Customers Also Purchased
เรื่องเล่าจากน้องช่าง
จากไม้ถูพื้นสู่หุ่นยนต์ AI
จำได้เลยค่ะ ตอนเด็ก ๆ ที่บ้านของน้องช่างเวลาแม่จะถูพื้นทีไร ต้องเอากะละมังหรือถังน้ำมา แล้วผ้าถูพื้นก็จะเปียก ๆ ต้องคอยบิดด้วยมือตลอด จนบางทีเล็บหักบ้าง น้ำกระเด็นบ้าง แถมยังเหนื่อยโคตร ๆ แต่พอมาทุกวันนี้ โลกมันเปลี่ยนไปเร็วจริง ๆ จาก “ไม้ถูพื้น” ที่เคยเป็นของจำเป็นที่ทุกบ้านต้องมี ตอนนี้เราเข้าสู่ยุคที่ เครื่องทำความสะอาดอัจฉริยะ ทำงานแทนเราได้แทบทุกอย่าง
และปี 2025 นี้แหละ ที่น้องช่างว่ามันน่าตื่นเต้นสุด ๆ เพราะหลายค่ายผู้ผลิตต่างทยอยเปิดตัวนวัตกรรมใหม่ ๆ ไม่ว่าจะเป็นหุ่นดูดฝุ่นที่มีแขนกล หุ่นถูพื้นที่ซักผ้าม็อบเองได้ หรือเครื่องดูดฝุ่นไร้สายที่ฉลาดขึ้นกว่าเดิม เทคโนโลยีเหล่านี้ไม่ได้ถูกจำกัดอยู่ในงานใดงานหนึ่ง แต่เป็นกระแสโลกที่สะท้อนว่า เครื่องทำความสะอาด กำลังถูกยกระดับขึ้นไปอีกขั้น จนเรียกได้ว่า “แทบเป็นผู้ช่วยส่วนตัว” ของบ้านเลยทีเดียว
ทำไม เครื่องทำความสะอาด ถึงน่าจับตามอง?
ก่อนจะไปลงรายละเอียดของแต่ละเจ้า มาดูสาเหตุกันก่อนว่า ทำไมตลาด เครื่องทำความสะอาด ถึงบูมมากขนาดนี้
- พฤติกรรมคนเปลี่ยน → คนเมืองมีเวลาน้อยลง งานบ้านยิ่งอยากฝากให้เทคโนโลยีจัดการ
- โรคระบาดและสุขอนามัย → โควิดทำให้เรารู้ว่า ความสะอาดคือเรื่องชีวิต ไม่ใช่เรื่องเล็ก ๆ
- เทรนด์ Smart Home → บ้านยุคใหม่อยากเชื่อมทุกอย่างผ่านมือถือและ IoT
- แรงงานบ้านแพงขึ้น → หลายประเทศรวมถึงไทย คนหันมาลงทุนกับเครื่องแทนการจ้างแม่บ้าน
- ตัวเลขตลาดที่โตต่อเนื่อง → รายงานจาก Statista คาดว่า มูลค่าตลาดหุ่นยนต์ทำความสะอาดทั่วโลกจะทะลุ 24 พันล้านดอลลาร์ภายในปี 2030
ดังนั้นเครื่องพวกนี้ไม่ได้เป็นของฟุ่มเฟือยอีกต่อไป แต่เป็น ของจำเป็น ที่คนรุ่นใหม่มองว่า “คุ้มค่ากับเวลาและสุขภาพ”
ขอบคุณภาพจาก : Global Roborock
หุ่นยนต์ดูดฝุ่นที่มีแขนกล Roborock Saros Z70
นี่คือหนึ่งในนวัตกรรมที่ถูกพูดถึงมากที่สุดในปี 2025 เลยค่ะ เพราะ Roborock Saros Z70 ไม่ใช่แค่หุ่นยนต์ดูดฝุ่น แต่ติดตั้ง แขนกลอัจฉริยะ (OmniGrip Arm) ที่สามารถหยิบสิ่งของเล็ก ๆ บนพื้นออกไปได้ก่อนจะเริ่มทำงาน
เปิดตัวครั้งแรกในงาน CES 2025 ที่ลาสเวกัส โดยสร้างความฮือฮาทันทีเมื่อโชว์แขนกลหยิบสิ่งของบนเวทีได้จริง
Business Insider บอกว่ามันใช้ AI มัลติโมดัล มีทั้งเซนเซอร์ 3D, RGB, อินฟราเรด และ Time-of-Flight มาช่วยกันตัดสินใจ → แปลว่ามันรู้ได้ว่า อันไหนคือ “ฝุ่นที่ต้องดูด” กับ “ถุงเท้าลูกคุณ” ที่ควรหยิบออกไปก่อน
