Customers Also Purchased
หลายๆคนอาจจะมองว่า “กรรไกรตัดกิ่ง” มันก็เป็นแค่เครื่องมือธรรมดา ๆ ชิ้นหนึ่ง ที่เอาไว้ตัดกิ่งไม้แค่นั้น!? แต่…ไม่เลย ถ้าคิดแบบนั้นนะ เราบอกเลยว่าคุณกำลังพลาดเรื่องสนุก ๆ ของการทำสวนไปเยอะมาก! เพราะสำหรับชาวสวนตัวจริง กรรไกรตัดกิ่ง ไม่ใช่แค่เหล็กสองข้างประกบกัน แต่มันคือ “เพื่อนซี้” ที่ช่วยให้ต้นไม้สุขภาพดีอีกด้วย
เราเองก็เคยใช้ชีวิต พูดคุยประสบการณ์กับชาวสวนหลายๆคน ที่อยู่กับต้นไม้ ทําสวนเกษตรผสมผสานมาหลายปี เจอทั้งเรื่องฮา ๆ จนถึงบทเรียนราคาแพงเกี่ยวกับเจ้า กรรไกรตัดกิ่ง และด้วยเหตุผลนี้เอง เราเลยอยากแชร์ประสบการณ์เล็กๆน้อยๆที่ได้รับรู้มาจากชาวสวนหลายๆคน มาให้ตึณคนได้อ่านกันว่าเป็นยังไง และนี่คือ 10 ความลับของ กรรไกรตัดกิ่ง ที่ถ้าคุณรู้แล้ว การทำสวนของคุณจะง่ายขึ้น และอาจทำให้คุณตกหลุมรักงานตัดกิ่งมากกว่าที่เคยเป็นอยู่ก็ได้
กรรไกรตัดกิ่ง มีประเภทของมัน
เราเองก็เคยพลาดเหมือนกันครับ ใช้ “กรรไกรตัดกิ่ง Anvil ตัดกิ่งสดเพราะคิดว่า “มันก็คือ กรรไกรตัดกิ่ง” ผลคือลำต้นช้ำ ฟื้นตัวยาก แถมยังดูโทรมไปหลายสัปดาห์เลย ตอนนั้นถึงได้ซึ้งว่า การเลือกให้ถูกประเภท สำคัญพอ ๆ กับความคมของใบมีด เลย หลายคนอาจจะมองว่า “กรรไกรตัดกิ่ง มันก็คงมีแบบเดียว” แต่ความจริงแล้ว มันมีหลายแบบให้เลือกเลยนะครับ แต่ละแบบก็มีลักษณะการใช้งานที่แตกต่างกันไป
- Bypass – ใบมีดซ้อนกันเหมือนกรรไกรทั่วไป ให้รอยตัดเรียบเนียน เหมาะสุด ๆ สำหรับกิ่งสดหรือกิ่งอ่อน เพราะช่วยลดบาดแผลของต้นไม้
- Anvil – ใบมีดตัดลงบนฐานแบน เหมาะกับกิ่งแห้งหรือกิ่งแข็งที่ไม่ต้องห่วงเรื่องรอยช้ำ
- Ratchet – มีระบบทดแรง เหมาะมากสำหรับคนที่แรงน้อยหรือมีงานตัดต่อเนื่องเยอะ ๆ
ความคม = สุขภาพของต้นไม้
รู้ไหมครับ? รอยตัดที่คมกริบมันไม่ได้มีดีแค่ตัดง่ายเท่านั้น แต่ยังเป็นเหมือนการทำแผลสวยๆ ให้ต้นไม้ สมานได้เร็วขึ้น แถมยังลดโอกาสถูกเชื้อราและแมลงรบกวนอีกต่างหาก แต่…ตรงกันข้าม ถ้าใช้ใบมีดที่ทื่อเมื่อไหร่ล่ะก็งานมาแน่! รอยตัดจะฉีกขาดและช้ำ จนต้นไม้ฟื้นตัวช้า และบางครั้งก็กลายเป็นจุดเริ่มต้นของกิ่งเน่า จนทำให้ต้นไม้ตายได้เลย เราเคยสอบถามชาวสวนเรื่องนี้อยู่ว่า
“พี่ๆเคยพลาดพลาดบ้างไหมเนี่ย?”
“เคยสิ แต่…รู้นะว่าไม่คม แต่มันรีบๆ เลยแบบเดี๋ยวค่อยลับก็ได้ สุดท้ายต้องเสียเวลาและแรงไปกับการรักษากิ่งที่ป่วย ซึ่งใช้เวลานานกว่าตัดกิ่งตั้งเยอะ”
“รู้อะไรก็ไม่เท่า…รู้งี้”
เรามี 5 เคล็ดลับในการดูแล กรรไกรตัดกิ่ง หลังการใช้งาน ถือว่าเป็นเคล็ดลับง่าย ๆ ที่สามารถทำให้จนติดเป็นนิสัยได้เลย อย่าปล่อยให้คราบยางไม้เกาะจนกลายเป็นสนิม เพราะเชื่อเถอะ…แค่ดูแลนิดเดียว กรรไกรตัดกิ่ง ก็พร้อมลุยงานไปได้อีกยาว ๆเลยครับ
กรรไกรตัดกิ่ง = น้ำหนักที่ใช่
อันนี้เคยเจอมากับตัวเลย!…เราไปเห็น กรรไกรตัดกิ่ง ที่รูปร่างหน้าตาดูเท่ วัสดุอย่างดี จับแล้วรู้สึก “ของมันต้องมี” ใครเคยเป็นบ้าง? ถ้าเคยรู้ใช่ไหมว่าต้องทำไงต่อ! เราก็เลยสอยมาทันทีไงล่ะ! แต่…พอได้ใช้จริงเท่านั้นแหละ แค่ครึ่งชั่วโมงแรกแขนก็ล้าปล้ว ข้อมือมันเริ่มตึงๆ สุดท้ายต้องยอมแพ้ เปลี่ยนไปใช้รุ่นใหม่ที่เบากว่า
บทเรียนที่ได้ก็คือ “น้ำหนักสำคัญกว่าที่คิด!” สำหรับงานตัดกิ่งทั่วไป ควรเลือก กรรไกรตัดกิ่ง ที่มีน้ำหนักพอดีมือ ไม่เบาจนรู้สึกบอบบาง และไม่หนักจนต้องใช้สองมือช่วยตลอดเวลา เพราะน้ำหนักที่เหมาะสมจะช่วยให้คุณตัดได้ต่อเนื่องนานขึ้น ไม่ปวดข้อมือ แถมยังสนุกกับการทำสวนได้ยาว ๆ แบบไม่ต้องพักบ่อยอีกด้วย
อย่ามองข้ามสปริงของ กรรไกรตัดกิ่ง
หลายคนอาจมองข้าม “สปริง” ในตัว กรรไกรตัดกิ่ง แต่รู้ไหมครับว่ามันไม่ใช่แค่ชิ้นเล็ก ๆ ที่ไว้ดันใบมีดให้เปิดเท่านั้น…มันคือหัวใจที่ทำให้การตัดต่อเนื่องลื่นไหลแบบไม่สะดุด
ถ้าสปริงแข็งเกินไป คุณจะรู้สึกว่ามื้อล้าเร็วกว่าปกติ แต่ถ้าอ่อนเกินไป ใบมีดก็จะเปิดไม่สุด ต้องเสียจังหวะตัดตลอดเวลา ผมเคยเจอกับตัว ซื้อกรรไกรราคาถูกที่สปริงอ่อนปวกเปียก ใช้ไปไม่กี่ครั้งก็ต้องคอยง้างเอง สุดท้ายจากที่คิดว่าจะช่วยประหยัดแรง กลายเป็นเสียแรงมากกว่าเดิม จนต้องโยนทิ้งแบบไม่เสียดาย
เพราะฉะนั้น ก่อนซื้อ ลองบีบ–ปล่อยดูว่าการคืนตัวของสปริง “พอดีมือ” หรือไม่ คุณจะรู้เลยว่ากรรไกรคู่นั้นจะตัดได้ลื่น หรือทำให้คุณต้องฝืนทุกครั้งที่ใช้งาน
การจับ กรรไกรตัดกิ่ง ที่ถูก ช่วยยืดแรง
หนึ่งในความเข้าใจผิดที่มือใหม่ทำกันบ่อย ๆเลยก็คือ จับ กรรไกรตัดกิ่ง ให้แน่นจนเกร็ง เพราะคิดว่าจับแน่น = แรงตัดเยอะ ความจริงกลับตรงข้าม…การบีบแน่นเกินไปทำให้กล้ามือเมื่อยเร็ว แถมแรงตัดกระจาย ไม่ได้ส่งตรงไปที่ใบมีดเต็ม ๆอีก
