PU โฟม วัสดุสารพัดประโยชน์สำหรับงานก่อสร้างและซ่อมแซม

คุณเคยเจอปัญหาช่องว่างระหว่างวงกบกับผนัง รอยรั่วของหลังคา หรือช่องโหว่ที่ทำให้เสียงและอากาศเล็ดลอดเข้ามาหรือไม่? ปัญหาเหล่านี้อาจดูเล็กน้อยแต่สามารถส่งผลกระทบต่อความแข็งแรงของบ้านและการใช้พลังงานในระยะยาว แต่ไม่ต้องกังวล เพราะ PU โฟม (Polyurethane Foam) หรือ โพลียูรีเทนโฟม คือโซลูชันที่ช่วยคุณได้!
ไม่ว่าคุณจะเป็นช่างมืออาชีพ เจ้าของบ้าน หรือคนรักงาน DIY การมี PU โฟม ติดบ้านไว้ช่วยให้การซ่อมแซมและติดตั้งเป็นไปอย่างง่ายดาย รวดเร็ว และให้ผลลัพธ์ที่ทนทาน PU โฟม สามารถขยายตัวเมื่อสัมผัสอากาศ ยึดติดกับวัสดุต่าง ๆ ได้ดี ไม่ว่าจะเป็นคอนกรีต ไม้ โลหะ หรือพลาสติก เหมาะกับทั้งการอุดรอยรั่ว ปิดช่องว่าง และเป็นฉนวนกันความร้อนและเสียง มาทำความรู้จักกับ PU โฟม และดูว่ามันช่วยแก้ปัญหาต่าง ๆ ได้อย่างไร พร้อมเทคนิคการใช้งานที่ถูกต้องเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด!

PU โฟม คืออะไร และทำไมถึงได้รับความนิยม?

PU โฟม เป็นโฟมประเภทโพลียูรีเทนที่อยู่ในรูปแบบของกระป๋องสเปรย์ มีคุณสมบัติขยายตัวและแข็งตัวเมื่อสัมผัสกับอากาศ ทำให้สามารถเติมเต็มช่องว่างและยึดติดกับพื้นผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นคอนกรีต ไม้ โลหะ หรือพลาสติก โฟมชนิดนี้ช่วยแก้ปัญหารอยรั่วและรอยแตกร้าวได้อย่างถาวร อีกทั้งยังมีความทนทานต่อสภาพแวดล้อมต่าง ๆ เช่น ความชื้น ฝุ่นละออง และการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิ นอกจากนี้ยังสามารถใช้เป็นฉนวนกันความร้อนและเสียงได้อีกด้วย

ข้อดีที่ทำให้ PU โฟม ได้รับความนิยม

  • อเนกประสงค์: ใช้ได้กับงานหลากหลายประเภท ทั้งก่อสร้าง ซ่อมแซม และงาน DIY เช่น อุดรอยรั่ว ปิดช่องว่าง หรือเป็นฉนวนกันเสียงและความร้อน
  • ทนทานและแข็งแรง: เมื่อแห้งแล้วสามารถตัดแต่ง เจาะ ตะไบ หรือทาสีทับได้ตามต้องการ ทำให้เหมาะกับงานที่ต้องการความละเอียดและความสวยงาม
  • กันน้ำ กันเสียง และกันความร้อน: ช่วยป้องกันการรั่วซึมของน้ำ ลดเสียงรบกวนจากภายนอก และเพิ่มประสิทธิภาพในการรักษาอุณหภูมิภายในอาคาร ทำให้ช่วยประหยัดพลังงาน
  • ใช้งานง่ายและรวดเร็ว: ไม่ต้องใช้เครื่องมือพิเศษ เพียงแค่เขย่ากระป๋องแล้วฉีดลงในพื้นที่ที่ต้องการ โฟมจะขยายตัวอัตโนมัติและแข็งตัวภายในไม่กี่ชั่วโมง
  • เหมาะกับทุกสภาพอากาศ: สามารถใช้งานได้ทั้งภายในและภายนอกอาคาร ทนต่อสภาพอากาศที่แปรปรวน เช่น ความชื้น ความร้อน และรังสียูวี ช่วยยืดอายุการใช้งานของพื้นที่ที่ซ่อมแซม

PU โฟม วัสดุสารพัดประโยชน์สำหรับงานก่อสร้างและซ่อมแซม

PU โฟม ใช้กับงานประเภทใดได้บ้าง?

