่นเก่าก็ใช้ ช่างรุ่นใหม่ก็รัก
รุ่นพี่ช่างไฟที่เรารู้จักเคยพูดไว้ว่า
“ไขควง แม่เหล็ก ไม่ได้แพงกว่ามาก แต่ช่วยให้ไม่ต้องเสียอารมณ์กับเรื่องเล็ก ๆ ระหว่างงาน”
จริงครับ เพราะเวลาในงานช่างคือเงิน ถ้าคุณต้องเสียเวลาหาน็อต หรือขันซ้ำเพราะสกรูหลุด ความคุ้มของไขควงแม่เหล็กจะเห็นชัดเจนในไม่กี่วัน
และอย่าลืมว่า ไขควง แม่เหล็ก ดี ๆ อย่างของแบรนด์ชั้นนำ เช่น Wera, Knipex, มักมีการออกแบบด้ามจับตามหลักสรีรศาสตร์ (Ergonomic Grip) ทำให้จับถนัด ไม่ลื่น และช่วยลดแรงเมื่อใช้ต่อเนื่องนาน ๆ
สรุป
เมื่อก่อนเราก็คิดว่า ไขควง ธรรมดา กับ ไขควง แม่เหล็ก คงไม่ต่างกันมากนัก จนกระทั่งได้ลองทำงานจริงในพื้นที่จำกัด และต้องขันสกรูหลายร้อยตัวในหนึ่งวัน ตอนนั้นเองถึงเข้าใจว่า “ของเล็ก ๆ” นี่แหละที่ช่วยให้ทั้งงานเร็วขึ้น ประหยัดแรง และลดอุบัติเหตุเล็ก ๆ ที่ไม่จำเป็นได้
เลือก ไขควง เพิ่มเติม