Customers Also Purchased
เคยเป็นกันมั้ยครับ เวลาเลือกหยิบ มีดคัตเตอร์ มาใช้งาน แล้วแอบคิดในใจว่า “ใบมีดคัดเตอร์ มันก็คงเหมือนกันหมด” หรือบางทีก็คิดว่า “ซื้ออันถูก ๆ มาใช้ก่อนล่ะกัน!” ฟังดูเหมือนจะมีเหตุผล แต่จริง ๆ แล้วนี่แหละคือความเข้าใจผิดยอดฮิตเลยแหละครับ เพราะความจริงแล้ว ใบมีดคัตเตอร์ มันไม่ได้เหมือนกันทั้งหมดนะครับ ทั้งเรื่องของความคม ความแข็งแรง วัสดุที่ใช้ทำ หรือแม้กระทั่งมุมของใบมีด มันส่งผลต่อการตัดงานของคุณแบบชัด ๆ เลย
เอาล่ะ! ลองนึกภาพง่าย ๆ ดูครับ ถ้าเอา ใบมีดคัตเตอร์ ราคาถูกที่คมไม่นาน ไปตัดกระดาษแข็งหนา ๆ หรือแผ่นพลาสติกแข็ง ๆ มันอาจหักคามือ แถมเสี่ยงบาดเจ็บอีกต่างหาก ดังนั้นเวลาเราพูดถึง “ความเชื่อผิด ๆ” เกี่ยวกับ ใบมีดคัตเตอร์ ก็เหมือนกำลังชวนกันมานั่งคุย ว่าที่จริงแล้วสิ่งเล็ก ๆ ที่หลายคนมองข้ามนี่แหละครับ มันอาจทำให้งานที่ควรจะง่าย กลายเป็นเรื่องยุ่งยากขึ้นมาได้เลย
ใบมีดคัตเตอร์ ทื่อแล้วไม่อันตราย?
หลายๆคนชอบคิดว่า “ใบมีดคัดเตอร์ ทื่อ ๆ มันไม่คม ก็คงไม่อันตรายหรอก” ฟังดูเหมือนจะจริง แต่เอาจริงแล้ว…มันตรงข้ามเลยครับ! เพราะ ใบมีดคัดเตอร์ ที่ไม่คมนี่แหละ ตัวดีเลย เวลาเราจะตัดอะไรสักอย่าง เราต้องกดแรงขึ้นกว่าเดิมเยอะ แล้วการกดแรง ๆ แบบนี้แหละที่เสี่ยงสุด ๆ ถ้ามือพลาดนิดเดียว คัตเตอร์ลื่นหลุดได้ง่ายมาก
เราเองเคยลองตัดกล่องแข็ง ๆ ด้วย ใบมีดคัดเตอร์ ทื่อ ๆ มาแล้ว กะว่าจะกดให้ผ่านไปที ปรากฏว่ามันไม่ยอมเข้าเส้นซะที มือเลยเผลอออกแรงกดเพิ่ม สุดท้ายใบดันลื่นออกนอกแนวเส้น เกือบเฉี่ยวโดนนิ้ว ดีที่วันนั้นใส่ อุปกรณ์เซฟตี้ ไม่งั้นคงได้เลือดแน่นอนครับ
จริง ๆ แล้ว ใบมีดคัดเตอร์ ที่คมต่างหากที่ปลอดภัยกว่า เพราะมันตัดได้เรียบ ลากเส้นไปทางไหนก็คุมง่าย ไม่ต้องออกแรงเยอะ แถมยังทำให้งานออกมาสวยกว่าอีกต่างหาก เพราะฉะนั้นอย่าคิดว่า ใบมีดคัดเตอร์ ทื่อคือปลอดภัยนะครับ มันแค่ “ดูไม่น่ากลัว” แต่ในทางปฏิบัติ อันตรายกว่าที่คิดเลยทีเดียว
ใบมีดคัตเตอร์ หนา ยิ่งหนายิ่งแข็งแรง
เวลาเห็น ใบมีดคัตเตอร์ หนา ๆ หลายคนอาจคิดว่า “เออ แบบนี้แหละแข็งแรงสุด ใช้งานได้ทุกอย่าง”
