Customers Also Purchased
ผมเชื่อว่าหลายคนที่ไม่ใช่ช่างมืออาชีพ หรือคนที่เริ่มจับงาน DIY ที่บ้าน ก็น่าจะเคยสับสนกับคำว่า สว่านกระแทก อยู่ไม่น้อย เพราะชื่อมันก็ดูแรงอยู่เบา ๆ ใช่ไหมครับ เหมือนจะเอาไว้กระแทกอะไรบางอย่างแรง ๆ แต่จริง ๆ แล้วมันก็ไม่ได้โหดขนาดนั้น และมีเหตุผลดี ๆ ที่คุณควรรู้ว่ามันคืออะไร ใช้เมื่อไร และเหมาะกับงานแบบไหน
ในบทความนี้ผมจึงจะพาไปไขทุกข้อสงสัยเกี่ยวกับสว่านกระแทกแบบ เข้าใจง่าย อ่านแล้วเอาไปใช้ตัดสินใจเลือกซื้อ หรือเลือกใช้งานได้ด้วยความเข้าใจที่ลึกซึ้งยิ่งขึ้นครับ
สว่านกระแทกคืออะไร? แล้วทำไมถึงมีคำว่า "กระแทก" อยู่ในชื่อ?
ก่อนจะไปเจาะลึกว่าสว่านกระแทกคืออะไร เราลองนึกภาพกันเล่น ๆ ครับว่า ถ้ามีงานต้องเจาะผนังแข็ง ๆ อย่างปูน หรือซีเมนต์ แล้วคุณหยิบสว่านธรรมดามาใช้ เจาะไปสักพักดอกเริ่มหมุนฟรี เจาะไม่เข้า หลายคนที่ไม่ค่อยได้ทำงานช่างอาจไม่รู้ว่าสว่านแต่ละประเภทนั้นมีหน้าที่ต่างกัน และเจ้า สว่านกระแทก ที่ชื่อดูจริงจังนิด ๆ นี้ มันสร้างมาเพื่อช่วยให้เราทำงานเจาะวัสดุแข็งได้ง่ายขึ้นนั่นเองครับ
หลักการทำงานของสว่านกระแทก
ก่อนอื่นต้องอธิบายกันให้เข้าใจก่อนครับว่า สว่านกระแทก หรือ Hammer Drill ซึ่งบางครั้งก็เรียกว่า Impact Drill คือสว่านที่ "เจาะ" ได้เหมือนสว่านทั่วไป แต่เพิ่มฟังก์ชันพิเศษเข้ามาคือระบบ "กระแทก"
ระบบกระแทกที่ว่านี้คือการที่ตัวเครื่องจะสร้างแรงกระแทกในแนวแกนตรงกับดอกสว่าน ทำให้ขณะเจาะผนัง หรือวัสดุแข็ง ๆ อย่างปูน อิฐ หรือซีเมนต์ ตัวสว่านจะไม่เพียงแค่หมุนดอกเจาะเท่านั้น แต่ยังส่งแรงกระแทกเป็นจังหวะ ๆ เข้าไปพร้อมกันด้วย
พูดง่าย ๆ คือ แทนที่จะหมุนเจาะ เหมือนหมุนเกลียวเข้าไปเฉย ๆ มันจะทั้งหมุน และตอกดอกสว่านลงไปในวัสดุ ทำให้สามารถเจาะวัสดุแข็งได้เร็วขึ้น ใช้แรงน้อยลง และเหนื่อยน้อยกว่าการใช้สว่านธรรมดาครับ
แล้วมันต่างจากสว่านธรรมดายังไง?
คำถามยอดฮิตอีกข้อนึงก็คือ แล้วถ้าสว่านธรรมดาก็เจาะได้อยู่แล้ว ทำไมต้องมีสว่านกระแทกให้ยุ่งยากด้วย? คำตอบง่ายมากครับ มันคือความสามารถในการเจาะวัสดุแข็ง เช่น ผนังปูน อิฐ หรือคอนกรีตเบานั่นเองครับ
สว่านธรรมดานั้นมีแรงบิด (Torque) ที่เพียงพอสำหรับงานเจาะไม้ เจาะเหล็ก หรือขันสกรู แต่ถ้าเอามาเจาะผนังปูนเมื่อไร เรามักจะพบว่าดอกเจาะเข้าไปได้แค่ตื้น ๆ แล้วหยุด หรือหมุนฟรีอยู่กับที่ เพราะวัสดุปูนมันทั้งแข็ง และเปราะ เกินกว่าที่ดอกสว่านจะฝังตัวลงไปได้ด้วยแรงหมุนอย่างเดียว
แต่ถ้าเป็นสว่านกระแทก มันจะคอยช่วย "ตอก" ดอกสว่านให้เคลื่อนที่เข้าไปได้เร็วขึ้น ทำให้เจาะได้ง่ายกว่า ไม่ต้องออกแรงกด ไม่ต้องฝืน และที่สำคัญคือปลอดภัยกับผู้ใช้งานด้วยครับ
สว่านกระแทกเหมาะกับใคร?
แล้วใครล่ะครับที่ควรใช้สว่านกระแทก? คำถามนี้อาจฟังดูพื้น ๆ แต่จริง ๆ แล้วเป็นคำถามที่สำคัญมากเลยครับ เพราะถึงแม้เครื่องมือนี้จะดูน่าสนใจ มีความสามารถพิเศษ แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนที่จะต้องมี หรือจะใช้ได้อย่างคุ้มค่า ผมเลยขอชวนมาดูแบบเจาะลึกกันหน่อยว่า คนกลุ่มไหนที่ควรมีสว่านกระแทกติดบ้าน หรือควรเลือกเป็นอุปกรณ์หลักในการทำงานครับ
1. มือใหม่ และสาย DIY
ถ้าคุณเป็นคนที่เริ่มทำงาน DIY เช่น ติดชั้นวางของ ติดราวผ้าม่าน แขวนรูปภาพ ฯลฯ ที่ต้องเจาะผนังบ้าน สว่านกระแทกถือเป็นเครื่องมือที่ควรมีติดบ้านไว้เลยครับ เพราะการเจาะปูนจะง่ายขึ้นมาก
- ใช้งานง่ายกว่าสว่านธรรมดา: สว่านกระแทกช่วยลดแรงที่ต้องออกในการกดเจาะ ทำให้แม้แต่คนที่ไม่เคยใช้มาก่อนก็สามารถเจาะผนังได้ง่ายขึ้น
- เจาะได้เร็วและสะอาด: ด้วยแรงกระแทกในตัว ทำให้ดอกสว่านฝังเข้าไปในผนังได้เร็ว ไม่ต้องออกแรงเยอะ และรูที่ได้ก็มักจะเรียบร้อยกว่าด้วยครับ
- ปรับโหมดใช้งานได้: บางรุ่นสามารถเลือกโหมดเจาะธรรมดาหรือกระแทกได้ตามความเหมาะสมของงาน ทำให้ใช้งานได้อเนกประสงค์มากขึ้น
ดังนั้นถ้าคุณแค่อยากจะแขวนรูปเล็ก ๆ หรือจะติดชั้นวางของที่บ้าน การมีสว่านกระแทกติดบ้านไว้สักตัว ก็ช่วยให้ชีวิตง่ายขึ้นเยอะเลยครับ
2. ช่างมืออาชีพ
สำหรับช่างมืออาชีพหรือผู้ที่ทำงานติดตั้ง เจาะผนัง หรือทำงานก่อสร้างอยู่เป็นประจำ สว่านกระแทกแทบจะกลายเป็นอุปกรณ์พื้นฐานที่ต้องมีเลยครับ เพราะในงานจริง ไม่ได้มีแค่ผนังไม้ หรือโครงเหล็กให้เจาะ เพราะมีทั้ง ผนังปูน ผนังอิฐ หรือคอนกรีต
- ทำงานเร็วและประหยัดแรง: เมื่อใช้สว่านกระแทก แรงกระแทกช่วยตอกดอกสว่านให้เข้าไปในวัสดุแข็งได้เร็วขึ้น โดยที่ไม่ต้องใช้แรงกดจากผู้ใช้มากนัก
- ลดความเสี่ยงเครื่องไหม้หรือพัง: เพราะเครื่องไม่ต้องทำงานหนักเกินไปเหมือนตอนใช้สว่านธรรมดาเจาะปูน
- เพิ่มความแม่นยำในการทำงาน: รูเจาะที่ได้จะตรงและลึกพอดีมากขึ้น ลดโอกาสผิดพลาดเวลาติดตั้งอุปกรณ์หรือโครงสร้างต่าง ๆ
3. คนที่อยากได้เครื่องมือเดียวจบ
อีกกลุ่มหนึ่งคือคนที่ไม่อยากซื้อหลายเครื่องมือ ถ้าจะซื้อสว่านแค่ตัวเดียวไปเลยให้ใช้งานได้รอบด้าน การเลือกสว่านกระแทกก็ถือว่าเป็นการเลือกแบบคุ้มค่าครับ เพราะใช้งานได้ทั้งแบบธรรมดา และแบบกระแทกเมื่อจำเป็น
- ประหยัดพื้นที่และเงินในระยะยาว: ไม่ต้องซื้อทั้งสว่านธรรมดา และโรตารี่แยกกัน ใช้ตัวเดียวทำได้ทั้งสองงาน
- ใช้ไม่ซับซ้อน และเหมาะกับหลากหลายแนว: เจาะไม้ เจาะเหล็ก เจาะปูน งานช่างทั่วไปหรืองานตกแต่งบ้านก็ใช้ได้หมด
สว่านกระแทก กับสว่านโรตารี่ ต่างกันยังไง?
