เปรียบเทียบ ลูกบล็อก 6 เหลี่ยม vs ลูกบล็อก 12 เหลี่ยม แบบไหนดีกว่า?

Customers Also Purchased

ลูกบล็อก เป็นเครื่องมือที่ใช้ในการขันหรือคลายน็อตและสกรู โดยทั่วไปแล้วมีอยู่สองประเภทหลักที่นิยมใช้กัน ได้แก่ ลูกบล็อก 6 เหลี่ยม และ ลูกบล็อก 12 เหลี่ยม ทั้งสองแบบมีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกันไปตามการใช้งาน และผมคิดว่าหลายๆคนอาจจะสงสัยว่าแบบไหนเหมาะสมกับความต้องการของคุณ การเลือกใช้ขึ้นอยู่กับประเภทของงาน และลักษณะของแรงขันที่ต้องการ ในบทความนี้ผมจะพาคุณไปดูความแตกต่าง รวมถึงแนะนำวิธีการเลือกใช้ ลูกบล็อก ให้เหมาะสมกับงาน เพื่อให้การทำงานของคุณเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อไม่ให้เสียเวลาไปอ่านบทความนี้กันได้เลย

ลูกบล็อก 6 เหลี่ยม คืออะไร?

โครงสร้างของ ลูกบล็อก 6 เหลี่ยม

ลูกบล็อก 6 เหลี่ยมมีลักษณะเป็นช่องภายในที่มี 6 มุม ตรงกับหัวของน็อตหรือสกรูที่เป็น 6 เหลี่ยม ทำให้สามารถจับและล็อคหัวน็อตได้อย่างมั่นคง เนื่องจากมีพื้นที่สัมผัสกับหัวน็อตมากกว่า จึงช่วยลดโอกาสที่หัวน็อตจะเสียหายหรือรูดจากแรงขันที่มากเกินไป นอกจากนี้ลูกบล็อก 6 เหลี่ยมยังมีความแข็งแรงและทนทานสูง สามารถรองรับแรงบิดได้มากกว่า ทำให้เหมาะสำหรับงานที่ต้องใช้แรงขันสูง เช่น งานก่อสร้าง งานซ่อมเครื่องจักร และงานซ่อมบำรุงยานยนต์ ซึ่งต้องการความแม่นยำในการขันน็อตอย่างปลอดภัย ซึ่งช่วยลดโอกาสที่หัวน็อตจะลื่นไถลเมื่อออกแรงขัน นอกจากนี้ยังให้แรงยึดเกาะที่ดีเยี่ยมและกระจายแรงกดไปที่หัวน็อตอย่างสม่ำเสมอ ทำให้ลดโอกาสที่หัวน็อตจะเสียหายจากแรงขันที่มากเกินไป ลูกบล็อกประเภทนี้มักใช้กับงานที่ต้องการแรงขันสูง เช่น งานยานยนต์ งานก่อสร้าง และงานซ่อมบำรุงที่ต้องใช้ความแข็งแรงและแม่นยำในการขันน็อต

เปรียบเทียบ ลูกบล็อก 6 เหลี่ยม vs ลูกบล็อก 12 เหลี่ยม แบบไหนดีกว่า

ข้อดีของ ลูกบล็อก 6 เหลี่ยม

  • การยึดเกาะที่แน่นหนา ลูกบล็อก 6 เหลี่ยมสามารถจับหัวน็อตได้เต็มรูปแบบ โดยมีพื้นที่สัมผัสกับหัวน็อตมากกว่า ลูกบล็อก 12 เหลี่ยม ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงของการลื่นหรือขบหัวน็อตเสียหาย ทำให้มั่นใจได้ว่าสามารถออกแรงขันหรือคลายได้อย่างเต็มที่
  • เหมาะสำหรับงานที่ต้องใช้แรงสูง เนื่องจากการยึดจับที่แน่นหนา ลูกบล็อก ประเภทนี้สามารถใช้กับงานที่ต้องใช้แรงขันสูง เช่น งานยานยนต์ การบำรุงรักษาเครื่องจักรหนัก และงานก่อสร้างที่ต้องใช้แรงบิดสูงเพื่อให้แน่ใจว่าน็อตถูกขันอย่างแน่นหนา
  • ลดความเสียหายของหัวน็อต เนื่องจากแรงถูกกระจายไปที่ผิวของหัวน็อตอย่างทั่วถึง ทำให้ลดโอกาสที่หัวน็อตจะเสียหายจากแรงกดที่มากเกินไป ช่วยยืดอายุการใช้งานของทั้งเครื่องมือและอุปกรณ์ที่ขัน
  • ทนทานและอายุการใช้งานยาวนาน ด้วยการออกแบบที่ช่วยลดแรงกดที่กระทำต่อ ลูกบล็อก เอง ทำให้ ลูกบล็อก 6 เหลี่ยมมีโอกาสเสียหายน้อยกว่า ลูกบล็อก 12 เหลี่ยม โดยเฉพาะเมื่อใช้งานในสภาพแวดล้อมที่ต้องการแรงขันสูงและต่อเนื่อง

ข้อเสียของ ลูกบล็อก 6 เหลี่ยม

  • มุมการใส่จำกัด ลูกบล็อก 6 เหลี่ยมสามารถใส่กับน็อตได้เพียง 6 ตำแหน่ง ทำให้การใช้งานในพื้นที่แคบอาจต้องใช้การหมุนมากกว่า ลูกบล็อก 12 เหลี่ยม เนื่องจากต้องหมุนเป็นมุมที่กว้างกว่าถึงจะสามารถใส่เข้ากับหัวน็อตได้อย่างถูกต้อง ในกรณีที่พื้นที่ทำงานมีข้อจำกัดหรือมีสิ่งกีดขวาง อาจทำให้ต้องใช้ ลูกบล็อก แบบอื่นที่มีความยืดหยุ่นมากขึ้นเพื่อลดความยุ่งยากในการทำงาน นอกจากนี้ เมื่อต้องทำงานในพื้นที่แคบ อาจต้องใช้ข้อต่อบล็อกหรือ ลูกบล็อก ที่มีความยาวเหมาะสมเพื่อให้สามารถเข้าถึงน็อตได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ลูกบล็อก 12 เหลี่ยม คืออะไร?

โครงสร้างของ ลูกบล็อก 12 เหลี่ยม

ลูกบล็อก 12 เหลี่ยมมีลักษณะเป็นช่องภายในที่มี 12 มุม ซึ่งออกแบบมาเพื่อให้สามารถใช้งานกับหัวน็อตที่เป็น 6 เหลี่ยมหรือ 12 เหลี่ยมได้ ความพิเศษของ ลูกบล็อก ประเภทนี้คือช่วยให้สามารถใส่เข้ากับน็อตได้ในตำแหน่งที่หลากหลายมากขึ้น โดยเฉพาะในพื้นที่แคบที่อาจไม่มีมุมหมุนเพียงพอ นอกจากนี้ ลูกบล็อก 12 เหลี่ยมยังมีความสะดวกเมื่อต้องทำงานในสถานการณ์ที่ต้องการความรวดเร็ว เนื่องจากสามารถใส่เข้ากับน็อตได้ง่ายขึ้นโดยไม่ต้องหมุนหาตำแหน่งที่แน่นอนเหมือนกับ ลูกบล็อก 6 เหลี่ยม อย่างไรก็ตาม ข้อเสียของ ลูกบล็อก 12 เหลี่ยมคือพื้นที่สัมผัสกับหัวน็อตมีน้อยกว่า ทำให้มีโอกาสลื่นหรือรูดหัวน็อตได้ง่ายกว่าหากใช้แรงขันสูงเกินไป

เปรียบเทียบ ลูกบล็อก 6 เหลี่ยม vs ลูกบล็อก 12 เหลี่ยม แบบไหนดีกว่า

ข้อดีของลูกบล็อก 12 เหลี่ยม

  • การใช้งานที่ง่ายกว่าในพื้นที่แคบ ลูกบล็อก 12 เหลี่ยมสามารถใส่เข้ากับน็อตได้ถึง 12 ตำแหน่ง ซึ่งช่วยลดระยะการหมุนที่จำเป็นเมื่อทำงานในพื้นที่จำกัด ความสามารถในการใส่เข้ากับหัวน็อตในมุมที่มากกว่าทำให้เหมาะกับงานที่ต้องขันในบริเวณที่มีสิ่งกีดขวาง หรือเมื่อพื้นที่หมุนจำกัด เช่น งานในห้องเครื่องยนต์หรือใต้แชสซีของรถยนต์ นอกจากนี้ การมีหลายมุมเชื่อมต่อยังช่วยให้สามารถเปลี่ยนเครื่องมือได้เร็วขึ้น ลดเวลาในการทำงาน และเพิ่มความสะดวกในการใช้งานโดยรวม
  • สามารถใช้กับน็อต 12 เหลี่ยมได้: เหมาะสำหรับน็อตพิเศษที่มี 12 มุม ซึ่ง ลูกบล็อก 6 เหลี่ยมไม่สามารถใช้ได้ น็อต 12 เหลี่ยมมักพบในอุตสาหกรรมที่ต้องการการกระจายแรงบิดที่สม่ำเสมอ เช่น การประกอบเครื่องยนต์ หรือการใช้งานในระบบขับเคลื่อน นอกจากนี้ ลูกบล็อก 12 เหลี่ยมยังช่วยให้การขันและคลายน็อตเป็นไปได้อย่างรวดเร็วขึ้น เนื่องจากสามารถใส่เข้ากับหัวน็อตได้ในมุมที่มากขึ้น ซึ่งลดเวลาการทำงานและเพิ่มประสิทธิภาพโดยเฉพาะเมื่อต้องทำงานในพื้นที่แคบที่ต้องการความคล่องตัวสูง

ข้อเสียของ ลูกบล็อก 12 เหลี่ยม

  • ความเสี่ยงในการลื่นและทำให้หัวน็อตเสียหาย: เนื่องจากพื้นที่สัมผัสกับหัวน็อตมีขนาดเล็กกว่า ลูกบล็อก 6 เหลี่ยม จึงมีโอกาสสูงที่หัวน็อตจะถูกขบเสียหายหรือรูด โดยเฉพาะเมื่อต้องออกแรงขันสูงเกินไปหรือต้องใช้แรงบิดมาก นอกจากนี้ หากน็อตที่ใช้งานอยู่มีสภาพเก่า หรือมีสนิมสะสม อาจเพิ่มโอกาสให้เกิดการลื่นไถลของ ลูกบล็อก 12 เหลี่ยมได้ง่ายขึ้น เมื่อนำไปใช้งานกับเครื่องมือไฟฟ้าหรือบล็อกลมที่มีแรงกระชากสูง อาจส่งผลให้ขอบน็อตเสียรูปได้เร็วขึ้น และทำให้การถอดหรือขันน็อตในครั้งถัดไปทำได้ยากขึ้น การใช้งาน ลูกบล็อก 12 เหลี่ยมควรพิจารณาวัสดุของน็อตและประเภทของงานที่ต้องการ เพื่อป้องกันความเสียหายของหัวน็อตในระยะยาว
  • ไม่เหมาะกับงานที่ต้องใช้แรงขันสูง ลูกบล็อก 12 เหลี่ยมมักใช้กับงานที่ไม่ต้องใช้แรงขันมาก เช่น งานซ่อมบำรุงทั่วไป หรืองานที่ต้องการความรวดเร็วในการถอดประกอบน็อตโดยไม่ต้องใช้แรงบิดสูง อย่างไรก็ตาม หากใช้กับงานที่ต้องออกแรงขันมากเกินไป อาจทำให้เกิดการลื่นไถลหรือหัวน็อตเสียหายได้ง่าย ดังนั้น จึงควรเลือกใช้ให้เหมาะกับลักษณะของงานเพื่อป้องกันความเสียหายและเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน

เปรียบเทียบ ลูกบล็อก 6 เหลี่ยม vs ลูกบล็อก 12 เหลี่ยม แบบไหนดีกว่า

เลือกใช้งานแบบไหนให้เหมาะกับงานของคุณ?

เมื่อต้องการแรงขันสูง

หากคุณต้องทำงานที่ต้องใช้แรงขันสูง เช่น งานซ่อมเครื่องยนต์ งานประกอบโครงสร้าง หรือการขันน็อตที่แน่นมาก ลูกบล็อก 6 เหลี่ยมจะเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด เนื่องจากสามารถยึดเกาะหัวน็อตได้แน่นหนากว่า ลูกบล็อก 12 เหลี่ยม ลดโอกาสที่น็อตจะเสียหายจากแรงบิดที่มากเกินไป นอกจากนี้ การออกแบบที่ช่วยกระจายแรงกดอย่างทั่วถึงยังทำให้ ลูกบล็อก 6 เหลี่ยมมีประสิทธิภาพสูงสุดในการขันน็อตแน่นโดยไม่ทำให้หัวน็อตเสียรูป ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญสำหรับงานที่ต้องใช้แรงบิดสูง เช่น การซ่อมแซมช่วงล่างรถยนต์ การติดตั้งเครื่องจักร หรือการก่อสร้างที่ต้องการการขันยึดที่มั่นคง

เมื่อต้องการใช้งานในพื้นที่แคบ

ถ้าคุณต้องทำงานในพื้นที่แคบและมีมุมการหมุนที่จำกัด ลูกบล็อก 12 เหลี่ยมจะช่วยให้คุณใส่เครื่องมือเข้ากับหัวน็อตได้ง่ายขึ้นโดยไม่ต้องปรับตำแหน่งมาก เนื่องจากสามารถเสียบเข้ากับน็อตได้ถึง 12 ตำแหน่งแทนที่จะเป็น 6 ตำแหน่งแบบลูกบล็อก 6 เหลี่ยม ซึ่งทำให้ไม่จำเป็นต้องหมุนเครื่องมือมากเกินไปในระหว่างการขันหรือล็อค การใช้งานในพื้นที่ที่มีสิ่งกีดขวาง เช่น ใต้ท้องรถหรือภายในเครื่องจักร จึงสามารถทำได้สะดวกและรวดเร็วยิ่งขึ้น

เมื่อต้องซ่อมบำรุงทั่วไป

สำหรับงานซ่อมบำรุงที่ไม่ได้ต้องใช้แรงขันสูงมาก เช่น การถอดประกอบเฟอร์นิเจอร์ การซ่อมแซมอุปกรณ์ภายในบ้าน หรือการบำรุงรักษาเครื่องใช้ไฟฟ้า ลูกบล็อก 12 เหลี่ยมอาจเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมเพราะใช้งานได้สะดวกกว่า สามารถเสียบเข้าหัวน็อตได้หลายตำแหน่ง ทำให้ทำงานได้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังเหมาะกับงานที่ต้องการความคล่องตัวในการหมุนบล็อกโดยไม่ต้องปรับตำแหน่งมาก จึงช่วยลดเวลาและความยุ่งยากในการทำงานได้เป็นอย่างดี

สรุป

ลูกบล็อก ทั้งสองประเภทมีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกัน การเลือกใช้งานขึ้นอยู่กับลักษณะงานที่ต้องทำ หากต้องการความแข็งแรงและลดความเสียหายของหัวน็อต ควรเลือกใช้ลูกบล็อก 6 เหลี่ยม แต่หากต้องการความสะดวกในการใช้งานในพื้นที่แคบ ลูกบล็อก 12 เหลี่ยมก็เป็นตัวเลือกที่ดี

เช็คราคา ลูกบล็อก ได้ที่นี่