ทำไม ไดโว่ ไม่ดูดน้ำ? มีเสียงแต่ไม่ทำงาน? แก้ยังไงดี?

Customers Also Purchased

ผมคิดว่าหลายๆคนอาาจะเคยเจอปัญหานี้ เวลาที่คุณเปิด ไดโว่ แล้วได้ยินเสียงเครื่องทำงานอยู่ หวังว่าจะเห็นน้ำพุ่งออกมาแรงๆ แต่สุดท้ายกลับไม่มีอะไรเกิดขึ้น หรือบางทีน้ำก็แค่ไหลเบาๆ เหมือนหมดแรงไปซ่ะงั้น แบบนี้ไม่ต้องรีบตัดสินใจว่าเครื่องเสียครับ เพราะปัญหานี้ผมว่าคนใช้ ไดโว่ หลายๆคนก็เจอกันมาแล้วทั้งนั้นแหละครับจริงๆ แล้วมันอาจเป็นแค่เรื่องเล็กๆ ที่คุณสามารถแก้เองได้ ไม่ต้องถึงมือช่างเลยก็ได้

ในบทความนี้ผมจะชวนคุณมาสำรวจไปพร้อมกันว่า สาเหตุที่ทำให้ ไดโว่ ไม่ทำงาน ดูดน้ำไม่ขึ้นนั้นมีอะไรบ้าง? ไล่จากเรื่องง่ายๆ ไปจนถึงกรณีที่อาจต้องเปลี่ยนอะไหล่ พร้อมแนวทางแก้ไขทีละขั้นตอนแบบเข้าใจง่ายๆ เพื่อให้คุณซ่อมเองได้ หรืออย่างน้อยก็รู้ว่าต้องเริ่มเช็กจากตรงไหนก่อน เอาล่ะเพื่อไม่ให้เสียเวลาไปอ่านบทความนี้กันได้เลย

สัญญาณเตือนว่า ไดโว่ มีเสียงแต่ไม่ดูดน้ำ

เปิด ไดโว่ แล้วมอเตอร์ทำงาน แต่ไม่มีน้ำออกมาเลย

ผมคิดว่าอาการนี้เจอบ่อยมากครับ คือเปิดไดโว่แล้วได้ยินเสียง หึ่งๆแบบหอนๆ จากตัว ไดโว่ เหมือนกำลังทำงานเต็มที่ แต่พอมองไปที่ปลายสาย กลับไม่มีน้ำไหลออกมาเลย หรือบางทีน้ำก็ไหลแบบแผ่วๆจนชวนให้สงสัยว่า "มันกำลังทำงานอยู่ใช่ไหม?" แบบนี้แหละครับที่หลายๆคนเจอกัน และกลายเป็นคำถามยอดฮิต

ไดโว่ ดูดน้ำได้แป๊บเดียวแล้วเงียบ หรือแรงดันตกลงอย่างรวดเร็ว

บางคนเจอแบบนี้ก็คิดว่า "เอ๊ะ ไดโว่ยังมีเสียงอยู่นี่นา มันก็น่าจะยังใช้ได้อยู่แหละ" แต่จริงๆแล้ว ไดโว่ อาจกำลังงอแงแบบเด็กน้อยอยู่ตรงไหนสักจุด บางทีแค่โดนอะไรอุดหรือท่อพับก็ทำให้มันงอแงได้ ไม่ยอมทำงานเหมือนเคย ถ้าเราไม่รีบจัดการให้ไว อาจบานปลายเป็นเรื่องใหญ่ได้เหมือนกันนะครับ

 ทำไม ไดโว่ ไม่ดูดน้ำ มีเสียงแต่ไม่ทำงาน แก้ยังไงดี

สาเหตุที่ทำให้ ไดโว่ ไม่ดูดน้ำ 

หลังจากเราเริ่มสงสัยว่า ไดโว่ มันเริ่มงอแงหรือเปล่า คราวนี้ก็ได้เวลามาไล่ดูต้นตอของปัญหากันแบบละเอียดๆ ครับ ว่าอะไรกันแน่ที่ทำให้ ไดโว่ ของเราทำงานไม่เต็มที่ ทั้งๆ ที่ได้ยินเสียงทำงานอยู่ชัดๆ แต่ไม่มีน้ำสักหยดให้เห็น ในหัวข้อนี้ผมจะค่อยๆ ไล่เรียงให้ทีละจุด พร้อมวิธีเช็กแบบเข้าใจง่าย เผื่อคุณจะได้ลองแก้ปัญหาด้วยตัวเองก่อนจะยกไปหาช่างนะครับ

