Customers Also Purchased
เวลาเราเห็นของหนักๆ หรือกล่องสินค้าที่ซ้อนกันเยอะๆ ในคลังสินค้า โรงงาน หรือแม้แต่ร้านค้าใหญ่ๆ คุณเคยสงสัยไหมคะว่าเขาขนย้ายของพวกนี้กันยังไง? คงไม่ใช่แค่ยกด้วยมือเปล่าๆ แน่ๆ เลยใช่ไหมคะ? นี่แหละค่ะ คือหน้าที่ของอุปกรณ์ช่วยยกที่เราเรียกกันว่า แฮนด์ลิฟท์ (Hand Lift) หรือที่หลายคนรู้จักกันในชื่อ "รถลากพาเลท" นั่นเองค่ะ
แฮนด์ลิฟท์เนี่ย เป็นเหมือนผู้ช่วยคนสำคัญที่ทำให้งานขนย้ายของหนักๆ กลายเป็นเรื่องง่ายขึ้นเยอะเลยค่ะ ไม่ต้องออกแรงเยอะ ไม่ต้องเจ็บตัว แถมยังช่วยให้ทำงานได้เร็วขึ้นอีกด้วยนะ แต่รู้ไหมคะว่าแฮนด์ลิฟท์ไม่ได้มีแค่แบบเดียวที่เราเห็นบ่อยๆ นะคะ จริงๆ แล้วมันมีหลายประเภทเลย แถมแต่ละแบบก็เหมาะกับงานยกที่แตกต่างกันไป ถ้าเราเลือกใช้ถูกประเภทเนี่ย จะช่วยให้งานเราสะดวกขึ้นเยอะเลยล่ะ
วันนี้เราจะมาคุยกันว่า แฮนด์ลิฟท์ มีกี่แบบกันแน่ แต่ละแบบมีหน้าตาเป็นยังไง มีข้อดีข้อจำกัดอะไรบ้าง และที่สำคัญคือ เหมาะกับงานยกแบบไหน เพื่อให้คุณเลือกใช้ แฮนด์ลิฟท์ ได้อย่างคุ้มค่า และทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดค่ะ
"แฮนด์ลิฟท์" คืออะไร? ทำไมมันถึงสำคัญกับงานขนของ?
อธิบายง่ายๆ นะคะ แฮนด์ลิฟท์ ก็คือรถยกพาเลทที่เราใช้มือบังคับนี่แหละค่ะ มันถูกออกแบบมาเพื่อช่วยยกแล้วก็เคลื่อนย้ายสินค้าที่วางอยู่บนพาเลท หรือแท่นรองรับสินค้าค่ะ พูดง่ายๆ คือมันช่วยให้เราผ่อนแรงในการยกแล้วก็ลากของหนักๆ ได้เยอะมากๆ เลย
หน้าที่หลักๆ ของมันก็คือการสอดงา (ที่ยื่นออกมาเหมือนขาของรถ) เข้าไปใต้พาเลท จากนั้นก็ใช้ระบบไฮดรอลิกในการปั๊มให้พาเลทลอยขึ้นจากพื้นนิดหน่อยค่ะ แค่พอให้เราสามารถลากหรือเข็นพาเลทพร้อมสินค้าไปยังจุดที่เราต้องการได้อย่างง่ายดายเลยค่ะ
ทำไมแฮนด์ลิฟท์ถึงเป็นที่นิยมจัง?
- ใช้ง่ายมากๆ: ไม่ต้องเรียนรู้อะไรเยอะเลยค่ะ ใครๆ ก็สามารถเรียนรู้วิธีใช้ แฮนด์ลิฟท์ ได้ไม่ยากเลยนะ
- ราคาไม่แพง: ถ้าเทียบกับรถยกแบบไฟฟ้า หรือรถโฟล์คลิฟท์เนี่ย แฮนด์ลิฟท์ มีราคาที่ถูกกว่าเยอะมากๆ เลยค่ะ ทำให้ธุรกิจเล็กๆ ก็สามารถหาซื้อมาใช้ได้สบายๆ
- ดูแลรักษาง่าย: กลไกของมันไม่ได้ซับซ้อนอะไรมากค่ะ ทำให้การดูแลรักษาก็ไม่ยุ่งยากเลย
- เคลื่อนย้ายสะดวก: ตัวเครื่องมีขนาดไม่ใหญ่มากค่ะ สามารถเอาไปใช้งานในพื้นที่แคบๆ หรือทางเดินที่ไม่กว้างมากได้สบายๆ เลย
"แฮนด์ลิฟท์" มีกี่แบบ? เลือกใช้แบบไหนให้ตรงกับงานยกของคุณ?
มาดูกันเลยค่ะว่า แฮนด์ลิฟท์ ที่เราใช้ๆ กันอยู่เนี่ย มีกี่แบบ แล้วแต่ละแบบมีคุณสมบัติพิเศษยังไงบ้าง
1. แฮนด์ลิฟท์มาตรฐาน (Standard Hand Pallet Truck) – แบบนี้ยกได้ไม่สูงมากนะ
นี่คือ แฮนด์ลิฟท์ แบบที่เราเห็นกันบ่อยที่สุดเลยค่ะ เป็นรุ่นพื้นฐานที่ใช้กันทั่วไปเลยนะ แล้วเราก็จัดให้มันอยู่ในกลุ่ม แฮนด์ลิฟท์ที่ยกไม่สูงมาก ค่ะ
- หน้าตาเป็นยังไง: มันจะมีงา 2 งา สำหรับสอดเข้าใต้พาเลท แล้วก็มีคันโยกให้เราปั๊มเพื่อยกของ แล้วก็มีล้อไว้ให้เราเข็นไปมาค่ะ
- ยกได้สูงแค่ไหน: โดยทั่วไปแล้ว มันจะสามารถยกพาเลทให้ลอยขึ้นจากพื้นได้ไม่สูงมากค่ะ ประมาณ 10-20 เซนติเมตร แค่พอให้พาเลทยกลอยขึ้นจากพื้นเพื่อเคลื่อนย้ายได้สะดวกเท่านั้นเอง
- เหมาะกับงานแบบไหน:
- งานประจำในคลังสินค้า: สำหรับยกแล้วก็เคลื่อนย้ายสินค้าที่อยู่บนพาเลทมาตรฐาน (อย่างพาเลทไม้ พาเลทพลาสติก) ที่มีน้ำหนักไม่เกินพิกัดของเครื่อง
- ในร้านค้าใหญ่ๆ: ที่มีการจัดเรียงสินค้าบนพาเลท
- โรงงานทั่วไป: ที่มีการขนย้ายสินค้าแบบใช้พาเลทจากจุดหนึ่งไปอีกจุดหนึ่งบนพื้นราบ - ข้อดี: ราคาไม่แพง ใช้ง่าย ทนทาน แล้วก็ดูแลรักษาก็ง่ายด้วย
- ข้อจำกัด: ต้องใช้แรงคนในการปั๊มแล้วก็ลาก ไม่เหมาะกับงานที่ต้องยกของบ่อยๆ หรือของหนักมากๆ ค่ะ แล้วก็ไม่เหมาะกับพาเลทที่มีขนาดไม่มาตรฐานด้วยนะ
2. แฮนด์ลิฟท์แบบยกสูง (High Lift Pallet Truck) – แบบนี้ยกของขึ้นโต๊ะได้เลย!
