6 วิธีดูแลรักษาและทำความสะอาด พัดลมดูดอากาศ

Customers Also Purchased

พัดลมดูดอากาศ เป็นอุปกรณ์สำคัญที่ช่วยถ่ายเทอากาศ และลดความชื้น ช่วยป้องกันการสะสมของกลิ่น และเชื้อราในพื้นที่ต่าง ไม่ว่าตะเป็น ห้องน้ำ ห้องครัว และโรงงานอุตสาหกรรม พัดลมดูดอากาศ ที่สะอาดและได้รับการบำรุงรักษาอย่างสม่ำเสมอจะทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพได้ ช่วยลดปัญหาสุขภาพที่เกิดจากอากาศเสีย และช่วยลดการใช้พลังงานไฟฟ้า

นอกจากนี้เอง การทำความสะอาด พัดลมดูดอากาศ ยังช่วยยืดอายุการใช้งานของมอเตอร์ และป้องกันการเกิดเสียงดังผิดปกติอีกด้วย ในบทความนี้เราจะพาคุณไปเรียนรู้วิธีดูแลรักษาและทำความสะอาดพัดลมดูดอากาศอย่างละเอียด พร้อมเคล็ดลับในการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้ดียิ่งขึ้น

การทำความเข้าใจเกี่ยวกับ พัดลมดูดอากาศ

พัดลมดูดอากาศ คืออะไร?

พัดลมดูดอากาศ (Ventilation Fan) เป็นอุปกรณ์ที่ช่วยถ่ายเทอากาศภายในห้องออกไปภายนอก เพื่อลดความอับชื้น กลิ่นไม่พึงประสงค์ และป้องกันการสะสมของเชื้อโรคและแบคทีเรียในอากาศ พัดลมชนิดนี้มีการทำงานโดยใช้มอเตอร์ขับเคลื่อนใบพัดให้หมุนเพื่อดูดอากาศออกไปผ่านช่องระบายอากาศ นอกจากนี้ยังสามารถช่วยลดอุณหภูมิภายในห้องและเพิ่มการหมุนเวียนของอากาศ ทำให้พื้นที่ใช้งานมีสภาพแวดล้อมที่ดีต่อสุขภาพและความเป็นอยู่ของผู้อาศัย การเลือกใช้พัดลมดูดอากาศที่เหมาะสมกับขนาดห้องและประเภทการใช้งานเป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด

ุ6 วิธีดูแลรักษาและทำความสะอาด พัดลมดูดอากาศ

ุ6 วิธีดูแลรักษาและทำความสะอาด พัดลมดูดอากาศ

ประเภทของ พัดลมดูดอากาศ

  • พัดลมดูดอากาศ ติดผนัง เหมาะสำหรับห้องน้ำ ห้องครัว และพื้นที่ที่ต้องการการระบายอากาศโดยตรง โดยเฉพาะในบริเวณที่มีการสะสมของไอน้ำ ไขมัน และกลิ่นไม่พึงประสงค์ พัดลมประเภทนี้สามารถช่วยลดความชื้นที่อาจก่อให้เกิดเชื้อราและแบคทีเรียได้ นอกจากนี้ ยังมีรุ่นที่มาพร้อมบานเกล็ดอัตโนมัติช่วยป้องกันฝุ่นและแมลงจากภายนอก การเลือกขนาดของพัดลมให้เหมาะสมกับพื้นที่เป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้การระบายอากาศมีประสิทธิภาพสูงสุด
  • พัดลมดูดอากาศ ติดเพดาน – ใช้ในห้องที่มีฝ้าเพดานสูง เช่น ห้องนอน ห้องนั่งเล่น หรือห้องทำงานที่ต้องการระบบระบายอากาศที่ดีและเงียบกว่าแบบติดผนัง พัดลมติดเพดานช่วยกระจายอากาศให้ทั่วถึงและลดการสะสมของความร้อนที่ลอยขึ้นด้านบน นอกจากนี้ ยังสามารถเลือกใช้รุ่นที่มีเซ็นเซอร์ตรวจจับความชื้น หรือรุ่นที่มีฟังก์ชันลดเสียงรบกวนเพื่อให้เหมาะกับการใช้งานในห้องที่ต้องการความเงียบ
  • พัดลมดูดอากาศ แบบอุตสาหกรรม – ใช้ในโรงงานหรือโกดังเพื่อช่วยระบายอากาศและลดอุณหภูมิ พัดลมประเภทนี้มีขนาดใหญ่กว่ารุ่นทั่วไปและสามารถสร้างแรงลมได้สูง เหมาะสำหรับพื้นที่ที่มีความร้อนสะสมหรือมีไอระเหยของสารเคมี เช่น โรงงานผลิต สถานประกอบการอุตสาหกรรม หรือโกดังสินค้าที่ต้องการการไหลเวียนของอากาศอย่างต่อเนื่อง พัดลมอุตสาหกรรมยังสามารถช่วยลดฝุ่นละอองในอากาศและปรับปรุงคุณภาพอากาศภายในพื้นที่ทำงาน เพื่อให้พนักงานทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัยมากขึ้น