คำถามนี้ก็เจอบ่อยไม่แพ้กันครับ หลายคนงงว่า "สว่านกระแทกกับโรตารี่ เหมือนกันรึเปล่า? หรือซื้ออันเดียวพอ?" คำถามนี้ฟังดูเหมือนง่าย แต่จริง ๆ แล้วมีเบื้องลึกเบื้องหลังซ่อนอยู่พอสมควรครับ เพราะถึงแม้ชื่อจะคล้าย ๆ กัน และต่างก็มีคำว่า "กระแทก" อยู่ในนิยาม สว่านทั้งสองแบบนี้มีการทำงานและจุดเด่นที่แตกต่างกันพอสมควรเลย
ระบบกระแทกต่างกันยังไง?
สว่านกระแทก ใช้ระบบกระแทกแบบกลไกเฟือง ซึ่งจะให้แรงกระแทกที่พอเหมาะสำหรับการเจาะผนังอิฐ ปูน หรือซีเมนต์ทั่วไป สำหรับงานติดตั้งในบ้าน หรืองานกึ่งมืออาชีพ ส่วนสว่านโรตารี่ (Rotary Hammer) นั้นใช้ระบบลูกสูบอัดลมในตัวเครื่อง ซึ่งให้แรงกระแทกที่สูงกว่า เหมาะสำหรับงานเจาะหนัก งานก่อสร้าง และวัสดุที่แข็งมากอย่างคอนกรีตเสริมเหล็กครับ
แล้วความแรงล่ะ ต่างกันแค่ไหน?
- ถ้าคุณเจาะปูนธรรมดา หรือต้องเจาะเป็นครั้งคราว สว่านกระแทกก็เอาอยู่ครับ ไม่จำเป็นต้องลงทุนไปถึงโรตารี่
- แต่ถ้าคุณต้องเจาะพื้นคอนกรีต ผนังหนา ๆ หรือใช้งานทุกวันในไซต์งาน ผมแนะนำให้พิจารณาสว่านโรตารี่ดีกว่าครับ เพราะทั้งแรง และเร็วกว่าเยอะ
ขนาด น้ำหนัก และความคล่องตัว
- สว่านกระแทกจะมีน้ำหนักเบากว่าพอสมควร และใช้งานได้สะดวกแบบที่คนไม่มีพื้นฐานก็พอไหว
- สว่านโรตารี่จะใหญ่ หนัก และต้องใช้สอง มือในการควบคุมเสมอ เหมาะกับคนที่ชำนาญ แล้วหรือต้องใช้งานแบบจริงจัง

ถ้าคุณเน้นความคุ้มค่า ใช้งานง่าย และไม่ได้มีงานเจาะหนักเป็นประจำ สว่านกระแทกถือว่าครอบคลุมความต้องการได้ดีครับ แต่ถ้าคุณคือช่างที่ต้องเจาะบ่อย เจาะลึก หรือทำงานในไซต์ก่อสร้าง ผมแนะนำให้ลงทุนกับสว่านโรตารี่ครับ เพราะทั้งทนกว่า แรงกว่า และออกแบบมารับมือกับงานหนักได้จริง
สว่านกระแทก ใช้ดอกเดียวกับสว่านธรรมดาไหม?
ใครที่สนใจซื้อสว่านใหม่ หรือใกำลังจะอัปเกรดจากสว่านธรรมดามาเป็นสว่านกระแทก ส่วนใหญ่อาจคิดว่า ถ้ามีดอกสว่านอยู่แล้วจะเอามาใช้กับสว่านกระแทกได้ไหม หรือว่าต้องซื้อใหม่หมดเลย?
คำตอบคือ... ได้ครับ
ใช่ครับ สว่านกระแทกส่วนใหญ่ใช้หัวจับดอกแบบเดียวกับสว่านธรรมดาเลย ซึ่งก็แปลว่าดอกสว่านทั่วไปสำหรับงานเจาะไม้ เจาะเหล็ก รวมถึงดอกเจาะปูนแบบมาตรฐาน ที่ไม่ใช่ SDS ก็สามารถนำมาใช้งานกับสว่านกระแทกได้เลย ไม่มีปัญหาในแง่การติดตั้ง
แต่ที่ต้องระวังคือ...
