หัวแร้งบัดกรี ไม่ติด! สาเหตุที่แท้จริง มาจากไหน?

Customers Also Purchased

เวลาเดินเข้าร้านเครื่องมือ หรือแหล่งขายอุปกรณ์ช่าง อุปกรณ์ไฟฟ้า หรืองาน DIY สิ่งหนึ่งที่ผมจะเห็นวางเรียงเป็นแถว ๆ บนชั้น ก็คงจะเป็น หัวแร้งบัดกรี ครับ และมันก็จะถูกหยิบขึ้นมาอยู่เสมอ ทำให้ผมคิดว่า ก็ดูเป็นเครื่องมือที่ใช้กันอย่างแพร่หลายนะ แล้วมันก็เป็นอย่างนั้นจริง ๆ ครับ บนโต๊ะของช่างไฟ ช่างซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้า หรือช่างทำท่อ และยังรวมไปถึงคนทำเครื่องประดับอย่างเครื่องเงิน และโลหะต่าง ๆ หัวแร้งบัดกรีนั้น ถือว่าขาดไม่ได้เลย หัวแร้งบัดกรี คืออะไร ใช้ทำอะไรบ้าง?

หัวแร้งบัดกรี ไม่ใช่แค่แท่งเหล็กร้อน ๆ นะครับ แต่เป็นเหมือนเครื่องมือที่สะท้อนความละเอียดอ่อนของผู้ใช้ บ่อยครั้งที่ช่างจะหยิบมันขึ้นมา แล้วแตะไปที่ตะกั่ว กลับพบว่ามันไม่ละลาย หรือกดไปที่ชิ้นงานแล้วไม่ติด บางครั้งก็ใช้ความร้อนเต็มที่จนผลงานเลอะเทอะ ไหลไม่สวย เรื่องเล็ก ๆ แบบนี้แหละครับที่ทำให้หลายคนเริ่มตั้งคำถามว่า จริง ๆ แล้วปัญหามันอยู่ที่การใช้งานของเรา หรือว่าอยู่ที่อุปกรณ์กันแน่

ความจริงคือ ปัญหาไม่ได้มาจากปัจจัยใดปัจจัยหนึ่งเพียงอย่างเดียว แต่ซ่อนอยู่ในรายละเอียดเล็ก ๆ ที่เรามักจะละเลยไป บางครั้งอาจเป็นที่หัวแร้งบัดกรีที่ไม่ได้รับการดูแล หรือบางครั้งก็เป็นที่วิธีการใช้ของเราเอง แต่ที่แน่ ๆ คือ สาเหตุ จริง ๆ นั้น ซ่อนอยู่ในรายละเอียดเล็ก ๆ

ในบทความนี้ผมจะมาเล่า พร้อมเจาะลึกทีละประเด็นแบบคร่าว ๆ ว่าทำไม หัวแร้งบัดกรี ถึงกดไม่ติด หรือเชื่อมไม่ประสาน เป็นที่เรา หรือเป็นที่เครื่องมือกันแน่ แล้วมีวิธีแก้ไขยังไงบ้าง ให้งานไม่เสีย ไม่พัง หรือต้องซื้อของใหม่ แล้วทิ้งอันเดิมไป

หัวแร้งบัดกรี ไม่ติด เป็นที่เครื่อง หรือที่ตัวเรา? 

หลายคนตั้งคำถามเสมอว่า เวลาบัดกรีไม่ติดนั้น เป็นเพราะเครื่องมือไม่ดี หรือเพราะพฤติกรรมของเราเอง ซึ่งจริง ๆ แล้ว ทั้งสองอย่างมีส่วนครับ มีทั้งปัจจัยจากตัวเครื่องมืออย่างหัวแร้งบัดกรีเอง และทั้งจากผู้ใช้ด้วย

ปัจจัยจากเครื่องมือ เช่น หัวแร้งบัดกรีไม่ได้มาตรฐาน ความร้อนไม่ถึง หรือไม่คงที่ และปลายหัวแร้งที่สกปรก หรือสึกหรอ ล้วนเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้การถ่ายเทความร้อนไปยังชิ้นงานไม่ดี ส่งผลให้การบัดกรีไม่ติดตามที่ต้องการ

ปัจจัยจากผู้ใช้ เช่น เทคนิคการไม่ทำความสะอาดปลายหัวแร้ง ใช้งานไม่พัก เปิดทิ้งไว้ และการเลือกใช้ฟลักซ์ไม่เหมาะสมกับงาน ต่างก็เป็นปัจจัยที่ทำให้การบัดกรีไม่สมบูรณ์ได้เช่นกัน