1. ระดับน้ำต่ำเกินไป จนเครื่องดูดลม

ไดโว่ ต้องอยู่ต่ำกว่าระดับน้ำเสมอครับ ไม่ใช่วางไว้แค่ริมๆน้ำแบบให้พอเฉียดหัวเครื่อง เพราะถ้าจุ่มไม่มิดถึงช่องดูด น้ำจะไม่เข้าไปในระบบ แล้ว ไดโว่ ก็จะดูดอากาศแทน แถมยังทำให้ ไดโว่ ร้อนเร็วอีกต่างหาก เพราะฉะนั้น อย่าลืมดูให้แน่ใจว่า ไดโว่ จุ่มลึกพอ มิดช่องดูดจริงๆ นะครับลองนึกภาพว่า ไดโว่ ของเรานั้นเหมือนหลอดดูดน้ำครับ ถ้าปลายหลอดอยู่เหนือระดับน้ำ มันก็จะดูดแต่ลมเข้าไปแทนน้ำ พอเป็นแบบนี้ก็ไม่ต้องแปลกใจเลยครับว่าทำไมไม่มีแรงส่ง เพราะลมมันไม่มีน้ำหนักพอให้ปั๊มดันออกไปได้ เครื่องเลยทำงานเปล่าๆ เหนื่อยฟรีแบบไม่มีน้ำออกมาเลยนั่นเอง

  • วิธีเช็ก: ลองยก ไดโว่ ขึ้นมาดูว่าจุ่มอยู่พอดีหรือเปล่า หรือระดับน้ำในบ่อ บ่อพัก หรือถังเก็บต่ำลงจนหัวดูดไม่ถึงน้ำ

2. ท่อทางออกตันหรือพับงอ

ท่อทางน้ำออกที่พับหรือหักงอ บางทีก็เป็นปัญหาแบบไม่น่าเชื่อครับ เพราะมันจะทำให้น้ำที่ควรจะไหลออก กลับโดนกั้นไว้กลางทาง พอแรงดันสะสมอยู่ในเครื่องมาก ๆ ไดโว่ก็เลยส่งน้ำออกไม่ได้สักที ลองนึกภาพเหมือนเราพยายามเป่าลูกโป่งที่มีปลายรูงออยู่ เป่ายังไงลมก็ไม่เข้าใช่ไหมครับ? แบบนั้นเลย
บางครั้งเราก็ลืมไปว่าท่อมันก็เจอสารพัดสิ่งปนเปื้อนนะครับ เช่น คราบตะไคร่ที่เกาะตามผนังท่อ หรือเศษหินทรายเล็ก ๆ ที่ลอยมากับน้ำ พอสะสมไปเรื่อยๆ เข้า มันก็ไปอุดทางเดินของน้ำ ทำให้ไดโว่ทำงานยากขึ้นเรื่อยๆ จนสุดท้ายก็แทบไม่ไหลเลย
  • วิธีเช็ก: ถอดสายออกแล้วล้างภายใน หรือใช้สายยางฉีดน้ำย้อนกลับเพื่อดันสิ่งอุดตัน

