Customers Also Purchased
เคยเป็นไหมครับ?… เวลาอยากเสียบปลั๊กอุปกรณ์หลายอย่างพร้อมกัน พาวเวอร์บ๊อก (Power Box) รับจบ! เพราะมันสะดวกจริง ๆ เสียบทีเดียวใช้ได้ทั้ง ชาร์ตโทรศัพท์ พัดลม ไปจนถึง ทีวี ตู้เย็น ครบจบในกล่องเดียว แต่… สิ่งที่หลายๆคนไม่คาดคิดเลยก็คือ “การเลือก พาวเวอร์บ๊อก ผิดประเภท” อาจเป็นชนวนที่ทำให้เกิดทั้งไฟช็อต หรือร้ายแรงกว่านั้นคือไฟไหม้บ้านได้เลยครับ
เพราะฉะนั้น ในบทความนี้ เราเลยอยากชวนทึกคนมาคุยเรื่อง พาวเวอร์บ๊อก ในมุมมองใหม่ ๆ กันสักหน่อย มันไม่ใช่แค่ปลั๊กต่อพ่วงธรรมดา แต่เป็นเหมือนหัวใจเล็ก ๆ ที่ช่วยจัดการระบบไฟในบ้านหรือที่ทำงาน ถ้าเลือกถูก คุณก็ใช้งานได้อย่างปลอดภัย สบายใจไปยาว ๆ แต่ถ้าเลือกผิด บอกเลยว่าอันตรายกว่าที่คิดแน่นอน

พาวเวอร์บ๊อก คืออะไร? ทำไมเราต้องใส่ใจ
พาวเวอร์บ๊อก (Power Box) คืออะไร? และทำไมถึงมีความสำคัญ? หลายๆคนอาจจะคิดว่า “พาวเวอร์บ๊อก ก็คือปลั๊กพ่วงนั่นแหละ จะเลือกอันไหนก็เหมือนๆกัน” แต่… ความจริงไม่ใช่เลยครับ! เพราะ พาวเวอร์บ๊อก แต่ละแบบเนี่ย มันก็ออกแบบมาไม่เหมือนกัน พาวเวอร์บ๊อก บางรุ่นรองรับกระแสไฟได้แค่ 10A ซึ่งเหมาะกับอุปกรณ์เล็ก ๆ อย่างพัดลม โทรศัพท์ หรือทีวี แต่ถ้าเป็น พาวเวอร์บ๊อก รุ่นที่รองรับได้ 16A ขึ้นไป จะเหมาะกับของกินไฟหนัก ๆ อย่างตู้เย็น ไมโครเวฟ หรือแอร์เล็ก ๆ แบบนี้ถึงจะเอาอยู่
เราเองก็เคยเจ็บมาแล้วครับ… เมื่อก่อน อยากประหยัด เลยไปสอย พาวเวอร์บ๊อก ราคาถูกจากอินเตอร์เน็ตมาใช้งาน พอได้มาก็เสียบมันทุกอย่างที่มี ไท่ว่าจะเป็น คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์ พัดลมพอผ่านไปซักพัก… พาวเวอร์บ๊อก เริ่มร้อนๆ สักแปปได้กลิ่นไหม้ลอยมา งานเข้าแล้ว! ต้องรีบวิ่งไปถอดปลั๊กแทบไม่ทัน ใจหายแว๊บ! พอผ่านเหตุการณ์นั้นมา เราถึงเข้าใจเลยว่า การเลือก พาวเวอร์บ๊อก มันไม่ใช่เรื่องเล่น ๆ เลย ไม่ใช่ดูแค่ราคาถูกแล้วซื้อมาใช้ เพราะถ้าพลาดขึ้นมา ความเสียหายมันไม่ใช่หลักร้อย แต่เป็นทั้งบ้านทั้งชีวิตเลยครับ
อันตรายจากการเลือก พาวเวอร์บ๊อก ผิด!
