วิธีคำนวณน้ำหนักและความยาวลวดสลิงของ “รอกสลิง” ให้ยกของได้อย่างปลอดภัยและคุ้มค่า

Customers Also Purchased

การใช้งาน รอกสลิง (Wire Rope Hoist) เป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งในงานอุตสาหกรรม งานก่อสร้าง และงานช่างหลากหลายประเภท เพราะช่วยให้การยกของหนักเป็นไปได้อย่างสะดวกและปลอดภัย แต่เพื่อความปลอดภัยสูงสุด เราจำเป็นต้องคำนึงถึงการคำนวณน้ำหนักบรรทุกที่เหมาะสม และเลือกระยะความยาวลวดสลิงอย่างถูกต้อง บทความนี้จะพาคุณเจาะลึกประเด็นสำคัญที่หลาย ๆ คนสงสัย พร้อมแนวทางในการเลือกใช้งาน รอกสลิง ให้ได้ประสิทธิภาพและปลอดภัย ตามหลักการเบื้องต้นที่นิยมใช้กัน

1. พื้นฐานที่ควรรู้ก่อนเลือกใช้งาน รอกสลิง

1. ชนิดของ รอกสลิง

  • รอกสลิงไฟฟ้า (Electric Wire Rope Hoist): เหมาะกับงานที่ต้องยกของหนัก มีความถี่ในการใช้งานสูง ใช้ไฟฟ้าในการขับเคลื่อน จึงประหยัดเวลาและแรงงาน
  • รอกสลิงมือโยก (Manual Wire Rope Puller or Tirfor): เน้นการใช้งานในพื้นที่ไม่มีไฟฟ้า หรือไม่ต้องการเคลื่อนย้ายบ่อย นักช่างหลายคนชอบใช้เพราะติดตั้งง่ายและคุมแรงดึงได้ละเอียด

2. หลักการทำงานของ รอกสลิง

  • ใช้ลวดสลิงพันบนดรัม (Drum) หรือม้วนผ่านระบบลูกล้อ (Sheave) เพื่อเปลี่ยนทิศทางแรง หรือเพิ่ม/ลดแรงตามต้องการ
  • การเลี้ยงลวดสลิงให้เป็นระเบียบและตรวจสอบสภาพลวดสลิงสม่ำเสมอคือกุญแจสำคัญในการใช้งานอย่างปลอดภัย

3. มาตรฐานและใบรับรองที่ควรตรวจสอบ

  • ควรเลือกแบรนด์ที่เชื่อถือได้ เช่น TOHO, SUPER TIL, POLO หรืออื่น ๆ ที่มีการรับรองจากหน่วยงานมาตรฐาน เช่น มอก. หรือ OSHA (หากเป็นมาตรฐานต่างประเทศ)
  • ตรวจดูคู่มือการใช้งาน (Operation Manual) ว่ามีรายละเอียด SWL (Safe Working Load) หรือ WLL (Working Load Limit) ระบุชัดเจน

       Tips: เลือก รอกสลิง ให้มีขีดจำกัดน้ำหนัก (Capacity) สูงกว่าที่ใช้งานจริงเล็กน้อย เพื่อความปลอดภัยและยืดอายุอุปกรณ์

วิธีคำนวณน้ำหนักและความยาวลวดสลิงของ “รอกสลิง” ให้ยกของได้อย่างปลอดภัยและคุ้มค่า

2. ทำไมการคำนวณน้ำหนักและความยาวลวดสลิงจึงสำคัญ?

1. หลีกเลี่ยงการโอเวอร์โหลด (Overload)
 การใช้งาน รอกสลิง เกินขีดจำกัดทำให้ลวดสลิงอาจขาดหรือเกิดอุบัติเหตุร้ายแรงได้ ไม่ว่าจะเป็นของร่วงหล่น หรือระบบเบรกชำรุด
2. บำรุงรักษาให้น้อยลง ประหยัดต้นทุนมากขึ้น
 การใช้ รอกสลิง และลวดสลิงที่เหมาะสม จะช่วยลดการสึกหรอของดรัมและมอเตอร์ ทำให้มีช่วงเวลาการซ่อมบำรุง (Maintenance) ที่ยาวขึ้น และประหยัดงบประมาณได้ดี
3. รองรับการขยายงานหรือการใช้งานในอนาคต
 หากคุณวางแผนจะยกของที่หนักขึ้นในอนาคต การเผื่อสเปกให้สูงขึ้นเล็กน้อยจะลดต้นทุนระยะยาว ดีกว่าต้องซื้อใหม่บ่อย ๆ

3. เจาะลึกการคำนวณน้ำหนัก: Safe Working Load (SWL)

Safe Working Load (SWL) คือ ค่าที่บ่งบอกว่าสลิงเส้นนั้น ๆ หรือ รอกสลิง รุ่นนั้น ๆ จะสามารถยกของหนักได้สูงสุดเท่าใดอย่างปลอดภัย โดยทั่วไป SWL จะคำนวณจาก

SWL = Breaking Load / Safety Factor

  • Breaking Load: ค่ารับแรงดึงสูงสุดก่อนที่ลวดสลิงจะขาด (ผู้ผลิตจะระบุไว้ในสเปก)
  • Safety Factor (SF): ค่าปัจจัยความปลอดภัย มักอยู่ในช่วง 5–7 หรือสูงกว่านั้น ขึ้นกับมาตรฐานการใช้งานและความเสี่ยงของหน้างาน

ตัวอย่างเช่น
 หากลวดสลิงมี Breaking Load = 10,000 กก. และใช้ SF = 5

SWL = 10,000 / 5 = 2,000 กก.

หมายความว่าลวดสลิงควรใช้ยกของไม่เกิน 2,000 กก. เพื่อความปลอดภัยและป้องกันความเสียหาย
       หมายเหตุ: การเลือก SF ควรพิจารณาสภาพหน้างานเป็นหลัก เช่น หากมีการกระตุก การกระแทก หรือสภาพแวดล้อมที่อาจทำให้ลวดสลิงเสื่อมสภาพเร็ว ควรใช้ SF สูงขึ้น เช่น 6 หรือ 7

4. องศาในการยก (Angle of Lift) ส่งผลอย่างไร?

หลายครั้งการยกไม่ได้เป็นแนวดิ่ง 90 องศาพอดี แต่จะมีการยกเอียงหรือใช้ลวดสลิงหลายเส้น ซึ่งมุมยก (Angle) มีผลต่อการรับแรงของลวดสลิง ตัวอย่างเช่น

  • มุมยกแคบ (มุมระหว่างขาสลิงเล็ก) จะสร้างแรงดึงในแต่ละขาสูงกว่าการยกแบบตรง ๆ
  • การใช้สลิงหลายขาหรือหลายเส้น ควรคำนวณแรงในแต่ละเส้น (Leg) แยกกัน และเลือกใช้ลวดสลิงที่มี SWL เพียงพอกับแรงที่แต่ละขาต้องรับ

สรุปง่าย ๆ: หากมุมยกไม่ได้ตั้งตรง ให้เผื่อ SWL ที่สูงขึ้น หรือลดน้ำหนักยกต่อครั้งลง เพื่อความปลอดภัย

5. การเลือกความยาวลวดสลิงให้เหมาะสมกับงาน

1. ระยะยก (Lift Height)

  • วัดความสูงจากพื้นถึงจุดที่ต้องการยกบวกเผื่อระยะที่ลวดสลิงต้องพันรอบดรัมหรือผ่านลูกล้อ
  • หาก รอกสลิง ต้องการเดินทางยาว ๆ หรือยกจากหลุมลึก ควรเลือกลวดสลิงความยาวมากขึ้น

2. ความจุของดรัม (Drum Capacity)

  • รอกสลิงไฟฟ้า จะมีขีดจำกัดในการพันลวดสลิงบนดรัม โดยขึ้นกับความกว้างของดรัมและเส้นผ่านศูนย์กลางลวดสลิง
  • หากลวดสลิงยาวเกินไปจะพันจนล้นดรัม เสี่ยงต่อการเสียดสี ติดขัด หรือเกิดความเสียหายต่ออุปกรณ์

3. เผื่อระยะสำหรับใช้งานหลากหลายจุด

  • หากทำงานในไซต์ก่อสร้างที่ต้องเคลื่อนย้ายจุดยกอยู่บ่อยครั้ง ควรเผื่อความยาวลวดสลิงให้เพียงพอต่อการดึงยาวในทิศทางต่าง ๆ
  • เพื่อให้สะดวกในการปรับเปลี่ยนโดยไม่ต้องต่อสลิงหลายเส้น ซึ่งอาจเพิ่มจุดเสี่ยง

วิธีคำนวณน้ำหนักและความยาวลวดสลิงของ “รอกสลิง” ให้ยกของได้อย่างปลอดภัยและคุ้มค่า

6. การบำรุงรักษาและตรวจสอบ รอกสลิง ที่ไม่ควรมองข้าม

1. ตรวจสอบลวดสลิงสม่ำเสมอ

  • หากพบเส้นลวดขาด บิด หรือเป็นสนิมมาก ควรเปลี่ยนทันที
  • การรอจนลวดสลิงเสื่อมสภาพอาจนำไปสู่อุบัติเหตุที่รุนแรง

2. หล่อลื่นและทำความสะอาด

  • ใช้สารหล่อลื่นหรือน้ำมันเฉพาะสำหรับลวดสลิง เพื่อป้องกันการสึกกร่อน
  • เช็ดทำความสะอาดสิ่งสกปรก ฝุ่น หรือเศษวัสดุที่อาจเข้าไปขัดขวางการทำงานของดรัม

3. ตรวจสอบระบบเบรก (Brake System)

  • รอกสลิงไฟฟ้า ส่วนใหญ่จะมีระบบเบรกอัตโนมัติ ตรวจสอบว่าทำงานเป็นปกติหรือไม่
  • หากเป็น รอกสลิงมือโยก ต้องทดสอบระบบล็อก (Lock) ให้แน่ใจว่ามีประสิทธิภาพเพียงพอ

4. จัดเก็บในที่เหมาะสม

  • หากไม่ใช้งานเป็นเวลานาน ควรเก็บ รอกสลิง และลวดสลิงในที่แห้งและปลอดภัยจากความชื้น เพื่อยืดอายุการใช้งาน

7. ตัวอย่างสถานการณ์

  • งานก่อสร้างสูงหลายชั้น

 ต้องการ รอกสลิงไฟฟ้า ที่มีกำลังยกพอเหมาะ (เช่น 500–1000 กก.) พร้อมลวดสลิงยาวเพื่อยกวัสดุก่อสร้างจากพื้นสู่ชั้นบนสุด ควรคำนวณระยะยกบวกเผื่อความยาวพิเศษ และตรวจสอบให้ดรัมรับความยาวสลิงได้

  • งานซ่อมบำรุงในอาคารหรือโรงงานขนาดเล็ก

 อาจใช้ รอกสลิงมือโยก เพราะเคลื่อนย้ายสะดวก ไม่ต้องพึ่งไฟฟ้า เน้นการยกแบบเฉพาะจุด น้ำหนักไม่มาก

  • ยกเครื่องจักรหนักในโรงงานอุตสาหกรรม

 ควรใช้ รอกสลิงไฟฟ้า ที่ผ่านการรับรองมาตรฐาน เบรกมีประสิทธิภาพสูง มีระบบป้องกันโอเวอร์โหลด (Overload Protection) และทีมช่างผู้เชี่ยวชาญคอยตรวจสอบก่อนใช้งาน

วิธีคำนวณน้ำหนักและความยาวลวดสลิงของ “รอกสลิง” ให้ยกของได้อย่างปลอดภัยและคุ้มค่า

8. แหล่งอ้างอิงและมาตรฐานที่ควรศึกษาเพิ่มเติม

  • OSHA (Occupational Safety and Health Administration): ให้คำแนะนำด้านความปลอดภัยในการยกของและการบำรุงรักษาอุปกรณ์ยก
  • ASME B30.16 (Overhead Hoists): มาตรฐานในระดับสากลสำหรับการออกแบบและใช้งานรอกเหนือศีรษะ
  • กรมโรงงานอุตสาหกรรม / กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน (ประเทศไทย): มีข้อบังคับและแนวทางปฏิบัติด้านความปลอดภัยในโรงงาน
  • คู่มือผู้ผลิต (Manufacturer’s Manual): ยี่ห้อต่าง ๆ เช่น TOHO, SUPER TIL, POLO, COMEUP มักมีรายละเอียดเฉพาะของผลิตภัณฑ์นั้น ๆ

บทสรุป

การคำนวณน้ำหนักและเลือกความยาวลวดสลิงของ รอกสลิง เป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้การยกของเป็นไปอย่าง ปลอดภัย และ คุ้มค่า จุดเริ่มต้นคือการรู้จักค่า SWL และ Breaking Load ควบคู่กับการใช้ Safety Factor ที่เหมาะสม ตลอดจนการพิจารณามุมยก (Angle of Lift) สภาพหน้างาน และความจุของดรัม เมื่อเข้าใจทุกองค์ประกอบเหล่านี้แล้ว การเลือก รอกสลิง ก็จะตอบโจทย์ทั้งประสิทธิภาพ ความปลอดภัย และประหยัดต้นทุนในระยะยาว
       เคล็ดลับเพิ่มเติม

  • ก่อนใช้งาน รอกสลิง ทุกครั้ง ควรทำการทดสอบด้วยน้ำหนักที่น้อยกว่า SWL เพื่อเช็กว่าระบบเบรกและลวดสลิงอยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน
  • หากต้องยกของใกล้เคียงกับขีดจำกัดของลวดสลิง ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญหรือวิศวกรเครื่องกล เพื่อคำนวณความปลอดภัยและการเสริมอุปกรณ์ (เช่น สะเก็น ห่วง โซ่) ให้เหมาะสม

เมื่อทำตามหลักการเหล่านี้ คุณจะมั่นใจได้ว่า รอกสลิง ของคุณสามารถยกของหนักได้อย่าง มีประสิทธิภาพ และ ปลอดภัย พร้อมยืดอายุการใช้งานของอุปกรณ์ให้ยาวนานและคุ้มค่าการลงทุนที่สุด!