…แต่จริง ๆ มันไม่ได้ตรงไปซะทีเดียวครับ ความหนาไม่ได้การันตีว่าดีกว่าเสมอไป อยู่ที่งานที่เราจะใช้มากกว่าครับ ถ้าเป็นงานตัดวัสดุแข็ง ๆ อย่างกล่องลูกฟูกหลายชั้น แผ่นโฟมหนา หรือพลาสติกแข็ง ๆ ใบมีดคัตเตอร์ หนาจะได้เปรียบมาก เพราะมันไม่งอ ไม่แตกง่าย แถมรับแรงกดได้ดี แต่ถ้าเอาใบหนาไปใช้กับงานที่ต้องการความละเอียด เช่น งานทำโมเดล หรืองานตัดสติ๊กเกอร์ บอกเลยว่าลำบากครับ เพราะมันเทอะทะ คุมเส้นได้ไม่เนียนเท่าใบบาง
เราเองเคยลองเอา ใบมีดคัตเตอร์ หนามาตัดสติ๊กเกอร์เล่น ๆ ผลคือเส้นมันไม่คมเลยครับ ตัดไปทีไร เส้นเบี้ยวบ้าง ขอบไม่เนียนบ้าง พอเปลี่ยนมาใช้ ใบมีดคัตเตอร์ บางเท่านั้นแหละ เหมือนคนละเรื่องเลย ตัดได้เนียนตามแนวเป๊ะ ๆ เหมือนใช้กรรไกรตัด แต่เรียบกว่ามาก
ดังนั้นจะเลือก ใบมีดคัตเตอร์ หนาหรือใบาง ไม่ใช่ว่าอันไหน “ดีกว่า” กันนะครับ แต่ต้องดูว่างานที่เราทำต้องการความแข็งแรง หรือความละเอียดมากกว่ากัน เท่านี้ก็เลือกได้ถูกแล้วครับ
ใบมีดคัตเตอร์ ราคาถูก ใช้แทนกันได้กับใบมีดคุณภาพ
อันนี้เป็นความเชื่อที่เห็นกันบ่อยจริง ๆ ครับว่า “ซื้อ ใบมีดคัตเตอร์ ถูก ๆ ก็เหมือนกันนั่นแหละ ยังไงก็ใช้ตัดได้เหมือนกัน” ฟังดูประหยัด แต่บอกเลยว่ามันไม่คุ้มอย่างที่คิดครับ ใบมีดคัตเตอร์ ราคาถูก ส่วนใหญ่ปัญหาคือคมไม่นาน ใช้ไปไม่กี่ทีเริ่มฝืด ต้องออกแรงกดเพิ่ม แล้วก็หักง่ายด้วย แถมบางทีขอบใบยังไม่ตรง เวลาเอาไปตัดวัสดุ พอเลื่อนใบตามเส้น ขอบมันกินเนื้อวัสดุเกิน หรือออกมาเบี้ยว ๆ ทำให้งานเสียได้ง่าย ๆ เลย
เราเองก็เคยเจอมากับตัว ตอนใช้ ใบมีดคัตเตอร์ ถูก ๆ มาตัดโฟมบอร์ดที่ต้องการเส้นเนียน ๆ ผลคือขอบออกมาเละเลยครับ ต้องมาเสียเวลาเก็บงานต่อเกือบครึ่งชั่วโมง กลายเป็นเสียเวลามากกว่าที่คิดไว้ แต่พอเปลี่ยนเป็นใบคุณภาพดี ตัดครั้งเดียวจบ เส้นคมกริบ ไม่ต้องแก้อะไรเพิ่มเลย ความต่างมันเห็นชัดแบบวันต่อคืนจริง ๆ
เพราะฉะนั้นถ้าคุณคิดจะประหยัดกับ ใบมีดคัตเตอร์ บอกเลยว่าสุดท้ายมันอาจไม่ใช่การประหยัดครับ แต่เป็นการเสียเวลาซ้ำซ้อนมากกว่า ลองมองว่า ใบมีดคัตเตอร์ ดี ๆ คือการลงทุนเล็ก ๆ ที่ช่วยให้งานจบไว งานออกมาสวย และยังลดความเสี่ยงเจ็บตัวจากใบหักด้วย แบบนี้คุ้มกว่าเยอะครับ
ใบมีดคัตเตอร์ ทุกแบบ ใช้กับด้ามคัตเตอร์ได้เหมือนกัน
