Customers Also Purchased
สำหรับใครที่กำลังเริ่มเข้าสู่โลกของงานช่าง ไม่ว่าจะทำไม้ ทำเหล็ก หรือทั้งสองอย่าง สิ่งแรกที่อาจจะชวนปวดหัวที่สุด ก็คงจะเป็น การเลือกใบตัดนี่แหละครับ ใบตัดนั้นมีหลายชนิด โดยจะมีคุณสมบัติระบุชัดเจน ว่าตัดอะไรได้ และไม่ได้ แต่ คำถามคือ “ทำไมต้องแยกกันมากมายขนาดนั้น?” แล้วสิ่งที่ผมรับประกันได้เลยว่ามือใหม่ หรือคนที่ใช้เครื่องเจียรจนชินแล้ว เจอแน่ ๆ ก็คือ คำถามที่ว่า ใบตัดเหล็ก ทำไมถึงห้ามเอามาตัดไม้?
ผมคิดว่าเราทุกคน เวลาที่ซื้อหรือเลือกเครื่องมือมาใช้งาน หนึ่งความคาดหวังที่มักจะมาพร้อมกับการลงทุนเสมอ ก็คงจะเป็นความอเนกประสงค์ของเครื่องมือนั้นครับ แน่นอนว่า เครื่องมือไฟฟ้าหลายประเภทในปัจจุบัน ก็ตอบโจทย์ตรงนี้ได้เป็นอย่างดี และมักจะถูกจับคู่กับใบ ดอก หรือวัสดุ ขัด ตัด เจาะ ที่ถอดเปลี่ยนได้หลายประเภท ประมาณว่าเครื่องมือเดียวจะตัดอะไร ก็อยู่ที่การเลือกใบนั่นแหละครับ แล้ว ใบตัดเหล็กก็เป็นหนึ่งในนั้น
ในบทความนี้ ผมเลยอยากจะชวนมาเจาะลึกทีละประเด็น ว่าเหตุผลจริง ๆ ที่ห้ามเอาใบตัดเหล็ก มาตัดไม้ มันคืออะไร อันตรายแค่ไหน และถ้าอยากตัดไม้ให้ปลอดภัยจริง ๆ ควรใช้ใบและเครื่องมือแบบไหน มาดูกันครับ
ใบตัดเหล็ก ถูกออกแบบมาไม่เหมือนกับใบตัดไม้
ตอนแรกผมเองก็คิดนะครับว่า มันก็อาจจะตัดได้เหมือนกัน เพราะใบตัดก็คือแผ่นกลม ๆ ที่หมุนด้วยความเร็วสูง แล้วทำไมต้องแยกประเภทให้ยุ่งยากด้วย แต่หลังจากที่ได้ทำความเข้าใจเรื่องนี้ ทั้งทฤษฏีและ เหตุการณ์ในหน้างาน รวมไปถึง 10 ข้อควรระวังในการใช้ ใบตัดเหล็ก ที่มือใหม่ต้องรู้ ก็เข้าใจเลยครับว่าทำไมถึงต้องระวัง และห้ามเอาใบตัดเหล็กมาปนกับงานไม้เด็ดขาด!
โครงสร้างและวัสดุ ของ ใบตัดเหล็ก
ใบตัดเหล็กที่เราเห็นกันทั่วไป เป็นใบสีเข้ม ๆ แผ่นบางๆ มักจะทำจากวัสดุที่เป็น เรซิ่นผสมเม็ดขัด (Abrasive) คล้าย ๆ กระดาษทราย แต่ใช้สำหรับกัดกินเนื้อโลหะโดยเฉพาะ จุดประสงค์ คือการทำให้เกิดแรงเสียดสีสูง ๆ และความร้อนที่จะกัดทะลุผ่านเนื้อเหล็ก ที่แข็ง และเหนียวกว่าไม้มาก ๆ
ซึ่งถ้ามาเทียบกับไม้ มันต่างกันอย่างสิ้นเชิงเลยครับ ไม้เป็นวัสดุที่นิ่มกว่าเหล็กหลายเท่า การออกแบบของใบจึงต้องคำนึงถึงแรงต้านที่ต่ำกว่า และการตัดที่ต้องการความเรียบ ไม่ใช่ความแข็งแรงของเนื้อใบอย่างเดียว

อันตรายจากการใช้ ใบตัดเหล็ก ตัดไม้
สำหรับใครหลายคน เมื่อเข้าใจธรรมชาติของใบตัดเหล็ก และรู้แล้วว่าถ้าเอามาใช้กับไม้ ซึ่งเป็นการใช้ผิดประเภท ผลที่ตามมานั้นก็เห็นได้อย่างชัดเจน และเกิดกับงานโดยตรง แต่บางคนอาจจะยังไม่ได้คำนึงถึงปัญหาอย่างลึกซึ้งมากพอ แค่คิดว่า อยากจะตัดไม้ให้ได้เร็ว ๆ และไม่อยากซื้อใบใหม่ให้เปลืองงบ หรือเสียเวลาเปลี่ยนใบ