ความสำคัญของการดูแลรักษา และทำความสะอาด พัดลมดูดอากาศ

ช่วยให้พัดลมทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ 

การสะสมของฝุ่น และสิ่งสกปรกสามารถลดการหมุนเวียนของอากาศ ทำให้พัดลมต้องทำงานหนักขึ้น ส่งผลให้เกิดการสึกหรอของมอเตอร์เร็วขึ้น และอาจทำให้การทำงานของพัดลมมีเสียงดังผิดปกติ นอกจากนี้เอง หากไม่ได้รับการทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ อาจทำให้พัดลมสูญเสียความสามารถในการระบายอากาศ ส่งผลให้พื้นที่ภายในห้องอับชื้น และเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรคและแบคทีเรีย การทำความสะอาดและดูแลรักษาพัดลมดูดอากาศอย่างถูกต้อง ถือเป็นสิ่งสำคัญในการรักษาสภาพแวดล้อมที่ดี และช่วยให้พัดลมมีอายุการใช้งานที่ยาวนานอีกด้วยครับ 

ลดการใช้พลังงานไฟฟ้า

พัดลมดูดอากาศ ที่สะอาดจะทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและใช้พลังงานน้อยลง เนื่องจากไม่มีสิ่งสกปรกมาขัดขวางการไหลเวียนของอากาศ ซึ่งช่วยให้มอเตอร์ไม่ต้องทำงานหนักเกินไป นอกจากนี้ การเลือกพัดลมที่มีฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 หรือพัดลมที่ใช้มอเตอร์แบบ DC ยังสามารถช่วยลดค่าไฟได้มากขึ้น การตั้งเวลาการใช้งานที่เหมาะสม เช่น เปิดเฉพาะช่วงที่จำเป็นและปิดเมื่อไม่ใช้งาน ก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ช่วยลดการใช้พลังงานไฟฟ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ยืดอายุการใช้งานของพัดลม 

การบำรุงรักษาอย่างสม่ำเสมอช่วยลดความเสียหายของมอเตอร์ และชิ้นส่วนอื่น ๆ โดยเฉพาะมอเตอร์ที่เป็นหัวใจหลักของ พัดลมดูดอากาศ เลยก็ว่าได้ การทำความสะอาดใบพัด ตะแกรง และช่องระบายอากาศเป็นประจำช่วยป้องกันการสะสมของฝุ่นที่อาจทำให้ พัดลมดูดอากาศ ทำงานหนักขึ้น และเกิดความร้อนสูงเกินไป นอกจากนี้ การตรวจสอบและหล่อลื่นตลับลูกปืนของพัดลมช่วยลดการเสียดสี ทำให้พัดลมทำงานได้ลื่นไหลและเงียบกว่าเดิม หากพัดลมมีการใช้งานอย่างต่อเนื่องเป็นเวลานาน ควรมีการตรวจเช็คสายไฟและแผงควบคุมเพื่อป้องกันไฟฟ้าลัดวงจรและความเสียหายอื่น ๆ ซึ่งสามารถยืดอายุการใช้งานของ พัดลมดูดอากาศ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ป้องกันการสะสมของเชื้อรา และแบคทีเรีย