นี่ก็เป็นความเข้าใจผิดที่เจอกันบ่อยมากจริง ๆ ครับ หลายๆคนเวลาใบมีดหมดหรือหักไป ก็มักจะเดินเข้าร้านแล้วหยิบมาเลยโดยไม่ดูขนาด คิดว่า “ยังไงก็ใส่ได้เหมือนกัน” …แต่ความจริงไม่ใช่เลยครับ ใบมีดคัตเตอร์ มีหลายขนาดหลัก ๆ เช่น 9 มม., 18 มม., 25 มม. ซึ่งแต่ละขนาดถูกออกแบบมาให้เข้ากับด้ามที่รองรับโดยเฉพาะ ถ้าเอาใบผิดขนาดมาใส่ มันจะไม่แน่น เกิดการขยับ หลวม หรือเลื่อนหลุดได้ง่ายมาก ที่สำคัญคือ อันตรายสุด ๆ เพราะเวลาเรากดตัดแรง ๆ ใบมีดอาจเด้งหลุดออกมาทั้งแท่ง
เพราะฉะนั้นเวลาซื้อ ใบมีดคัตเตอร์ อย่าลืมเช็กขนาดให้ตรงกับด้ามเสมอครับ เล็กไปก็ไม่พอดี ใหญ่ไปก็ใส่ไม่ได้ สุดท้ายเลือกให้ถูกตั้งแต่แรก ทั้งปลอดภัย ทั้งทำให้งานไหลลื่น ไม่ต้องมาลุ้นว่าจะมี “เซอร์ไพรส์” ระหว่างใช้งานครับ
ใบมีดคัตเตอร์ ใช้ตัดอะไรก็ได้
เราว่าหลายๆคนน่าจะเคยคิดเหมือนกันนะครับว่า
“ใบมีดคัตเตอร์ มันก็คมอยู่แล้ว จะตัดอะไรก็คงได้หมด”
เลยเผลอหยิบไปลองตัดไม้ พลาสติกแข็ง ๆ หรือบางคนถึงขั้นลองกับแผ่นโลหะบาง ๆ ด้วยซ้ำ แต่ผลที่ได้บอกเลยว่าไม่คุ้มครับ เพราะแทนที่งานจะจบสวย ๆ กลายเป็นว่ามีเรื่องชวนปวดหัวตามมา
ปัญหาหลักเลยก็คือ ใบมีดคัตเตอร์ ไม่ได้ถูกออกแบบมาสำหรับงานหนักแบบนั้น ครับ พอเอาไปตัดวัสดุแข็ง ๆ ใบมีดจะบิ่น หัก หรือเสียรูปทรงได้ง่ายมาก และสิ่งที่อันตรายกว่านั้นก็คือ เศษใบมีดที่หัก มันสามารถกระเด็นออกมาแบบไม่ทันตั้งตัว ถ้าโดนตา โดนหน้า หรือแม้แต่มือที่จับอยู่ ก็บอกเลยว่าเจ็บหนักแน่นอนครับ
เราเคยเห็นเพื่อนลองเอามีดคัตเตอร์ไปกรีดพลาสติกแข็ง ๆ ผลคือใบหักกระเด็นออกมาเสียงดัง “แกร๊ง!” โชคดีมากที่ไม่โดนใครเข้าเต็ม ๆ ไม่งั้นคงไม่จบแค่ขำแล้วแน่ ๆ จริง ๆ แล้ว มีดคัตเตร์เหมาะกับงานตัดพวกกระดาษ โฟมบอร์ด หนัง หรือวัสดุที่ไม่ได้แข็งจนเกินไปครับ ถ้าอยากตัดไม้ พลาสติกแข็ง หรือโลหะ ควรเลือกเครื่องมือเฉพาะ เช่น เลื่อยตัดเหล็ก หรือกรรไกรตัดพลาสติก จะปลอดภัยกว่าเยอะเลยครับ
หลายคนอาจจะคิดว่า ใบมีดคัตเตอร์ ก็เหมือน ๆ กันหมด แต่จริง ๆ แล้ว ใบมีดคัตเตอร์ แต่ละชนิดแตกต่างกันอย่างไร? เลือกให้ถูกต้องเพื่อการตัดที่แม่นยำ! ก็เพราะว่าใบมีดไม่ได้ถูกออกแบบมาแบบเดียวทั้งหมดครับ แต่ละชนิดมีทั้งขนาด ความหนา รูปทรง ไปจนถึงวัสดุที่ใช้ผลิต ซึ่งสิ่งเหล่านี้ล้วนส่งผลโดยตรงกับการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นความคม ความทนทาน ความปลอดภัย หรือแม้แต่ความสวยงามของชิ้นงานที่ออกมา