- คุณภาพของดอกสว่าน: เมื่อเราใช้โหมดกระแทก ตัวดอกจะต้องเจอกับแรงสั่นสะเทือนสูง ดอกสว่านราคาถูก หรือวัสดุไม่แข็งพอ อาจทำให้หักง่ายหรือสึกเร็วกว่าปกติครับ
- ประเภทของงาน: ถ้าเจาะปูนหรือคอนกรีต ควรเลือกใช้ดอกสว่านที่ออกแบบมาสำหรับงานนั้นโดยเฉพาะ เช่น ดอกเจาะปูนที่มีปลายคาร์ไบด์ เพราะดอกธรรมดาอาจไหม้ หรือพังเร็ว
แล้วดอก SDS ใช้ได้ไหม?
อันนี้ต้องดูรุ่นของสว่านกระแทกครับ ถ้าเป็นสว่านกระแทกทั่วไปจะไม่รองรับดอก SDS แต่ถ้าเป็นรุ่นที่ใกล้เคียงกับสว่านโรตารี่ อาจมีหัวจับเฉพาะแบบ SDS ซึ่งจะใช้กับดอกเฉพาะทางเท่านั้นครับ
- ดอกสว่านธรรมดาส่วนใหญ่ใช้กับสว่านกระแทกได้
- ถ้าใช้งานหนัก เช่น เจาะคอนกรีต ควรใช้ดอกเจาะปูนคุณภาพดี
- เลือกดอกสว่านให้ตรงกับชนิดงาน และอย่าลืมดูว่าหัวจับรองรับดอกสว่านประเภทไหน
แล้วสว่านกระแทก ใช้กับงานเบา ๆ ได้ไหม?
นี่ก็เป็นอีกคำถามที่ชวนคิดครับ เพราะหลายคนอาจมองสงสัยว่า “สว่านกระแทกมีไว้สำหรับงานหนักเท่านั้นหรือเปล่า?” เจาะปูน เจาะคอนกรีต หรือใช้ในงานช่างมืออาชีพเท่านั้น “แล้วถ้าแค่อยากจะเจาะไม้แขวนรูป เจาะไม้ เจาะเหล็กบ้างนิดหน่อย จะซื้อสว่านกระแทกมาใช้ มันจะเว่อร์ไปไหม?”
ความจริงคือ ใช้ได้ดีเลยครับ และค่อนข้างสะดวกด้วย
สว่านกระแทกสมัยนี้ออกแบบมาให้ใช้งานได้ทั้งแบบธรรมดา และแบบกระแทกครับ หมายความว่าคุณสามารถเลือกโหมดการทำงานได้จากตัวเครื่อง โดยปิดโหมดกระแทกเมื่อไม่ต้องการแรงตอก ทำให้มันทำหน้าที่เป็น "สว่านธรรมดา" ได้แบบเต็มที่
จุดเด่นของการใช้สว่านกระแทกในงานเบา ๆ:
- ไม่ต้องซื้อเครื่องมือแยกหลายตัว ใช้เครื่องเดียวครอบคลุม
- พลังแรงบิดมักมากกว่าสว่านธรรมดา เจาะวัสดุหนาได้สบาย
- มีฟังก์ชันควบคุมความเร็วรอบ ทำให้งานละเอียด เช่น เจาะไม้ หรือเจาะเหล็กบางๆ ทำได้ง่ายและแม่นยำขึ้น
สิ่งที่ต้องระวัง:
- สว่านกระแทกอาจหนักกว่าสว่านธรรมดานิดหน่อย โดยเฉพาะรุ่นไร้สายที่ใช้แบตเตอรี่
- เสียงดัง และแรงสั่นอาจมากกว่าสว่านธรรมดา แม้จะปิดโหมดกระแทกก็ตาม
ดังนั้น ถ้าคุณต้องการสว่านที่ใช้งานได้รอบด้าน เจาะได้ทั้งผนังบ้าน และงานเบาในงาน DIY ทั่วไป ผมว่า สว่านกระแทก นี่แหละ ตอบโจทย์สุด ๆ ครับ
สรุป
สว่านกระแทกไม่ใช่แค่สว่านธรรมดาที่แรงขึ้นเท่านั้นนะครับ แต่มันคือเครื่องมือที่ออกแบบมาให้เจาะวัสดุแข็งได้ง่ายขึ้น เหมาะทั้งกับมือใหม่ และมืออาชีพ ใช้งานได้กว้าง ตั้งแต่งานเล็ก ๆ ในบ้าน ไปจนถึงงานที่ต้องเจาะผนังซีเมนต์โดยไม่ต้องเปลืองแรง ยิ่งในยุคนี้ที่สว่านกระแทกมีฟังก์ชันเลือกโหมดได้ทั้งเจาะธรรมดาและกระแทก ยิ่งทำให้มันเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่า ใช้ได้หลากหลายสถานการณ์
ไม่ว่าคุณจะกำลังมองหาสว่านไว้ติดบ้าน หรือกำลังเลือกเครื่องมือคู่ใจสำหรับงานช่าง สว่านกระแทก ก็คือคำตอบที่ควรพิจารณาครับ