ความคิดแบบนี้แหละที่อันตรายครับ การนำใบตัดเหล็กมาตัดไม้นั้น มีข้อควรคำนึงถึงหลายอย่างเลย ทั้งกับงานที่เรากำลังทำ ตัวคุณที่ถืออุปกรณ์ เครื่องมือที่อาจพังจนเสียหาย และรวมไปถึง ตัวใบตัดเหล็กเองด้วย มาดูกันครับว่า ความเสี่ยงเหล่านี้มีอะไรบ้าง
1. เสี่ยง “เตะกลับ” หรือ Kickback
อันนี้เป็นสิ่งที่คนใช้เครื่องเจียรน่าจะรู้กันดีอยู่แล้วครับ Kickback คืออาการที่ใบตัดสะบัดเครื่องมือกลับมาหาผู้ใช้อย่างแรง และกะทันหันมันเป็นสาเหตุของอุบัติเหตุรุนแรงมากมายในหน้างาน
หลายคนที่เคยลองใช้ ใบตัดเหล็ก จะรู้เลยครับว่าถ้าใช้แบบไม่ระวัง หรือใช้กับวัสดุที่ไม่เหมาะสม มันเสี่ยงการเกิด Kickback และกับงานไม้นั้น ก็ยิ่งเสี่ยงครับ เมื่อใช้ใบตัดเหล็กที่ไม่มีฟันรองรับสำหรับกัดไม้ การระบายเศษไม่ดี พอเจอแรงต้านเพียงเล็กน้อย เครื่องก็พร้อมสะบัดใส่ตัวเราทันที ทำให้บาดเจ็บทั้งแขน มือ หรือแม้กระทั่งกระแทกใส่ร่างกายได้ครับ
- เครื่องสะบัดแรงจนควบคุมไม่ได้
- ผู้ใช้อาจเสียหลักจนเกิดการบาดเจ็บ
- งานที่กำลังทำเสียหายทันที
- มีโอกาสที่ใบแตกหรือบิ่นขณะสะบัด
ปัญหาการเกิด Kickback นั้นอาจแก้ได้ง่าย ๆ ด้วยการใช้เครื่องมือที่มีระบบป้องกัน เป็นกลไกของเครื่องมือที่เทคโนโลยีเข้ามาช่วยได้ แต่ก็ยังมีความเสี่ยงด้านวัสดุที่ต่อให้เครื่องดีแค่ไหน ก็แก้ไม้ได้นะครับ
2. ความร้อนสูงจนเกิดควัน หรือเปลวไฟ
อีกเรื่องที่น่ากลัวไม่แพ้การเตะกลับของเครื่องมือ ก็คือเรื่องความร้อนครับ เพราะจากที่พูดไป ใบตัดเหล็ก นั้นใช้แรงเสียดสีสูงมาก พอเอาไปตัดไม้ มันไม่ได้ตัดให้ขาดสะอาด แต่กลับทำให้เนื้อไม้ไหม้ เกิดควัน และบางครั้งอาจติดไฟด้วย
ซึ่งอันนี้ผมเคยเห็นมากับตา ตอนที่ช่างลองทดสอบเอาใบตัดเหล็กไปฝืนตัดไม้เนื้อแข็ง ผลคือควันโขมงทั้งห้องเกือบกลายเป็นเหตุเพลิงไหม้เลย
3. เสี้ยนไม้ และเศษไม้กระเด็น
เวลาตัดไม้ด้วยใบตัดผิดประเภท อย่างการใช้ใบตัดเหล็กนี่แหละครับ จะทำให้เนื้อไม้ไม่ขาดแบบเรียบ แต่แตกเป็นเสี้ยนแทน เพราะใบชนิดนั้ ไม่มีฟันเลื่อย ที่ช่วยกัดเป็นจังหวะ และใช้การเสียดสีเป็นหลัก เนื้อไม้จึงถูกกดฉีก และเผาออก มากกว่าการตัดเรียบ
เสี้ยนพวกนี้อันตรายมาก เพราะสามารถกระเด็นใส่หน้า ใส่ตา หรือตำมือเราได้ง่าย ๆ บวกกับความร้อนจากการเสียดสีอีกด้วย แถมยังเสียงานเพราะผิวไม้ที่ได้อาจมีความขรุขระจนใช้งานต่อไม่ได้
4. ใบตัดเหล็ก สึกหรอเร็วผิดปกติ
หลายคนอาจไม่รู้ครับว่า ใบตัดเหล็ก ที่ออกแบบให้กัดกินโลหะที่แข็ง และเหนียว เมื่อเอามาใช้ตัดไม้ซึ่งมีความ “นุ่ม” และยืดหยุ่นกว่า ใบตัดเหล็กจะสึกหรอในแบบที่ไม่ควรจะเป็น บางครั้งขอบใบอาจแตกหรือบิ่นได้ในทันที ซึ่งนั่นก็จะเพิ่มความเสี่ยงให้ใบแตกกระเด็นในขณะหมุนด้วยความเร็วสูง ผลลัพธ์คือเศษใบที่แหลมคมอาจปลิวใส่ตัวเราได้
ทำไมบางคนถึงยังเอา ใบตัดเหล็ก มาตัดไม้?