PU โฟม สามารถใช้งานได้หลากหลาย เช่น

  • งานติดตั้งประตู-หน้าต่าง: ใช้ปิดช่องว่างระหว่างวงกบกับผนัง ลดเสียงรบกวน ป้องกันลม และช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้โครงสร้างของประตูและหน้าต่าง
  • งานซ่อมแซมรอยแตก: อุดรอยรั่ว รอยแตกร้าวในผนัง เพดาน หรือพื้น ลดปัญหาการรั่วซึมของน้ำและความเสียหายที่อาจลุกลาม
  • งานฉนวนกันความร้อนและเสียง: ช่วยป้องกันความร้อนและลดเสียงรบกวนในอาคาร ทำให้บ้านเย็นขึ้นและช่วยลดค่าไฟฟ้าจากการใช้เครื่องปรับอากาศ
  • งานระบบท่อและเครื่องปรับอากาศ: ใช้อุดช่องว่างรอบท่อเพื่อป้องกันการรั่วของอากาศและน้ำ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของระบบปรับอากาศ ลดเสียงและการสั่นสะเทือนของท่อ
  • งานตกแต่งและ DIY: ใช้สร้างแบบจำลอง งานฝีมือ หรือเติมเต็มพื้นที่ที่ต้องการความแน่นหนา เช่น งานประดิษฐ์โมเดล งานออกแบบเฟอร์นิเจอร์ และการซ่อมแซมสิ่งของในบ้าน
  • งานติดตั้งฉนวนโฟม: ใช้เป็นวัสดุเสริมในการติดตั้งฉนวนกันความร้อนในบ้าน ช่วยลดการสูญเสียพลังงานและเพิ่มประสิทธิภาพของระบบทำความร้อนและความเย็น
  • งานกันแมลงและสัตว์รบกวน: สามารถใช้ปิดช่องว่างเล็ก ๆ ที่เป็นทางเข้าของแมลงและสัตว์ต่าง ๆ เช่น หนู มด และแมลงสาบ เพื่อป้องกันการบุกรุกของสัตว์ไม่พึงประสงค์
  • งานซ่อมแซมหลังคาและรางน้ำฝน: ใช้เติมรอยรั่วและรอยต่อของหลังคา หรือเสริมความแข็งแรงให้กับรางน้ำฝนเพื่อป้องกันการรั่วไหลของน้ำฝน

PU โฟมเป็นวัสดุที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้กับงานก่อสร้างและซ่อมแซมได้อย่างดีเยี่ยม ไม่ว่าจะเป็นมืออาชีพหรือมือสมัครเล่น ก็สามารถใช้งานได้ง่ายและให้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจ!

