Customers Also Purchased
ปืนกาว เป็นหนึ่งในอุปกรณ์ช่าง และงานประดิษฐ์ที่ผมว่าหลาย ๆ คนน่จะเคยจับตั้งแต่เด็ก ๆ และก็ถูกหยิบขึ้นมาใช้ในงานหลาย ๆ งาน ตั้งแต่งาน ซ่อมแซม DIYเล็ก ๆ น้อย ๆ ไปจนถึงงานช่างมืออาชีพ ใช่ครับ ปืนกาว สามารถใช้กับงานช่างได้เลย แล้วถ้าใช้เป็น มันดีกว่าที่คิดด้วยครับ
ด้วยความที่มันเป็นอุปกรณ์ที่เหมาะกับงานหลากหลาย ใช้ง่าย แห้งติดไวมาก ทำให้ใครหลายคนอาจหยิบมาใช้แบบไม่ลังเล และที่สำคัญ ยังมีความเชื่อผิด ๆ เกี่ยวกับปืนกาวอยู่เต็มไปหมด ซึ่งความเข้าใจผิดพวกนี้แหละครับ ที่อาจทำให้เราพลาดได้ง่าย ๆ เลย เสียงาน เสียเวลา หรือทำให้เกิดอันตรายได้จริง ๆ
ในบทความนี้เราจะมารวบรวมความเชื่อเกี่ยวกับปืนกาวผิด ๆ ที่หลายคนอาจยังเข้าใจอยู่ว่าจริง พร้อมกับความจริงที่อาจทำให้คุณประหลาดใจ แต่จะนำไปสู่การใช้งานได้อย่างถูกต้อง คุ้มค่า และไม่เสียงานแน่นอน
ปืนกาวคืออะไร ใช้งานยังไง?
ก่อนจะไปถึงเรื่องความเชื่อผิด ๆ เรามาทำความเข้าใจกันก่อนดีกว่าครับ ว่า ปืนกาว จริง ๆ แล้วคืออุปกรณ์ไฟฟ้าที่ใช้ความร้อนในการละลายแท่งกาว (Glue Stick) อย่างพวก เรซินปิโตรเลียม หรือเทอร์โมพลาสติก แล้วบีบออกมาเพื่อติดวัสดุต่าง ๆ จุดเด่นคือใช้งานง่าย แห้งเร็ว ติดวัสดุหลายประเภทได้แน่นพอสมควร
ด้วยความสะดวกเหล่านี้ ทำให้ปืนกาวมักจะใช้ในการซ่อมแซมชิ้นงานเล็ก ๆ หรือการประกอบชิ้นงานง่าย ๆ เช่น ผ้า กระดาษ หรือไม้เล็ก ๆ จนทำให้มันเป็นหนึ่งทางเลือกที่ดีพอสมควร สำหรับงานฝีมือ
แต่ก็ใช่ว่าปืนกาวนั้น จะเป็น “กาววิเศษ” ที่ใช้ได้กับทุกงานนะครับ บางครั้งเวลาผมได้ยินใครก็ตาม พูดว่า “มีปืนกาวแล้วจบทุกงาน” ผมก็อดยิ้มกลั้นขำไม่ได้ เพราะความจริงคือก็ยังมีหลายปัจจัยที่มีผลต่อความสามารถในการยิงกาวให้ติด และนี่แหละครับที่ทำให้เกิดความเข้าใจผิด ซึ่งเราจะมาเจาะลึกกันต่อไป
ความเชื่อผิด ๆ เกี่ยวกับ ปืนกาว
หลายครั้งเวลาเราเห็นคนหยิบปืนกาวมาใช้ มันดูง่ายมาก ๆ เสียจน ใครเห็นก็อาจชะล่าใจ แค่เสียบปลั๊ก รอให้ร้อน แล้วกดไกบีบกาวออกมา จริง ๆ แล้วเบื้องหลังการใช้งานปืนกาวนั้นมีรายละเอียดที่คนส่วนใหญ่มองข้ามไปครับ ทั้งเรื่องวัสดุที่เหมาะสม วิธีการบีบกาว ปริมาณที่ใช้ หรือการดูแลรักษา ทุกอย่างล้วนมีผลต่อคุณภาพของงาน ถ้าเชื่อผิด ใช้ผิด ก็อาจทำให้งานที่ตั้งใจทำเสียหายได้โดยไม่รู้ตัว มาดูกันเลยครับว่า ความเชื่อผิด ๆ เหล่านี้มีอะไรบ้าง
1. ปืนกาว ยิงกาวติดได้กับวัสดุทุกประเภท
หลายคน ซื้อปืนกาวมาติดไว้ใช้ที่บ้าน เพราะคิดว่ามันคืออุปกรณ์อเนกประสงค์ หรือไปเห็นคำโฆษณาที่อ้างนู่นอ้างนี่ ว่า ติดไม้ได้ ติดท่อได้ จนคิดว่ากาวร้อนคือคำตอบของทุกการซ่อมแซม แต่รู้ไหมครับว่า กาวร้อนนั้นมักจะมีการใช้งานที่เฉพาะมากกว่ากาวประเภทอื่น?