ไฟช็อต
หลายๆคนอาจไม่รู้ว่า พาวเวอร์บ๊อก ถูก ๆ ส่วนใหญ่ไม่ได้ใช้วัสดุหรือสายไฟที่ได้มาตรฐานสักเท่าไหร่ ฉนวนก็บาง พอใช้นาน ๆ เข้าก็เริ่มเสื่อม บางทีสายขาดในแบบที่เราไม่เห็นด้วยตาเปล่า แล้วเกิดไฟรั่วขึ้นมา พอมือเผลอไปโดนแค่แป๊บเดียว ก็เสี่ยงไฟช็อตได้เลย เคสแบบนี้ไม่ใช่เรื่องไกลตัวเลย บางรายเจ็บหนัก บางรายถึงขั้นเสียชีวิตก็มี บอกเลยอันตรายมากๆ
ไฟไหม้
อีกอย่างที่น่ากลัวคือ “ไฟไหม้” ซึ่งมักเกิดจากการใช้งานเกินกำลัง สมมุตินะครับ พาวเวอร์บ๊อก ที่รองรับได้ 10A แต่เราดันไปเสียบทั้งพัดลม ทีวี แล้วต่อเพิ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าอีกหลายๆอย่าง ผลก็คือโหลดมันเกินครับ พอไฟวิ่งผ่านสายมากเกินไป ความร้อนก็สะสม จนสายละลายหรือหัวปลั๊กไหม้ได้เลย หลายบ้านที่ไฟไหม้ต้นเหตุก็มาจากจุดเล็ก ๆ แค่ พาวเวอร์บ๊อก นี่แหละครับ
เครื่องใช้ไฟฟ้าเสียหาย
อีกเรื่องที่คนไม่ค่อยนึกถึงคือ เครื่องใช้ไฟฟ้าพังเพราะพาวเวอร์บ๊อกคุณภาพต่ำครับ แรงดันไฟฟ้าที่มันส่งออกมาไม่คงที่ บางทีกระชากแรง บางทีก็ตก ทำให้เครื่องใช้ไฟฟ้าทำงานผิดปกติ ยิ่งถ้าเป็นของแพง ๆ อย่างคอมพิวเตอร์ โน้ตบุ๊ก หรือทีวีจอใหญ่ เสียหายทีนี่น้ำตาซึมเลยครับ เจ็บใจกว่าเดิมตรงที่ความเสียหายหลักหมื่น เกิดขึ้นเพราะเราอยากประหยัดพาวเวอร์บ๊อกไม่กี่ร้อยเอง
พาวเวอร์บ๊อก ที่ดีควรมีอะไรบ้าง?
จริง ๆ แล้วการเลือก พาวเวอร์บ๊อก ไม่ได้ซับซ้อนเลยครับ แค่สังเกตคุณสมบัติสำคัญไม่กี่อย่าง ก็ช่วยลดความเสี่ยงและใช้งานได้สบายใจขึ้นเยอะ
- มีมาตรฐาน มอก. อันนี้คือด่านแรกที่ควรดูเลยครับ อย่างน้อยที่สุดต้องมีตรา มอก. เพราะมันเป็นการยืนยันว่า ผ่านการตรวจสอบตามมาตรฐานความปลอดภัยแล้ว ถ้าไม่มีตรานี้ เสี่ยงไปใช้แบบไม่รู้ตัวเลยครับ
- รองรับกระแสไฟเพียงพอ ดูที่ตัวเลขพวก 10A, 16A หรือมากกว่า เลือกให้เหมาะกับอุปกรณ์ที่จะใช้ เช่น ถ้าเสียบพัดลม ทีวี ชาร์จมือถือทั่วไป 10A ก็พอ แต่ถ้าเริ่มมีของกินไฟหนัก ๆ อย่างไมโครเวฟ ตู้เย็น หรือเครื่องซักผ้า ควรเลือก 16A ขึ้นไปครับ
- มีสวิตช์ควบคุมและฟิวส์/เบรกเกอร์ จุดนี้ช่วยป้องกันไฟเกินหรือไฟช็อตได้ดีเลยครับ เวลาเกิดเหตุไม่คาดคิด มันจะตัดไฟทันที เหมือนมีประกันตัวเล็ก ๆ อยู่ในบ๊อก
- วัสดุทนความร้อน ตัวบ๊อกและสายไฟควรทำจากวัสดุที่ไม่ติดไฟง่าย พอใช้งานจริงมันจะไม่กรอบ ไม่ละลายง่าย ๆ