นี่คือ แฮนด์ลิฟท์ ที่ถูกออกแบบมาให้สามารถยกพาเลทหรือสินค้าให้สูงขึ้นจากพื้นได้มากกว่า แฮนด์ลิฟท์ ทั่วไปเยอะเลยค่ะ จัดเป็นกลุ่ม แฮนด์ลิฟท์ยกสูง ค่ะ
- หน้าตาเป็นยังไง: มันจะคล้ายๆ แฮนด์ลิฟท์ ทั่วไปเลยค่ะ แต่จะมีกลไกพิเศษที่ช่วยให้ยกสูงขึ้นได้มาก (บางทีก็สูงถึง 800 มิลลิเมตร หรือ 1000 มิลลิเมตรจากพื้นเลยนะ) กลไกที่ว่านี้อาจจะเป็นแบบโครงสร้างคล้ายกรรไกร หรือแบบอื่นๆ ที่ทำให้ยกของขึ้นไปได้สูงๆ ค่ะ
- ยกได้สูงแค่ไหน: สามารถยกพาเลทให้สูงจากพื้นได้มากถึง 80-100 เซนติเมตร เลยค่ะ ประมาณระดับเอวคนเลยนะ
- เหมาะกับงานแบบไหน:
- ยกสินค้าขึ้นวางบนโต๊ะทำงาน: หรือย้ายสินค้าจากพาเลทขึ้นไปวางบนแท่นยกที่มีความสูง อย่างเช่น ในไลน์ผลิต หรือจุดแพ็คสินค้า
- ใช้เป็นโต๊ะทำงานชั่วคราว: บางทีก็สามารถเอามาใช้แทนโต๊ะยกระดับสำหรับงานประกอบ หรือแพ็คสินค้าได้นะคะ ทำให้พนักงานไม่ต้องก้มๆ เงยๆ บ่อยๆ ช่วยถนอมหลังได้เยอะ
- ยกของขึ้นชั้นวางที่ไม่สูงมากนัก: อย่างชั้นวางของในร้านค้า หรือในโกดังขนาดเล็ก - ข้อดี: ยกสูงได้ ไม่ต้องก้มหรือยกของเอง ช่วยลดการบาดเจ็บจากการยกของหนัก ทำให้การทำงานสะดวกสบายขึ้น
- ข้อจำกัด: สำคัญมากๆ เลยนะคะ คือมันไม่สามารถเคลื่อนที่ได้ในขณะที่ยกของสูงๆ นะคะ เพราะมันจะเสียการทรงตัวแล้วก็อันตรายมากๆ ค่ะ (ยกได้เฉพาะตอนที่เครื่องอยู่กับที่) แล้วราคาก็จะสูงกว่า แฮนด์ลิฟท์ ทั่วไปด้วยนะ
แฮนด์ลิฟท์แบบอื่นๆ ที่ปรับใช้กับงานเฉพาะทาง
นอกจากแบ่งตามระดับการยกสูง-ต่ำแล้ว แฮนด์ลิฟท์ ก็ยังมีแบบที่ปรับเปลี่ยนตามลักษณะการใช้งานเฉพาะทางอีกหลายแบบเลยค่ะ
3. แฮนด์ลิฟท์งาสั้น (Short Fork Hand Pallet Truck)
- หน้าตาเป็นยังไง: คล้าย แฮนด์ลิฟท์ ทั่วไปเลยค่ะ แต่ความยาวของงาจะสั้นกว่าปกติ (อย่างเช่น 800-900 มิลลิเมตร แทนที่จะเป็น 1150 มิลลิเมตร)
- เหมาะกับงานแบบไหน:
- พื้นที่ที่แคบมากๆ: ที่มีข้อจำกัดเรื่องพื้นที่ในการเลี้ยวหรือเคลื่อนที่ อย่างในโกดังที่มีทางเดินแคบๆ หรือท้ายรถบรรทุกขนาดเล็ก
- พาเลทขนาดเล็ก: เหมาะสำหรับยกพาเลทที่มีขนาดสั้นกว่าปกติ หรือพาเลทที่ไม่เต็มขนาด - ข้อดี: คล่องตัวมากๆ เลยค่ะ เลี้ยวในที่แคบได้ดีกว่า
- ข้อจำกัด: ไม่เหมาะกับพาเลทมาตรฐานขนาดเต็มนะคะ เพราะงาจะสั้นเกินไป ทำให้ไม่มั่นคงเวลาใช้งาน
4. แฮนด์ลิฟท์งายาว (Long Fork Hand Pallet Truck)
- หน้าตาเป็นยังไง: คล้าย แฮนด์ลิฟท์ ทั่วไปเลยค่ะ แต่ความยาวของงาจะยาวเป็นพิเศษ (อย่างเช่น 1500 มิลลิเมตร หรือ 2000 มิลลิเมตร)
- เหมาะกับงานแบบไหน:
- ยกพาเลทที่มีขนาดยาวมากๆ: หรือพาเลทที่เราซ้อนกัน 2 พาเลทในแนวเดียวกัน เพื่อประหยัดเวลาในการขนย้าย