โดยเฉพาะในห้องน้ำที่มีความชื้นสูง ซึ่งเป็นสาเหตุของการเจริญเติบโตของเชื้อรา และแบคทีเรียที่อาจก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพ เช่น โรคทางเดินหายใจและอาการภูมิแพ้ พัดลมดูดอากาศสามารถช่วยลดความชื้นสะสมภายในห้องน้ำ ทำให้อากาศถ่ายเทดีขึ้นและลดการเกิดเชื้อรา นอกจากนี้ ควรทำความสะอาดพัดลมดูดอากาศอย่างสม่ำเสมอเพื่อป้องกันการสะสมของฝุ่นและเชื้อโรค ซึ่งอาจเกาะติดตามใบพัดและช่องระบายอากาศได้

ุ6 วิธีดูแลรักษาและทำความสะอาด พัดลมดูดอากาศ

ขั้นตอนการทำความสะอาด พัดลมดูดอากาศ

1. ปิดเครื่องและตัดไฟ

ก่อนเริ่มทำความสะอาด ให้ปิดสวิตช์พัดลมดูดอากาศและตัดไฟฟ้าจากเบรกเกอร์เพื่อความปลอดภัย ควรใช้เครื่องทดสอบไฟฟ้าเพื่อตรวจสอบว่ามีไฟฟ้าไหลอยู่หรือไม่ เพื่อป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้น หากพัดลมดูดอากาศเชื่อมต่อกับระบบไฟฟ้าภายในบ้าน ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่ามีการปิดวงจรที่เกี่ยวข้องทั้งหมดก่อนเริ่มการถอดชิ้นส่วน

2. ถอดตะแกรงหรือฝาครอบพัดลม

พัดลมดูดอากาศส่วนใหญ่มีฝาครอบหรือแผ่นกรองฝุ่นที่สามารถถอดออกได้ ใช้ไขควงช่วยถอดถ้าจำเป็น ควรตรวจสอบว่าสกรูหรือคลิปล็อกมีคราบฝุ่นสะสมหรือไม่ หากมีให้ใช้แปรงปัดฝุ่นออกก่อนเพื่อให้ถอดออกได้ง่ายขึ้น หากพัดลมมีระบบล็อกแบบสลัก ควรระมัดระวังไม่ให้สลักหักหรือเสียหาย ในกรณีที่ตะแกรงติดแน่นเนื่องจากฝุ่นสะสมมาก อาจใช้น้ำยาทำความสะอาดอเนกประสงค์ช่วยคลายการติดของฝุ่นก่อนถอด

3. เช็ดทำความสะอาดใบพัด

ใช้ผ้าชุบน้ำสบู่อ่อน ๆ เช็ดทำความสะอาดใบพัด โดยเช็ดจากโคนใบพัดไปยังปลายใบเพื่อขจัดฝุ่นและสิ่งสกปรกได้อย่างมีประสิทธิภาพ หากมีคราบไขมันติดแน่น เช่น ในพัดลมที่ติดตั้งในห้องครัว สามารถใช้น้ำยาขจัดคราบไขมันอ่อน ๆ ช่วยทำความสะอาดได้ หลังจากนั้นใช้แปรงขนอ่อนปัดฝุ่นออกจากซอกต่าง ๆ โดยเฉพาะบริเวณขอบใบพัดที่มักเป็นจุดสะสมของฝุ่นมากที่สุด ก่อนประกอบกลับ ควรปล่อยให้ใบพัดแห้งสนิทเพื่อป้องกันการสะสมของความชื้น