ผมเจอบ่อยครับในหน้างาน ที่บางคนก็ยังดื้อใช้ ใบตัดเหล็กกับไม้ ทั้ง ๆ ที่รู้ว่ามันไม่ปลอดภัย บางครั้งก็ยังมีคลิปสาธิต หรือเรื่องเล่าจากวงการช่างที่แชร์กันว่าเคยเกิดอุบัติเหตุจริงเพราะฝืนใช้ พูดกันตรง ๆ คือไม่ใช่เรื่องใหม่เลยครับ แต่ก็ยังมีคนเลือกเสี่ยง

ความเข้าใจผิดนี่แหละครับที่ทำให้หลายคนยังเผลอใช้ใบตัดเหล็กผิดประเภท เพราะคิดว่าเหล็กกับไม้ก็เป็นวัสดุแข็ง ๆ เหมือนกัน จึงน่าจะใช้ใบเดียวกันได้ ซึ่งจริง ๆ แล้วถึงจะตัดได้ แต่คุณภาพงานที่ได้ก็คือ “เสีย” มากกว่าคำว่า “สำเร็จ” และอันตรายที่แฝงอยู่ก็มากจนไม่คุ้มกับการเสี่ยงเลยแม้แต่นิดเดียว
มาดูกันคร่าว ๆ ว่า ความเข้าใจผิดพวกนี้มีอะไรบ้าง ดีกว่าครับ
- “เหล็กตัดได้ ไม้ต้องตัดได้สิ” อันนี้เป็นความเข้าใจผิดแบบคลาสสิกเลยครับ ไม้นุ่มกว่า มันก็ต้องตัดเข้า แต่จริง ๆ เหล็กกับไม้มีคุณสมบัติทางกายภาพต่างกันอยู่พอสมควร โลหะนั้นต้องการแรงเสียดสีสูง แต่ไม้ต้องการการตัดที่เฉือนอย่างนุ่มนวล ไม่ใช่การเผา ดังนั้นตรรกะที่ว่า “ตัดเหล็กได้ ไม้ก็ต้องได้” ใช้ไม่ได้ครับ
- “ใช้แค่ครั้งเดียวคงไม่เป็นไร” อีกหนึ่งความคิดที่อันตรายครับ เพราะอุบัติเหตุเกิดขึ้นจาก “ครั้งเดียว” นี่แหละ บางคนเผลอคิดว่า ลองใช้แค่ตัดไม้แผ่นบาง ๆ คงไม่เกิดอะไร แต่ความจริงคือ Kickback และไฟไหม้ มันไม่ได้เลือกว่าจะเกิดตอนที่คุณใช้ครั้งที่เท่าไหร่ มันพร้อมเกิดได้ทันที
ถ้าจะตัดไม้ ควรใช้อะไรแทน?
