Customers Also Purchased
เวลาที่เราเดินเข้าไปในร้านขายเครื่องมือช่าง ร้านขายพวกเครื่องจักรอุตสาหกรรม หรือแม้แต่เลื่อนหา มอเตอร์ไฟฟ้า ในอินเตอร์เน็ต หลายๆคนน่าจะเคยเห็นสเปกที่พิมพ์อยู่บนป้ายชื่อ (Nameplate) ของ มอเตอร์ไฟฟ้า ว่า IE1, IE2 หรือ IE3 กันมาบ้างใช่ไหมครับ?
ตอนแรกที่เราเห็นตัวเลขพวกนี้ก็แอบงงเหมือนกันว่า…มันคือรุ่นเหรอ? หรือเป็นอะไร? พอได้ไปลองใช้งานจริง ๆ ถึงได้เก็ทว่า ไม่ใช่ตัวเลขรุ่นหรืออะไรหรอกครับ แต่มันคือ มาตรฐานประสิทธิภาพของมอเตอร์ไฟฟ้า ซึ่งเอาจริง ๆ นี่แหละคือสิ่งที่คนส่วนใหญ่มักมองข้ามไป ทั้งที่มันมีผลกับการใช้งานโดยตรงเลยก็ว่าได้
เพราะตัวเลขพวกนี้แหละครับ ที่บอกได้ว่า มอเตอร์ไฟฟ้า เครื่องนั้นจะกินไฟมากหรือน้อย คุ้มค่ากับเงินที่จ่ายหรือเปล่า แถมยังส่งผลต่อการบำรุงรักษาระยะยาวด้วย ใครที่เคยคิดว่า “ขอแค่แรงม้าถึงก็พอแล้ว” อาจต้องคิดใหม่เลยครับ
จุดเริ่มต้นของตัวเลข IE มอเตอร์ไฟฟ้า
ก่อนอื่นต้องเล่าให้เข้าใจก่อนครับว่า IE จริง ๆ มาจากคำว่า “International Efficiency” เป็นมาตรฐานสากลที่ใช้จัดอันดับ “ค่าประสิทธิภาพการใช้พลังงาน” ของ มอเตอร์ไฟฟ้า ซึ่งถูกกำหนดโดย IEC (International Electrotechnical Commission) องค์กรระดับโลกที่คอยดูแลเรื่องมาตรฐานไฟฟ้า และอิเล็กทรอนิกส์นั่นเองครับ
ถ้าให้นึกภาพง่าย ๆ ก็เหมือนกับ สติกเกอร์เบอร์ 5 ที่เราเห็นบนเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้าน เพียงแต่พอมาถึงโลกของ มอเตอร์ไฟฟ้า ไม่ได้ใช้ดาว ไม่ได้ใช้เบอร์ แต่ใช้รหัสแทน เช่น IE1, IE2, IE3 และปัจจุบันก็มีถึง IE4 แล้ว เอาไว้บอกเลยว่า มอเตอร์ไฟฟ้า เครื่องนั้นกินไฟมากหรือน้อยแค่ไหน ประหยัดจริงหรือเปล่า
พูดง่าย ๆ ก็คือ ถ้าเจอมอเตอร์ที่เป็น IE สูง ๆ มันก็เหมือนกับการซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีเบอร์ 5 นั่นแหละครับ ใช้งานไปนาน ๆ ประหยัดค่าไฟกว่า แถมยังมั่นใจได้ว่าตัวมอเตอร์ถูกออกแบบมาให้มีคุณภาพและความทนทานในระยะยาวอีกด้วย
ความแตกต่าง IE1 IE2 IE3 IE4 ของ มอเตอร์ไฟฟ้า
IE1: Standard Efficiency