ลองนึกภาพวันหนึ่งคุณกลับบ้านมาหลังเลิกงาน เห็นพื้นเต็มไปด้วยเศษขนสัตว์และของเล่นเล็ก ๆ หุ่นตัวนี้จะสามารถกวาดต้อนทุกสิ่งที่เกะกะออกไป แล้วทำความสะอาดได้ทันที เหมือนมีแม่บ้านส่วนตัวที่ทำงานโดยไม่บ่นไม่เหนื่อยเลยค่ะ
NY Post ยังรีวิวด้วยว่า สิ่งนี้จะเข้ามาเปลี่ยนเกมตลาด เพราะก่อนหน้านี้ทุกแบรนด์พยายามแค่ทำให้หุ่นดูดเก่งขึ้น แต่ Saros Z70 บอกเลยว่า “ฉันไม่ใช่แค่ดูด แต่ฉันจัดบ้านด้วย”
ขอบคุณภาพจาก : Global Dreametech
หุ่นถูพื้นที่ซักผ้าม็อบเองได้ Dreame Aqua10 Ultra Roller
อีกหนึ่งไฮไลต์ของปี 2025 คือ Dreame Aqua10 Ultra Roller หุ่นถูพื้นที่ทำสิ่งที่เรารำคาญที่สุดให้หายไป → “การซักผ้าม็อบ”
รุ่นนี้ถูกเผยโฉมครั้งแรกในงาน Dreame 2025 Product Launch Event และถูกนำไปโชว์ต่อที่งาน IFA 2025 ที่เบอร์ลิน ทำให้ได้รับความสนใจจากสื่อและผู้ใช้ทั่วโลก
เครื่องนี้มาพร้อมระบบ Self-Cleaning Roller ที่จะล้างผ้าม็อบไปพร้อม ๆ กับการถูพื้น หมายความว่าม็อบจะสะอาดตลอดการทำงาน ไม่ต้องรอให้เรามายกไปล้างเองหลังเสร็จงาน และนี่คือจุดต่างจากรุ่นก่อน ๆ อย่างชัดเจน
Homes & Gardens วิเคราะห์ว่านี่คือจุดเปลี่ยนสำคัญ เพราะปัญหาของหุ่นถูพื้นรุ่นเดิมคือ พอถูไปเรื่อย ๆ ผ้าสกปรกก็ยังวนซ้ำไปทั่วบ้าน กลายเป็น “ยิ่งถูยิ่งเลอะ” แต่ Aqua10 แก้ปัญหานี้ได้ตรงจุด
ขอบคุณภาพจาก : Ecovacs
All-in-One ตัวจริง Ecovacs Deebot X8 Pro Omni
อีกหนึ่งรุ่นที่ได้รับความสนใจมากในปี 2025 คือ Ecovacs Deebot X8 Pro Omni ซึ่งถูกพัฒนามาให้เป็นเครื่องเดียวที่ทำได้ครบทุกอย่าง
เปิดตัวครั้งแรกในงาน CES 2025 โดยมาพร้อมระบบ OZMO Roller Self-Washing ที่ช่วยให้การถูพื้นสะอาดยิ่งขึ้น
- แรงดูดสูงถึง 18,000Pa → กำจัดฝุ่นและทรายเม็ดเล็ก ๆ ได้อย่างหมดจด
- แท่นอัจฉริยะที่ทำทุกอย่างแทนเรา → เทฝุ่น, เติมน้ำ, ซักผ้าม็อบอัตโนมัติ
- ระบบแผนที่บ้านที่แม่นยำมากขึ้นทุกครั้งที่ใช้งาน
TechRadar บอกว่ามันคือ “ที่สุดของความสะดวกสบาย” เพราะไม่ต้องกังวลเรื่องขนาดบ้านหรือจำนวนห้อง → ตั้งค่าเพียงครั้งเดียวแล้วปล่อยให้จัดการเองทั้งหมด
ถ้าเปรียบเป็นวงการรถยนต์ Deebot X8 ก็เหมือน “รถยนต์ไฟฟ้าระดับพรีเมียม” ที่ครบครัน แตกต่างจาก Roborock ที่เน้นแขนกล Dreame ที่ชูจุดเด่นการซักผ้าม็อบ และ Samsung ที่มาในสไตล์ไร้สาย น้ำหนักเบา พกพาสะดวก
ขอบคุณภาพจาก : Samsung
เครื่องดูดฝุ่นไร้สาย AI Samsung Bespoke AI Jet Lite
ฝั่ง Samsung ก็ส่งไม้เด็ดคือ Bespoke AI Jet Lite เครื่องดูดฝุ่นไร้สายที่ผสมความสะดวกกับความฉลาดของ AI และมีระบบ All-in-One Clean Station ที่ช่วยเก็บฝุ่นและทำความสะอาดถังเก็บโดยอัตโนมัติ
