Customers Also Purchased
เมื่อพูดถึงเครื่องมือลม หลายคนอาจนึกถึงบล็อกลม ปืนเป่าลม หรืออาจจะเคยเห็นเครื่องขัดกระดาษทรายลม เครื่องมือเหล่านี้อาศัยพลังงานลมอัดจากปั๊มลมเป็นทางเลือกแทนการใช้มอเตอร์ไฟฟ้า
แต่สิ่งที่หลายคนอาจไม่รู้คือ เครื่องเจียรลม ก็เป็นอุปกรณ์หนึ่งที่เราสามารถหาซื้อมาใช้กับปั๊มลมได้ด้วยเหมือนกัน แล้วมันดีกว่ายังไงล่ะ? จะเหมือนกับบล็อกลมที่ให้พลังงานสูง เครื่องไม่ร้อน หรือว่ามีอะไรมากกว่านั้นอีก? และถ้าซื้อมาใช้จริง ๆ จะคุ้มค่าแค่ไหน ใช้งานหนักได้เท่าเครื่องเจียรไฟฟ้า พกพาง่ายเหมือนรุ่นไร้สาย หรือไม่?
ในบทความนี้ผมเลยอยากมาเล่าเรื่อง เครื่องเจียรลม แบบคร่าว ๆ กึ่งประสบการณ์จากการได้ลองสัมผัส เพื่อเจาะลึกถึงความเท่ ของเครื่องเจียรลมว่ามันมีดียังไง ใช้งานจริงแล้ว ให้ความรู้สึกแบบไหน แล้วถ้าเป็นอู่ซ่อมรถ หรือโรงงานที่มีปั๊มลม มันจะน่าใช้มากแค่ไหน แม้เครื่องเจียรไฟฟ้าจะสะดวกกว่าในหลาย ๆ ด้านก็ตาม เพื่อให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้นว่าควรลงทุนกับเครื่องเจียรแบบไหนมากกว่ากัน
เครื่องเจียรลม คืออะไร?
เครื่องเจียรลม (Air/Pneumatic Grinder) ใช้พลังงานจากลมอัดที่มาจากปั๊มลม ทำให้ไม่ต้องใช้ไฟฟ้าโดยตรง ตัวเครื่องมักจะมีขนาดเล็ก น้ำหนักเบา และไม่มีปัญหาเรื่องความร้อนสะสมเหมือนเครื่องเจียรไฟฟ้า จึงทำงานต่อเนื่องได้ยาวนานกว่า จุดนี้เองที่ทำให้เครื่องเจียรลมถูกใจช่างที่ต้องทำงานหนัก ๆ ทั้งวัน โดยไม่ต้องกลัวเครื่องพัง หรือไหม้ครับ
นอกจากนี้ ด้วยโครงสร้างที่เรียบง่ายของมัน ทำให้การดูแลรักษาง่ายกว่า ไม่ต้องกังวลเรื่องการเปลี่ยนแปรงถ่าน หรือแผงวงจรพังเหมือนพวกเครื่องมือไฟฟ้า การซ่อมบำรุงจึงค่อนข้างตรงไปตรงมา เปลี่ยนอะไหล่ไม่กี่ชิ้นก็พร้อมกลับมาทำงานต่อได้ทันที
จริง ๆ แล้วเครื่องเจียรลมก็มีหลายชนิดครับ ทั้งแบบคอตรง รอบสูงมาก ๆ ที่นิยมใช้กับหัวเจียรเล็กสำหรับงานละเอียด และแบบคอมุมลักษณะคล้ายเครื่องเจียรไฟฟ้า หรือที่เรียกว่าลูกหมู (Angle Grinder) ซึ่งออกแบบมาให้ทำงานคล้ายและใช้ใบเจียรเหมือนเครื่องเจียรไฟฟ้าเลย แค่เปลี่ยนมาใช้พลังงานจากลมแทน บทความนี้เราจะมาเน้นกันที่กลุ่มหลัง คือเครื่องเจียรลมแบบลูกหมู เพื่อเปรียบเทียบให้เห็นข้อดีข้อเสียของระบบลมกันอย่างชัดเจน
เครื่องเจียรลม กับเครื่องเจียรไฟฟ้า อะไรมาก่อนกัน?