หัวแร้งบัดกรี ไม่ติด สาเหตุที่แท้จริง มาจากไหน

ปัญหาหลัก ๆ ที่ทำให้ หัวแร้งบัดกรี เชื่อมไม่ติด 

หลายครั้งที่คนใช้หัวแร้งบัดกรี ใหม่ ๆ อาจงงว่าทำไมบัดกรีไม่ติดทั้งที่หัวแร้งก็ดูร้อนแล้ว หรือบางคนใช้งานไปนาน ๆ แล้วอยู่ดี ๆ ก็ประสานได้ไม่ดีเท่าเดิม ยิ่งพยายามก็ยิ่งไม่ได้ผล ปัญหาะพวกนี้ไม่ได้มาจากแค่เรื่องความร้อนอย่างเดียวครับ แต่ยังเกี่ยวกับความสะอาดของปลายหัวแร้งบัดกรี การเลือกใช้ฟลักซ์ ตลอดจนคุณภาพของตะกั่ว และวิธีการใช้งานของคนใช้หัวแร้งบัดกรีเองด้วย มาดูกันครับว่าสาเหตุนั้น มีอะไรบ้าง

1. ปลาย หัวแร้งบัดกรี ดำ หรือสกปรก 

ทำไม หัวแร้งบัดกรี ใช้ไปสักพัก ปลายถึงเริ่มดำ และไม่เงาเหมือนใหม่? จริง ๆ แล้วนี่คือสาเหตุอันดับต้น ๆ ที่ทำให้บัดกรีไม่ติดเลยครับ เพราะเมื่อปลายหัวแร้งสกปรก หรือมีคราบออกไซด์เกาะอยู่ ความร้อนจะถ่ายเทไปยังชิ้นงานได้ยาก ตะกั่วก็จะไม่ละลายในแบบที่เหมาะสม ถึงปลายหัวแร้งจะร้อนเต็มที่ก็ตาม ข้อนี้ สาเหตุอยู่ที่พฤติกรรมผู้ใช้เป็นหลักครับ

วิธีแก้: 

  • หมั่นเช็ดปลายหัวแร้งบัดกรีด้วยฟองน้ำชุบน้ำหมาด ๆ หรือที่ทำความสะอาดแบบใยทองเหลือง
  • หลีกเลี่ยงการปล่อยให้หัวแร้งบัดกรีร้อนเป็นเวลานานโดยไม่ได้ใช้ เพราะความร้อนสูงจะทำให้ปลายออกไซด์เร็วขึ้น
  • ใช้ตะกั่วเคลือบปลายหัวแร้งบัดกรีสักนิดนึง หลังใช้งานทุกครั้ง ช่วยในการยืดอายุ และรักษาความร้อนให้ถ่ายเทได้ดีขึ้น

2. ความร้อนสวิง หัวแร้งบัดกรี ร้อนไม่คงที่ 

เคยไหมครับ? ที่หัวแร้งบัดกรี ตอนใช้ใหม่ ๆ มันให้ความร้อนดีมาก ๆ แต่พอใช้ ๆ ไปสักพักความร้อนกลับลดลง หรือดิ่งลงเหว บางครั้งพอจะบัดกรีใหม่ชิ้นงานก็ไม่ติด หรือบัดกรีออกมาไม่สวย สาเหตุนี้มักเกิดจาก การใช้ หัวแร้งบัดกรีราคาถูก ที่ควบคุมอุณหภูมิไม่ได้ครับ หรือองค์ประกอบภายในเสื่อมสภาพจนจ่ายความร้อนได้ไม่คงที่ ปัญหานี้ หลัก ๆ จะอยู่ที่ตัวเครื่องมือครับ

วิธีแก้: 

  • ถ้างบถึง แนะนำให้ใช้หัวแร้งบัดกรี ที่ปรับอุณหภูมิได้ หรือ แบบ Station เพราะหัวแร้งบัดกรีประเภทนี้ จะควบคุมความร้อน หรืออุณหภูมิ ได้เสถียรกว่า
  • เลือกหัวแร้งที่กำลังวัตต์เหมาะสมกับงาน เช่น 30-40W สำหรับงานอิเล็กทรอนิกส์ และ 60W ขึ้นไปสำหรับงานสายไฟใหญ่
  • หมั่นพักหัวแร้งเมื่อใช้งานต่อเนื่องนาน ๆ เพราะการใช้งานหนัก ๆ อาจทำให้ความร้อนตกอย่างรวดเร็ว