จริง ๆ แล้วกาวร้อนจะติดแน่นกับวัสดุที่มีรูพรุนเล็ก ๆ หรือผิวสัมผัสที่ไม่ได้เรียบ มัน เงา เช่น ไม้ กระดาษ ผ้า โฟม หรือ พลาสติกบางชนิด แต่ถ้าเอาไปใช้กับโลหะผิวเรียบ ๆ หรือพลาสติกทนความร้อนสูง กาวจะหลุดง่ายมาก ๆ ครับ หลุดง่ายเหมือนแทบไม่มีผลเลย

2. ยิ่งกดกาวออกมาเยอะยิ่งติดแน่น
ตอนเด็ก ๆ ใครเคยใช้กาวน้ำ หรือกาวลาเท็กซ์ติดกระดาษบ้างครับ? ถ้าแผ่นใหญ่ ๆ หรือใช้พื้นที่เยอะหน่อย หรืออาจจะแค่อยากให้ติดเร็ว ๆ หลุดยาก ๆ ก็ต้องใช้ปริมาณกาวเยอะ ๆ ใช่ไหมครับ? พอกาวซึมเข้ากระดาษ ปล่อยไว้จนแห้ง ก็จะติดหนึบคงที่ถาวร แต่รู้ไหมครับ ว่า หลักกการนี้ใช้กับปืนกาวไม่ได้?
บางคนอาจคิดว่าเวลาใช้ปืนกาวแล้วกาวติดไม่แน่น ก็ต้องบีบไกเพื่อเพิ่มกาวเข้าไปอีก แต่ความจริงแล้วปริมาณกาวที่มากเกินไปมีแต่จะทำให้ชิ้นงานเลอะครับ และบางครั้งกาวที่มากเกินไปก็เย็นตัวช้า ทำให้ชิ้นงานขยับหรือเสียรูป ส่งผลตรงกันข้าม แทนที่จะติดแน่นอย่างที่หวัง
ความจริง: การใช้ปืนกาวต้องบีบในปริมาณพอเหมาะ และรีบประกบชิ้นงานให้แน่นในช่วงที่กาวยังร้อน ๆ ถึงจะได้ผลดีที่สุดครับ
3. ปืนกาวไม่อันตราย
ปืนกาวไม่ใช่เครื่องเชื่อม หรือหัวแร้งบัดกรี ก็จริงครับ….แต่นั่นไม่ได้แปลว่าความร้อนที่พอจะละลายกาวแท่งได้นั้น จะไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย บางคนมองว่าเป็นแค่อุปกรณ์เล็ก ๆ ใช้กาวที่ละลายง่าย แต่จริง ๆ แล้วหัวปืนกาวนั้นมีความร้อนสูงถึง 180-200 องศาเซลเซียสเลยทีเดียวครับ โดนเข้าไปทีนี่ผิวพอง หรือเป็นแผลไหม้ได้เลย
ผมเองก็เคยเผลอไปโดนหัวปืนตอนรีบทำงาน รู้สึกเจ็บจนจำไปนานเลยครับ เลยอยากบอกตรงนี้ว่า เวลาใช้ปืนกาวอย่าประมาทนะครับ
4. กาวแท่งทุกแบบใช้เหมือนกัน
อีกหนึ่งความเชื่อผิด ๆ ที่ทำให้เสียงานกันมานักต่อนัก คือการคิดว่าแท่งกาวทุกรุ่นเหมือนกันหมดครับ ซื้ออะไรมาก็ใช้ได้ เวลาที่เราเลือกซื้อเครื่องมือไฟฟ้าอะไรก็ตามมาใช้งาน สิ่งที่มักจะถูกมองข้ามคือวัสดุสิ้นเปลืองนี่แหละครับ หลายคนอาจคิดว่าเครื่องแรงไว้ก่อน แล้วเติมอะไรเข้าไปก็ได้ เช่นการเลือกสว่านดี ๆ แต่ไม่ได้สนใจดอกสว่านเลย ปืนกาวก็เช่นกันครับ
ความจริงแล้ว กาวแท่งนั้นก็มีหลายสูตร ทั้งกาวใส กาวขาว กาวเหลือง หรือกาวชนิดพิเศษสำหรับติดวัสดุเฉพาะ เช่น พลาสติก โลหะ หรือผ้า ถ้าเลือกผิดสูตร ต่อให้ใช้ปืนกาวดีแค่ไหน งานก็พังอยู่ดี