หลายคนอาจคิดว่าระบบลมคือระบบดั้งเดิมของเครื่องมือหลายชนิด เพราะพลังงานลมก็ถูกคิดค้นก่อน และดูจะไม่ซับซ้อนเท่ากับมอเตอร์ไฟฟ้าที่ต้องมีทั้งแปรงถ่าน หรือไร้แปรงถ่าน และแผงวงจรต่าง ๆ แต่ในกรณีของเครื่องเจียรลม มันตรงกันข้ามครับ จริง ๆ แล้วเครื่องเจียรตัวแรกของโลกเป็นเครื่องมือไฟฟ้าแบบมีสาย ผลิต ในปี 1954 โดย FLEX-Elektrowerkzeuge ของประเทศเยอรมนี ก่อนที่จะต่อยอดพัฒนามาเป็นเครื่องเจียรในปัจจุบัน ทั้งแบบมีสาย และไร้สายที่เราเห็นกันทุกวันนี้จากแบรนด์ดังอย่าง Dewalt หรือ Makita
เครื่องเจียรไฟฟ้า และไร้สายคือสิ่งที่เราเห็นจนคุ้นตาตามบ้าน ตามไซต์งานครับ มันใช้ใมอเตอร์ไฟฟ้าในการขับเคลื่อน ข้อดีคือเสียบปลั๊กก็ทำงานได้ทันที หรือบางรุ่นใช้แบตเตอรี่ก็ยกไปทำงานได้ทุกที่ ไม่ต้องพึ่งปั๊มลมเหมือน เครื่องเจียรลม จุดนี้ถือว่าสะดวกมากสำหรับคนที่ต้องไปทำงานนอกสถานที่บ่อย ๆ ครับ แล้วถ้าดูแลดีด้วย 6 วิธีง่าย ๆ เครื่องเจียรก็จะใช้งานไปได้อีกนาน
มาถึงตรงนี้ คุณอาจมีคำถามอยู่ในใจว่า เครื่องเจียรไฟฟ้ามันดูดี และดูใช้ง่ายกว่า แล้วทำไมถึงยังมีเครื่องเจียรลมออกมาวางขายอยู่ในตลาด? คำถามนี้แหละครับที่เราจะมาเจาะลึก และหาคำตอบไปพร้อม ๆ กัน ว่าจริง ๆ แล้วเครื่องเจียรลมมีข้อดีอะไรซ่อนอยู่บ้าง และเหตุผลที่ช่างหลายคนยังเลือกใช้งานมันคืออะไร?
ข้อดีของ เครื่องเจียรลม
ก่อนจะไปดูข้อดีแต่ละข้อละข้อ ผมอยากเล่าให้ฟังก่อนครับว่า ทำไม เครื่องเจียรลม มันถึงน่าหยิบมาใช้ในงานจริง ไม่ใช่แค่เพราะเท่ แต่เพราะมันให้ความรู้สึกที่แตกต่างเวลาจับทำงานจริง ๆ ทรงที่ออกแบบมาให้สั้น และเล็ก ทำให้รู้สึกว่าควบคุมได้ดีกว่า แถมไม่มีมอเตอร์ไฟฟ้า ไม่ต้องกังวลว่าจะจับโดนส่วนที่ร้อน มอเตอร์ตัดการทำงาน ไฟซ็อต และปัญหางานสะดุดจากระบบไฟฟ้าที่เอาแน่เอานอนไม่ได้ หรือแบตเตอรี่หมดเร็ว
1. จับง่าย น้ำหนักเบา ทำงานได้นาน
หลังจากที่ได้ลองจับ ลองใช้เครื่องเจียรไฟฟ้า 4 นิ้วมาหลายตัว ผมก็ไม่ได้รู้สึกว่าน้ำหนักมันเยอะอะไรมากนะครับ ทั้งแบบมีสาย และไร้สายรวมแบต แต่พอได้ลองยกเครื่องเจียรลมขึ้นมา คือมันเบากว่ารุ่นไร้สายพร้อมแบตพอสมควร
ตัวที่ผมจับก็ตัวที่ใช้กับใบ 4 นิ้วเหมือนกัน น้ำหนักก็พอ ๆ กับรุ่นมีสายเลยครับ แต่ตัวเครื่องเล็ก จับมือเดีบวได้ไม่เมื่อยมือ และทำจากอลูมิเนียมที่เสริมเรื่องความทนทาน นึกภาพออกเลยว่า งานละเอียดที่ต้องใช้สมาธิสูง ความเบานี้ช่วยได้เยอะเลย
2. ไม่ร้อนง่าย ใช้ต่อเนื่องได้
