มาดูกันว่า สว่าน แต่ละประเภท ภาษาอังกฤษเรียกว่าอะไร

Customers Also Purchased

“ลองนึกภาพเครื่องมือช่างอะไรก็ได้ ลองนึกมาให้ได้เยอะที่สุด” ผมเชื่อว่าใครก็ตามที่ได้เห็นข้อความนี้ ในปี 2025 ก็ต้องมีภาพของ สว่าน ปรากฏในจินตนาการอย่างแน่นอนครับ เวลาเราพูดถึงเครื่องมือช่าง สว่านเป็นหนึ่งอุปกรณ์สารพัดประโยชน์ที่อยู่คู่บ้าน และโต๊ะทำงานมาตลอด

ในปัจจุบันทั้งร้าน และแพลตฟอร์มออนไลน์ก็มีสว่านหลายประเภท ให้คุณได้เลือก และใช้งานให้ตามลักษณะที่ต้องการ แต่เคยไหมครับ? พอเปิดเข้าเว็บเครื่องมือ แคตตาล็อกสินค้า หรืออ่านแผ่นพับจากแบรนด์ดัง ๆ ทีไร เจอคำศัพท์ภาษาอังกฤษ ที่ชวนให้งงจนอดสงสัยไม่ได้ว่า ว่า นี่มันคือสว่านอะไรกันแน่? ทำให้กลัวซื้อมาผิด จนต้องเปิดกูเกิ้ลดูคำนิยามของสว่านต่าง ๆ เอามาเทียบว่าใช่ไหม แต่ก็ยังงงอยู่ดี เพราะบนเว็บ ที่เน้นขายของ ก็เรียกกันมั่วไปหมด

ในบทความนี้ ผมเลยอยากชวนมาดูกันครับ ว่า สว่านแต่ละประเภท ภาษาอังกฤษเขาเรียกกันว่าอะไร และ ทำไมบางทีชื่อมันก็ใกล้กัน แต่ความหมายกลับต่างกันโดยสิ้นเชิง หรือบางทีภาษาไทยเรียกสว่าน แต่ภาษาอังกฤษกลับใช้คำว่า ค้อน เพราะมันหลีกเลี่ยงไม่ได้จริง ๆ ครับ ที่จะเจอศัพท์ชวนงง หรือคำนิยามที่เราไม่คุ้นเคย จากผู้ผลิต และข้อมูลสินค้าบนเว็บไซต์

สว่าน (Drill) คำง่าย ๆ แต่ความหมายกว้างกว่าที่คิด 

ถ้าพูดถึง “สว่าน ภาษาอังกฤษ” แล้ว คำหลักที่เราจะเจอซึ่งแปลว่าสว่านจริง ๆ เลยก็คือคำว่า Drill ครับ แต่คำคำนี้ความหมายกว้างมาก ๆ ใช้เรียกอุปกรณ์เจาะแทบทุกชนิดตั้งแต่สว่านธรรมดาที่เราเจาะไม้ เจาะเหล็ก ไปจนถึงเครื่องใหญ่ ๆ ที่เฉพาะทางขึ้น อย่างแท่นเจาะระดับอุตสาหกรรม 

  • Drill สว่านทั่วไป
  • Power/Electric Drill สว่านไฟฟ้า
  • Hand Drill สว่านมือหมุน (แบบดั้งเดิม) 

“Drill” นั้นเรียกได้ว่าเป็นรากศัพท์ที่สามารถแยกต่อยอดไปอีกหลายแบบเลยครับ ซึ่งเราจะมาดูกันต่อไป ว่าโดยทั่วไปแล้ว แยกยังไงบ้าง

1. สว่าน ที่เป็น เครื่องมือไฟฟ้า (Power Tool) 

เวลาพูดถึง เครื่องมือไฟฟ้า หรือ Power Tool แล้ว หลายคนคงนึกถึงสว่านเป็นอันดับแรกใช่ไหมครับ? เพราะสว่านเป็นเครื่องมือพื้นฐานที่ใช้ได้ตั้งแต่งานเล็ก ๆ ไปจนถึงงานก่อสร้างจริงจัง นิยามของการเป็นเครื่องมือไฟฟ้า คือความสะดวกจากพลังงานไฟฟ้า ที่เครื่องมือธรรมดาให้ไม่ได้ เช่นการสร้างความเร็วรอบที่เสถียร แรงบิดที่สม่ำเสมอ หรือฟังก์ชันเสริมที่ช่วยให้ทำงานง่ายขึ้น 