3. การใช้สารฟลักซ์ไม่ถูกต้อง 

อีกหนึ่งปัญหาที่เจอบ่อย และเป็นอีกหนึ่งปัญหาหลัก ๆ เลย ที่ทำให้หัวแร้งบัดกรี เชื่อมไม่ติด คือ การไม่ใช้ฟลักซ์เลย หรือใช้ผิดประเภทครับ

มือใหม่อาจยังไม่รู้ว่าฟลักซ์คืออะไร ดังนั้น ผมจะอธิบายคร่าว ๆ ครับ ว่าฟลักซ์กับ หัวแร้งบัดกรี และตะกั่วบัดกรี คือสามส่วนที่งานบัดกรีขาดไม่ได้ ฟลักซ์คือสารเคมีที่ช่วยทำความสะอาดผิวโลหะก่อนการบัดกรี และช่วยให้ตะกั่วไหลติดผิวงานได้ดีขึ้น ฟลักซ์มีหลายประเภท โดยงานเชื่อมอาร์คบางประเภทก็ต้องใช้ฟลักซ์ด้วยเช่นกัน

แต่สำหรับงานบัดกรีแล้ว ฟลักซ์ที่ใช้จะเป็นของเหลว คล้าย ๆ ยาทา หรือน้ำมัน มีตะกั่วบัดกรีบางชนิดที่เคลือบฟลักซ์ หรือมีฟลักซ์ในตัวอยู่แล้ว ทำให้ไม่ต้องซื้อเพิ่มให้ยุ่งยากครับ หาซื้อได้ตามร้านทั่วไปเลย และราคาก็ไม่แพงมาก

แต่ถ้าไม่ใช้ฟลักซ์ หรือใช้ฟลักซ์ที่ไม่เหมาะสมกับงาน เช่น ไปใช้ฟลักซ์น้ำมันกับงานอิเล็กทรอนิกส์ ก็อาจทำให้บัดกรีไม่ติด หรือสารเคมีกัดกร่อนวัสดุละเอียดอ่อนอย่างวงจรในระยะยาวได้ ดังนั้นทำความเข้าใจเกี่ยวกับสารฟลักซ์ดี ๆ ศึกษาคู่มือ และถามจากผู้เชี่ยวชาญ จะดีที่สุดครับ

วิธีแก้: 

  • ใช้ฟลักซ์ชนิด Rosin สำหรับงานอิเล็กทรอนิกส์
  • ใช้ฟลักซ์ชนิดน้ำมันสำหรับงานบัดกรีท่อ หรือโลหะทั่วไป
  • อย่าลืมทำความสะอาดฟลักซ์ส่วนเกินหลังการบัดกรี เพื่อป้องกันการกัดกร่อน 

สาเหตุอื่น ๆ ที่มักถูกมองข้าม 

นอกจากสามสิ่งหลักที่ผมได้กล่าวไปแล้ว ยังมีอีกมุมอื่น ๆ ของหัวแร้งบัดกรี ที่ส่งผลต่องานบัดกรีโดยตรง แต่ช่างหลายคนกลับละเลย ทั้งที่จริง ๆ แล้ว ปัญหาพวกนี้ แก้ได้ง่ายมาก 

หัวแร้งบัดกรี ไม่ติด สาเหตุที่แท้จริง มาจากไหน

เพราะฉนั้น เรามาต่อกันด้วยรายละเอียดเล็ก ๆ ของการ ใช้งาน หัวแร้งบัดกรี และเลือกอุปกรณ์ ที่มักถูกมองข้ามกันดีกว่าครับ

  • หัวแร้งบัดกรีกำลังวัตต์ไม่เหมาะกับงาน บางคนใช้หัวแร้ง 30W ไปบัดกรีสายไฟใหญ่ ๆ แบบเส้นหนา สุดท้ายก็ตะกั่วไม่ละลาย และไม่ยอมติดลงบนชิ้นงาน เพราะกำลังไฟไม่พอที่จะถ่ายเทความร้อนไปถึงโลหะที่ต้องการบัดกรี ในทางกลับกัน ถ้าใช้หัวแร้ง 100W ไปบัดกรีบอร์ดวงจรเล็ก ๆ ก็อาจทำให้แผ่นวงจรไหม้ได้ง่าย ๆ
  • ปลายหัวแร้งหลวม หัวแร้งบัดกรีบางรุ่นที่เปลี่ยนปลายได้ ถ้าขันไม่แน่น หรือส่วนปลายมีการสึกหรอ ก็จะทำให้ปลายหัวแร้งนั้น ถ่ายเทความร้อนไม่ดี ตะกั่วก็จะละลายยากขึ้น ทำให้บัดกรีติดยาก หรือไม่ติดเลย
  • ตะกั่วคุณภาพต่ำ ตะกั่วที่ไม่ได้มาตรฐาน หรือตะกั่วเก่าที่มีสิ่งสกปรกปะปน ก็อาจทำให้บัดกรีไม่ติดได้ครับ แม้หัวแร้งบัดกรีจะร้อนเต็มที่ก็ตาม 