อันนี้เป็นพื้นฐานของเครื่องมือลม และเหตุผลหลัก ๆ ที่ทำไมคนใช้ทั้งวันถึงเลือกใช้เครื่องมือลมแทนเครื่องมือไฟฟ้าครับ เพราะเช่นเดียวกับบล็อก หรือสว่าน และไขควงระบบลม เครื่องเจียรลมนั้น ต่างจากเครื่องเจียรไฟฟ้าที่ใช้ไปนาน ๆ จะรู้สึกเครื่องร้อนขึ้นมา
เครื่องเจียรลมแทบไม่มีปัญหานี้ครับ เพราะพลังงานหลักมาจากลม ไม่ใช่มอเตอร์ไฟฟ้าในตัว ทำให้เครื่องทำงานได้ต่อเนื่องโดยไม่ต้องพัก ยิ่งถ้าตัวเครื่องเบาอยู่แล้ว ก็ใช้งานได้ไม่มีสะดุดเลย
3. ขนาดกะทัดรัด เข้าซอกมุมได้ดี
ใครที่เคยใช้เครื่องเจียรไฟฟ้าจะรู้ว่าตัวเครื่องค่อนข้างเทอะทะ อันนี้ไม่แปลกครับ ช่างหลายคนก็บอกผมแบบนี้ เครื่องเจียร หรือลูกหมูนั้น มันจะมีทรงอวบๆ จากมอเตอร์ที่ใช้ฟันเฟืองที่แกนในการหมุนหัวอีกทีนึง แต่เครื่องเจียรลม ทั้งแบบตรง และแบบงอ หัวจะเล็กกว่าชนิดที่ใช้ไฟฟ้าอยู่แล้วครับ ทำให้เครื่องเจียรเหล่านี้จะเลาะเข้าไปในซอกแคบ ๆ ได้ง่ายดาย เหมาะมากกับงานซ่อม งานแม่พิมพ์ หรือชิ้นงานที่ละเอียด
ข้อเสียของ เครื่องเจียรลม
มาถึงตรงนี้แล้ว หลายคนก็คงคิดแบบผม และปฏิเสธไม่ได้ว่าเครื่องเจียรลมนั้น มีข้อดีหลายอย่าง แต่อย่าลืมว่าทุกอุปกรณ์ก็มีข้อจำกัดครับ ดังนั้นเราต้องมีการลิตส์สิ่งที่อาจเจอเวลานำเครื่องเจียรลม ไปใช้งานจริงซักหน่อย ยิ่งถ้าเทียบกับเครื่องเจียรไฟฟ้าที่ใช้ง่าย และคล่องตัวกว่าในหลายสถานการณ์แล้วเนี่ย ลองมาดูกันครับว่ามีอะไรบ้าง
1. ต้องมีปั๊มลม
อันนี้ถือเป็นข้อจำกัดใหญ่ของเครื่องเจียรลมเลยครับ คือคุณต้องมี ปั๊มลม และสายลมที่เข้ากันได้ถึงจะใช้เครื่องมือตัวนี้ได้ ถ้าไม่มีระบบลมในโรงงาน หรืออู่ซ่อมอยู่แล้ว คุณจะต้องลงทุนสูงขึ้นทันที เพราะต้องซื้อทั้งปั๊มลม สายลม และอุปกรณ์เสริมต่างๆ เช่นตัวกรอง และวาล์วปรับแรงดัน
2. พลังงานขึ้นอยู่กับแรงดันลม
เครื่องเจียรลมจะทำงานเต็มประสิทธิภาพก็ต่อเมื่อแรงดันลมเพียงพอ ถ้าปั๊มลมเล็กเกินไป หรือใช้พร้อมกับเครื่องมืออื่นที่กินลมมาก อาจเจอปัญหาลมตก ทำให้กำลังเครื่องไม่สม่ำเสมอ
เพื่อให้เครื่องเจียรทำงานต่อเนื่องไม่สะดุดคุณจะต้องคอยดูแรงม้า และปริมาณลมของปั๊มลมนั้น ๆ ด้วยครับ เพราะอย่าลืมว่างานเจียรนั้นเป็นงานต่อเนื่องไม่เหมือนกับงานยิงตะปู หรือใช้บล็อกขันน็อต ที่จะพักเป็นช่วง ๆ ปั๊มลมที่จ่ายลมได้ทีละน้อย อาจส่งผลให้งานต้องหยุดหลายครั้ง
3. ใช้งานนอกสถานที่ไม่สะดวก
ถ้าต้องไปทำงานนอกสถานที่ เครื่องเจียรลม แทบจะหมดสิทธิ์เลยครับ เพราะคุณคุณคงจะไม่แบกปั๊มลมไปไหนได้ง่าย ๆ แล้วถ้ายิ่งต้องใช้ปั๊มลมขนาดใหญ่เพราะใช้งานต่อเนื่อง ก็ยิ่งยากขึ้นไปอีก ต่างจากเครื่องเจียรไฟฟ้าที่หยิบไปพร้อมสายไฟ หรือแบตก็พร้อมใช้งานได้เลย
ความเร็วรอบต่างกันอย่างไร ?