มอเตอร์ไฟฟ้า ระดับนี้ถือว่าเป็น “รุ่นพื้นฐาน” เลยครับ เหมือนกับโทรศัพท์เครื่องแรก ๆ ที่ทำได้แค่โทรออก-รับสาย ไม่ได้หวือหวาอะไร เรื่องการกินไฟก็กลาง ๆ ไม่ได้ประหยัด แต่ก็ไม่ได้แย่สุด ถ้าเอาไปใช้กับงานที่ไม่ต้องทำงานทั้งวัน เช่น เครื่องสูบน้ำเล็ก ๆ หรือเครื่องจักรที่เปิดบ้างปิดบ้าง ก็ยังพอไหวครับ แต่ต้องบอกตรง ๆ ว่าในหลายประเทศเริ่ม “เลิกใช้” IE1 ไปแล้ว เพราะถ้าเอาไปใช้กับงานที่วิ่งยาว ๆ มันสิ้นเปลืองค่าไฟเกินไปเมื่อเทียบกับรุ่นใหม่ ๆ
IE2: High Efficiency
พอขยับมาที่ IE2 จะเริ่มเห็นความแตกต่างเลยครับ มอเตอร์ไฟฟ้า กลุ่มนี้เรียกว่าเป็น “พระเอกในโรงงาน” เลยก็ว่าได้ครับ เพราะสมดุลดีมาก ระหว่าง ราคาไม่แรงเกินไป กับ ประสิทธิภาพที่ดีกว่า IE1 แบบชัดเจน การดูแลก็ไม่ได้ยุ่งยากอะไร คนในโรงงานส่วนใหญ่เลือก IE2 เพราะใช้ได้กับงานต่อเนื่องทั้งวันทั้งคืนโดยไม่ทำให้บิลค่าไฟบานเกินไปนั่นเอง
IE3: Premium Efficiency
มาถึงตัวนี้ต้องบอกเลยว่าเป็น “สายประหยัดตัวจริง” หลายประเทศ โดยเฉพาะแถบยุโรปกับอเมริกา ถึงขั้นออกกฎหมายบังคับให้โรงงานใช้ IE3 กันเลยทีเดียว จุดแข็งชัดเจนครับ ประหยัดไฟกว่า IE2 แบบเห็นได้จริง ถึงแม้ราคามอเตอร์จะสูงกว่าตั้งแต่แรก แต่ถ้ามองระยะยาว บอกเลยว่า คุ้มมาก เราเคยเห็นโรงงานที่ลงทุนเปลี่ยนมาใช้ IE3 ทั้งระบบ ปรากฏว่าค่าไฟลดลงทีเดียวหลายหมื่นบาทต่อเดือน แค่ปีเดียวก็คุ้มทุนแล้วครับ
IE4: Super Premium Efficiency
IE4 ยังไม่ใช่พระเอกของตลาดบ้านเราเท่าไหร่ แต่กำลังเป็น “อนาคตของ มอเตอร์ไฟฟ้า” เลยครับ เพราะนี่คือรุ่นที่มีประสิทธิภาพสูงสุดในตอนนี้ เหมาะกับโรงงานใหญ่ ๆ ที่ต้องการลดต้นทุนพลังงานแบบจริงจัง ถึงราคาจะสูงกว่ารุ่นอื่น แต่ถ้าดูจากเทรนด์ทั่วโลกแล้ว IE4 กำลังมาแรงมาก และอีกไม่นานน่าจะกลายเป็นมาตรฐานใหม่ที่ทุกคนต้องหันมาใช้แน่นอนครับ
ประสบการณ์จริง : ค่าไฟที่มองไม่เห็น
เราเคยทำงานอยู่ในโรงงานแห่งหนึ่งที่ใช้ มอเตอร์ไฟฟ้า ขับสายพานลำเลียงทั้งโรงงานครับ ตอนนั้นฝ่ายจัดการเสนอให้เปลี่ยนจากมอเตอร์ IE2 ไปเป็น IE3 บอกตรง ๆ เลยว่าตอนแรกหลายคน รวมถึงตัวเราเองก็มองว่า “เอ๊ะ…จะเปลี่ยนทำไม? ของเก่าก็ยังหมุนได้อยู่” แถมราคาของ IE3 ก็สูงกว่า IE2 แบบเห็นได้ชัด ๆ ด้วย