วิธีแก้ปัญหาแบบมืออาชีพ

มาถึงตรงนี้แล้ว หลายคนอาจคิดว่า งั้นปัญหาหัวแร้งบัดกรีก็คงเป็นอะไรที่เลี่ยงไม่ได้ใช่ไหมครับ? จริง ๆ แล้วไม่ใช่เลย เพราะทุกปัญหามีทางออก แค่เราเข้าใจหลักการ และใช้เทคนิคที่ถูกต้อง ก็ทำให้งานกลับมาสวยงาม และแข็งแรงได้เหมือนเดิม

การแก้ปัญหายังไม่ใช่เพียงเรื่องของเครื่องมือ แต่รวมถึงการปรับวิธีคิด และวิธีทำงานของเราด้วยครับ การบัดกรีนั้นก็เปรียบเหมือนศิลปะเล็ก ๆ ที่ใช้ทั้งความรู้ ความช่างสังเกต และความอดทน ถ้าผสมผสานทั้งหมดนี้เข้าด้วยกัน หัวแร้งบัดกรีที่เคยสร้างปัญหา ก็จะกลายเป็นเครื่องมือที่ทำให้งานออกมาเรียบร้อย ทนทาน และน่าพอใจแล้วครับ เพราะงั้น เรามาดูและย้ำในเรื่องของ เทคนิคคร่าว ๆ เพื่อการบัดกรีที่ไม่สะดุด กันดีกว่าครับ

เลือก หัวแร้งบัดกรี ให้เหมาะกับงาน 

ก่อนเริ่มใช้ หัวแร้งบัดกรี ต้องดูอะไรบ้าง? คำตอบของคำถามนี้ จะส่งผลโดยตรงเลยครับ ว่างานบัดกรีนั้นจะไปรอดหรือไม่ 

  • งานวงจรเล็ก ๆ: หัวแร้ง 25-40W ปลายแหลมเล็ก
  • งานสายไฟ หรือโลหะหนา: หัวแร้ง 60-100W ปลายแบน หรือปลายใหญ่
  • งานต่อเนื่องมืออาชีพ: ใช้หัวแร้งบัดกรี Station ที่ปรับอุณหภูมิได้จะดีที่สุด

ดูแล หัวแร้งบัดกรี ให้ถูกวิธี

  • คลือบปลายหัวแร้งด้วยตะกั่วหลังการใช้งาน
  • ใช้ฟองน้ำชุบน้ำ หรือใยทองเหลืองเช็ดปลาย
  • เก็บหัวแร้งในที่แห้ง ห่างใกลจากน้ำ และความชื้น

เทคนิคการบัดกรีให้ติดง่าย 

  • แตะหัวแร้งที่ชิ้นงานก่อนแล้วค่อยป้อนตะกั่ว
  • ใช้ฟลักซ์ให้เหมาะกับงาน
  • อย่าปล่อย หรือกดหัวแร้งกับงานค้างนานเกินไป เพราะอาจทำให้ชิ้นงานเสียหาย 

หัวแร้งบัดกรี ไม่ติด สาเหตุที่แท้จริง มาจากไหน

สรุป 

หลายครั้งที่เราเจอปัญหา หัวแร้งบัดกรีเชื่อมไม่ติด จริง ๆ แล้วมันไม่ได้เป็นเพราะพฤติกรรมการใช้อย่างเดียวครับ แต่เกิดจากรายละเอียดเล็ก ๆ ที่เรามองข้ามไป ทั้งปลายหัวแร้งที่ดำ ความร้อนไม่คงที่ การเลือกใช้ฟลักซ์ไม่เหมาะสม รวมถึงการเลือกหัวแร้งบัดกรีผิดประเภทกับงาน แต่การแก้ปัญหานั้นก็ไม่ยากเลยครับ แค่เข้าใจ และใส่ใจดูแลเครื่องมือมากขึ้น งานบัดกรีก็จะออกมาสวย ติดแน่น และใช้งานได้นานขึ้นแน่นอน

ผมว่าทุกคนที่เคยใช้ หัวแร้งบัดกรี ต้องเคยหัวเสียกับการเชื่อมไม่ติดแน่ ๆ แต่ถ้ารู้สาเหตุจริงและวิธีแก้ บอกเลยครับว่า งานบัดกรีก็จะไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป