Customers Also Purchased
เคยไหมเวลาใส่ ที่ครอบหูลดเสียง (Earmuffs) ไปสักพัก แล้วจู่ๆก็รู้สึกหูอื้อขึ้นมาซ่ะงั้น หรือบางทีเหมือนมีแรงกดดันแปลกๆในหู จนบางครั้งต้องรีบถอดออกมาพักหูสักแป๊บนึง หรือบางทีก็มีอาการปวดหัวเลยด้วยซ้ำ หลายคนแอบสงสัยและกังวลกันว่า มันจะเป็นสัญญาณของปัญหาอะไรร้ายแรงในอนาคตหรือเปล่า?
ถ้าคุณกำลังรู้สึกแบบนี้อยู่ ไม่ต้องกังวลเกินไปนะครับ ในบทความนี้ผมจะค่อยๆหาคำตอบไปด้วยกันว่า อาการหูอื้อนี้เกิดขึ้นได้ยังไง? เป็นอันตรายจริงไหม? และที่สำคัญที่สุด ผมจะบอกถึงวิธีแก้ เพื่อไม่ให้เสียเวลา ไปอ่านบทความนี้กันได้เลย
หูอื้อจาก ที่ครอบหูลดเสียง เกิดจากอะไร?
คุณเคยสงสัยกันไหมว่า ทำไมเวลาใส่ ที่ครอบหูลดเสียง เพื่อที่จะกันเสียงรบกวนเฉยๆ แต่มันกลับทำให้เรารู้สึกเหมือนหูอื้อ เหมือนมีอะไรอุดอยู่ในหู หรือบางทีก็รู้สึกแน่นๆในหัว? หลายคนที่เคยเจออาการแบบนี้บ่อยๆบางทีมันก็อาจจะรู้สึกแปลกใจ และเริ่มกังวลว่ามันเกิดขึ้นได้ยังไง? ทั้งๆที่เราก็แค่ป้องกันเสียงดังเฉยๆ ไม่ได้ทำอะไรผิดเลยสักนิด เพราะฉะนั้นผมจะพาไปดูต้นเหตุที่ทำให้หูอื้อจากการใส่ ที่ครอบหูลดเสียง กันแบบเข้าใจง่ายๆ ครับว่าเพราะอะไร?
แรงดันอากาศภายใน ที่ครอบหูลดเสียง
เหตุผลแรกๆที่หลายคนอาจไม่เคยคิดถึงเลยก็คือ ที่ครอบหูลดเสียง มันไม่ได้แค่ปิดเสียงจากภายนอกนะครับ แต่มันยังปิดกั้นอากาศที่ไหลเข้าออกบริเวณรอบหูด้วย โดยเฉพาะถ้าคุณใส่มันแน่นเกินไป จะเกิดแรงดันอากาศในช่องหูที่ผิดปกติ คล้ายๆ หากนึกไม่อกกมันก็จะเหมือนกับตอนขึ้นเครื่องบินหรือขับรถขึ้นเขา แล้วหูมันล๊อค รู้สึกแน่นๆ เหมือนอะไรอุดอยู่ อาการแบบนี้แหละครับที่ทำให้รู้สึกหูอื้อทันทีที่ใส่ ที่ครอบหูลดเสียง ไปสักพัก
ระดับการปิดกั้นเสียงที่มากเกินไป
ที่ครอบหูลดเสียง บางรุ่นเขาออกแบบมาแบบจัดเต็มครับ ลดเสียงได้สูงถึง 30–35 เดซิเบล (dB) เรียกว่าดีจนแทบไม่ได้ยินอะไร แบบเงียบกริบ! แต่ๆข้อเสียของมันคือมันอาจจะดีเกินไปนี่แหละ! เพราะพอตัดเสียงรอบข้างไปหมด มันทำให้เรารู้สึกเหมือนอยู่ในสุญญากาศนิดๆ ร่างกายเลยเกิดความรู้สึกกดดัน อึดอัด หรือไม่ชินกับความเงียบแบบนั้น แล้วก็กลายเป็นหูอื้อ หรือบางคนก็เวียนหัวเล็กๆ ตามมาได้ครับ
การสวมใส่ ที่ครอบหูลดเสียง ผิดวิธี
หลายๆครั้งอาการหูอื้อที่คุณเจอจริงๆแล้ว ไม่ใช่เพราะ ที่ครอบหูลดเสียง มันแย่นะครับ อย่าเพิ่งไปโทษอุปกรณ์ มันอาจจะเป็นเพราะเราใส่มันผิดวิธีต่างหาก เช่น บางคนก็กดแน่นเกินไป หวังว่าจะเก็บเสียงให้มิด แต่ผลที่ได้คือแรงบีบมหาศาลใส่หูเราเต็มๆ หรือบางคนสวมแบบไม่ตรงกับหูจริงๆ ก็มีครับ ยิ่งถ้าเป็นรุ่นที่ไม่ได้ปรับไซซ์ได้ดี แล้วขนาดไม่พอดีกับศีรษะเราอีกด้วย ก็ยิ่งทำให้เกิดแรงดันตรงช่องหู กับส่วนข้างๆ หัว จนรู้สึกอึดอัดแบบไม่รู้ตัวเลยครับ

อาการหูอื้อจาก ที่ครอบหูลดเสียง อันตรายไหม?