3. มีอากาศแทรกเข้าไปในระบบ

เรื่องนี้มักจะเกิดขึ้นตอนที่เราต่อท่อใหม่ๆ หรือเพิ่งถอยไดโว่ตัวใหม่มาหมาด ๆ แล้วรีบติดตั้งใช้งานเลยครับ พอเปิดใช้งานครั้งแรก บางทีมันก็จะมีอากาศแทรกเข้ามาในระบบแบบไม่รู้ตัว คล้าย ๆ กับเวลาที่เราดูดน้ำผ่านสายยางใหม่แล้วต้องไล่ลมก่อนนั่นแหละครับ
พอมีอากาศเข้าไปแทนที่น้ำ มันก็เหมือนมีอะไรมาดันสวนทางอยู่ตลอดเวลา ทำให้แรงดูดของไดโว่ไม่พอที่จะดึงน้ำขึ้นมาได้เลยครับ เหมือนเวลาเราพยายามดูดน้ำจากหลอดที่มีฟองอากาศอยู่ มันจะดูดไม่ขึ้นสักที ต้องไล่ลมออกก่อนถึงจะโอเค แบบเดียวกันเลยครับ
  • วิธีเช็กและแก้ ลองยกเครื่องขึ้นมานิดนึง แล้วเขย่าเบา ๆ เหมือนเวลาเราเขย่าขวดน้ำให้ฟองอากาศลอยขึ้นไปนั่นแหละครับ ทำแบบนี้จะช่วยให้ฟองลมที่ค้างอยู่ในตัวเครื่องหลุดออกไปได้ง่ายขึ้น ไดโว่ก็จะกลับมาดูดน้ำได้ตามปกติ  ถอดท่อออกก่อน แล้วลองเอา ไดโว่ จุ่มลงในถังน้ำโดยตรงเลยครับ แบบไม่ต้องต่ออะไรให้ยุ่งยาก จากนั้นก็เปิดเครื่องดูเลยว่าน้ำพุ่งออกมามั้ย ถ้าน้ำไหลแรงดี ก็แสดงว่าตัวไดโว่ปกติดี แต่ต้นเหตุอาจอยู่ที่ท่อหรือวาล์วที่ต่อเพิ่มเข้าไปนั่นเอง

4. ใบพัดภายในติดขัดหรือหลุด

บางครั้ง ไดโว่ ก็เหมือนคนขยันที่โดนขัดขาอยู่ตลอดครับ เศษผ้าเล็กๆ พลาสติกหุ้มสาย หรือแม้แต่ก้อนหินเม็ดจิ๋วๆ ก็อาจไหลมากับน้ำแล้วเข้าไปติดอยู่ในใบพัดได้แบบไม่รู้ตัว พอใบพัดโดนอะไรพันไว้แบบนี้ มันก็หมุนไม่ได้เต็มที่ แล้วก็เลยส่งน้ำไม่ออก หรือออกแบบอ่อนแรงสุด ๆ
หรือบางทีก็เกิดจากน็อตยึดใบพัดหลวมครับ พอใช้งานไปนาน ๆ แรงหมุนมันก็ทำให้น็อตคลายตัวได้เหมือนกัน ใบพัดก็เลยหลุดหรือโยกไปมาได้ ทำให้แรงหมุนหายไป แล้วก็ไม่มีแรงส่งน้ำออกมาเหมือนเดิม
  • วิธีเช็ก: ต้องเปิดฝาครอบใต้เครื่อง หรือส่วนใบพัดออกมาตรวจสอบ ถ้าเจอสิ่งแปลกปลอมให้ดึงออกอย่างระมัดระวัง

5. วาล์วกันกลับ (Check Valve) ติดหรือเสีย

ไดโว่ บางรุ่นเขาจะใส่วาล์วกันกลับ (Check Valve) มาให้ด้วยครับ ซึ่งหน้าที่ของมันก็คือป้องกันไม่ให้น้ำไหลย้อนกลับเข้าเครื่อง แต่ถ้าเจ้าวาล์วตัวนี้มันเกิดค้าง หรือติดฝืดขึ้นมา น้ำก็จะไหลออกไม่ได้เหมือนมีอะไรมาปิดกั้นไว้นั่นเอง ทำให้แม้เครื่องจะทำงานอยู่ แต่น้ำก็ไม่พุ่งออกมาให้เห็นสักที
  • วิธีเช็ก: ถอดดูบริเวณทางออกของไดโว่ หรือจุดต่อกับสายยางว่ามีวาล์วหรือไม่ ลองเปิดปิดด้วยมือเบา ๆ ว่าแน่นหรือติดฝืดหรือไม่

6. มอเตอร์เริ่มเสื่อมหรือเพลาเครื่องหลวม

ในบางครั้งเราอาจได้ยินเสียงมอเตอร์ทำงานอยู่เหมือนปกติ แต่พอมาดูจริงๆ แล้วแรงหมุนของเพลามันเบากว่าที่ควรจะเป็นครับ เหมือนกับคนที่ยังหายใจอยู่แต่หมดแรงเดินต่อ ไดโว่ ก็เหมือนกันครับ ถึงจะยังพอมีเสียงทำงาน แต่ถ้ารอบไม่แรงพอ ก็ไม่มีแรงดันมากพอจะส่งน้ำขึ้นมาได้ ทำให้ดูดไม่ขึ้นในที่สุด
  • วิธีเช็ก: สังเกตว่าเสียงเครื่องมีความสั่นมากกว่าปกติไหม หรือจับที่ตัว ไดโว่ ดูว่ามีแรงหมุนหรือเปล่า ถ้าไม่มีเลยอาจต้องส่งช่าง

 ทำไม ไดโว่ ไม่ดูดน้ำ มีเสียงแต่ไม่ทำงาน แก้ยังไงดี

แนวทางแก้ปัญหาเบื้องต้น

ขั้นที่ 1 : ปิดเครื่อง และถอดปลั๊กก่อน

เพื่อความปลอดภัยขั้นพื้นฐาน อย่าลืมนะครับว่า ไดโว่เป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ต้องทำงานร่วมกับน้ำ ถ้าเรายังเสียบปลั๊กคาไว้แล้วไปจับ ไปซ่อม ไปงัดอะไรใกล้ ๆ น้ำ มันอันตรายถึงขั้นโดนไฟดูดได้เลย เพราะฉะนั้น ก่อนจะทำอะไรกับเครื่อง อย่าลืมถอดปลั๊กก่อนทุกครั้งนะครับ ปลอดภัยไว้ก่อนดีที่สุด!

ขั้นที่ 2 : ยก ไดโว่ ขึ้นมาตรวจรอบตัว

  • ลองส่องดูว่าใบพัดยังอยู่ดีไหม หมุนคล่องหรือเปล่า มีอะไรไปพันไว้ไหม เพราะบางทีแค่เศษเชือกหรือผมสัตว์ก็ทำให้หมุนไม่ออกได้เลยครับ
  • สังเกตรอบตัวเครื่องว่ามีอะไรอุดตันอยู่ไหม เช่น เศษใบไม้ หรือโคลนที่ติดหนา ๆ จนขวางทางน้ำ
  • ดูที่ท่อน้ำต่อออกไปว่า มันมีรอยพับ รอยรั่ว หรือหลุดจากจุดต่อหรือเปล่า บางทีหลุดแค่ครึ่งเดียวก็ดูดไม่ขึ้นแล้วครับ

ขั้นที่ 3 : ลองทดสอบแบบไม่ต่อท่อ

ลองทดสอบแบบง่าย ๆ เลยครับ ให้จุ่ม ไดโว่ ลงในถังน้ำโดยไม่ต้องต่อสายยางอะไรให้ยุ่งยาก จากนั้นเปิดเครื่องแล้วสังเกตดูว่าน้ำพุ่งออกมาหรือเปล่า ถ้าไหลแรงดี แปลว่าตัวเครื่องยังทำงานปกติ แต่ปัญหาอาจไปอยู่ที่ท่อหรือวาล์วที่ต่อเพิ่มเข้าไปนั่นเอง แบบนี้เราก็จะได้รู้ว่าควรไปจัดการที่จุดไหนก่อน ไม่ต้องงมหาต้นเหตุมั่ว ๆ

ขั้นที่ 4 : ใช้แรงดันย้อนกลับล้างสิ่งอุดตัน

ใช้สายยางฉีดน้ำย้อนเข้าไปในท่อออกหรือวาล์วดูครับ ลองนึกภาพเหมือนการเป่าท่อที่ตัน เราเอาน้ำแรง ๆ ดันสวนกลับเข้าไป เพื่อให้เศษตะกอนหรืออะไรที่ขวางอยู่หลุดออกมา วิธีนี้ง่ายแต่ได้ผลดีเลยนะครับ โดยเฉพาะถ้าไดโว่คุณเคยทำงานในน้ำขุ่น น้ำบ่อ น้ำเลนมาก่อน

ขั้นที่ 5 : ถอดฝาใบพัดออกมาทำความสะอาด

ถ้าคุณมีไขควงหรือเครื่องมือพื้นฐานติดบ้านอยู่แล้ว ลองถอดฝาครอบบริเวณใบพัดออกมาดูเลยครับ แล้วเช็กให้ชัวร์ว่าใบพัดยังหมุนได้ลื่น ๆ อยู่หรือเปล่า บางครั้งแค่เส้นด้ายเล็ก ๆ หรือเศษผมก็อาจพันเข้าไปจนใบพัดฝืดได้แบบคาดไม่ถึง ถ้าเจออะไรแปลก ๆ ก็ดึงออกมาเบา ๆ แล้วลองประกอบกลับดูครับ

ขั้นที่ 6: เช็กไฟและระบบไฟฟ้า (เบื้องต้น)

ก่อนอื่นเลย ลองตรวจปลั๊กที่เสียบให้แน่ใจว่าแน่นสนิท ไม่หลวม เพราะบางทีไฟไม่เข้าเต็ม ๆ เครื่องก็จะทำงานแปลก ๆ ได้ครับ จากนั้นดูที่สายไฟว่ามีรอยขาด รอยรั่ว หรือโดนหนูกัดจนเปลือกเปิดไหม ถ้ามีอันตรายมาก ห้ามใช้ต่อเด็ดขาดนะครับ แล้วก็อย่าลืมดูว่าช่วงนั้นไฟบ้านมีปัญหาหรือเปล่า เช่น ไฟตกหรือไฟกระพริบบ่อย ๆ เพราะถ้าไฟไม่เสถียร ไดโว่ก็อาจงงและทำงานไม่เต็มกำลังได้เหมือนกัน

เคล็ดลับการใช้งาน ไดโว่ อย่างปลอดภัยและยืดอายุ

  • อย่าเปิดไดโว่แบบไม่มีน้ำเด็ดขาดนะครับ เพราะมันจะเหมือนกับให้เครื่องทำงานเปล่า ๆ ไม่มีอะไรหมุนเวียนมาหล่อเย็น สุดท้ายคือมอเตอร์ไหม้แน่นอน เสียของเปล่า ๆ
  • หมั่นล้างไดโว่อยู่เสมอ โดยเฉพาะถ้าคุณใช้ในน้ำขุ่น น้ำบ่อ หรือแหล่งน้ำที่ไม่สะอาด เพราะพวกเศษดิน เศษหญ้าจะเข้าไปอุดตันได้ง่ายมากครับ
  • อย่าลากสายยางยาวเกินจำเป็น เพราะนอกจากแรงดันจะตกแล้ว เครื่องยังต้องออกแรงเพิ่มขึ้นอีกเยอะ ทำให้ทำงานหนักโดยไม่จำเป็น
  • ถ้ามีโอกาส แนะนำให้ใช้ระบบกรองหยาบ หรือถุงกรองติดหน้าปั๊มไว้เลยครับ เพื่อช่วยกันเศษใหญ่ ๆ ไม่ให้เข้าไปในเครื่อง จะได้ยืดอายุการใช้งานไปอีกเยอะ
  • ถ้าใช้ไดโว่ในบ่อที่ลึกมาก หรือในสภาพที่ร้อนจัด แนะนำให้เลือกเครื่องที่มีระบบตัดไฟอัตโนมัติมาด้วยครับ เผื่อเกิดอะไรขึ้น ระบบจะช่วยตัดไฟทันที ป้องกันเครื่องไหม้หรืออุบัติเหตุได้เลย

สรุป

ไดโว่ ที่มีเสียงแต่ไม่ดูดน้ำ อาจไม่ใช่เรื่องใหญ่เสมอไป ปัญหาหลายอย่างเกิดจากสิ่งเล็ก ๆ เช่น ท่อพับ อากาศแทรก หรือใบพัดติดขัด ซึ่งสามารถแก้ไขเองได้หากรู้ขั้นตอน แต่หากตรวจสอบแล้วทุกอย่างยังไม่ดีขึ้น อย่าฝืนใช้ เพราะอาจทำให้เครื่องเสียถาวร และเสี่ยงอันตรายได้
การหมั่นตรวจเช็กไดโว่อย่างสม่ำเสมอ และใช้งานให้เหมาะสมกับประเภทน้ำ จะช่วยให้คุณใช้งานได้ยาวนาน คุ้มค่า และปลอดภัยทุกครั้งที่เปิดเครื่อง

เลือก ไดโว่ เพิ่มเติม