ผมว่าถ้าจะตัดไม้ และอยากได้เครื่องมือที่ใช่ และปลอดภัยที่สุด ก็คงจะต้องเปลี่ยนมาใช้เลื่อยวงเดือน กับใบเลื่อยวงเดือนแทน ทั้งไม้เนื้ออ่อน ไม้เนื้อแข็ง หรือแผ่นไม้ประกอบ (MDF, Particle Board) และคุณต้องเลือกใช้ ใบเลื่อยวงเดือนสำหรับไม้ เท่านั้น เพราะใบประเภทนี้ออกแบบให้มีฟันเลื่อยที่คม จังหวะการกัดไม้พอดี และมีร่องสำหรับระบายเศษขี้เลื่อยออกมา ทำให้งานออกมาสวย และปลอดภัย
แต่ถ้าอยากจะตัดไม้เร็ว ๆ ชิ้นไม่ใหญ่ จะเลือกเป็นเลื่อยฉลุ หรือจิ๊กซอก็ได้ครับ
ไม่ควรใช้ เครื่องเจียร กับงานตัดไม้ แม้จะใส่ใบเลื่อยวงเดือนได้
เครื่องเจียร หรือหินเจียร ถูกออกแบบมาเพื่อใช้คู่กับใบตัดเหล็ก หรือใบขัดโลหะเป็นหลัก การเอาเครื่องเจียรมาตัดไม้ด้วยใบเลื่อยวงเดือน ยิ่งอันตรายกว่าเดิมครับ เพราะเครื่องเจียรไม่มีระบบควบคุมการกินเนื้อไม้ที่ปลอดภัย เสี่ยงสะบัดแรง และเกิดไฟได้ง่ายกว่ามากจากการทำงานที่ใช้รอบสูง นี่จึงเป็นเหตุผลที่ช่างมืออาชีพจะเตือนกันตลอดว่า “อย่าใช้เครื่องเจียรตัดไม้” แม้แต่การทดลองเพียงครั้งเดียวก็ไม่ควรเสี่ยง เครื่องเจียรนั้นจะใช้กับงานไม้ได้ดี ในกรณีที่เป็น งานขัดอย่างรวดเร็วด้วย กระดาษทราย หรือจานทรายซ้อนครับ
ใบตัดอเนกประสงค์ (Multi-Material)
ถ้าคุณเจองานที่ต้องตัดทั้งไม้ และโลหะบาง ๆ ในงานเดียว แนะนำให้ใช้เป็น ใบตัดอเนกประสงค์ ที่ผู้ผลิตออกแบบมาเฉพาะครับ ใบแบบนี้มีฟันคาร์ไบด์ที่แข็งแรง และรูปทรงเฉพาะ ทำให้ตัดได้ทั้งเหล็ก และไม้ โดยไม่เสี่ยงอันตรายเท่าใบตัดเหล็กธรรมดา แต่บอกเลยนะครับว่า ใบพวกนี้ก็ต้องใช้เครื่องมือที่ถูกต้องเหมาะสม ไม่ใช่เอามาใส่กับเครื่องเจียร แทนใบตัดเหล็ก แล้วหวังให้มันตัดได้เหมือนกัน
ข้อคิด จากงานจริง
หลายครั้งที่ผมอ่านข่าว หรือฟังเรื่องเล่าจากเพื่อนช่าง จะมีเหตุการณ์ที่พูดตรงกันเลยครับว่า การเอา ใบตัดเหล็ก ไปตัดไม้ คือสาเหตุของอุบัติเหตุใหญ่ ๆ มาแล้ว เช่น เครื่องสะบัดจนช่างบาดเจ็บต้องเย็บหลายเข็ม หรือกรณีที่เกิดไฟลุกจากไม้ที่ถูกเสียดสีจนไหม้ ช่างรุ่นเก่าหลายคนถึงกับย้ำเลยครับว่า อย่าเสี่ยงเด็ดขาด เพราะไม่คุ้มกับความเสียหายทั้งต่อร่างกาย และหน้างาน

สรุป: อย่าเอา ใบตัดเหล็ก มาตัดไม้เด็ดขาด!
จากที่ผมรวบรวมเรื่องราว และหลักการใช้งานจริง ๆ ก็ชัดเจนแล้วนะครับ ว่าการเอาใบตัดเหล็ก มาตัดไม้ คือความเสี่ยงที่ไม่คุ้มเลย อันตรายที่อาจเกิดขึ้นมีได้ตั้งแต่ Kickback, ไฟไหม้, ใบแตกกระเด็น ไปจนถึงการได้งานที่ออกมาไม่สวย และเสียวัสดุไปเปล่า ๆ
ถ้าคุณอยากตัดไม้จริง ๆ แนะนำให้เลือกใบที่ออกแบบมาโดยเฉพาะ เช่น ใบเลื่อยวงเดือนสำหรับไม้ หรือ ใบอเนกประสงค์จากแบรนด์ที่เชื่อถือได้ กับเครื่องมือที่ใช่ เท่านี้ก็ทำให้งานปลอดภัยขึ้นหลายเท่า และยังได้ผลงานที่สวยเรียบร้อยด้วยครับ
จำไว้เสมอว่า ในตัดเหล็ก ใช้กับโลหะเท่านั้น