มาดูกันว่า สว่าน แต่ละประเภท ภาษาอังกฤษเรียกว่าอะไร

สว่านไร้สาย เรียกว่า Cordless Drill ส่วน สว่านไฟฟ้า เรียกว่า (Corded) Drill 

สว่านสองประเภทนี้ ไม่มีอะไรซับซ้อนมากนัก แปลตรงตัวไปเลย แต่ถ้าพูดถึงสว่านที่เราจะเห็นมากที่สุดทุกวันนี้ ก็คงจะหนีไม่พ้นสว่านไร้สายครับ ทุกยี่ห้อมีหมด แล้วใคร ๆ ก็หันมาใช้ สว่านไร้สายกันเยอะจน demand สูงล้นตลาด เพราะไม่ต้องลากสายไฟให้เกะกะ จะทำงานในบ้าน นอกบ้าน หรือบนที่สูง สว่านไร้สายก็สะดวกไปหมด

แต่จะมีเครื่องมืออีกอันนึงที่อาจทำให้หลายคนสับสนได้ เพราะหน้าตาคล้ายกัน และใช้ดอกร่วมกันได้ ใช่ครับ ผมกำลังพูดถึง ไขควง (Driver หรือ Screwdriver)

ตรงนี้ภาษาอังกฤษแยกชัดเจนว่า “Drill” เน้นเจาะ ส่วน “Driver” เน้นขันครับ ถ้าเป็น Drill/Driver ก็คือเครื่องมือที่ใช้ได้ทั้งเจาะทั้งขันหรือ สว่านไขควง นั่นเองครับ

สว่านกระแทก เรียกว่า Hammer Drill แล้วมันต่างกับ ไขควงกระแทกยังไง? 

คำว่า Hammer Drill จะใช้กับสว่านที่มีระบบกระแทกครับ จะสังเกตได้จากสัญลักษณ์รูปค้อน และครอบคุมทั้งสว่านมีสาย กับไร้สาย

Hammer จริง ๆ แล้ว แปลว่าค้อน แต่ในบริบทของสว่าน ในภาษาไทยจะใช้คำว่า “กระแทก” ครับ ซึ่งคำว่า Impact ก็ใช้คำแปลว่ากระแทกเหมือนกัน ทำให้เวลาที่คุณเลือกเครื่องมือ ตรงนี้แหละครับที่อาจชวนสับสน พอเจอคำว่า Impact กับ Hammer ก็มีมึนกันไปบ้าง

คิดง่าย ๆ แบบนี้ครับ Hammer Drill คือสว่านกระแทกที่สามารถใช้เจาะปูนเบา ๆ ทำงานโดยการหมุน และสั่นกระแทก เราอาจเจอคำว่า Impact Drill ใช้กับสว่านกระแทกอยู่บ้าง แต่กับแบรนด์ส่วนใหญ่คำว่า Impact มักจะใช้กับ Impact Driver ซึ่งก็คือ ไขควงกระแทกครับ จะไม่มีการสั่นกระแทกสำหรับเจาะปูน แต่จะให้แรงบิดในแนวหมุนที่ใช้สำหรับขันสกรูนั่นเอง จำไว้ว่าสว่านกระแทกจะมีมีสัญลักษณ์ค้อน ให้ปรับใช้ แล้วเวลากดไก ก็จะสั่นเป็นแนวตรงครับ

สว่านโรตารี่ เรียกว่า Rotary Hammer ตัวจริงงานหนัก 

ถ้าคุณต้องเจาะปูนหนา ๆ คอนกรีตแข็ง ๆ ต้องเรียกหาเจ้านี่เลยครับ “สว่านโรตารี่” บางครั้งก็อาจใช้คำว่า Rotary Hammer Drill จะสังเกตได้ว่า หลาย ๆ ครั้งมีการตัดคำว่า Drill ที่แปลว่าสว่านออกไปครับ เพราะฟังก์ชั่นหลักของมันคือการหมุนเจาะไปด้วย ทุบหมือนค้อนไปด้วย เสียมากว่า ต่างจาก Hammer Drill ตรงที่ Rotary Hammer มีระบบ “ลูกสูบลม” ช่วยสร้างแรงกระแทก ทำให้เจาะปูนได้ง่ายกว่า และแรงกว่า เหมาะกับงานหนักโดยเฉพาะ

ผมเคยเห็นกล่องเครื่องมือเรียกสว่านไฟฟ้าธรรมดาว่า Rotary Drill ครับ ในภาษาอังกฤษเข้าใจได้เพราะสว่านใช้กลไกหมุนตามความหมายของคำว่า “Rotary” อยู่แล้ว แต่คำคำนี้มันดันไปแปลตรงตัวในภาษาไทย ว่า สว่านโรตารี่ นี่สิครับ ทำให้บางคนอาจสับสน ดังนั้น ให้สังเกตที่คำว่า Hammer ดี ๆ จะช่วยให้คุณเลือกได้มั่นใจขึ้น และไม่ผิดแน่นอนครับ


2. สว่านที่เป็นเครื่องจักร (Machinery) 