- ขนย้ายสินค้าที่มีความยาวมาก: ที่ไม่สามารถวางบนพาเลทมาตรฐานได้ - ข้อดี: สามารถยกแล้วก็เคลื่อนย้ายของยาวๆ ได้อย่างมั่นคงเลยค่ะ
- ข้อจำกัด: อาจจะไม่ค่อยคล่องตัวในพื้นที่แคบๆ นะคะ แล้วก็ต้องใช้พื้นที่ในการเลี้ยวมากกว่าปกติด้วย
5. แฮนด์ลิฟท์งากว้าง/งาแคบ (Wide / Narrow Fork Hand Pallet Truck)
- หน้าตาเป็นยังไง: ความกว้างของงาจะแตกต่างจาก แฮนด์ลิฟท์ ทั่วไปค่ะ
- งากว้าง: ระยะห่างระหว่างงาจะกว้างกว่าปกติ เพื่อรองรับพาเลทขนาดใหญ่
- งาแคบ: ระยะห่างระหว่างงาจะแคบกว่าปกติ เพื่อให้เข้ากับพาเลทขนาดเล็กหรือพาเลทพลาสติกบางชนิด - เหมาะกับงานแบบไหน:
- งากว้าง: ใช้กับพาเลทที่มีขนาดกว้างมากๆ หรือสินค้าที่มีฐานกว้างพิเศษ
- งาแคบ: ใช้กับพาเลทที่ไม่ใช่ขนาดมาตรฐานทั่วไป ที่มีช่องสำหรับงาแคบๆ หรือใช้กับพาเลทพลาสติกบางชนิด - ข้อดี: ตอบโจทย์การใช้งานกับพาเลทหรือสินค้าที่มีขนาดไม่เป็นมาตรฐานเลยค่ะ
- ข้อจำกัด: อาจจะไม่ยืดหยุ่นในการใช้งานกับพาเลททุกขนาดนะคะ
6. แฮนด์ลิฟท์สเตนเลส (Stainless Steel Hand Pallet Truck)
- หน้าตาเป็นยังไง: โครงสร้างหลักๆ แล้วก็ชิ้นส่วนต่างๆ จะทำมาจากสเตนเลสสตีลเลยค่ะ
- เหมาะกับงานแบบไหน:
- อุตสาหกรรมอาหาร ยา หรือเคมีภัณฑ์: ที่ต้องการความสะอาดมากๆ แล้วก็ต้องสัมผัสกับความชื้น หรือสารเคมีกัดกร่อนบ่อยๆ เพราะสเตนเลสสตีลทนทานต่อการเกิดสนิมแล้วก็การกัดกร่อนได้ดีเยี่ยมเลยค่ะ
- ห้องเย็น: ที่มีอุณหภูมิต่ำมากๆ แล้วก็มีความชื้นสูง - ข้อดี: ทนทานต่อการกัดกร่อนสูงมากๆ ทำความสะอาดก็ง่าย แล้วก็ช่วยให้รักษามาตรฐานสุขอนามัยได้ดีด้วย
- ข้อจำกัด: ราคาสูงกว่า แฮนด์ลิฟท์ ทั่วไปเยอะมากเลยค่ะ
เลือก "แฮนด์ลิฟท์" ให้ถูกแบบ งานยกก็ง่ายขึ้นเยอะ!
จากที่เราคุยกันมาทั้งหมดนี้ คุณคงเห็นแล้วใช่ไหมคะว่า แฮนด์ลิฟท์ ไม่ได้มีแค่แบบเดียวที่เราคุ้นเคย แต่มันมีหลายประเภทมากๆ เลยนะคะ แต่ละแบบก็ถูกออกแบบมาเพื่อการใช้งานที่แตกต่างกันไป ทั้งเรื่องระดับการยก ความยาวงา ความกว้างงา หรือแม้แต่วัสดุที่ใช้
การเลือกใช้ แฮนด์ลิฟท์ ให้ถูกประเภทและเหมาะสมกับลักษณะของงานยกที่เรามีอยู่ ไม่ว่าจะเป็นขนาดของพาเลท น้ำหนักของสินค้า หรือสภาพแวดล้อมในการทำงานเนี่ย ถือเป็นสิ่งสำคัญมากๆ เลยค่ะ
การลงทุนใน แฮนด์ลิฟท์ ที่ใช่ จะช่วยให้งานขนย้ายของหนักๆ ของคุณเป็นไปอย่างราบรื่น มีประสิทธิภาพมากขึ้น ลดการใช้แรงงานคน ลดความเสี่ยงในการบาดเจ็บ แล้วก็ช่วยยืดอายุการใช้งานของอุปกรณ์ด้วยค่ะ เลือกให้ถูกประเภท แล้วงานยกของคุณก็จะง่ายขึ้นเยอะเลยค่ะ