นอกจากนี้ ปืนกาว ก็มีทั้งรุ่นเล็กที่ใช้กาวแท่งขนาดประมาณ 7 มม. และรุ่นใหญ่ที่ใช้กาวแท่งขนาดมาตรฐาน 11 มม. ถ้าเอาแท่งกาวผิดขนาดมาใช้ จะใส่ไม่พอดี บีบกาวไม่ออก หรือทำให้ปืนกาวเสียหายได้เพราะฉะนั้นก่อนซื้อควรตรวจสอบให้ชัดเจนด้วยครับว่าปืนกาวที่คุณใช้นั้น รองรับกาวแท่งขนาดไหน และ ปืนกาว สำหรับงาน DIY และกาวแท่งแต่ละแบบ ต่างกันอย่างไรบ้าง?
5. ปืนกาว ไม่ต้องดูแลก็ใช้ได้เรื่อย ๆ
ความเชื่อที่มักถูกมองข้ามอีกเรื่องคือการดูแลรักษาปืนกาวครับ หลายคนคิดว่าเป็นของราคาถูก ใช้แล้วก็วางไว้ ไม่ต้องใส่ใจอะไรมาก ยังไงก็ทำงานได้เรื่อย ๆ ความจริงแล้วไม่ใช่เลยครับ ถ้าละเลยเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ อย่างการดูแล ปืนกาวอาจพังเร็วกว่าที่คิด และยังทำให้งานเสียไปด้วย
บางคนอาจใช้เสร็จ แล้ววางปืนกาวทิ้งไว้ทั้งที่ยังเสียบปลั๊กอยู่ กาวก็ยังละลายไหลออกมาเรื่อย ๆ จนแข็งคาปากปืน กลายเป็นปัญหาที่ทำให้กดกาวไม่ออกในครั้งต่อไป การดูแลปืนกาวจริง ๆ ไม่ยากเลยครับ แค่ปิดสวิตช์ หรือถอดปลั๊กทุกครั้งหลังใช้ และเช็ดทำความสะอาดคราบกาวออกเสมอ

6. กาวไม่ติด เป็นเพราะคุณภาพของกาวแท่ง
หลายคนเจอปัญหากาวไม่ติด ก็มักจะคิดทันทีว่าเป็นเพราะใช้กาวแท่งที่ไม่เหมาะสม แต่จริง ๆ แล้วมีหลายปัจจัยที่เกี่ยวข้องด้วยครับ เช่น วัสดุที่เลือกใช้ ผิวสัมผัสไม่สะอาดมีฝุ่น คราบมันที่ทำให้กาวเกาะไม่อยู่ หรือแม้แต่การกดประกบชิ้นงานช้าเกินไปจนกาวเย็นตัวเร็ว ก็ทำให้ติดไม่แน่น นอกจากนี้การที่กาวไม่ติดก็อาจเป็นเพราะกาวยังร้อนไม่พอ ทำให้ละลายไม่สมบูรณ์ด้วย
คำแนะนำ: นอกจากการเลือกกาวแท่งที่มีคุณภาพ และสูตรที่เหมาะกับงานแล้ว ควรใส่ใจเรื่องความสะอาดของพื้นผิว และปล่อยให้กาวร้อนพอ และประกบชิ้นงานทันที เพราะต่อให้ใช้ปืนกาวตัวเดียวกัน แต่ถ้าเงื่อนไขไม่เหมาะสม ผลลัพธ์ก็แตกต่างกันอย่างมาก
7. กาวร้อนทุกชนิดเป็นกาวถาวร
สุดท้ายนี้ อีกหนึ่งความเข้าใจผิด ที่ส่งผลกับการเลือกอุปกรณ์ คือความคิดที่ว่ากาวร้อน ที่ออกมาจากปืนกาวทุกชนิดจะติดแน่นถาวรไปตลอด จริง ๆ แล้วไม่ใช่ครับ กาวร้อนมีข้อดี คือใช้ง่ายและติดแน่นในระดับหนึ่ง แต่ไม่ได้หมายความว่าจะทนทุกสภาพแวดล้อม หรืออยู่ได้ตลอดไป ยิ่งถ้าเจอความร้อนสูง แสงแดดจัด หรือแรงดึงซ้ำ ๆ กาวร้อนก็อาจเสื่อมประสิทธิภาพ และหลุดออกได้ง่ายกว่ากาวชนิดอื่น
ตัวอย่าง: ถ้าใช้กาวร้อนติดของที่ต้องวางกลางแดด เช่น ของตกแต่งกลางแจ้ง ไม่กี่สัปดาห์ก็อาจหลุด เพราะกาวร้อนจะละลายง่าย และเสียแรงยึดเกาะเมื่อโดนความร้อนซ้ำ ๆ ดังนั้นปืนกาวจึงเหมาะกับงานชั่วคราว งานฝีมือ หรืองานที่ไม่ต้องรับแรงมาก มากกว่าจะใช้แทนกาวถาวรครับ
ใช้ปืนกาวอย่างถูกต้อง ใช้ยังไง?
