NRR กับ SNR บน ที่ครอบหูลดเสียง คืออะไร? ยิ่งสูงยิ่งดีจริงไหม?

Customers Also Purchased

ในยุคนี้ที่เสียงดังอยู่รอบตัวเราแทบตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นเสียงเครื่องจักรในโรงงาน เสียงตอกเจาะจากไซต์ก่อสร้าง หรือแม้แต่เสียงเลื่อยไฟฟ้าในงาน DIY ที่บ้าน เสียงเหล่านี้ดูเหมือนไม่รุนแรงในช่วงแรก ๆ แต่จริง ๆ แล้วมันค่อย ๆ ทำลายประสาทการได้ยินของเราไปแบบไม่รู้ตัว หลายคนเริ่มรู้สึกว่าฟังไม่ชัด หรือได้ยินไม่เหมือนเดิม ก็เมื่อมันเริ่มสายไปแล้ว

ที่ครอบหูลดเสียง เป็นตัวช่วยสำคัญสำหรับใครที่ต้องทำงานหรืออยู่ในพื้นที่เสียงดังเป็นประจำ แต่เวลาจะเลือกซื้อ หลายคนก็อาจสะดุดกับคำศัพท์แปลก ๆ ที่อยู่บนกล่อง อย่างเช่น "NRR" กับ "SNR" แล้วพอเห็นตัวเลข 20, 25, 30 ก็เกิดคำถามขึ้นมาทันทีว่า "เลขเยอะแปลว่าดีกว่าหรือเปล่า?" ถ้าคุณเคยมีคำถามแบบนี้ในใจ บทความนี้คือคำตอบที่คุณรออยู่! เราจะพาคุณไปรู้จักทั้ง NRR และ SNR แบบเข้าใจง่าย ๆ ไม่ต้องมีพื้นฐานเทคนิคมาก่อน พร้อมช่วยให้คุณเลือก ที่ครอบหูลดเสียง ที่ใช่ เหมาะกับงานของคุณที่สุด และช่วยปกป้องการได้ยินไว้ให้นานที่สุดด้วย

NRR กับ SNR บน ที่ครอบหูลดเสียง คืออะไร ยิ่งสูงยิ่งดีจริงไหม

ที่ครอบหูลดเสียง NRR คืออะไร?

NRR ย่อมาจาก "Noise Reduction Rating" ซึ่งถ้าแปลตรงตัวก็คือ "ค่าการลดเสียง" นั่นเองครับ เป็นค่ามาตรฐานที่ใช้กันในสหรัฐอเมริกา โดยหน่วยงาน OSHA (หรือชื่อเต็มว่า Occupational Safety and Health Administration) กับ EPA (Environmental Protection Agency) เป็นคนกำหนดขึ้นมา
ถ้าให้พูดง่าย ๆ NRR ก็คือตัวเลขที่บอกว่า ที่ครอบหูลดเสียง หรือที่อุดหูที่คุณถืออยู่ สามารถกันเสียงได้มากแค่ไหน ยิ่งเลขเยอะ ยิ่งกันเสียงได้ดี แต่... เดี๋ยวก่อน! ไม่ใช่แค่ดูเลขแล้วจบ ยังมีรายละเอียดอีกนิดที่เราต้องเข้าใจด้วยนะครับ

ค่าตัวเลขของ NRR บอกอะไร?

NRR แสดงเป็นค่าตัวเลข เช่น NRR 20, NRR 30 เป็นต้น พูดง่าย ๆ คือ ยิ่งเลขเยอะ อุปกรณ์นั้นก็ยิ่งสามารถกันเสียงได้ดีมากขึ้น (ในทฤษฎี) โดยตัวเลขพวกนี้ได้มาจากการทดสอบในห้องแล็บแบบควบคุม ซึ่งอาจไม่เหมือนกับที่เราใช้งานจริงเป๊ะๆ นะครับ
ลองนึกภาพว่าคุณอยู่ในที่ที่เสียงดังระดับ 100 dB (ซึ่งก็คือเสียงดังมากๆ ระดับเสียงเจาะถนนเลย) ถ้าคุณใส่ ที่ครอบหูลดเสียง ที่มีค่า NRR 30 dB ก็เหมือนกับว่าเสียงที่คุณจะได้ยินจะเหลือประมาณ 70 dB เท่านั้นเอง ซึ่งก็ถือว่าลดได้เยอะทีเดียว แต่! ยังมีรายละเอียดอีกนิดที่เราจะต้องเข้าใจต่อไปในหัวข้อถัดไป เพราะตัวเลขนี้ไม่ใช่ว่าจะลดเสียงได้เท่าที่เห็นเสมอไปครับ

