เลือก ชุดไขควง ยังไงให้คุ้ม? สำหรับงานมืออาชีพ หรือใช้งานทั่วไป

Customers Also Purchased

ลองนึกดูสิครับ… เวลาที่เราจะหยิบ ไขควง ขึ้นมาใช้เนี่ย เคยมีโมเมนต์ที่หัวร้อนกันบ้างไหม? หากนึกภาพไม่ออก ลองนึกดูว่า คุณเจอว่าน็อตเป็นหัวแบน แต่ดันมีแต่ไขควงปากแฉกอยู่ในมือ หรือเซอร์ไพร์สุดๆ เจอหัวน็อตแบบพิเศษ แต่ ไขควง ที่มีดันไม่พอดี สุดท้ายก็ต้องไปยืมเพื่อนข้างบ้าน หรือไม่ก็จำใจใช้ไขควงผิดหัว ผลก็คือ… น็อตบาน งานพัง เสียเวลา แถมเสียอารมณ์กันไปเต็ม ๆเลยครับ 

เพราะเหตุผลนี้แหละครับ “ชุดไขควง” ถึงกลายเป็นเครื่องมือช่างที่ต้องมีติดบ้านเอาไว้ มีไว้อุ่นใจกว่า ไม่ว่าจะเป็นงานซ่อมเล็ก ๆ อย่างประกอบเฟอร์นิเจอร์ เปลี่ยนถ่านนาฬิกา ไปจนถึงงานซ่อมใหญ่ ๆ ที่โรงงานที่เจอหัวน็อตสารพัดแบบ แต่คำถามที่ตามมาก็คือ… แล้วเราควรเลือก ชุดไขควงแบบไหน? ถึงจะได้ทั้งคุ้มและตอบโจทย์ที่สุด? 

เลือก ชุดไขควง ยังไงให้คุ้ม สำหรับงานมืออาชีพ หรือใช้งานทั่วไป

เข้าใจก่อนว่า ชุดไขควง มีหลายแบบ

หลายๆคนมักมองว่า ชุดไขควง ก็แค่รวมไขควงหลาย ๆ ด้ามไว้ในกล่องเดียวกันเท่านั้น! แต่จริง ๆ แล้ว ชุดไขควง มันมี ให้เลือกอยู่ 2 แบบใหญ่ ๆ ครับ ซึ่งแต่ละแบบก็มีข้อดีข้อเสียต่างกันไป ขึ้นอยู่กับว่าเราเอาไปใช้กับงานแบบไหน?

1. ชุดไขควง ด้ามตาย (Fixed Screwdrivers)

อันนี้คือแบบคลาสสิกเลยครับ ที่สามารถเห็นได้ทั่วๆไปเลย ชุดไขควง แต่ละด้ามก็จะเป็นหัวตายตัวไปเลย เช่น ปากแบน ปากแฉก Torx Hex อะไรก็ว่ากันไปของแต่ละชุด ข้อดีคือหยิบใช้ง่าย ไม่ต้องมานั่งเปลี่ยนหัวให้เสียเวลา ใช้แรงได้เต็มไม้เต็มมือ แข็งแรงทนทาน แต่ข้อเสียก็ชัดเจนเหมือนกัน ถ้ามีหลายเบอร์ หลายหัว ก็ต้องพกทั้งกล่องไปด้วย หนักและเกะกะอยู่เหมือนกัน

2. ชุดไขควง เปลี่ยนหัว (Bit Set)

อันนี้มาแรงมากในยุคนี้ เพราะมีด้ามเดียว แต่เปลี่ยนหัวบิตได้สารพัด ไม่ว่าจะเป็นปากแบนเล็ก-ใหญ่ แฉก #1 #2 หกเหลี่ยม หรือ Torx ก็ครบชุด จุดเด่นคือพกพาสะดวก ประหยัดพื้นที่ กล่องเล็ก ๆ ก็ครอบคลุมแทบทุกงานแล้ว แต่ข้อเสียคือถ้าหัวบิตคุณภาพไม่ดี ใช้บ่อย ๆ จะสึกง่าย หรือบางทีเผลอ ๆ หายบ่อยกว่าที่คิดอีก

เลือก ชุดไขควง ยังไงให้คุ้ม สำหรับงานมืออาชีพ หรือใช้งานทั่วไป

คุณภาพของเหล็ก สำคัญกว่าที่คิด

เคยมั้ยครับ…เลือกซื้อ ชุดไขควง ถูก ๆ มาใช้แล้วเจอปัญหา “หัวบิท!” หมุนน็อตทีไรลื่นปรื๊ด ๆ สุดท้าย… ทั้งน็อตก็พัง ไขควงก็เสีย กลายเป็นเสียของไปทั้งคู่ แบบนี้แหละที่ทำให้หลาย ๆ คนจะต้องซีเรียสกับ “วัสดุที่ใช้ทำหัวไขควง” มาก ๆ เพราะมันมีผลกับความทนทานโดยตรงเลยครับ ลองมาดูกันว่า ชุดไขควง ที่เราเห็นในท้องตลาด เขามีวัสดุอะไรบ้าง? และแต่ละแบบต่างกันยังไง? มาดูไปพร้อมๆกันเลยครับ 

