ทำไม ดอกไขควง บางรุ่นมีสองหัว แล้วใช้กับเครื่องมือต่างกันไหม?

Customers Also Purchased

เรียกได้ว่า ดอกไขควง เป็นหนึ่งในอุปกรณ์ช่างที่เราพบเจอได้บ่อยมาก ๆ ทั้งในร้านขายเครื่องมือ หรือร้ามซ่อมต่าง ๆ ก็ตาม ทุกคนน่าจะรู้ดีอยู่แล้วใช่ไหมครับ? ว่าดอกไขควงที่เอาไว้ใช้กับสกรูนั้นมีหลากหลายมาก และเรามักโฟกัสไปที่ชนิดของหัวดอก เช่น หัวแฉกเอย หัวแบนเอย หรือที่กำลังเป็นที่นิยมอย่างหัวทอร์กซ์

แต่การเลือกดอกไขควงมาใช้กับเครื่องมือนั้น มันมีมากกว่าแค่ชนิดของสกรูที่ใช้ หรือการเลือกหัวให้ถูก และสิ่งที่เราจะมาพูดถึงกันในบทความนี้ คือคุณสมบัติด้านความสะดวก ที่มอง ๆ ดูแล้ว อาจส่งผลโดยตรงกับการใส่ดอกดอกนั้น กับเครื่องมือ อย่างไขควง หรือสว่านไฟฟ้า คำถามที่ผมจะถามคือ เคยเห็นดอกไขควง ที่เป็นก้านสองหัวทั้งต้น และปลาย ไหมครับ? แล้วสงสัยกันไหมว่า ทำไมเขาถึงออกแบบมาอย่างนี้ แล้วแบบนี้มั้นจะใส่แน่นกับหัว Hex ทั่วไป หรือหัวจับสว่านได้ยังไงล่ะ?

ผมอดถามตัวเองไม่ได้ครับว่า ทำไมดอกไขควงบางตัวมันถึงมีหัวเดียว แค่แฉก หรือแบนเรียบ ๆ แต่บางรุ่นกลับทำเป็น “สองหัว” อยู่ในแท่งเดียวกัน ซึ่งตอนที่เห็นครั้งแรกผมก็มองว่ามันเท่ดี แต่คำถามก็ตามมาทันทีครับ ว่า ดอกไขควงสองหัวแบบนี้มันใช้ยังไง ใส่กับเครื่องมือได้เหมือนกัน หรือเปล่า? ในบทความนี้ผมเลยอยากชวนมาเจาะลึกแบบทีละมุมครับ ว่าจริง ๆ แล้วดอกไขควงที่ทำมาให้มีสองหัวนั้น มีเหตุผลเบื้องหลังอะไรบ้าง และมันสะดวก หรือมีข้อจำกัดยังไง 

ดอกไขควง คืออะไร? ทำไมถึงสำคัญนัก 

ก่อนจะไปที่คำถามหลัก ผมว่าลองย้อนกลับมาเริ่มกันที่พื้นฐานกันก่อนครับ “ดอกไขควง” ก็คือส่วนที่ใช้ต่อเข้ากับไขควงหรือสว่านไฟฟ้า เพื่อขันน็อต หรือสกรู ซึ่งถ้าไม่มีเจ้าดอกนี้ เครื่องมือก็ขันสกรูไม่ได้เลยครับ

ประเภทหัวที่เราเจอกันบ่อยแบบคร่าว ๆ 

  • หัวแฉก (Phillips PH) ใช้กันทั่วไปในงานบ้าน งานไม้
  • หัวแบน (Slotted) คลาสสิกสุด ๆ เจอมานานที่สุด
  • หัวดาว/ทอร์กซ์ (Torx T) เอาไว้ขันงานที่ต้องการแรงสูง
  • หัว Robertson (Square) ใช้กับงานเฟอร์นิเจอร์ในบางประเทศ
  • หัวพิเศษ อย่าง Hex หรือ Tri-wing สำหรับอุปกรณ์เฉพาะ 

ผมเชื่อว่าใครก็ตามที่เคยไขสกรูผิดหัว ต้องเคยเจอปัญหา “น็อตบาน” หรือ “หัวดอกเสีย” กันมาบ้าง ซึ่งตรงนี้แหละครับที่ทำให้ดอกไขควงมีความหลากหลายมาก 

แล้ว ดอกไขควง สองหัวคืออะไร? 

