Customers Also Purchased
ในบทความนี้ เราจะพาคุณไปเจาะลึก 5 เหตุผลสำคัญที่คุณควรสวมใส่ แว่นนิรภัย ทุกครั้งที่ทำงานช่าง ไม่ว่าคุณจะเป็นช่างมือใหม่ ช่างมืออาชีพ หรือเพียงแค่คนที่ชอบทำงาน DIY ภายในบ้าน การเรียนรู้เรื่องการป้องกันดวงตาอย่างถูกต้อง จะช่วยให้คุณสามารถทำงานได้อย่างมั่นใจ มีประสิทธิภาพ และลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุได้อย่างมีนัยสำคัญ เพราะดวงตาไม่สามารถทดแทนได้ และการป้องกันไว้ก่อนย่อมดีกว่าการรักษาทีหลังเสมอ

1. ดวงตาเป็นอวัยวะที่บอบบาง และเสียหายถาวรได้ง่าย
ดวงตาไม่สามารถสร้างใหม่ได้
ดวงตาของมนุษย์คือหนึ่งในอวัยวะที่มีความละเอียดอ่อนที่สุดและมีหน้าที่สำคัญต่อการดำเนินชีวิตประจำวัน ไม่เพียงแต่ช่วยในการมองเห็นเท่านั้น แต่ยังเกี่ยวข้องกับการรับรู้ทิศทาง การทำงานร่วมกับมือ และการประเมินระยะ ซึ่งล้วนมีผลต่อความปลอดภัยและความสามารถในการทำงานของเราโดยตรง หากดวงตาได้รับความเสียหายจากเศษโลหะ เศษไม้ ฝุ่นผง น้ำมัน หรือสารเคมีบางประเภท อาจส่งผลให้เกิดการอักเสบ การระคายเคือง การติดเชื้อรุนแรง หรือในกรณีที่เลวร้ายที่สุดคือเกิดความเสียหายถาวรจนสูญเสียการมองเห็น การรักษาอาการเหล่านี้มักมีความซับซ้อนและใช้ระยะเวลานาน อีกทั้งยังมีความเสี่ยงที่ประสิทธิภาพของการมองเห็นจะไม่กลับคืนมาเหมือนเดิมอีกต่อไป ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อทั้งการทำงานและคุณภาพชีวิตโดยรวมอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
อุบัติเหตุดวงตาเกิดขึ้นได้เสมอ
งานเจาะ เจียร เชื่อม หรือแม้แต่งานที่ดูเหมือนไม่อันตราย เช่น การตอกตะปู ล้วนมีโอกาสเกิดเหตุไม่คาดฝันได้ในพริบตา แม้จะเป็นงานที่ดูธรรมดาหรือทำในบ้านก็ตาม ตัวอย่างเช่น ขณะใช้เลื่อยวงเดือนในการตัดไม้ เศษไม้ขนาดเล็กสามารถกระเด็นด้วยความเร็วสูงเข้าสู่ดวงตา ทำให้เกิดการบาดเจ็บที่กระจกตา หรือหากกำลังเจียรเหล็ก เศษสะเก็ดไฟที่เกิดจากการเสียดสีของหินเจียรสามารถพุ่งเข้าตาและสร้างความเสียหายรุนแรงได้ในทันที บางกรณีที่พบในโรงงานอุตสาหกรรม มีการรายงานว่าพนักงานสูญเสียการมองเห็นจากสะเก็ดโลหะที่ไม่มีการป้องกันที่เพียงพอ นอกจากนี้ การตอกตะปูอาจทำให้หัวตะปูหรือเศษโลหะเล็กๆ กระเด้งขึ้นมาโดยไม่ตั้งใจ ซึ่งหากกระเด็นเข้าตาอาจสร้างบาดแผลลึกและติดเชื้อภายหลังได้ ทั้งหมดนี้แสดงให้เห็นว่าทุกงานช่างไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่ ล้วนมีความเสี่ยงที่ไม่ควรมองข้าม
แว่นนิรภัย คือด่านแรก
การใส่ แว่นนิรภัย จะช่วยป้องกันดวงตาจากอันตรายที่ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า เช่น ฝุ่นละเอียดที่เกิดจากการขัดไม้หรือเจียรโลหะ ซึ่งสามารถลอยอยู่ในอากาศและเข้าสู่ดวงตาได้ง่ายโดยไม่รู้ตัว ละอองเคมีจากการพ่นสีหรือใช้น้ำยาทำความสะอาดที่มีสารกัดกร่อน ก็สามารถระคายเคืองดวงตาอย่างรุนแรงได้ นอกจากนี้ยังมีแสง UV จากการเชื่อมโลหะที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า แต่ส่งผลกระทบอย่างมากต่อเลนส์ตาและจอประสาทตา ซึ่งอาจก่อให้เกิดอาการแสบตา ตาแดง หรือในระยะยาวอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคต้อกระจกได้
แว่นนิรภัย ส่วนใหญ่ในปัจจุบันได้รับการออกแบบให้สามารถทนต่อแรงกระแทกจากเศษวัสดุต่างๆ และผ่านการรับรองตามมาตรฐานความปลอดภัย เช่น ANSI Z87.1 หรือ EN166 ทำให้สามารถใช้ได้กับงานช่างหลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นงานเจาะ งานตัด งานเจียร หรืองานที่มีการสัมผัสกับสารเคมี การเลือก แว่นนิรภัย ที่มีคุณสมบัติเหมาะสมกับลักษณะงานจะช่วยให้คุณอุ่นใจมากขึ้น ลดโอกาสเกิดอุบัติเหตุ และยังช่วยยืดอายุการใช้งานของดวงตาได้ในระยะยาวอีกด้วย
2. ป้องกันเศษวัสดุและฝุ่นละอองระหว่างทำงาน
เศษวัสดุขนาดเล็กคือภัยเงียบ
เศษไม้ เศษเหล็ก หรือสะเก็ดจากวัสดุต่างๆ ที่เกิดขึ้นระหว่างการตัด เจียร หรือตอก ล้วนมีโอกาสปลิวเข้าดวงตาอย่างรวดเร็วโดยที่คุณไม่ทันตั้งตัว วัสดุเหล่านี้มักมีขนาดเล็กมากจนแทบมองไม่เห็น แต่กลับพุ่งเข้าสู่ดวงตาด้วยความเร็วสูงจากแรงกระแทกของเครื่องมือช่าง เช่น เครื่องเจียรไฟฟ้า เลื่อยวงเดือน หรือแม้กระทั่งค้อนธรรมดา หากเศษวัสดุเหล่านี้เข้าสู่ดวงตา อาจก่อให้เกิดอาการระคายเคืองเฉียบพลัน เช่น แสบตา น้ำตาไหล หรือในกรณีที่รุนแรงอาจทำให้กระจกตาถลอก เยื่อบุตาอักเสบ หรือมีแผลในชั้นลึกของดวงตา ซึ่งต้องได้รับการรักษาทางการแพทย์อย่างเร่งด่วน นอกจากนี้ หากปล่อยทิ้งไว้โดยไม่รู้ตัวหรือไม่รีบล้างตาอย่างถูกวิธี อาจนำไปสู่การติดเชื้อภายในดวงตา ซึ่งมีความเสี่ยงต่อการสูญเสียการมองเห็นในระยะยาวได้อีกด้วย
ฝุ่นละเอียดมีผลต่อสุขภาพดวงตาในระยะยาว
ฝุ่นละเอียดจากการขัดไม้หรือขัดโลหะ มักเป็นอนุภาคขนาดเล็กที่สามารถลอยอยู่ในอากาศได้นานหลายชั่วโมง โดยเฉพาะในพื้นที่ปิดหรือมีการระบายอากาศไม่ดี ซึ่งอนุภาคเหล่านี้สามารถเข้าสู่ดวงตาได้อย่างง่ายดายโดยที่เราไม่ทันสังเกต แม้ฝุ่นจะไม่ได้สร้างอันตรายฉับพลัน แต่หากสะสมในดวงตาเป็นเวลานาน อาจส่งผลให้เกิดอาการตาแห้ง เคืองตา น้ำตาไหล หรือรู้สึกเหมือนมีเศษผงอยู่ในดวงตาอยู่ตลอดเวลา ในบางกรณีอาจพัฒนาเป็นอาการเรื้อรัง เช่น ตาแดงเรื้อรัง เยื่อบุตาอักเสบ หรือกระจกตาถลอกโดยไม่รู้ตัว นอกจากนี้ยังอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคตา เช่น ต้อเนื้อหรือต้อลมได้ในระยะยาว
การใส่ แว่นนิรภัย ที่ออกแบบมาให้ครอบคลุมรอบดวงตาจะช่วยป้องกันไม่ให้ฝุ่นเหล่านี้เข้าสู่ตาโดยตรง โดยเฉพาะ แว่นนิรภัย แบบครอบเต็มใบหน้า (full-face goggle) หรือแว่นที่มีซีลยางรอบดวงตา จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการกันฝุ่นได้มากยิ่งขึ้น จึงควรพิจารณาเลือกแว่นให้เหมาะสมกับลักษณะงานและสภาพแวดล้อมที่มีความเสี่ยงสูง
ประเภท แว่นนิรภัย ที่เหมาะกับฝุ่นละออง
สำหรับงานที่มีฝุ่นเยอะ เช่น การขัดไม้ ขัดเหล็ก หรือการทำงานในโรงงานที่มีการปล่อยอนุภาคฝุ่นขนาดเล็กในอากาศ ควรเลือก แว่นนิรภัย แบบครอบตา (goggle) ที่ออกแบบมาโดยเฉพาะเพื่อกันฝุ่น ซึ่งควรมีขอบยางซีลรอบกรอบตาเพื่อให้แนบสนิทกับผิวหน้า ป้องกันไม่ให้ฝุ่นละอองเล็ดลอดเข้าสู่ดวงตาจากด้านข้าง ด้านล่าง หรือช่องว่างระหว่างกรอบแว่นกับผิวหนัง
แว่นนิรภัย แบบนี้มักใช้วัสดุเลนส์ที่ทนต่อแรงกระแทกสูง เช่น โพลีคาร์บอเนต และมีการเคลือบป้องกันการเกิดฝ้า (anti-fog coating) เพื่อให้สามารถใช้งานได้แม้ในสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นหรืออุณหภูมิเปลี่ยนแปลงบ่อย นอกจากนี้ยังควรเลือกแว่นที่มีช่องระบายอากาศแบบป้องกันฝุ่นเข้า เพื่อให้สวมใส่ได้นานโดยไม่อึดอัด ทั้งนี้การเลือก แว่นนิรภัย ที่ได้มาตรฐานจะช่วยเสริมประสิทธิภาพในการปกป้องดวงตา และทำให้คุณสามารถทำงานได้อย่างมั่นใจและปลอดภัยยิ่งขึ้น

3. ลดความเสี่ยงจากสารเคมี และของเหลวที่กระเด็นใส่ตา
งานบางประเภทมีการใช้สารเคมี
ในงานล้างคราบน้ำมัน ล้างสนิม หรือพ่นสี มักมีการใช้สารเคมีที่เป็นกรดหรือด่าง เช่น โซดาไฟ (Sodium Hydroxide), กรดไฮโดรคลอริก (Hydrochloric Acid), หรือทินเนอร์ ซึ่งมีคุณสมบัติกัดกร่อนสูง หากกระเด็นเข้าสู่ดวงตา แม้เพียงเล็กน้อยก็สามารถก่อให้เกิดการระคายเคืองรุนแรง โดยจะรู้สึกแสบตา เคืองตา น้ำตาไหลทันที และในกรณีที่รุนแรงกว่านั้น สารเคมีอาจทำลายเยื่อบุตา กระจกตา และเนื้อเยื่อลึกภายในตา ส่งผลให้เกิดภาวะตาบอดแบบถาวรได้อย่างรวดเร็วภายในเวลาไม่กี่นาที การล้างตาด้วยน้ำสะอาดในทันทีเป็นวิธีปฐมพยาบาลเบื้องต้นที่ช่วยลดความรุนแรงได้ แต่ในหลายกรณีก็ยังไม่สามารถป้องกันความเสียหายถาวรได้ทั้งหมด
ด้วยเหตุนี้ การสวม แว่นนิรภัย ที่สามารถป้องกันสารเคมีจึงมีความจำเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะแว่นที่ออกแบบมาสำหรับงานเคมีโดยเฉพาะจะมีซีลป้องกันรอบดวงตา และวัสดุที่ทนต่อการกัดกร่อนของสารเคมี เพื่อป้องกันไม่ให้ของเหลวหรือไอระเหยเล็ดลอดเข้าไปภายในดวงตา การป้องกันที่เหมาะสมสามารถช่วยหลีกเลี่ยงอันตรายที่อาจเปลี่ยนชีวิตได้ในพริบตา