PU โฟม วัสดุสารพัดประโยชน์สำหรับงานก่อสร้างและซ่อมแซม

คุณสมบัติเด่นของ PU โฟม

       ✔ ขยายตัวและยึดติดแน่น – เติมเต็มช่องว่างได้อย่างมีประสิทธิภาพและช่วยเสริมความแข็งแรงให้กับโครงสร้างที่ต้องการความแน่นหนา เช่น วงกบประตู หน้าต่าง และผนังบ้าน
       ✔ กันน้ำและทนต่อทุกสภาพอากาศ – สามารถใช้งานได้ทั้งภายในและภายนอกอาคาร ไม่เสื่อมสภาพง่ายแม้สัมผัสกับความชื้นหรือฝนตกหนัก และยังช่วยป้องกันเชื้อราและการผุกร่อนของวัสดุได้ดี
       ✔ ช่วยกันเสียงและกันความร้อน – ลดเสียงรบกวนจากภายนอก และช่วยป้องกันการถ่ายเทความร้อน ทำให้บ้านเย็นขึ้น ลดการใช้พลังงานจากเครื่องปรับอากาศ นอกจากนี้ยังช่วยลดเสียงสะท้อนภายในห้องได้ดี เช่น ในห้องประชุมหรือห้องอัดเสียง
       ✔ แห้งเร็วและแข็งแรง – หลังจากแข็งตัวสามารถตัดแต่ง เจาะ ตะไบ หรือทาสีทับได้ตามต้องการ ช่วยให้การตกแต่งพื้นที่เป็นไปได้อย่างสะดวกและดูเรียบร้อย รองรับการติดตั้งวัสดุอื่น ๆ ได้ง่ายขึ้น
       ✔ ใช้งานง่าย – กระป๋องสเปรย์พร้อมใช้งาน ไม่ต้องใช้อุปกรณ์เสริม เพียงเขย่ากระป๋องและฉีดลงบนพื้นที่ที่ต้องการ โฟมจะขยายตัวเองโดยอัตโนมัติ สามารถควบคุมการฉีดได้ง่าย ทำให้ใช้งานได้สะดวกแม้ในพื้นที่แคบหรือซอกมุมที่เข้าถึงยาก
       ✔ ไม่เป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อม – มีสูตรที่ปลอดภัยและปราศจากสารเคมีอันตราย เช่น CFC และ HFC ซึ่งเป็นสารที่ทำลายชั้นบรรยากาศ ช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและเป็นมิตรต่อผู้ใช้งาน อีกทั้งยังช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากอาคารที่ใช้ PU โฟม เป็นฉนวนกันความร้อน

วิธีการใช้งาน PU โฟม อย่างถูกต้อง

ขั้นตอนการใช้งาน

  1. เขย่ากระป๋องก่อนใช้ อย่างน้อย 30 วินาที เพื่อให้เนื้อโฟมเข้ากันดีและมีความหนาแน่นที่เหมาะสม
  2. ทำความสะอาดพื้นที่ ที่ต้องการฉีด PU โฟม ให้ปราศจากฝุ่น ความชื้น และคราบไขมัน เพื่อให้โฟมยึดติดกับพื้นผิวได้ดีขึ้น
  3. สวมถุงมือ หน้ากาก และอุปกรณ์ป้องกัน เพื่อป้องกันการสัมผัสกับโฟมโดยตรง เนื่องจากโฟมอาจติดผิวหนังและล้างออกได้ยาก
  4. ฉีดโฟมลงไปในช่องว่าง โดยถือกระป๋องให้หัวฉีดชี้ลงและฉีดในปริมาณที่พอดี แนะนำให้ฉีดประมาณ 50% ของช่องว่าง เนื่องจากโฟมจะขยายตัวเพิ่มขึ้น
  5. รอให้โฟมขยายตัวและแข็งตัว ประมาณ 1-2 ชั่วโมง (ขึ้นอยู่กับอุณหภูมิและความชื้น) จากนั้นสามารถใช้คัตเตอร์ตัดแต่งหรือขัดให้เรียบได้ตามต้องการ
  6. ทำความสะอาดหัวฉีดและอุปกรณ์ ทันทีหลังใช้งาน โดยใช้ตัวทำละลายอะซิโตนหรือสเปรย์ทำความสะอาด PU โฟม เพื่อป้องกันการอุดตันของหัวฉีด
  7. ทาสีหรือเคลือบป้องกันโฟม หากต้องการใช้ในพื้นที่ที่โดนแสงแดดโดยตรง เนื่องจากโฟมอาจเสื่อมสภาพเมื่อสัมผัสกับรังสียูวีเป็นเวลานาน