สว่านในกลุ่มนี้จะต่างจาก เครื่องมือไฟฟ้าอยู่พอสมควรครับ เพราะเป็นเครื่องจักรกลที่ออกแบบมาให้ทำงานต่อเนื่อง และแม่นยำกว่า 

มาดูกันว่า สว่าน แต่ละประเภท ภาษาอังกฤษเรียกว่าอะไร

สว่านแท่น เรียกว่า Drill Press ตัวช่วยสำหรับงานละเอียด

ใครที่ทำงานไม้ หรือโลหะแบบจริงจัง น่าจะคุ้นกับ สว่านแท่น ใช่ไหมครับ ? จุดเด่นคือมันแม่นยำมาก เจาะได้ตรงเป๊ะ ๆ เพราะมีแท่นกดช่วยประคอง ไม่ต้องใช้แรงมือมากเหมือนสว่านมือ

นอกจากนี้ยังมี Magnetic Drill Press ที่บ้านเราเรียกว่า “สว่านแท่นแม่เหล็ก” ด้วยครับ จุดเด่นคือมีฐานแม่เหล็กไฟฟ้า ที่สามารถยึดติดกับเหล็กหรือโครงสร้างโลหะได้ ทำให้สามารถเจาะได้ในแนวตั้งไปจนถึงเพดานเหล็ก โดยที่เครื่องไม่สั่นหรือหลุดง่าย 

เครื่องคอริ่ง เรียกว่า Core Drill เจาะงานใหญ่ทีเดียวจบ 

สุดท้ายคือ Core Drill หรือ “เครื่องคอริ่ง” ครับ เอาไว้เจาะรูขนาดใหญ่ เช่น เจาะผนังปูน เจาะพื้นคอนกรีต เวลาเดินท่อแอร์ ท่อน้ำ หรือสายไฟแรงสูง

เครื่องคอริ่งใช้เจาะปูนแต่ต่างจากสว่านโรตารี่ตรงที่หัวเจาะเป็นแบบ “โค้งวงกลม” ไม่ได้เจาะเป็นจุดเดียว แต่เจาะเป็นวง ทำให้ได้รูที่ใหญ่มาก และเป็นวงกลมเรียบร้อยครับ

3. คำศัพท์ อื่น ๆ เกี่ยวกับ สว่าน 

นอกจากการแยกประเภท และคำศัพท์เกี่ยวกับสว่าน แล้ว ผมคิดว่าคำที่ใช้เรียกส่วนประกอบ และกลไกต่าง ๆ ก็สำคัญไม่แพ้กันครับ เพราะเวลาอ่านคู่มือ หรือเลือกซื้อสว่าน ที่ส่วนมากจะให้คู่มือภาษาอังกฤษ เราก็มักจะเจอคำเหล่านี้บ่อย ๆ 

กลไกของ สว่าน (Mechanism)

หลักการทำงานเป็นหัวใจสำคัญของสว่านเลยทีเดียว เป็นตัวกำหนดว่าการใช้งานจะสะดวก ปลอดภัย และเหมาะกับงานประเภทไหน ผมคิดว่าการรู้จักชื่อภาษาอังกฤษของกลไกแต่ละอย่างจะช่วยให้เราเข้าใจสเปกเครื่องได้ง่ายขึ้น และเลือกเครื่องมือได้ตรงความต้องการครับ

  • Brushless มอเตอร์ไร้แปรงถ่าน (ทนทาน ประหยัดพลังงานกว่าแบบ Brushed) ลดการสึกหรอ และเสียงดัง
  • Variable Speed ระบบปรับรอบความเร็ว ช่วยให้เลือกความเร็วรอบให้เหมาะกับงาน เช่น เจาะไม้ใช้รอบสูง เจาะเหล็กใช้รอบต่ำ
  • Hammer ระบบกระแทก ใช้ใน Hammer Drill เพื่อช่วยเจาะปูน
  • Impact กลไกกระแทกแรงบิด ใช้ในไขควงกระแทก เพื่อเน้นการขันสกรูให้แน่นขึ้น
  • Rotary กลไกการหมุนหลักของสว่าน เกิดจากมอเตอร์หมุนเพลาตรงเพื่อเจาะวัสดุ  

ส่วนประกอบของ สว่าน 

ส่วนประกอบคือสิ่งที่เราเจอแทบทุกครั้งที่หยิบสว่านขึ้นมาใช้ครับ ต่อให้เป็นรุ่นเล็ก หรือรุ่นใหญ่ก็ยังต้องมีองค์ประกอบหลักเหมือน ๆ กัน โดยมีทั้งหมดดังนี้ 