เหล็ก Chrome Vanadium (Cr-V) 

เราบอกเลยครับ เหล็กประเภทนี้ เรียกได้ว่าเป็น “พระเอก ของวงการไขควงเลยก็ว่าได้” ไม่ได้ถูกจนเกินไป แต่ก็ไม่แพงเว่อร์ จุดเด่นคือแข็งแรงพอสมควร ใช้กับงานบ้านทั่ว ๆ ไปก็เหลือเฟือ แถมยังเอาไปลุยงานกึ่งมืออาชีพได้แบบไม่อายใคร

พูดง่าย ๆ คือถ้าคุณอยากได้ชุดไขควงที่ไม่ต้องเปลี่ยนบ่อย ใช้แล้วมั่นใจว่าน็อตไม่บานง่าย แต่ก็ยังอยู่ในงบที่รับได้ Cr-V ถือว่าคุ้มมากครับ ช่างหลายคนก็มองว่าเป็น “มาตรฐานขั้นต่ำ” ที่ควรเลือก เพราะใช้ได้นาน ดูแลไม่ยาก แล้วก็ไม่ทำให้เสียอารมณ์เวลางานกำลังเพลิน ๆ แล้วหัวไขควงบิ่นไปซะก่อน

ชุดไขควง เหล็ก S2  

เหล็ก S2 เนี่ย ถือได้ว่าเป็นอีกระดับที่ “อัปเลเวล” จาก Cr-V เลยครับ แข็งแกร่งกว่าแบบเห็นได้ชัด เวลาหมุนน็อตแน่น ๆ หรือเจองานที่ต้องใช้แรงบิดสูง ๆ มันเอาอยู่สบาย ไม่บิ่น ไม่สึกง่าย ๆ ใช้ไปนาน ๆ ก็ยังคมอยู่เหมือนเดิม

พูดง่าย ๆ เลยครับ ถ้า Cr-V เป็น ชุดไขควง มาตรฐานบ้าน ๆ ที่ใช้แล้วสบายใจ S2 ก็คือเวอร์ชันโปรที่ออกแบบมาสำหรับคนจริงจังกับงาน โดยเฉพาะช่างที่ต้องหมุนน็อตทั้งวัน หรือคนที่ไม่อยากเปลี่ยนเครื่องมือบ่อย ๆ เพราะลงทุนทีเดียวแล้วใช้ยาว ๆ คุ้มกว่าเยอะ ถึงราคาจะสูงกว่าหน่อย แต่ก็คือ “จ่ายครั้งเดียวจบ” นั่นเอง 

ชุดไขควง เหล็กกล้าคาร์บอน 

หากพูดถึง เหล็กกล้าคาร์บอน บอกตรง ๆ เลยครับว่าเป็นพระเอกของ ชุดไขควง ราคาถูกที่เราเห็นกันตามห้างหรือร้านขายของเบ็ดเตล็ดทั่วไป มันใช้งานได้นะครับ ไม่ได้ถึงกับใช้ไม่ได้ แต่เรื่องความทนทานนี่…ต้องทำใจหน่อย เพราะใช้ไปไม่นานหัวก็มักจะบาน หรือสึกไวมาก ๆ

โดยเฉพาะถ้าเจอน็อตที่แน่น ๆ กัดแน่นมาก ๆ โอกาสที่ไขควงจะบิ่น หรือหัวจะลื่นจนหมุนไม่เข้า ก็มีสูงมากครับ แถมยังพาลทำให้น็อตเสียรูปไปด้วย สุดท้ายไม่ใช่แค่เสียไขควง แต่กลายเป็นเสียทั้งงานเลยก็มี หลายคนซื้อมาเพราะถูก แต่ใช้ไปใช้มา กลับต้องเสียเงินซื้อใหม่อีกรอบ สรุปคือแพงกว่าซื้อของดีตั้งแต่แรกซะอีก

พูดแบบกันเองเลยนะครับ ถ้าเอามาไว้ใช้งานเล็ก ๆ น้อย ๆ อย่างหมุนของเล่น ประกอบชั้นพลาสติกเล็ก ๆ พอได้อยู่ แต่ถ้าเจองานจริงจังขึ้นมาเมื่อไหร่ บอกเลยว่ามีโอกาสหัวเสียทั้งงานทั้งอารมณ์แน่นอนครับ

เราเองก็เคยพลาดเหมือนกันครับ ตอนแรกคิดว่า “งานบ้านเล็ก ๆ ไม่ต้องลงทุนเยอะหรอก” เลยซื้อชุดถูก ๆ มาไว้ใช้ที่บ้าน ใช้แค่เปลี่ยนถ่านของเล่นลูก น็อตเล็ก ๆ ง่าย ๆ นี่แหละ แต่ไม่กี่เดือนหัวเริ่มลื่น หมุนไม่เข้า สุดท้ายต้องไปซื้อชุดใหม่อยู่ดี สรุปจ่ายแพงกว่าเดิมซะงั้น ถ้าย้อนเวลาได้ก็คงเลือกชุดที่ใช้วัสดุทน ๆ ตั้งแต่แรกไปเลย