แต่พอเปลี่ยนจริงแล้วใช้งานครบแค่ 6 เดือน ค่าไฟที่ลดลงนี่บอกเลยว่าเกินครึ่งของราคา มอเตอร์ไฟฟ้า ที่ลงทุนไปเลยครับ พอเห็นตัวเลขจริง ๆ บนบิลค่าไฟ ทุกคนเงียบเลย (ฮ่า ๆ) จากที่เคยค้านกัน กลายเป็นว่าทุกฝ่ายยอมรับเต็มที่
เหตุการณ์นั้นทำให้เราได้เรียนรู้ว่า มอเตอร์ไฟฟ้า ไม่ใช่แค่ซื้อมาให้มันหมุนได้อย่างเดียว แต่ต้องคิดยาว ๆ ถึง ความคุ้มค่าในระยะยาว ด้วย เพราะบางครั้งสิ่งที่เรามองไม่เห็น อย่างค่าไฟ ต่างหากที่เป็นตัวกินเงินเราแบบเงียบ ๆ หลักการทำงานของ มอเตอร์ไฟฟ้า ที่คุณอาจไม่เคยรู้มาก่อน
แล้วถ้าเราลองถามตัวเองกลับไปอีกสักนิดว่า…จริง ๆ แล้ว “หลักการทำงานของ มอเตอร์ไฟฟ้า ที่คุณอาจไม่เคยรู้มาก่อน” มันเป็นยังไงกันแน่? คำตอบนี่แหละครับ ที่จะทำให้เราเข้าใจว่าทำไมมอเตอร์บางตัวถึงกินไฟมาก บางตัวถึงประหยัดกว่า และทำไมมาตรฐาน IE ถึงสำคัญกับเราในทุก ๆ วัน
ความเข้าใจผิดบ่อยๆ เกี่ยวกับ มอเตอร์ไฟฟ้า
มอเตอร์ไฟฟ้า IE3 แพง ไม่คุ้ม จริง ๆ แล้ว มอเตอร์ไฟฟ้า IE3 อาจจะแพงกว่ารุ่นอื่นๆ ตอนจ่ายเงินครั้งแรกก็จริงครับ แต่ถ้าดูยาว ๆ กลับคุ้มมาก ๆ เพราะค่าไฟที่ประหยัดได้ในแต่ละเดือน รวม ๆ กันแล้วเกินกว่าราคามอเตอร์เสียอีก ผมเคยเห็นโรงงานที่เปลี่ยนมาใช้ IE3 ทั้งระบบ บอกเลยว่าค่าไฟลดลงจนคืนทุนในไม่กี่เดือนเท่านั้นเองครับ
ใช้ มอเตอร์ไฟฟ้า IE1 ก็หมุนเหมือนกัน ใช่ครับ มอเตอร์ทุกตัวก็ทำหน้าที่หมุนเหมือนกันหมด แต่สิ่งที่ต่างกันชัดเจนคือ มันกินไฟไม่เท่ากัน นี่แหละครับจุดที่หลายคนมองข้าม เวลาใช้งานสั้น ๆ อาจไม่รู้สึก แต่ถ้าเป็นงานที่หมุนทั้งวันทั้งคืน ค่าไฟนี่ต่างกันแบบเห็นได้ชัดเลยครับ
IE คือแค่รหัสรุ่น ไม่ใช่เลยครับ หลายคนเข้าใจผิดว่า IE เป็นรหัสรุ่นเหมือนโทรศัพท์มือถือ แต่จริง ๆ แล้วมันคือ มาตรฐานระดับสากล ที่เอาไว้บอก “ค่าประสิทธิภาพการใช้พลังงาน” ของมอเตอร์ไฟฟ้า เวลาเห็นว่าเป็น IE2, IE3 ก็มั่นใจได้ทันทีว่ามันประหยัดไฟกว่ารุ่นล่าง ๆ และที่สำคัญคือเปรียบเทียบกันได้ทั่วโลก ไม่ว่ามอเตอร์นั้นจะมาจากยุโรป ญี่ปุ่น หรืออเมริกา
"แล้วคุณล่ะ เคยสังเกตหรือยังว่า มอเตอร์ไฟฟ้า ที่ใช้อยู่ตอนนี้อยู่ในระดับ IE ไหน? ถ้ายังไม่รู้ ลองไปส่อง Nameplate ดูสิครับ บางทีคุณอาจเจอคำตอบใหม่ ๆ ที่ไม่เคยคิดมาก่อนก็ได้"
เลือก มอเตอร์ไฟฟ้า เพิ่มเติม