  • Trigger ไกกดปุ่มเปิด–ปิด เป็นตัวควบคุมการทำงานหลักของสว่าน กดลึกขึ้น รอบก็แรงขึ้น (ถ้าเป็น Variable Speed)
  • Chuck หัวจับดอกสว่าน เป็นส่วนที่ใช้ยึดดอกสว่านเข้ากับตัวเครื่อง
  • Keyed Chuck หัวจับที่ต้องใช้ประแจ หรือจำปาในการขันให้แน่นหนา เหมาะกับงานที่ต้องใช้แรงมาก
  • Keyless Chuck หัวจับแบบใช้มือหมุน ไม่ต้องใช้ประแจ สะดวกและรวดเร็ว แต่แรงจับอาจน้อยกว่าแบบ Keyed Chuck
  • 3-Jaw Chuck หัวจับทั่วไป แบบ 3 ขา ใช้กับดอกสว่านทรงกลม และดอก Hex ก็ได้ จับได้แน่น และหลากหลาย เหมาะกับงานเจาะทั่วไป
  • Hex Chuck / Hex Shank หัวจับแบบหกเหลี่ยม ใช้กับดอกไขควงขันสกรู และดอกสว่านหกเหลี่ยม ถอดเปลี่ยนง่ายกว่า 3-Jaw ที่ต้องหมุน 

ศัพท์เกี่ยวกับสเปกของ สว่าน 

เวลาเราเปิดดูสเปกสว่าน ยิ่งถ้าเป็นแบรนด์นอก เราก็มักจะเจอตัวเลข และคำศัพท์เฉพาะที่อาจไม่รู้ ถ้าไม่เข้าใจอาจเลือกผิดรุ่นได้ง่าย ๆ ดังนั้นการรู้จักคำเหล่านี้จะช่วยให้เรามองออกว่าสว่านเครื่องหนึ่งเหมาะกับงานเบา งานทั่วไป หรือใช้งานหนักครับ

  • Speed หรือ RPM ค่ารอบต่อนาที บอกความเร็วในการหมุนของสว่าน
  • Torque แรงบิด บอกถึงกำลังในการหมุนขัน หรือต้านทานวัสดุ
  • Power Input/Output กำลังไฟเข้า–ออก บอกถึงพลังงานที่ใช้ และประสิทธิภาพการส่งกำลัง
  • Chuck Size ขนาดหัวจับ บอกว่าหัวจับสามารถใส่ดอกสว่านได้ใหญ่สุดเท่าไร
  • Impact Energy พลังแรงกระแทก ใช้กับสว่านโรตารี่ เพื่อบอกพลังในการเจาะวัสดุแข็ง 

มาดูกันว่า สว่าน แต่ละประเภท ภาษาอังกฤษเรียกว่าอะไร

สรุป

เห็นชัด ๆ เลยใช่ไหมครับ? ว่า เวลาพูดถึง หรือต้องแปลศัพท์ภาษาอังกฤษเกี่ยวกับเครื่องมือช่าง อย่างสว่าน ถ้าใช้การแปลตรงตัว ความหมายอาจผิดเพี้ยน การสื่อสารถูกบิดเบือน หรือที่ร้ายกว่านั้นคือ เลือกเครื่องมือผิดประเภท แล้วทำไมแค่แปลภาษามันถึงซับซ้อนกันขนาดนี้ ทำไมใม่เรียกเหมือนกันไปเลย? จริง ๆ แล้วผมว่ามันสะท้อนได้เรื่องหนึ่งครับว่า ภาษาอังกฤษเขาจะเรียกเครื่องมือแบบเจาะจงตามการใช้งาน เลยเกิดคำเรียกต่างกันเพื่อบอกความแตกต่างชัด ๆ ส่วนภาษาไทย เรามักใช้คำว่า “สว่าน” ครอบคลุมเกือบทุกอย่าง แล้วค่อยเติมคำขยายตามหลัง เช่น สว่านกระแทก สว่านไร้สาย สว่านโรตารี่

พูดง่าย ๆ คือ ภาษาอังกฤษเน้นความจำเพาะ ส่วนภาษาไทยเน้นความเข้าใจง่ายครับ

ผมว่าการรู้คำในภาษาอังกฤษของสว่านแต่ละแบบ มันไม่ได้ทำให้เราเข้าใจเวลาอ่านคู่มือ หรือสั่งของจากเว็บนอกเท่านั้นนะครับ แต่มันยังช่วยให้เรารู้ว่า สว่าน ตัวไหนเหมาะกับงานอะไร หรือเน้นการใช้งานแบบไหน และรู้จักเครื่องมือมากขึ้นครับ

การรู้จักคำศัพท์ไม่ใช่แค่เรื่องการสื่อสาร หรือความเข้าใจเท่านั้น แต่มันจะช่วยให้คุณ หลีกเลี่ยงการเลือก สว่าน ผิดได้ด้วย