- สายไฟขนาดใหญ่ สำหรับงานทั่วไป แนะนำอย่างน้อย 1.0–1.5 sq.mm. ถ้าจะใช้กับเครื่องใช้ไฟฟ้าหนัก ๆ เช่น เตารีด แอร์เล็ก ๆ หรือเครื่องทำน้ำอุ่น ควรขยับไปที่ 2.5 sq.mm. เพื่อความอุ่นใจครับ
- มีระบบป้องกันไฟกระชาก (Surge Protection) ถ้าคุณจะใช้กับคอมพิวเตอร์ โน้ตบุ๊ก หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ราคาแพง ๆ ตัวนี้ช่วยยืดอายุการใช้งานได้เยอะครับ
เราเคยสอบถามผู้ใช้งานจริงมาแล้ว ผลต่างชัดเจนมากครับ ระหว่าง พาวเวอร์บ๊อก ราคาถูก กับ รุ่นที่มีมาตรฐาน ตัวราคาถูกใช้งานไปไม่ถึงเดือน ช่องเสียบก็เริ่มหลวม ไฟติดบ้างดับบ้าง จนไม่กล้าใช้ต่อ แต่พอเป็นรุ่นที่ลงทุนเพิ่มขึ้นอีกนิด กลับใช้งานได้ยาว ๆ 3–4 ปี ช่องเสียบยังแน่นเหมือนใหม่ ไม่ต้องคอยลุ้นว่าจะพังเมื่อไหร่ ดังนั้น ถ้าไม่อยากเสี่ยงและอยากได้ของที่ใช้คุ้มจริง ๆ นี่คือ 5 สิ่งที่ต้องเช็กก่อนซื้อพาวเวอร์บ๊อก เพื่อความปลอดภัย ใช้ทน และคุ้มค่ากับเงินที่จ่ายแน่นอน ครับ
วิธีใช้ พาวเวอร์บ๊อก ยังไงให้ปลอดภัย?
จริงอยู่ที่การเลือก พาวเวอร์บ๊อก ที่ดีเป็นก้าวแรก แต่ถ้าเราใช้งานไม่ถูกต้อง มันก็ยังเสี่ยงอยู่ดีครับ เพราะฉะนั้นแนะนำให้ลองทำตามนี้ จะได้ปลอดภัยขึ้นเยอะเลย เชื่อเราเถอะ
- อย่าเสียบเครื่องใช้ไฟฟ้ากำลังสูงพร้อมกันหลายๆตัว หลายคนอาจคิดว่า “เสียบรวม ๆ กันไปเลย จะได้ไม่ต้องแยก” แต่ความจริงเครื่องพวกไมโครเวฟ เตารีด หม้อหุงข้าว พอมาอยู่พร้อมกันทีเดียว กินไฟหนักมากครับ พาวเวอร์บ๊อก ทั่วไปเอาไม่อยู่แน่นอน ผลคือไฟเกินจนร้อนจี๋ และเสี่ยงไฟไหม้ได้
- ไม่พ่วงต่อกันหลายชั้น เคยทำใช่ไหมครับ? ยอมรับมาซ่ะดีๆ เอา พาวเวอร์บ๊อก เสียบซ้อนกันยาวเป็นพวง ง่ายก็จริง แต่บอกเลยว่าอันตรายสุด ๆ เพราะไฟต้องวิ่งผ่านหลายชั้น ทำให้โหลดมันหนักเกินที่ออกแบบไว้ ถ้าโชคร้ายคือเกิดไฟไหม้จากตรงนี้เลยครับ
- หมั่นตรวจเช็คสายไฟ เวลาใช้งานไปนาน ๆ สายไฟมันก็เสื่อมตามอายุครับ ถ้าเริ่มแข็ง กรอบ แตก หรือได้กลิ่นเหม็นไหม้ แปลว่าไม่ควรเสี่ยงใช้งานต่อแล้ว ถึงจะยัง “พอใช้ได้” แต่ดีกว่าคือเปลี่ยนใหม่ครับ ราคาหลักร้อยดีกว่ามาซ่อมบ้านหลักแสนจริงไหม?
- วางในที่อากาศถ่ายเท หลายคนชอบวางพาวเวอร์บ๊อกไว้ใต้โต๊ะ มีผ้าคลุม หรือบางทีวางในมุมอับชื้น ซึ่งพอความร้อนสะสมก็ยิ่งเสี่ยงไฟไหม้ครับ จริง ๆ ควรวางในที่โล่ง ๆ อากาศระบายได้สะดวก จะช่วยยืดอายุการใช้งานด้วย