น้ำมันและของเหลวร้อนก็อันตราย
ในงานที่เกี่ยวกับเครื่องยนต์หรือระบบไฮดรอลิก เช่น การถ่ายน้ำมันเครื่อง การเปลี่ยนถ่ายของเหลวในระบบเบรก หรือการซ่อมบำรุงระบบส่งกำลัง มักมีโอกาสที่น้ำมันร้อนๆ หรือของเหลวแรงดันสูงจะพุ่งกระเด็นออกมาโดยไม่คาดคิด อุณหภูมิของน้ำมันเครื่องที่ใช้งานแล้วอาจสูงถึง 90–120 องศาเซลเซียส ซึ่งหากกระเด็นเข้าสู่ดวงตาจะสร้างความเสียหายได้ทันที ทั้งในรูปแบบของการลวกตา การทำลายเยื่อบุผิว หรือเกิดแผลไหม้ในดวงตา ส่วนของเหลวแรงดันสูง เช่น น้ำมันไฮดรอลิกในระบบยกหรือระบบเบรก อาจพุ่งออกมาด้วยแรงดันมากกว่า 100 บาร์ หากเข้าสู่ดวงตาอาจทำให้กระจกตาแตกหรือเกิดภาวะบาดเจ็บลึกภายในลูกตา ซึ่งต้องได้รับการผ่าตัดโดยแพทย์เฉพาะทางเท่านั้น นอกจากนี้ สารเคมีในน้ำมันหล่อลื่นเองก็อาจทำให้เกิดอาการอักเสบและติดเชื้อในภายหลังได้ด้วย จึงควรใส่แว่นนิรภัย ทุกครั้งแม้จะเป็นงานซ่อมที่ดูไม่อันตราย
แว่นนิรภัย ที่ทนสารเคมี
ควรเลือก แว่นนิรภัย ที่ผลิตจากวัสดุโพลีคาร์บอเนต (Polycarbonate) ซึ่งเป็นวัสดุที่มีคุณสมบัติแข็งแรง น้ำหนักเบา และทนต่อแรงกระแทกได้ดีเยี่ยม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในงานที่ต้องเผชิญกับความเสี่ยงจากสารเคมี วัสดุชนิดนี้ยังมีความทนทานต่อการกัดกร่อนจากกรด ด่าง และไอระเหยของสารเคมีได้ดีกว่าวัสดุเลนส์ทั่วไป นอกจากนี้ แว่นนิรภัย บางรุ่นยังผ่านการเคลือบพิเศษด้วยสารป้องกันสารเคมี (Chemical-resistant coating) ซึ่งช่วยเพิ่มความสามารถในการป้องกันสารเคมีไม่ให้เกาะตัวหรือซึมผ่านเลนส์เข้าสู่ดวงตา ทั้งยังลดโอกาสการเกิดฝ้าเมื่อใช้งานในพื้นที่ที่มีความชื้นสูงหรือเมื่อเกิดการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิอย่างรวดเร็ว
การเลือกแว่นที่มีคุณสมบัติเหล่านี้จึงเป็นการเพิ่มระดับการปกป้องได้อย่างครอบคลุม เหมาะอย่างยิ่งสำหรับงานที่มีความเสี่ยงสูง เช่น งานพ่นสี งานล้างสนิม งานแล็บเคมี และงานบำรุงรักษาเครื่องจักรในโรงงานอุตสาหกรรม


4. เพิ่มความมั่นใจ และโฟกัสในระหว่างทำงาน
ความปลอดภัยสร้างสมาธิ
เมื่อคุณมั่นใจว่าดวงตาของคุณได้รับการป้องกันที่ดีจาก แว่นนิรภัย ที่มีคุณภาพ คุณจะสามารถจดจ่อกับงานตรงหน้าได้อย่างเต็มที่โดยไม่ต้องพะวงถึงอันตรายที่อาจเกิดขึ้นจากสะเก็ดกระเด็น เศษวัสดุปลิว หรือฝุ่นละอองที่ลอยอยู่ในอากาศ ความรู้สึกปลอดภัยนี้ช่วยลดความเครียดในขณะทำงาน ทำให้คุณสามารถโฟกัสที่รายละเอียดของงานได้มากขึ้น โดยเฉพาะงานที่ต้องใช้ความแม่นยำ เช่น งานเชื่อม งานกลึง หรือการประกอบชิ้นส่วนต่างๆ
นอกจากนี้ การมีสมาธิอย่างเต็มที่ยังส่งผลโดยตรงต่อคุณภาพของงานและความเร็วในการทำงาน ทำให้ลดข้อผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นจากการเสียสมาธิได้อย่างมีประสิทธิภาพ เมื่อ แว่นนิรภัย กลายเป็นส่วนหนึ่งของกิจวัตรประจำวัน คุณจะรู้สึกมั่นใจมากขึ้นในทุกขั้นตอนของการทำงาน และสร้างนิสัยด้านความปลอดภัยที่ยั่งยืนในระยะยาว
ลดการหยุดงานกลางคัน
ถ้าคุณไม่ได้ใส่ แว่นนิรภัย แล้วเกิดเหตุการณ์ฝุ่นเข้าตา ไม่เพียงแต่จะทำให้คุณต้องหยุดงานชั่วคราวเพื่อล้างตาหรือล้างหน้า ซึ่งส่งผลให้เสียเวลาและขาดจังหวะในการทำงานอย่างต่อเนื่องเท่านั้น แต่ยังอาจก่อให้เกิดความระคายเคืองจนต้องพักงานในระยะเวลานานขึ้น หากอาการลุกลาม เช่น ตาแดง บวม หรือมีอาการปวดตา ซึ่งในบางกรณีอาจต้องพบจักษุแพทย์เพื่อรับการรักษาอย่างจริงจัง ยิ่งในงานที่ต้องทำแข่งกับเวลา หรือมีขั้นตอนต่อเนื่อง การหยุดชะงักแม้เพียงเล็กน้อยก็อาจส่งผลต่อทั้งคุณภาพและกำหนดส่งของงานได้อย่างชัดเจน
การใส่ แว่นนิรภัย จะช่วยป้องกันปัญหาเหล่านี้โดยตรง ทำให้คุณสามารถทำงานได้ต่อเนื่องโดยไม่ต้องหยุดกลางคัน คงประสิทธิภาพการทำงานไว้ได้เต็มที่ และลดความเสี่ยงจากอุบัติเหตุเล็กๆ ที่อาจลุกลามเป็นปัญหาใหญ่ได้ในอนาคต
ใช้ได้ทั้งในงานกลางแจ้ง และในที่แสงน้อย
แว่นนิรภัย บางรุ่นมีเลนส์แบบเปลี่ยนสีได้ (photochromic) ซึ่งสามารถปรับความเข้มของเลนส์โดยอัตโนมัติตามระดับแสงที่ได้รับ เมื่ออยู่ในพื้นที่ที่มีแสงแดดจ้า เลนส์จะเปลี่ยนเป็นสีเข้มเพื่อป้องกันแสงจ้าและรังสี UV ลดอาการแสบตาและป้องกันความเสียหายต่อจอประสาทตา ขณะเดียวกันเมื่อเข้าสู่พื้นที่แสงน้อยหรือในที่ร่ม เลนส์จะกลับมาใสโดยอัตโนมัติ ช่วยให้มองเห็นชัดเจนโดยไม่ต้องถอดเปลี่ยนแว่น
นอกจากนี้ ยังมีเลนส์กรองแสง UV ที่เหมาะกับผู้ที่ทำงานกลางแจ้งเป็นเวลานาน เช่น ช่างไฟฟ้าภาคสนาม ช่างติดตั้งโซลาร์เซลล์ หรือผู้ปฏิบัติงานในเขตก่อสร้าง ที่ต้องเผชิญกับรังสี UV อย่างต่อเนื่อง ขณะที่รุ่นเลนส์ใสเหมาะกับงานในพื้นที่ร่ม เช่น ภายในโรงงาน ห้องปฏิบัติการ หรืองานซ่อมภายในอาคาร ซึ่งไม่ต้องการการกรองแสงมากนัก

5. ต้นทุนต่ำแต่ผลลัพธ์คุ้มค่าระยะยาว
แว่นนิรภัย ราคาหลักร้อย ป้องกันอันตรายหลักแสน
เมื่อเปรียบเทียบค่าใช้จ่ายของ แว่นนิรภัย ที่มีราคาหลักร้อย ซึ่งในบางรุ่นอาจเริ่มต้นเพียง 100-300 บาท กับค่ารักษาพยาบาลเมื่อตาได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุที่ไม่คาดคิด เช่น ค่าตรวจจักษุ ค่าเอกซเรย์ตา ค่ายา ค่าเข้ารับการผ่าตัดดวงตา หรือแม้แต่การรักษาเฉพาะทางอย่างการปลูกถ่ายกระจกตา ที่อาจมีค่าใช้จ่ายรวมสูงถึงหลักหมื่นถึงแสนบาท จะเห็นได้ชัดว่าการลงทุนซื้อ แว่นนิรภัย เป็นการตัดสินใจที่ชาญฉลาดและคุ้มค่ามาก
นอกจากจะช่วยลดความเสี่ยงต่อการสูญเสียการมองเห็นซึ่งไม่สามารถประเมินค่าได้แล้ว ยังช่วยลดภาระทางการเงินและลดผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตในระยะยาวอีกด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ทำงานอาชีพช่าง ซึ่งดวงตาเป็นทรัพยากรสำคัญในการดำรงชีพ การป้องกันไว้ล่วงหน้าด้วยต้นทุนเพียงเล็กน้อย จึงเป็นการสร้างความมั่นคงทั้งทางสุขภาพและรายได้ในเวลาเดียวกัน
ใช้ได้นาน ไม่ต้องเปลี่ยนบ่อย
หากคุณเลือก แว่นนิรภัย ที่มีคุณภาพดีจากผู้ผลิตที่ได้มาตรฐาน และมีการดูแลรักษาอย่างเหมาะสม เช่น เก็บไว้ในซองที่บุด้วยผ้านุ่มเพื่อป้องกันแรงกระแทก ปิดฝาให้มิดชิดเมื่อไม่ใช้งาน ป้องกันไม่ให้ฝุ่นหรือสารเคมีเกาะเลนส์ รวมถึงหลีกเลี่ยงการวางไว้ในที่ที่มีความร้อนสูงหรือแสงแดดจ้าโดยตรง ซึ่งอาจทำให้วัสดุเสื่อมสภาพก่อนเวลาอันควร นอกจากนี้ควรทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอด้วยน้ำเปล่าหรือน้ำสบู่อ่อน ๆ และใช้ผ้าไมโครไฟเบอร์เช็ดเบา ๆ เพื่อไม่ให้เกิดรอยขีดข่วน
เมื่อมีการใช้งานและบำรุงรักษาที่เหมาะสม แว่นนิรภัย จะสามารถใช้งานได้ยาวนานตั้งแต่หลายเดือนจนถึงเป็นปี โดยที่ยังคงคุณสมบัติในการป้องกันอย่างเต็มประสิทธิภาพ ซึ่งถือว่าเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าและยั่งยืนสำหรับความปลอดภัยในระยะยาว
ป้องกันอุบัติเหตุที่อาจกระทบต่อรายได้
สำหรับคนที่ทำงานช่างเป็นอาชีพ หากเกิดอุบัติเหตุกับดวงตา ไม่เพียงแค่เจ็บตัวเท่านั้น แต่ยังอาจส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อการดำรงชีวิตและรายได้ในระยะยาว โดยเฉพาะในกรณีที่ต้องหยุดพักรักษาตัวเป็นเวลานาน รายได้ที่เคยได้รับประจำอาจต้องหยุดชะงัก ซึ่งกระทบต่อทั้งตนเองและครอบครัว และหากอาการบาดเจ็บรุนแรงจนสูญเสียการมองเห็นบางส่วนหรือทั้งหมด ก็อาจทำให้ไม่สามารถกลับไปทำงานในสายอาชีพเดิมได้อีกเลย นั่นหมายถึงการต้องเปลี่ยนอาชีพใหม่ หรือเลิกทำงานที่เคยถนัด ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายทั้งในแง่จิตใจและความสามารถในการหารายได้
ดังนั้น การใส่ แว่นนิรภัย จึงไม่ใช่แค่การป้องกันตัวชั่วคราวในขณะทำงานเท่านั้น แต่คือการลงทุนเพื่อรักษาศักยภาพในการประกอบอาชีพและคุณภาพชีวิตในระยะยาว
แว่นนิรภัย คือไอเท็มจำเป็น ไม่ใช่ทางเลือก
แม้หลายคนจะมองว่า แว่นนิรภัย เป็นเพียงอุปกรณ์เสริม แต่จากเหตุผลทั้ง 5 ข้อข้างต้นจะเห็นได้ชัดว่า แว่นนิรภัย คือหนึ่งในเครื่องมือความปลอดภัยที่จำเป็นที่สุดสำหรับงานช่าง ไม่ว่าจะเป็นมือใหม่หรือมืออาชีพก็ควรใส่ทุกครั้งที่หยิบเครื่องมือขึ้นมา