โดยทั่วไปแล้ว อาการหูอื้อที่เกิดจากการใส่ ที่ครอบหูลดเสียง มักจะไม่ใช่เรื่องน่ากังวลขนาดนั้นนะครับ เพราะส่วนใหญ่จะเป็นแค่อาการชั่วคราวที่ทำให้เรารู้สึกรำคาญ ไม่สบายหู หรือรู้สึกแน่น ๆ หน่อย โดยเฉพาะถ้าต้องใส่นาน ๆ ตอนทำงานในที่เสียงดังอย่างโรงงานหรือไซต์ก่อสร้าง บอกเลยว่าอึดอัดสุดเหมือนกันครับ
แต่ก็มีบางเคสที่ต้องระวังเหมือนกัน เช่น ถ้าคุณรู้สึกหูอื้อหนักขึ้นเรื่อยๆ ปวดหู เวียนหัวแรง หรือเริ่มได้ยินเสียงแปลก ๆ แบบไม่หายสักที อันนี้ไม่ควรนิ่งนอนใจครับ เพราะมันอาจจะไม่ใช่แค่ ที่ครอบหูลดเสียง แน่นไปแล้ว แต่อาจเป็นสัญญาณของการติดเชื้อ หรือมีปัญหาที่แก้วหูจริงๆ แบบนี้ควรรีบไปพบหมอหูคอจมูกไว้ก่อนเลยครับ ปลอดภัยไว้ก่อนดีที่สุด
วิธีแก้อาการหูอื้อจาก ที่ครอบหูลดเสียง
1. เลือก ที่ครอบหูลดเสียง ที่เหมาะสม
การเลือก ที่ครอบหูลดเสียง ให้เหมาะกับงานที่เราทำจริง ๆ ถือว่าเป็นเรื่องสำคัญมากเลยครับ เพราะถ้าเราเลือกแบบที่ลดเสียงได้มากเกินความจำเป็น ทั้งที่จริง ๆ แล้วแค่ตัดเสียงดังนิดหน่อยก็พอ อาจทำให้หูเรารู้สึกอึดอัดเกินไปโดยไม่จำเป็น ที่สำคัญคือควรเลือกขนาดให้พอดีกับศีรษะของเรา ไม่เล็กหรือใหญ่เกินไป จะได้ใส่สบาย ไม่บีบหูจนปวด พูดง่าย ๆ คือไม่ต้องเอาแบบที่ลดเสียงระดับมือโปร ถ้าเราแค่ใช้งานทั่วไปในบ้านหรือที่ทำงานที่เสียงไม่ถึงกับดังสนั่นครับ
2. ปรับแรงกดของ ที่ครอบหูลดเสียง
ที่ครอบหูลดเสียง หลายรุ่นเดี๋ยวนี้เขาฉลาดครับ เพราะสามารถปรับแรงกดให้เข้ากับขนาดศีรษะของแต่ละคนได้ ไม่ต้องทนใส่แบบแน่นจนปวดหู หรือหลวมจนเสียงลอดเข้า อยากให้คุณลองปรับให้พอดีแบบที่ใส่แล้วสบาย ไม่แน่นจนน่ารำคาญ และก็ไม่หลวมจนหลุดง่ายนะครับ แถมแนะนำอีกนิด—ถ้าใส่นาน ๆ อย่าลืมพักหูบ้าง ทุก ๆ 1–2 ชั่วโมง ลองถอดออกมาสัก 5–10 นาที ให้หูได้หายใจหน่อย จะช่วยให้หายแน่นและปรับแรงดันในช่องหูได้ดีขึ้นครับ


3. ใช้วิธี "เปิดหู" เล็กน้อย
