Customers Also Purchased
เคยไหมคะ…ต้องยกของหนัก ๆ ทีไร ทั้งหลังทั้งแขนแทบแหลก เอวแทบพัง กว่าจะยกขึ้นมาได้สักรอบหนึ่งก็เล่นเอาหอบแฮ่ก ๆ จนหมดแรงไปครึ่งวัน ยิ่งถ้าเป็นของอย่างถังน้ำมัน เครื่องยนต์ หรือไม้กระดานยาว ๆ ที่น้ำหนักโหด ๆ บอกเลยว่าตัวคนเดียวแทบไม่ไหว แต่เชื่อมั้ยคะว่า มีอุปกรณ์ชิ้นเล็ก ๆ อย่าง “รอกเชือก” ที่ทำให้เรื่องนี้ง่ายขึ้นจนเหมือนมีแรงงานเพิ่มอีกหลายคนมาช่วย
น้องช่างเองก็เคยเป็นนะ ตอนแรกไม่เคยสนใจ รอกเชือก เลย คิดว่ามันเป็นของที่เอาไว้ใช้ในโรงงานหรือพวกไซต์ก่อสร้างเท่านั้น แต่พอได้ลองใช้จริงในบ้านครั้งแรก บอกเลยค่ะว่า…ชีวิตเปลี่ยน! จากที่เคยต้องใช้แรงเต็มตัว กลายเป็นแค่ดึงเชือกเบา ๆ ของหนักก็ลอยขึ้นมาได้สบาย ๆ วันนี้เลยอยากชวนมารู้จัก “รอกเชือก” กันให้มากขึ้น ว่ามันทำงานยังไง ใช้แล้วดีตรงไหน และทำไมมันถึงเป็นไอเทมที่ควรมีติดบ้านหรือติดงานช่างเอาไว้
รอกเชือก คืออะไร?
ถ้าเล่าแบบวิชาการ รอกเชือก ก็คืออุปกรณ์ที่ใช้ หลักการผ่อนแรง (Mechanical Advantage) โดยอาศัยการหมุนของล้อและการเปลี่ยนทิศทางของแรง เพื่อให้เราสามารถยกของหนัก ๆ ได้ด้วยแรงที่น้อยกว่าปกติ แต่ถ้าจะเล่าง่าย ๆ สไตล์น้องช่างก็คือ…มันเหมือนกับ “ตัวช่วยโกงแรง” นั่นแหละค่ะ ของหนักตั้ง 100 กิโล เราไม่ต้องดึง 100 กิโลตรง ๆ แต่กลายเป็นว่าดึงจริง ๆ อาจเหลือ 50 หรือ 30 กิโลเท่านั้น แล้วแต่การจัดระบบรอก
ลองนึกภาพนะคะ…เรามีถังน้ำมันใบใหญ่ที่อยากยกขึ้นรถกระบะ ถ้าไม่มี รอกเชือก ก็ต้องออกแรงเต็ม ๆ หรือหาคนมาช่วยยกหลายคน แต่ถ้ามี รอกเชือก ตัวเราเพียงคนเดียวก็ดึงขึ้นได้แบบไม่เหนื่อยเกินแรงสาว ๆ อย่างเราเลย
ประวัติเล็ก ๆ ของ รอกเชือก จากกรีกโบราณสู่บ้านเรา
รู้ไหมคะว่า รอกเชือก มีมาตั้งแต่สมัยกรีกโบราณแล้ว? เขาใช้หลักการเดียวกันนี้ในการยกหินก้อนมหึมาเพื่อสร้างวิหารและกำแพงเมือง หลักการฟิสิกส์ “ผ่อนแรง” นี้เลยถูกสืบต่อมาเรื่อย ๆ
ในไทยเองก็ใช้รอกมานานค่ะ โดยเฉพาะในงานก่อสร้าง วัด หรือแม้แต่ท่าเรือที่ต้องยกของขึ้นลงจากเรือ เพียงแต่เมื่อก่อนรอกมีขนาดใหญ่และใช้งานยาก แต่ปัจจุบันถูกทำให้เล็ก กระทัดรัด และเหมาะกับงานบ้านมากขึ้น
ทำไม รอกเชือก ถึงยกของได้ง่ายขึ้น?