รุ่นนี้ถูกเปิดตัวในงาน Welcome to Bespoke AI 2025 ที่กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ เน้นการโชว์ศักยภาพ AI ในการทำงานร่วมกับ Smart Home Ecosystem
สิ่งที่โดดเด่นคือการจดจำสภาพพื้นผิวได้ เช่น พื้นไม้ พรม หรือกระเบื้อง แล้วปรับแรงดูดให้เหมาะสมเองโดยไม่ต้องกดปุ่มใด ๆ ทำให้ใช้งานง่ายขึ้นอย่างมาก
Vacuum Wars วิเคราะห์ว่านี่คือตัวเลือกที่ดีสำหรับคนที่ไม่อยากพึ่งหุ่นยนต์เต็มรูปแบบ แต่ยังต้องการเครื่องดูดฝุ่นที่ควบคุมเองได้ และเหมาะกับบ้านที่มีพื้นที่ไม่ใหญ่นัก ใช้งานง่ายแต่ให้ผลลัพธ์ที่มืออาชีพก็ยอมรับได้
เทรนด์ใหญ่ AI + IoT + ความยั่งยืน
ถ้ามองกว้าง ๆ ปี 2025 คือปีที่ AI และ IoT กลายเป็นหัวใจของอุตสาหกรรมนี้เลยค่ะ
- AI → ตัดสินใจแทนเรา เรียนรู้พฤติกรรมเจ้าของบ้าน
- IoT → สั่งงานผ่านมือถือ, จับคู่กับระบบ Smart Home อื่น ๆ
- ความยั่งยืน → ผู้ผลิตหันมาใช้วัสดุรีไซเคิล, ออกแบบให้ประหยัดพลังงาน, ใช้น้ำ/ไฟน้อยลง
YourAspire เขียนว่า บริษัททำความสะอาดเชิงพาณิชย์ก็เริ่มใช้ข้อมูล Big Data มาวิเคราะห์พื้นที่ เพื่อลดต้นทุนและวางแผนการทำงานได้แม่นยำกว่าเดิม ส่วน Bullen Online ก็ย้ำว่า “ปีนี้คือปีแห่งการปฏิวัติอุตสาหกรรมทำความสะอาด”
มุมมองจากอุตสาหกรรมโลก
ปัจจุบันเทคโนโลยี เครื่องทำความสะอาด ไม่ได้เติบโตแค่ในบ้าน แต่ยังถูกพัฒนาและใช้งานในหลากหลายภาคส่วนทั่วโลก เช่น โรงแรม โรงพยาบาล และอาคารสำนักงาน ซึ่งต้องการมาตรฐานความสะอาดสูงและลดต้นทุนแรงงาน การนำหุ่นยนต์และ AI เข้ามาช่วย ไม่เพียงยกระดับประสิทธิภาพ แต่ยังทำให้ธุรกิจเหล่านี้ดูทันสมัยและใส่ใจสุขอนามัยมากขึ้น
ตัวอย่างเช่น โรงแรมหรูในญี่ปุ่นเริ่มใช้หุ่นยนต์ดูดฝุ่นอัตโนมัติทำงานร่วมกับแม่บ้าน เพื่อลดเวลาในการจัดการห้องพัก หรือโรงพยาบาลในสหรัฐอเมริกาใช้หุ่นยนต์ฆ่าเชื้อด้วยรังสี UV เพื่อลดความเสี่ยงการติดเชื้อ นี่คือสัญญาณว่าเทคโนโลยีทำความสะอาดกลายเป็นส่วนหนึ่งของโครงสร้างพื้นฐานจริง ๆ แล้ว
จากบ้านสู่โรงงานและอุตสาหกรรม
นวัตกรรมทำความสะอาดไม่ได้หยุดอยู่แค่ในครัวเรือนอย่าง Roborock, Dreame หรือ Samsung เท่านั้น แต่ในฝั่งงานมืออาชีพและอุตสาหกรรมเองก็มีแบรนด์อย่าง Makita, Kärcher และ Nilfisk ที่ผลักดันเทคโนโลยีไปอีกขั้น
- Makita เน้นเครื่องดูดฝุ่นไร้สายอุตสาหกรรม เครื่องล้างแรงดันสูง และระบบ AWS ที่ซิงก์เครื่องมือกับเครื่องดูดฝุ่นแบบอัตโนมัติ ลดฝุ่นในไซต์งานได้จริง
- Kärcher เป็นเจ้าใหญ่ในงานทำความสะอาดเชิงพาณิชย์ มีเครื่องขัดพื้น เครื่องดูดฝุ่นขนาดใหญ่ และระบบรีไซเคิลน้ำล้างพื้นเพื่อลดการใช้น้ำ