วิธีคำนวณลดเสียงจริงจากค่า NRR

OSHA แนะนำให้คำนวณการลดเสียงจากค่า NRR โดยวิธีต่อไปนี้
  • ลบค่า NRR ออก 7 หน่วย
  • หารด้วย 2
เช่น อุปกรณ์ที่มี NRR 30: (30 - 7) / 2 = 11.5 dB นั่นหมายความว่าการใช้งานจริง คุณจะได้รับการลดเสียงประมาณ 11.5 dB ไม่ใช่ 30 dB เต็มๆ เพราะในการใช้งานจริง มีหลายปัจจัยที่ทำให้การลดเสียงน้อยกว่าที่ระบุไว้

NRR กับ SNR บน ที่ครอบหูลดเสียง คืออะไร ยิ่งสูงยิ่งดีจริงไหม

ที่ครอบหูลดเสียง SNR คืออะไร?

SNR ย่อมาจาก "Single Number Rating" หรือถ้าจะให้เข้าใจง่าย ๆ ก็คือค่าตัวเลขเดียวที่บอกว่า ที่ครอบหูลดเสียง หรือที่อุดหูนั้นลดเสียงได้ดีแค่ไหนตามมาตรฐานยุโรป (EN 352) นั่นเองครับ

ข้อดีของ SNR คือเขาทดสอบโดยจำลองสถานการณ์จริงมากขึ้น เช่น การสวมในสภาพแวดล้อมที่มีเสียงหลายทิศทาง หรือผู้ใช้ขยับศีรษะบ้างอะไรบ้าง ทำให้ค่าที่ได้ออกมามักจะใกล้เคียงกับการใช้งานจริงมากกว่า NRR ในหลายกรณี พูดง่ายๆ ว่า SNR เป็นเหมือนเพื่อนที่ซื่อสัตย์ บอกเลขมาใกล้เคียงความจริงมากกว่า ไม่ได้ดูดีเกินจริงเพราะวัดในห้องทดลองอย่างเดียว


ค่าของ SNR แสดงอย่างไร?

SNR จะระบุเป็นตัวเลขเช่นเดียวกับ NRR เลยครับ เช่น SNR 25, SNR 30 เป็นต้น ซึ่งถ้าเห็นเลขเยอะ ๆ ก็พอจะเดาได้ว่าอุปกรณ์นั้นสามารถลดเสียงได้มากขึ้น แต่! อย่าเพิ่งรีบฟันธงว่าเลขเยอะคือดีที่สุดเสมอไปนะครับ

ข้อดีของ SNR คือการแปลค่าง่ายกว่า ไม่ต้องเอาไปลบ 7 หรือหาร 2 ให้ปวดหัวแบบ NRR แค่ดูเลขแล้วก็พอจะเข้าใจระดับการกันเสียงได้เลย ซึ่งเหมาะมากสำหรับคนที่อยากรู้เร็ว ๆ ว่าใส่แล้วจะเงียบประมาณไหน

ตัวอย่างการใช้ค่า SNR

ลองจินตนาการว่าคุณอยู่ในสถานที่ที่เสียงดังประมาณ 100 dB (อย่างเสียงเครื่องเจาะถนนหรือเสียงเครื่องยนต์หนัก ๆ) แล้วคุณใส่ที่ครอบหูที่มีค่า SNR 30 dB เข้าไป เท่ากับว่าเสียงที่คุณจะได้ยินจริง ๆ จะเหลือแค่ประมาณ 70 dB เท่านั้นเองครับ
พูดง่าย ๆ ก็คือ คุณลดเสียงลงได้แบบตรง ๆ ตามที่ระบุไว้บนกล่องเลย ไม่ต้องมาคำนวณลบ 7 หรือหาร 2 แบบ NRR ให้ยุ่งยาก เรียกว่าเห็นเลขเท่าไหร่ ก็กันเสียงได้ใกล้เคียงเท่านั้นเลย

ที่ครอบหูลดเสียง NRR vs SNR ต่างกันอย่างไร?

ความแตกต่างด้านมาตรฐาน

  • NRR: มาตรฐานจากสหรัฐอเมริกา ที่เขาทดสอบกันในห้องแล็บแบบเป๊ะ ๆ ไม่ใช่ในสถานการณ์จริง เลยอาจดูเว่อร์กว่าที่เราใช้งานกันจริง ๆ นิดหน่อยครับ
  • SNR: มาตรฐานจากฝั่งยุโรปครับ จุดเด่นคือเขาทดสอบกันในสถานการณ์ที่ใกล้เคียงกับชีวิตจริงมากขึ้น เช่น มีเสียงจากหลายทิศทาง ผู้ใช้ขยับตัวหรือทำงานจริง ๆ ไม่ใช่แค่นั่งนิ่ง ๆ ในห้องแล็บ เลยทำให้ค่าที่ออกมามักจะใกล้เคียงกับสิ่งที่เราจะได้เจอเวลานำมาใช้จริงมากกว่า

ความแตกต่างในการคำนวณ

  • NRR ต้องเอาเลขที่เห็นไปลบ 7 ก่อน แล้วค่อยหาร 2 ถึงจะได้ค่าที่ใกล้เคียงกับความเป็นจริงครับ ฟังดูยุ่งนิดหน่อยใช่ไหม? แต่ก็พอเข้าใจได้ง่าย ๆ เช่น ถ้าเห็น NRR 30 ก็ต้องคิดในใจว่า (30 - 7) ÷ 2 = เหลือแค่ประมาณ 11.5 dB เท่านั้นเอง ไม่ใช่ 30 เต็ม ๆ อย่างที่หลายคนเข้าใจตอนแรก
  • SNR ใช้ค่าโดยตรงเลยครับ ไม่ต้องคิดเลขให้วุ่นวาย ไม่ต้องลบ ไม่ต้องหาร เห็นเลขเท่าไหร่ก็ใช้เท่านั้นเลย เหมาะกับใครที่ไม่ถนัดคำนวณหรืออยากรู้ผลไว ๆ ว่าใส่แล้วจะช่วยลดเสียงได้แค่ไหน

การใช้งาน ที่ครอบหูลดเสียง

  • ในสหรัฐฯ มักใช้ NRR เป็นหลักครับ เพราะเขามีมาตรฐานด้านความปลอดภัยเฉพาะของตัวเอง และมักยึดตามการทดสอบในห้องแล็บที่ค่อนข้างเป๊ะๆ ถ้าใครเคยดูสินค้าอเมริกันก็จะเห็นว่า NRR เป็นค่าที่เจอบ่อยสุดเลย
  • ในยุโรปและหลายประเทศ รวมถึงไทยเองในบางกรณี ก็นิยมใช้ค่า SNR เป็นตัวหลักในการระบุประสิทธิภาพของที่ครอบหูครับ เพราะมันเข้าใจง่าย ไม่ต้องคำนวณอะไรให้วุ่นวาย และเหมาะกับการใช้งานจริงมากกว่า ใครที่ไม่อยากปวดหัวกับตัวเลขหรือสูตรคำนวณแบบ NRR ก็มักจะชอบใช้ SNR กันมากกว่า

ค่าที่ดูสูงกว่าไม่ได้แปลว่าดีกว่าเสมอ

แม้ว่าเราจะเห็นค่า SNR สูงกว่า NRR ในบางรุ่น เช่น SNR 35 เทียบกับ NRR 30 แล้วคิดในใจว่า "โอ้โห รุ่นนี้ต้องดีกว่าแน่ ๆ" แต่อย่าเพิ่งรีบตัดสินครับ เพราะวิธีการวัดของสองค่านี้ไม่เหมือนกันเลย ต้องดูด้วยว่าเราอยู่ในประเทศไหน ใช้มาตรฐานอะไร และสุดท้ายคือ ใช้งานจริงแบบไหนถึงจะเหมาะสมที่สุด ไม่งั้นอาจซื้อของแพงมาแล้วไม่ได้ผลอย่างที่คิด

NRR กับ SNR บน ที่ครอบหูลดเสียง คืออะไร ยิ่งสูงยิ่งดีจริงไหม

แล้วจะดูยังไงว่าเลขสูงแปลว่าดีจริง?