มาถึงตรงนี้ เราก็ได้รู้เกี่ยวกับพวกความเชื่อผิด ๆ มาบ้างแล้ว และใช่ครับ ความเชื่อเหล่านี้ส่งผลกับทั้งงาน และทั้งผู้ใช้โดยตรง แต่คำถามต่อมาก็คือ “แล้วควรใช้ปืนกาวยังไงถึงจะไม่เสียงาน?” ผมขอสรุปง่าย ๆ แบบนี้ครับ
เลือกกาวแท่งให้เหมาะกับงาน
งานไม้ ใช้กาวแท่งใส งานผ้า ใช้กาวแท่งขาว งานพลาสติก ให้เลือกสูตรเฉพาะ งานโลหะ ใช้กาวร้อนอย่างเดียวอาจไม่พอ ต้องเสริมกาวอีพ็อกซี่ครับ
กาวแท่งเรซินปิโตรเลียม เหมาะสำหรับงานทั่วไปอย่างติดกระดาษ กล่องบรรจุภัณฑ์ โฟม งานไม้ชิ้นเล็กที่ไม่ต้องรับแรงมาก และงานฝีมือเล็ก ๆ เพราะสูตรนี้ออกแบบมาเพื่อการใช้งานอเนกประสงค์ ไม่เหมาะกับงานที่ต้องการความทนทานสูง หรือติดกับวัสดุผิวเรียบแข็ง
ควบคุมอุณหภูมิ
ปืนกาวบางรุ่น มีปุ่มเลือกโหมด สูง-ต่ำ ก็คือสามารถปรับความร้อนได้นั่นแหละครับ ถ้าใช้กับงานเล็ก ๆ หรือวัสดุอ่อนไหวเช่นผ้า ไม่จำเป็นต้องร้อนมาก ใช้อุณหภูมิต่ำก็เพียงพอครับ
ปลอดภัยไว้ก่อน
- สวมถุงมือกันความร้อน
- ระวังอย่าให้เด็กใช้โดยไม่มีผู้ใหญ่ดูแล
- ใช้เสื่อกันความร้อนรองใต้ปืนกาว ป้องกันกาวหยดเลอะโต๊ะ
สรุป
ปืนกาวเป็นเครื่องมือที่ใช้งานง่ายก็จริง แต่ถ้าเราใช้ไม่ถูกวิธี โอกาสที่งานจะเสียก็สูงขึ้นมากครับ ผมอยากให้ทุกคนมองว่า ปืนกาวเป็นผู้ช่วยที่ดี แต่ไม่ใช่คำตอบของทุกงาน ในหลาย ๆ กรณี ปืนกาวมีประโยชน์สำหรับการซ่อมแซมเล็ก ๆ น้อย ๆ หรือ งานซัพพอร์ตการยึดเกาะให้แน่นยิ่งขึ้น แต่โดยทั่วไปไม่เหมาะกับงานถาวรครับ
ถ้าเลือกใช้กาวแท่งที่ถูกประเภทกับงาน ดูแลรักษาปืนกาวให้ดี และใช้คู่กับอุปกรณ์อื่น ๆ เช่น สกรูยึด หรือตะปู ก็จะทำให้งานออกมาสมบูรณ์มากขึ้นครับ