- Nilfisk โดดเด่นด้านเครื่องดูดฝุ่นอุตสาหกรรมสำหรับโรงงานและสายการผลิตที่ต้องควบคุมฝุ่นละเอียด
การแยกเซกเมนต์แบบนี้ทำให้เราเห็นชัดว่า “ความสะอาด” เป็นเรื่องใหญ่ทั้งในบ้านและในธุรกิจอุตสาหกรรม ทุกแบรนด์ต่างแข่งขันกันพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อให้เหมาะกับผู้ใช้งานของตัวเอง
อนาคตอีก 10 ปีของเทคโนโลยีทำความสะอาด
น้องช่างมองว่า สิ่งที่เราเห็นในปี 2025 มันยังเป็นแค่ “ก้าวแรก” ของวงการนี้นะคะ อีก 10 ปีข้างหน้า โลกของ “เครื่องทำความสะอาด” น่าจะไปได้ไกลกว่าที่คิดไว้เยอะเลย
1. หุ่นที่ทำได้มากกว่าดูดและถู
ตอนนี้แค่หุ่นที่เก็บของเล็ก ๆ ได้เราก็ว้าวแล้ว แต่ในอนาคตน้องช่างคิดว่ามันอาจจะสามารถ ซักผ้า พับผ้า หรือล้างจานเบื้องต้น ได้ด้วย เพราะบริษัทเทคโนโลยีเริ่มลงทุนในหุ่นยนต์แขนกลที่ทำงานละเอียดขึ้น
2. ระบบเรียนรู้พฤติกรรมเจ้าของบ้าน
อีกหน่อยหุ่นไม่ใช่แค่จำแผนที่บ้าน แต่จะรู้เลยว่า “วันจันทร์–ศุกร์เจ้านายรีบออกไปทำงาน ให้ทำความสะอาดเร็ว ๆ” หรือ “วันเสาร์อยู่บ้านทั้งวัน ควรถูละเอียดกว่าปกติ” → นั่นคือ การทำความสะอาดแบบเฉพาะบุคคล จริง ๆ
3. บ้านที่ดูแลตัวเอง
น้องช่างจินตนาการว่า บ้านในอนาคตอาจจะติดตั้งเซนเซอร์ไว้ทุกที่ → พื้นบอกได้ว่ามีฝุ่น, ห้องครัวบอกได้ว่ามีคราบมัน, ห้องน้ำส่งสัญญาณว่าควรล้าง → แล้วหุ่นหรือระบบทำความสะอาดอัตโนมัติจะเข้ามาจัดการทันที แบบเราไม่ต้องสั่งเลย
4. พลังงานสะอาดและวัสดุยั่งยืน
อีก 10 ปีข้างหน้า น้องช่างมั่นใจว่า เครื่องทำความสะอาด ส่วนใหญ่จะใช้ พลังงานหมุนเวียน เช่น ชาร์จด้วยโซลาร์เซลล์ หรือใช้แบตเตอรี่ที่รีไซเคิลได้ 100% รวมถึงตัวเครื่องทำจากวัสดุ Eco-Friendly เพื่อตอบโจทย์เรื่องสิ่งแวดล้อมที่โลกให้ความสำคัญมากขึ้น
5. หุ่นที่ “คุยกับเราได้จริง ๆ”
ตอนนี้แค่สั่งงานผ่านมือถือหรือเสียงก็ว่าเจ๋งแล้ว แต่อนาคตอาจเป็นการสนทนาโต้ตอบเต็มรูปแบบ เช่น “น้องช่าง วันนี้อยากให้ถูครัวให้ละเอียดหน่อยนะ” → หุ่นก็ตอบ “ได้เลยค่ะ จะจัดการให้ใน 15 นาที” มันคือการมี ผู้ช่วยทำความสะอาดที่เหมือนเพื่อนร่วมบ้าน จริง ๆ
การทำความสะอาดกลายเป็นเรื่องสนุก
น้องช่างว่าการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้มันน่าทึ่งจริง ๆ จากงานบ้านที่เราเคยเบื่อที่สุด วันนี้กลายเป็นเวทีโชว์นวัตกรรมสุดล้ำ ใครจะคิดว่า “เครื่องทำความสะอาด” จะกลายเป็นหัวข้อที่นั่งเล่าได้เป็นเล่มนิตยสาร
และที่สำคัญ มันทำให้เราเหลือเวลาไปทำสิ่งที่รักมากขึ้น จะอ่านหนังสือ เลี้ยงแมว หรือออกไปปั่นจักรยานกับเพื่อน ก็ไม่ต้องห่วงเรื่องบ้านรกอีกแล้วค่ะ