ในกรณีที่ต้องใช้งานต่อเนื่องนานๆ แนะนำให้ลองเปิด ที่ครอบหูลดเสียง ออกมานิดหน่อยทุก ๆ ชั่วโมงสองชั่วโมงครับ แค่ประมาณ 1–2 นาทีก็พอ เพื่อให้อากาศได้ไหลเวียนบ้าง ให้แรงดันในหูเราได้ปรับตัว ไม่รู้สึกอึดอัดจนเกินไป พูดง่าย ๆ เหมือนหูได้หายใจบ้าง ช่วยให้หายหูอื้อแบบง่ายๆ โดยไม่ต้องพึ่งอะไรเลยครับ
4. ฝึกเทคนิคปรับแรงดันหู
เทคนิคง่าย ๆ ที่หลายคนมองข้ามไป แต่เชื่อเถอะครับว่าได้ผลจริง คือการหาวบ่อย ๆ กลืนน้ำลาย หรือจะเคี้ยวหมากฝรั่งก็เวิร์กมาก ๆ โดยเฉพาะตอนที่รู้สึกแน่นหูหรือเริ่มอื้อ ๆ ขึ้นมา มันช่วยเปิด "ท่อยูสเตเชียน" ที่อยู่ลึกเข้าไปในหูเรา ซึ่งเป็นทางผ่านให้อากาศระบายเข้าออกได้ พอท่อนี้เปิดเมื่อไหร่ แรงดันในหูก็จะกลับมาสมดุล แล้วอาการหูอื้อก็จะค่อย ๆ หายไปเองแบบชิล ๆ ไม่ต้องใช้อุปกรณ์แพง ๆ หรือทำอะไรยุ่งยากเลยครับ ลองดูนะครับ วิธีบ้าน ๆ แต่โคตรได้ผล!
5. ดูแลรักษาความสะอาดช่องหู
ทำความสะอาด ที่ครอบหูลดเสียง อย่างไรถึงจะมีประสิทธิภาพ? การดูแลความสะอาดของหู ฟังดูเหมือนเรื่องเล็กๆ ใช่ไหมครับ แต่จริง ๆ แล้วมันช่วยเรื่องอาการหูอื้อได้เยอะเลยนะ เพราะถ้าหูเรามีขี้หูสะสมมาก หรือมีอะไรไปอุดตันอยู่ แรงดันภายในหูก็จะปรับตัวได้ยากขึ้น พอเราไปใส่ ที่ครอบหูลดเสียง อีก ก็ยิ่งอึดอัดเข้าไปใหญ่ ดังนั้นแนะนำว่าให้หมั่นทำความสะอาดหูอย่างเบามือ ไม่ต้องถึงขั้นแคะลึก ๆ หรือใช้ของแปลก ๆ อย่างไม้จิ้มฟัน หรือกิ๊บหนีบผมเด็ดขาดนะครับ แค่ใช้ผ้าเช็ดหู หรือสำลีพันปลายไม้เช็ดรอบ ๆ ภายนอกก็พอแล้วครับ
สรุป
ที่ครอบหูลดเสียง เป็นอุปกรณ์ที่มีประโยชน์อย่างมากสำหรับคนที่ต้องทำงานในพื้นที่เสียงดัง แต่ถ้าสวมใส่ไม่ถูกต้องหรือเลือกใช้อุปกรณ์ไม่เหมาะสม อาจส่งผลให้เกิดอาการหูอื้อได้ง่ายๆ แม้จะไม่เป็นอันตรายถึงขั้นรุนแรง แต่ก็อาจรบกวนการทำงานและความสบายตัวของคุณได้ ดังนั้น ควรเลือกอุปกรณ์ให้เหมาะสม ใช้งานอย่างถูกวิธี และคอยดูแลสุขภาพหูของคุณอยู่เสมอ เพื่อการใช้งานที่มีประสิทธิภาพและปลอดภัยที่สุด
เลือก ที่ครอบหูลดเสียง เพิ่มเติม