ทริคง่าย ๆ คือ จับ กรรไกรตัดกิ่ง ให้พอดีมือ ให้ด้ามขนานกับฝ่ามือ และใช้นิ้วโป้งช่วยกดเพิ่มแรงส่ง วิธีนี้จะทำให้แรงถ่ายทอดไปที่ใบมีดโดยตรง ตัดได้คมขึ้น และล้าช้าลงอย่างเห็นได้ชัด เราเองใช้เวลานานกว่าจะเลิกนิสัยบีบจนมือชา แต่พอเปลี่ยนวิธีจับเท่านั้นแหละ…การตัดกิ่งก็กลายเป็นเรื่องสบายเหมือนปอกกล้วยเข้าปากเลยครับ
เลือกใบมีดเคลือบ ลดแรงเสียดทาน
รู้ไหมครับว่า “ใบมีด” ของ กรรไกรตัดกิ่ง มันก็มีเทคโนโลยีซ่อนอยู่เหมือนกัน ไม่ได้เป็นแค่เหล็กคม ๆ ธรรมดา เพราะ กรรไกรตัดกิ่ง บางรุ่นจะเคลือบ เทฟลอน หรือ โครเมียม ลงบนผิวใบมีด การเคลือบเหล่านี้มันจะช่วยลดแรงเสียดทาน ทำให้เวลาตัดกิ่ง รอยตัดจะลื่นกริ๊บ ไม่ฝืด และที่สำคัญคือ ยางไม้ไม่เกาะติดง่าย อีกด้วย
ผมเคยใช้งาน กรรไกรตัดกิ่ง ธรรมดาๆสักตัว ใช้แค่ตัดกิ่งมะม่วง กิ่งขนุนที่มียางเหนียว ๆ ผลคือใบมีดเหนอะหนะจนต้องหยุดกลางคันมานั่งเช็ด แต่พอเปลี่ยนมาใช้ใบมีดเคลือบเทฟลอน ทุกอย่างก็ง่ายขึ้น ตัดได้ต่อเนื่องแบบไม่ต้องสะดุด และทำความสะอาดหลังงานเสร็จได้เร็วกว่าเดิมเยอะ
สำหรับคนที่ต้องตัดกิ่งไม้ยางเยอะหรือทำงานต่อเนื่อง การลงทุนเพิ่มอีกนิดเพื่อซื้อใบมีดเคลือบดี ๆ คือของจริงที่ช่วยให้ทำสวนได้สบายขึ้นแบบรู้สึกได้ตั้งแต่ครั้งแรกที่ใช้
อย่าเอา กรรไกรตัดกิ่ง ไปใช้ผิดงาน
ชาวสวนรุ่นเก๋า เคยเล่าว่าเห็นคนใช้งาน กรรไกรตัดกิ่ง ทำในสิ่งที่มันไม่ควรทำเลยสักนิด บางคนเอาไปตัดลวด ตัดพลาสติกแข็ง ยิ่งไปกว่านั้นเอาไปตัดท่อ PVC ตอนเห็นก็ได้แต่คิดในใจว่า “มันน่าตีซ่ะเหลือเกิน!” เพราะทุกครั้งที่ตัดวัสดุพวกนี้ ใบมีดจะเสียคมเร็วมาก บางทีถึงขั้นบิ่นหรือคดจนใช้งานกับกิ่งไม้ไม่ได้อีกต่อไป
ความจริงง่าย ๆ ก็คือ กรรไกรตัดกิ่ง มันถูกออกแบบมาเพื่อตัด “กิ่งไม้” เท่านั้น ถ้าคุณอยากให้อายุการใช้งานยาวนาน ตัดได้ลื่นเหมือนวันแรกๆแล้วล่ะก็ ควรใช้มันเฉพาะกับงานที่เหมาะสม ส่วนงานอื่น ๆ อย่างตัดลวด ให้ใช้คีมตัดลวด งานตัดพลาสติกแข็งให้ใช้ เครื่องมือ ที่ออกแบบมาให้ตรงกับงาน ไม่เพียงแต่ช่วยรักษาอุปกรณ์ แต่ยังทำให้งานออกมาดีและปลอดภัยขึ้นด้วย
เชื่อเราเถอะ…การแยกเครื่องมือให้ถูกประเภท คือเคล็ดลับง่าย ๆ ที่จะทำให้คุณไม่ต้องเสียเงินซื้อ กรรไกรตัดกิ่ง อยู่บ่อย ๆ