เคล็ดลับ

  • อย่าฉีดโฟมมากเกินไปในครั้งเดียว เพราะโฟมจะขยายตัวเพิ่มขึ้นถึง 2-3 เท่าหลังจากฉีด
  • หากต้องการเติมโฟมในพื้นที่ใหญ่ แนะนำให้ฉีดทีละชั้นและรอให้ชั้นแรกแข็งตัวก่อน เพื่อให้การยึดติดและความแน่นหนาดีขึ้น
  • ใช้ฟิล์มพลาสติกปิดรอบ ๆ บริเวณที่ไม่ต้องการให้โฟมติด เพื่อความสะอาดและง่ายต่อการทำความสะอาดหลังใช้งาน

PU โฟม วัสดุสารพัดประโยชน์สำหรับงานก่อสร้างและซ่อมแซม

การเก็บรักษา PU โฟม ให้ใช้งานได้นาน

วิธีเก็บรักษา PU โฟม ให้มีประสิทธิภาพสูงสุด

  • เก็บในที่แห้งและเย็น หลีกเลี่ยงพื้นที่ที่มีความชื้นสูง เพราะอาจทำให้สารเคมีในโฟมเสื่อมคุณภาพ
  • ปิดฝาให้แน่นและวางในแนวตั้ง เพื่อป้องกันการรั่วไหลของก๊าซภายในกระป๋อง ซึ่งอาจทำให้แรงดันลดลงและส่งผลต่อการใช้งาน
  • ใช้ให้หมดภายในเวลาที่กำหนด โดยปกติ PU โฟม มีอายุการใช้งานประมาณ 12-18 เดือน หากเก็บไว้นานเกินไปอาจทำให้โฟมแข็งตัวภายในกระป๋อง
  • เก็บให้ห่างจากแสงแดดและแหล่งความร้อน การสัมผัสความร้อนสูงอาจทำให้แรงดันภายในกระป๋องเพิ่มขึ้น เสี่ยงต่อการระเบิด
  • เก็บให้ห่างจากเด็กและสัตว์เลี้ยง เนื่องจาก PU โฟม เป็นสารเคมีที่อาจก่อให้เกิดอันตรายหากสัมผัสหรือสูดดม
  • อย่าเจาะหรือเผากระป๋องที่ใช้หมดแล้ว แม้ว่าจะดูเหมือนหมดแล้ว แต่อาจยังมีก๊าซตกค้างที่ทำให้เกิดแรงดันและเป็นอันตรายได้ ควรทิ้งตามแนวทางกำจัดขยะสารเคมีของท้องถิ่น

เหตุผลที่คุณควรเลือกใช้ PU โฟม

       ✅ ใช้งานง่ายและสะดวก – ไม่ต้องใช้เครื่องมือพิเศษ เพียงแค่ฉีดลงบนพื้นที่ที่ต้องการและรอให้โฟมขยายตัว
       ✅ ยึดติดแน่นกับพื้นผิวหลายประเภท – ไม่ว่าจะเป็นไม้ คอนกรีต โลหะ พลาสติก หรือแม้แต่พื้นผิวที่มีความขรุขระก็สามารถยึดติดได้ดี
       ✅ ช่วยกันเสียง กันน้ำ และกันความร้อน – ป้องกันการซึมผ่านของน้ำ ลดเสียงรบกวนจากภายนอก และช่วยรักษาอุณหภูมิภายในอาคารให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม
       ✅ ช่วยลดการใช้พลังงาน – ลดการรั่วไหลของอากาศในบ้านหรืออาคาร ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของระบบปรับอากาศและทำให้ประหยัดพลังงานมากขึ้น
       ✅ คุ้มค่าและมีประสิทธิภาพสูง – ใช้ปริมาณน้อยแต่ได้ผลลัพธ์ที่มีคุณภาพสูง ไม่ต้องซ่อมบำรุงบ่อย และช่วยยืดอายุการใช้งานของโครงสร้างต่าง ๆ
       ✅ เหมาะสำหรับทุกสภาพแวดล้อม – ใช้ได้ทั้งภายในและภายนอกอาคาร ทนทานต่ออุณหภูมิสูง ความชื้น และรังสียูวี ไม่เปราะหรือเสื่อมสภาพง่าย

เช็คราคา PU โฟม ที่นี่