หนึ่งในความแตกต่างที่หลายคนอาจมองข้ามคือเรื่อง ความเร็วรอบ (RPM) ของเครื่องเจียรลมและเครื่องเจียรไฟฟ้าครับ เครื่องเจียรลมรอบจัดจริง ส่วนใหญ่จะมีรอบหมุนที่สูงมาก เครื่องเจียรตัวเล็กอาจรอบสูงได้ถึง 20,000 RPM ส่วนเครื่องเจียรลูกหมูรอบก็มักจะเกิน 10,000 RPM แต่ไม่มากจนใส่ใบเจียรมาตรฐานไม่ได้ เหมาะกับงานที่ต้องการความละเอียด เช่น ขัด เจียร หรือลบคมเล็ก ๆ
ในขณะเดียวกันเครื่องเจียรไฟฟ้าส่วนใหญ่จะมีรอบต่ำกว่า มักจะอยู่ที่ประมาณ 8,000 และสูงสุดได้ไม่เกิน 12,000 RPM ในรุ่นมีสาย แม้รอบจะต่ำกว่า เครืองเจียรไฟฟ้าก็ให้แรงบิดสูงกว่านะครับ ทำให้มันเหมาะกับงานตัด หรือเจียรที่ต้องใช้กำลัง เช่น ตัดเหล็กหนา ๆ หรืองานก่อสร้างที่ต้องการพลังมากกว่าความเร็วรอบครับ
ใช้ใบเจียร ใบตัด เหมือนกันได้ไหม?
นี่ก็เป็นอีกหนึ่งคำถามที่หลายคนสงสัยครับ ว่า เครื่องเจียรลมกับเครื่องเจียรไฟฟ้า ใช้ใบเจียร หรือใบตัดแบบเดียวกันได้หรือเปล่า? คำตอบคือ โดยทั่วไปแล้วใบเจียร และใบตัดมาตรฐาน เช่น ใบเจียรเหล็ก ใบตัดสแตนเลส หรือใบตัดคอนกรีต สามารถใช้ร่วมกันได้ถ้าขนาดแกน และเส้นผ่านศูนย์กลางตรงกัน แต่สิ่งที่ต้องระวังคือ รอบหมุนสูงสุดที่ระบุบนใบเจียรครับ เพราะถ้าเอาใบที่ออกแบบมาสำหรับรอบต่ำ ไปใช้กับเครื่องเจียรลมที่มีรอบสูงกว่า อาจเสี่ยงต่อการแตก หรือหลุดกระเด็นได้

สรุป เลือกแบบไหนดี?
มาถึงตอนท้ายนี้ คำถามที่ว่า “ควรเลือกแบบไหน” นั้น ผมว่ามันขึ้นอยู่กับ ลักษณะงานหลัก ๆ ที่คุณใช้จริง ๆ ครับ ถ้าเป็นโรงงาน หรืออู่ซ่อมรถที่มีระบบปั๊มลมอยู่แล้ว การเลือก เครื่องเจียรลม ถือว่าคุ้มค่า กับการใช้งานต่อเนื่องได้ดี เบา ไม่เมื่อยมือ และตอบโจทย์งานละเอียด งานแม่พิมพ์ หรืองานที่ต้องใช้ความแม่นยำสูงได้สบาย ๆ
แต่ถ้าคุณเป็นช่างที่ต้องไปทำงานตามไซต์บ่อย ๆ หรือทำงานตัดหนัก ๆ อย่างเหล็ก หรือคอนกรีต การเลือก เครื่องเจียรไฟฟ้า จะให้ความสะดวก และมั่นใจมากกว่า ไม่ต้องลงทุนกับอุปกรณ์เสริมเพิ่มเติมให้ยุ่งยาก
สรุปแล้ว เครื่องเจียรลม และเครื่องเจียรไฟฟ้า ต่างก็มีข้อดีข้อเสียของตัวเอง ใช้แทนกันได้บางส่วน แต่ไม่ทั้งหมดครับ อยู่ที่ว่าคุณต้องการใช้งานแบบไหนมากกว่า ถ้าเป็นงานต่อเนื่อง ละเอียด และไม่อยากกังวลเรื่องเครื่องร้อน เครื่องเจียรลมคือตัวเลือกที่ใช่
แต่ถ้างานของคุณเน้นความสะดวก เครื่องเจียรไฟฟ้าก็ตอบโจทย์สุด ๆ เช่นกัน ดังนั้น ก่อนตัดสินใจ ลองถามตัวเองก่อนครับว่า งานของคุณต้องการแบบไหนมากที่สุด และเลือกโดยใช้ตรงนี้เป็นจุดโฟกัส
ถ้าต้องการรอบสูง งานหนัก ทำงานทั้งวัน มีปั๊มลมอยู่แล้ว เครื่องเจียรลม อาจเป็นเครื่องมือที่ใช่ที่สุดสำหรับคุณครับ