แม้ว่าค่า NRR หรือ SNR สูงจะบอกเป็นนัยว่าอุปกรณ์นั้นกันเสียงได้เยอะ แต่จริง ๆ แล้วการเลือก ที่ครอบหูลดเสียง ไม่ได้จบแค่ดูตัวเลขครับ มันเหมือนกับการเลือกหูฟังหรือหมวกกันน็อค ที่ต้องดูว่าใส่สบายไหม ใช้งานนานแล้วเจ็บหูหรือเปล่า และเหมาะกับสภาพแวดล้อมของเราจริงหรือเปล่า เพราะบางทีเลขเยอะก็ไม่ได้แปลว่าตอบโจทย์ทุกงานเสมอไปนะ ลองดูหลาย ๆ ปัจจัยประกอบกันจะดีที่สุด เช่น:
ลักษณะของเสียงที่ต้องการลด: อย่างเสียงความถี่สูง เช่น เสียงเจียร เสียงตัดเหล็ก หรือเสียงแหลม ๆ จากเครื่องมือไฟฟ้า ใครเคยเจอจะรู้เลยว่า มันแสบหูมาก! เสียงแบบนี้ควรใช้ ที่ครอบหูลดเสียง ที่แนบสนิทกับหูให้มากที่สุด และมีฟองน้ำที่นุ่มแน่น คุณภาพดี เพื่อช่วยกันเสียงให้ได้จริง ไม่อย่างนั้นแค่เสียงลอดเข้ามานิดเดียวก็ทำให้เสียสมาธิ หรือสะดุ้งได้เลยครับ
  • ลักษณะการใช้งาน: ถ้าคุณต้องใส่ ที่ครอบหูลดเสียง ทั้งวัน หรือทำงานในพื้นที่เสียงดังต่อเนื่องเป็นชั่วโมง ๆ เรื่องความสบายคือสิ่งที่มองข้ามไม่ได้เลยครับ ลองคิดดูว่าถ้าครอบหูแน่นเกินไป ใส่แล้วปวดหู ปวดกราม หรือหนักมากจนปวดคอ ต่อให้กันเสียงดีแค่ไหนก็ใช้งานลำบากแน่นอน เพราะงั้นควรเลือกที่เบา กระชับ ไม่บีบหู และฟองน้ำแน่นแต่นุ่ม จะช่วยให้คุณใส่ได้ทั้งวันแบบไม่ทรมาน
  • สิ่งแวดล้อมในการทำงาน: ถ้าคุณทำงานในที่ที่ต้องสื่อสารกับคนอื่นอยู่บ่อย ๆ เช่น ต้องฟังวิทยุสื่อสาร คำสั่งจากหัวหน้า หรือเสียงสัญญาณเตือนภัย การเลือก ที่ครอบหูลดเสียง ที่กันเสียงจนเงียบสนิทเกินไปอาจไม่ใช่เรื่องดีนักครับ เพราะมันอาจทำให้คุณพลาดข้อมูลสำคัญหรือเกิดอันตรายโดยไม่รู้ตัว ทางที่ดีควรเลือกแบบที่ลดเสียงในระดับที่พอดี — เงียบพอจะไม่รบกวน แต่ยังได้ยินสิ่งสำคัญรอบตัวอยู่

ความเข้าใจผิดที่พบบ่อย

  • บางคนเห็น ที่ครอบหูลดเสียง NRR 35 แล้วก็คิดว่า ‘อันนี้แหละดีที่สุด ใส่แล้วเงียบแน่นอน!’ ก็ไม่ผิดครับ เพราะมันกันเสียงได้เยอะจริง ๆ แต่ก็อย่าลืมนึกถึงงานที่เราจะใช้ด้วยนะครับ เพราะบางงานที่ต้องฟังเสียงรอบตัว เช่น เสียงเตือนหรือเสียงจากเพื่อนร่วมงาน ถ้าใส่รุ่นที่กันเสียงเยอะเกินไป อาจทำให้คุณฟังอะไรไม่รู้เรื่องเลยก็ได้ กลายเป็นเงียบเกินไปจนไม่ปลอดภัยแทน
  • บางคนเห็นว่า SNR สูงก็คิดว่าน่าจะดี เลยซื้อที่อุดหูรุ่นท็อปมาให้ลูกใช้ แต่จริง ๆ แล้วร่างกายเด็กยังเล็ก ขนาดใบหูยังไม่เท่าผู้ใหญ่ ที่อุดหูเลยอาจใส่ได้ไม่พอดี ไม่แน่น หรือหลุดง่าย สุดท้ายกลายเป็นว่าเสียงก็ยังเล็ดลอดเข้าไปได้เหมือนเดิม เพราะงั้นถ้าจะซื้อให้เด็กใช้ แนะนำให้เลือกแบบที่ออกแบบมาสำหรับเด็กโดยเฉพาะจะเวิร์กกว่าครับ

สรุป

ที่ครอบหูลดเสียง ไม่ใช่อุปกรณ์ที่เลือกแค่ตามราคาหรือยี่ห้อ แต่ต้องเข้าใจค่ามาตรฐานที่ระบุไว้ด้วย โดย NRR และ SNR เป็นค่าที่ช่วยบอกว่าอุปกรณ์นั้นลดเสียงได้ดีแค่ไหน แต่ต้องรู้ด้วยว่าแต่ละค่ามีวิธีตีความต่างกัน และการใช้งานจริงอาจลดเสียงได้น้อยกว่าที่ตัวเลขระบุหากใส่ไม่สนิท หรือเลือกผิดประเภท


เลือก > ที่ครอบหูลดเสียง < ให้เหมาะกับความต้องการ