ดอกไขควงสองหัว (Double-Ended Screwdriver Bit) คือดอกที่มีหัวขันทั้งสองด้านในแท่งเดียวกัน หลาย ๆ ครั้ง จะเป็นแบบเดียวกันทั้งสองด้าน โดยหลักการคือ เมื่อด้านหนึ่งทู่ หรือบิ่นแล้ว เราจะสามารถสลับไปใช้อีกด้าน โดยเอาด้านที่บิ่นไปใส่กับหัวจับแทน

บางครั้งอาจมีดอกไขควงสองหัวประเภทที่แต่ละด้านนั้นเป็นหัวคนละชนิดกัน สมมติด้านหนึ่งเป็นแฉก PH2 อีกด้านเป็นแบน 5.5 มม. พอใช้งานด้านหนึ่งเสร็จ ก็สามารถพลิกไปใช้อีกด้านได้ เปลี่ยนหัวขันใหม่ได้ โดยไม่ต้องพกหลายดอกให้ยุ่งยาก 

จุดเด่นของ ดอกไขควง สองหัว

  • ประหยัดพื้นที่ บางรุ่นแค่แท่งเดียว ก็ใช้งานได้สองแบบ
  • เปลี่ยนเร็ว หมุนกลับด้าน ก็พร้อมขันต่อได้
  • มีความทนทาน เพราะเป็นเหล็กชิ้นเดียวทั้งหมด 

ทำไม ดอกไขควง บางรุ่นมีสองหัว แล้วใช้กับเครื่องมือต่างกันไหม

ทำไมต้องทำเป็นสองหัว? แค่ความสะดวก หรือมากกว่านั้น?

อย่างที่ผมได้พูดไปในเกริ่นนำ ดอกไขควงสองหัวมันดูเท่ และหลาย ๆ อาจคิดว่ามันไม่ได้จำเป็นอะไรขนาดนั้น ถ้ามองเผิน ๆ อาจจะแค่ทำให้งานสะดวก ไม่ต้องพกหลายดอก หรือการมีดอกสองด้านนั้นเปรียบเหมือนแค่การได้ “ของแถม” แต่ผมว่าจริง ๆ แล้ว เหตุผลที่ดอกไขควงออกมาแบบมาอย่างงี้ มีมิติมากกว่านั้นครับ มาดูกันดีกว่าว่ามีอะไรบ้าง 

เรื่องการใช้งานจริง 

ลองนึกภาพว่าคุณกำลังติดตั้งแอร์บนบันได สูงเกือบสองเมตร แล้วไม่สะดวกพกดอกไขควงขึ้นไปได้หลายชิ้น ถ้าจำเป็นต้องสลับไปใช้ดอกไขควงอีกชนิด คุณจะต้องเสียเวลาในการลงไปค้นดอกใหม่ในกล่องเครื่องมือ

เวลาช่างอยู่ในพื้นที่แคบ ๆ อย่างบนบันได หรือในตู้คอนโทรลไฟฟ้าแบบนี้แหละครับ ที่การเปลี่ยนดอกไปมาอาจไม่สะดวก การมีดอกไขควงสองหัวช่วยแก้ปัญหาเหล่านี้ได้ เรื่องแบบนี้อาจจะดูเป็นเรื่องเล็กนะครับ แต่สำหรับหลาย ๆ คน พอเจอเจริง ๆ ถ้ามีอันเดียวที่แค่สลับได้ มันช่วยลดแรงได้มาก

ด้านต้นทุน และการพกพา 

ถ้าถามว่าอะไรสำคัญรองลงมาจากการใช้งาน เป็นผม ผมคงตอบว่าต้นทุนนี่แหละครับ โดยเฉพาะถ้าเป็นผู้ใช้ทั่วไปไม่อยากซื้อดอกไขควงเยอะ อยากมีอันเดียว แบบใช้ดี ๆ ใช้นาน ๆ การรวมสองหัวในแท่งเดียว อาจตอบโจทย์ความ “คุ้มค่า” ได้เป็นอย่างดีครับ ทั้งเรื่องเงิน และพื้นที่ภายในกล่องเครื่องมือ

การออกแบบของผู้ผลิต 

อันนี้คือสิ่งที่ผู้ผลิตหลาย ๆ แบรนด์ “ตั้งใจ” ทำเพื่อตอบโจทย์ตลาดในปัจจุบันครับ เช่นชุด DIY ที่ขายในห้าง ก็มักมีดอกสองหัวเพื่อให้ผู้ใช้ทั่วไปเอาไปใช้ได้เลยทันที 

ดอกไขควง สองหัว ใช้กับเครื่องมือได้ เหมือนดอกหัวเดียวไหม? 