- 5 ชุดไขควง พกพายอดนิยมที่นายช่างมักมีกันไว้

เลือก ชุดไขควง ยังไงให้คุ้ม สำหรับงานมืออาชีพ หรือใช้งานทั่วไป

เลือก ชุดไขควง ยังไงให้คุ้ม สำหรับงานมืออาชีพ หรือใช้งานทั่วไป

ด้ามจับของ ชุดไขควง ก็สำคัญไม่แพ้กัน

เวลาซื้อ ชุดไขควง หลายคนมักจะโฟกัสไปที่ “จำนวนหัวบิต” ในกล่องว่ามีเยอะไหม ครบกี่แบบ แต่ดันลืมไปว่า “ด้ามจับ” นี่แหละของจริง! ครับ ลองคิดดูสิครับ บางด้ามเล็กเกินไป พอจับนาน ๆ มือก็เมื่อย บางด้ามผิวเรียบไม่มี Grip เวลาออกแรงเยอะ ๆ มือก็ลื่นปรื๊ด กลายเป็นว่าหมุนน็อตไม่เข้า แถมปวดมืออีกต่างหาก เรียกว่าซื้อมาเยอะแค่ไหนก็ไม่คุ้มถ้าใช้แล้วไม่สบายมือ

เราคิดว่าถ้าเป็นงานบ้านทั่ว ๆ ไป ใช้แค่แป๊บ ๆ ก็อาจจะไม่รู้สึกอะไรมาก แต่ถ้าเป็นงานที่ต้องหมุนน็อตทั้งวัน แบบช่างไฟ หรือช่างยนต์ แนะนำเลยครับว่า ต้องลองจับก่อนซื้อ ดูว่ามันเข้ามือมั้ย จับแล้วถนัดหรือเปล่า ยิ่งถ้าเลือกแบรนด์ที่ออกแบบด้ามตามหลักสรีรศาสตร์ อย่าง Wera, Knipex บอกเลยว่ามันต่างจาก ชุดไขควง ถูก ๆ แบบรู้สึกได้ทันทีเลยครับ ด้ามจะโค้งมนพอดีมือ มี Grip ที่ช่วยให้หมุนได้มั่นใจ ใช้นานแค่ไหนก็ไม่ปวดมือ สุดท้ายทำงานได้เร็วกว่าและไม่เสียแรงฟรีอีกด้วยนะ

เลือก ชุดไขควง ยังไงให้คุ้ม สำหรับงานมืออาชีพ หรือใช้งานทั่วไป

ประสบการณ์จากช่างวัยเก๋า

จากประสบการณ์ของช่างวัยเก๋า ที่เราได้คุยๆมา เมื่อก่อนเขาก็เคยคิดว่า “ซื้อถูก ๆ ก็เหมือนกันแหละ ใช้ได้เหมือนกัน” แต่พอเจอเข้ากับตัวจริง ๆ ถึงได้รู้เลยว่ามันไม่ใช่เลย ชุดไขควง ถูก ๆ ใช้ไม่กี่ครั้ง หัวก็บานแล้ว น็อตก็พังตามไปอีก บางทีงานที่ทำอยู่ดันเสียหายหนักกว่าเงินที่ประหยัดไปอีก สุดท้ายก็ต้องวิ่งออกไปซื้อใหม่กลางงาน เสียทั้งเวลา เสียทั้งแรง แถมอารมณ์ก็พังไปด้วย “พูดแล้วอารมณ์ขึ้นเลย”

ตั้งแต่นั้นมา เราเลยปรับวิธีคิดใหม่ เครื่องมือที่ต้องใช้บ่อย ๆ ควรเลือกดีไปเลยตั้งแต่แรก จ่ายครั้งเดียวแต่ใช้ได้ยาว ๆ คุ้มกว่ามาก แต่ถ้าเป็นของที่ใช้ปีละครั้งสองครั้ง อย่างซ่อมเล็ก ๆ น้อย ๆ ไม่ได้ใช้งานหนัก ผมก็เลือกแบบกลาง ๆ พอ ไม่จำเป็นต้องทุ่มกับทุกอย่างให้สุด เพราะสุดท้ายแล้ว เรื่องนี้มันอยู่ที่ “ความถี่ในการใช้งาน” และ “ความสำคัญของงาน” มากกว่าครับ และถ้าให้พูดถึง ชุดไขควง ที่ช่างหลายคนเลือกติดตัวไว้เป็นประจำ ก็คงหนีไม่พ้น 5 ชุดไขควงพกพายอดนิยมที่นายช่างมักมีกันไว้ เพราะตอบโจทย์ทั้งความสะดวก ความทน และความครบในการใช้งานนั่นเองครับ