คำตอบก็คือ…มันใช้ หลักการคานและแรงดึงที่กระจายออก ค่ะ รอกเชือก จะช่วยเปลี่ยนทิศทางแรงจากการยกขึ้นตรง ๆ ให้กลายเป็นการดึงลงหรือดึงในแนวนอนแทน ซึ่งเป็นทิศทางที่ร่างกายเราใช้แรงได้ง่ายกว่า
อีกอย่างคือถ้าเราจัดระบบ รอก เป็น “รอกพวง” (คือมีหลายล้อ) มันจะช่วยเฉลี่ยแรงออกไปอีก ทำให้แรงที่ต้องใช้ยิ่งน้อยลงไปเรื่อย ๆ เช่น ของหนัก 100 กิโล แต่ใช้รอก 2 ล้อ อาจเหลือแรงดึงแค่ 50 กิโล ถ้าเป็น 4 ล้อ ก็อาจเหลือเพียง 25 กิโลเท่านั้นเอง
พูดง่าย ๆ คือ…รอกเชือก เปลี่ยนงานหนักระดับ “หลังแทบหัก” ให้กลายเป็นงานเบาระดับ “แค่ดึงเชือกเพลิน ๆ” เลยค่ะ
ใช้ได้ที่ไหนบ้าง? (ไม่ใช่แค่งานโรงงาน)
- งานบ้าน → ยกเฟอร์นิเจอร์ขึ้นชั้นบน ยกเครื่องซักผ้า ยกถังน้ำขึ้นแท็งก์
- งานสวน/ฟาร์ม → ยกกระสอบปุ๋ย ดึงผลผลิตขึ้นโรงเก็บ
- งานซ่อมบำรุง → ยกเครื่องยนต์ เครื่องจักรเล็ก ๆ
- งานก่อสร้างเล็ก ๆ → ยกไม้ กระเบื้อง ถังปูนขึ้นชั้นบน
- งานเดินป่า/แคมป์ปิ้ง → ใช้ดึงสัมภาระขึ้นที่สูง หรือลากของจากจุดลำบาก
พูดได้เลยว่า…มันคือของสารพัดประโยชน์ ที่เอาไปปรับใช้ได้ทั้งบ้านและงานช่างจริง ๆ
วิธีเลือกซื้อ รอกเชือก ให้เหมาะกับงาน
- ดูน้ำหนักสูงสุดที่รับได้ → เลือกเผื่อไว้เสมออย่างน้อย 1.5 - 2 เท่า เช่น จะยก 100 กก. ให้เลือกรอกที่รับได้ 150 กก.
- วัสดุของรอก → เหล็กและสแตนเลสแข็งแรงสุด ส่วนพลาสติกใช้ได้กับงานเบา ๆ
- เชือกที่ใช้ → ควรเลือกไนลอนหรือโพลีเอสเตอร์ เพราะเหนียว ทนแดด ทนน้ำ
- ความสะดวกในการติดตั้ง → มีตะขอเกี่ยวจะสะดวกกว่า
- งบประมาณ → ราคาเริ่มต้นหลักร้อย แต่คุ้มค่าในระยะยาว
ทำไมควรมีติดบ้าน?
- ไม่แพงแต่คุ้มมาก → ใช้ทีไรประหยัดแรงได้เกินคุ้ม
- ปลอดภัยกว่าการยกตรง ๆ → ลดโอกาสเจ็บหลัง กล้ามเนื้อฉีก
- ใช้ได้ทั้งผู้ชายและผู้หญิง → ไม่จำกัดว่าต้องแรงเยอะถึงจะทำได้
- อเนกประสงค์ → จากงานบ้านเล็ก ๆ จนถึงงานซ่อมใหญ่ ๆ เอาอยู่หมด
สำหรับน้องช่างแล้ว รอกเชือก คือ เพื่อนคู่ใจงานหนัก ที่ทำให้หลายครั้งไม่ต้องรอคนช่วยอีกต่อไปค่ะ
จากแรงที่มีจำกัด สู่พลังที่ไร้ขีดจำกัด
ของหนักหลายอย่างในชีวิตประจำวัน ถ้าไม่มีตัวช่วย ก็คงกลายเป็นภาระที่ต้องทิ้งไว้แบบนั้น แต่พอมี รอกเชือก ทุกอย่างง่ายขึ้นจริง ๆ จากของที่คิดว่า “ไม่มีทางยกไหว” กลายเป็น “ทำได้ด้วยตัวเอง”
เพราะฉะนั้น ถ้าใครยังไม่เคยลอง น้องช่างอยากให้ลองสักครั้งค่ะ แล้วคุณจะเข้าใจว่า “รอกเชือก เล็ก ๆ” สามารถเปลี่ยนวิธีทำงานของเราได้ขนาดไหน