มาถึงตรงนี้ เราได้รู้จักดอกไขควงสองหัวในแบบที่ลึกขึ้นกันไปแล้ว เรามาดูการใช้งานกันบ้างดีกว่าครับ หลายคนอาจสงสัยว่าถ้าดอกไขควงมีสองหัว แบบนี้จะใช้ได้เหมือนกันไหม? เช่นในกรณีจะเอาดอกสองหัวมาใช้กับสว่าน อย่างผม ก็เคยสงสัยว่า ตัวจับสว่านทั่วไปมันจะใช้ดอกไขควงแบบนี้ได้ดีไหม

คำตอบคือ ได้เกือบทั้งหมดครับ เหมือนกับดอกไขควงทั่วไปเลย แต่ก็ยังมีรายละเอียดบางอย่างที่ต้องรู้ก่อนใช้ ซึ่งเราจะมาดูกันโดยเจาะจงที่เครื่องมือแต่ละประเภท

ใช้กับไขควงมือ 

เมื่อพูดถึงไขควงมือ ที่ไม่ได้ใช้แรงบิดจากมอเตอร์ หรือแรงกระแทกใดๆ ในการขัน หรือไม่จำเป็นต้องคลายสกรูแน่นมาก ๆ แน่นอนว่าใช้ได้ครับ เพียงแค่เสียบเข้ากับด้ามไขควงที่รองรับการเปลี่ยนดอกไขควงได้ แต่ข้อควรระวังคือ ความยาวอาจมากกว่าดอกหัวเดียวเล็กน้อย

ใช้กับไขควงไฟฟ้า/สว่านไฟฟ้า 

ส่วนใหญ่ใช้ได้ไม่มีปัญหาครับ ถ้าเป็นหัวจับดอกที่รองรับ เช่น หัวจับแบบเสียบเร็ว (Hex) หรือหัวสว่านสามขาทั่วไป (3-Jaw Chuck) แต่ควรเลือกความยาวที่เหมาะสม เพราะบางครั้งดอกไขควงสองหัวอาจมีความยาวมากกว่าดอกหัวเดียว

แต่พูดถึงเครื่องมืออย่าง ไขควงกระแทก (Impact Driver) เจ้านี่ออกแบบมาเพื่อส่งแรงบิดสูง ๆ พร้อมแรงกระแทกเสริม ถ้าเราเอา ดอกไขควงสองหัว ที่ไม่ได้ออกแบบมาเพื่อทนแรงกระแทกมาใช้งาน บอกเลยว่ามีโอกาสพังง่ายมากครับ บางทีขันไปได้ไม่กี่ที ดอกอาจจะบิดงอ หัวแตก หรือหักครึ่งกลางคัน ดังนั้นถ้าจะใช้ดอกไขควงสองหัวกับไขควงกระแทก ก็ใช้หลักการเดียวกับการเลือกดอกไขควงสำหรับไขควงประเภทนี้ คือดูว่า เป็น Impact Grade หรือดอกไขควงกระแทกนั่นเอง 

แล้วมันมีข้อเสียบ้างไหม? 

แน่นอนครับว่าดอกไขควงสองหัว มันทั้งสะดวก ดูเท่ และช่วยให้งานบางอย่างเร็วขึ้นจริง แต่เช่นเดียวกับเครื่องมือ และวัสดุทุกประเภท มันก็มีข้อจำกัดเหมือนกันครับ เรามาดูกันคร่าว ๆ ดีกว่าว่าข้อจำกัดเหล่านี้มีอะไรบ้าง

  • อาจไม่มีแบบสั้นเหมือนกับดอกหัวเดียว เพราะต้องเผื่อความยาวให้ทั้งสองด้าน
  • บางครั้งเปลี่ยนยากกว่า ต้องดึงออกจาก หัวจับ เพื่อกลับหัว
  • ถ้าด้านหนึ่งหัก อีกด้านก็อาจใช้งานไม่ได้ เพราะด้านที่หัก คือด้ามจับ
  • ใช้กับพื้นที่แคบไม่สะดวก เพราะหัวที่ไม่ได้ใช้ก็ยังยื่นอยู่

ทำไม ดอกไขควง บางรุ่นมีสองหัว แล้วใช้กับเครื่องมือต่างกันไหม

ดอกไขควง สองหัว เหมาะกับใคร? 

การมี “สองหัว” เป็นการออกแบบที่มีเป้าหมายครับ คำถามก็คือ แล้วใครกันแน่ที่ควรใช้ดอกไขควงสองหัว? มันเหมาะกับช่างมืออาชีพที่ต้องทำงานทุกวัน หรือคนทั่วไปที่แค่มีเครื่องมือไว้ซ่อมบ้านบ้างเป็นครั้งคราวก็ใช้ได้เหมือนกัน? สำหรับผม มันเป็นอุปกรณ์ที่ใช้ได้แทบทุกงานถ้าเป็นงานทั่วไป ที่ไม่ได้เน้นดอกอย่างใดอย่างหนึ่งมากครับ เช่น 

  • ช่างไฟ/ช่างแอร์ ที่ต้องสลับขันแฉก-แบนบ่อย ๆ
  • งานภาคสนาม ที่ต้องพกเครื่องมือให้น้อยที่สุด
  • ผู้ใช้ทั่วไปในบ้าน ที่อยากมีตัวเดียวจบ

แต่ถ้าเป็นงานที่ต้องการความเฉพาะทาง หรืองานที่ใช้ขันสกรูชนิดเดียวยาว ๆ เช่น งานเฟอร์นิเจอร์ งานประกอบเครื่องจักรใหญ่ ๆ ผมว่าเลือกใช้ดอกไขควงหัวเดียวคุณภาพสูง จะคุ้มกว่าครับ ตัดปัญหาเรื่องดอกยาวเกินไป หรือการต้องคอยดึงเข้าออกเพื่อสลับ 

แล้วจะเลือกซื้อยังไงให้คุ้ม? 

  • เลือกตามประเภทหัวทั้งสองด้าน ดูว่างานที่ทำบ่อย ๆ ใช้หัวแบบไหน เช่น ถ้างานไฟบ้าน ใช้แฉก-แบนก็คุ้ม ถ้าเป็นหัวชนิดเดียวกัน เมื่อหัวหนึ่งทู่ แต่ไม่หัก ก็เปลี่ยนไปใช้อีกด้านได้
  • เลือกตามความยาว มีทั้งสั้น 50 มม. ยาว 65 มม. หรือยาวพิเศษ 100 มม. ควรเลือกให้เหมาะกับพื้นที่การขัน
  • เลือกตามวัสดุ ถ้างาน Impact ให้เลือกดอกไขควงที่ทำจาก S2 Steel หรือ HSS จะทนแรงบิดได้ดีกว่าครับ 

ทำไม ดอกไขควง บางรุ่นมีสองหัว แล้วใช้กับเครื่องมือต่างกันไหม

สรุป 

ท้ายที่สุด ผมว่า ดอกไขควงสองหัว ใช้แทบไม่ต่างกับดอกทั่วไปเลยครับ และไม่ใช่สิ่งที่ดีกว่า หรือแย่กว่า แต่เป็น “ทางเลือก” ที่ช่วยให้การทำงานสะดวกขึ้นในสถานการณ์จริงครับ

สำหรับผมเอง ผมว่าการพกดอกสองหัวติดกล่องเครื่องมือไว้ มันช่วยให้ทำงานเร็วขึ้น ยิ่งเวลาต้องทำงานบนบันได หรือที่คับแคบ ไม่ต้องคอยหาดอกอื่นมาเปลี่ยน แต่ในงานละเอียด หรือพื้นที่เล็ก ๆ ผมก็ยังคิดว่าการเลือกดอกหัวเดียวที่เหมาะเจาะ จะทำงานได้ง่ายกว่า เพราะไม่เกะกะครับ 

ถ้าคุณเจอ ดอกไขควง สองหัววางอยู่ในร้านเครื่องมือครั้งหน้า อย่าเพิ่งมองข้ามครับ มันไม่ได้มีไว้ดูเท่ และมันอาจเป็นพระเอกที่ช่วยให้งานของคุณง่ายขึ้นกว่าที่คิดก็ได้