4. ทำความสะอาดมอเตอร์และโครงพัดลม

ใช้ผ้าแห้งเช็ดฝุ่นออกจากมอเตอร์อย่างเบามือ เพื่อป้องกันการสะสมของฝุ่นที่อาจทำให้มอเตอร์ทำงานหนักขึ้น ห้ามใช้น้ำหรือน้ำยาทำความสะอาดที่เปียก เพราะอาจทำให้มอเตอร์เสียหายได้ หากมีฝุ่นเกาะแน่นสามารถใช้แปรงขนนุ่มหรือเครื่องเป่าลมช่วยกำจัดฝุ่นออก นอกจากนี้ ควรตรวจสอบสายไฟและขั้วต่อว่ามีคราบฝุ่นหรือสนิมเกาะอยู่หรือไม่ หากพบสิ่งผิดปกติ ควรทำความสะอาดด้วยแปรงแห้งหรือน้ำยาทำความสะอาดอิเล็กทรอนิกส์ที่แห้งเร็ว เพื่อให้พัดลมทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย

5. ล้างตะแกรงกรองอากาศ

ถอดตะแกรงกรองอากาศออกอย่างระมัดระวัง จากนั้นใช้แปรงขนนุ่มหรือเครื่องดูดฝุ่นช่วยกำจัดฝุ่นที่สะสมอยู่เบื้องต้น นำตะแกรงไปแช่ในน้ำสบู่อ่อน ๆ หรือใช้น้ำยาทำความสะอาดที่เหมาะสมกับวัสดุของตะแกรง ขัดด้วยฟองน้ำหรือแปรงเพื่อขจัดคราบสกปรกที่ฝังแน่น ล้างด้วยน้ำสะอาดหลาย ๆ ครั้งเพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีสารตกค้าง จากนั้นผึ่งให้แห้งในที่ที่มีอากาศถ่ายเทได้ดี หรือใช้ผ้าสะอาดเช็ดให้แห้งก่อนนำกลับมาติดตั้ง

6. ประกอบชิ้นส่วนกลับเข้าที่เดิม

หลังจากทำความสะอาดและแห้งสนิทแล้ว ให้นำชิ้นส่วนทุกอย่างประกอบกลับที่เดิม ตรวจสอบให้แน่ใจว่าแต่ละชิ้นส่วนถูกติดตั้งอย่างถูกต้องและแน่นหนา โดยเฉพาะตะแกรงกรองอากาศและใบพัด เพื่อป้องกันการสั่นสะเทือนและเสียงดังขณะใช้งาน นอกจากนี้ ควรเช็คว่าสกรูและจุดเชื่อมต่อทุกจุดถูกขันแน่นและไม่มีชิ้นส่วนใดติดตั้งผิดตำแหน่ง ก่อนเปิดใช้งานควรเสียบปลั๊กไฟและทดสอบการทำงานของพัดลมเพื่อให้แน่ใจว่าทุกอย่างอยู่ในสภาพสมบูรณ์และทำงานได้อย่างราบรื่น

คำถามที่พบบ่อย FAQ

1. ควรทำความสะอาด พัดลมดูดอากาศ บ่อยแค่ไหน?

แนะนำให้ทำความสะอาด พัดลมดูดอากาศ อย่างน้อยทุก ๆ 3-6 เดือน หรือบ่อยกว่านั้นหาก พัดลมดูดอากาศ อยู่ในพื้นที่ที่มีฝุ่นเยอะ เช่น ห้องครัว หรือโรงงานอุตสาหกรรม

2. พัดลมดูดอากาศ มีเสียงดังผิดปกติ ควรทำอย่างไร?

เสียงดังอาจเกิดจากฝุ่นที่สะสมอยู่บนใบพัดหรือมอเตอร์ ควรลองทำความสะอาดใบพัดและตะแกรงระบายอากาศก่อน หากยังมีเสียงดังให้ตรวจสอบชิ้นส่วนต่าง ๆ เช่น ตลับลูกปืนของมอเตอร์ ว่ามีการเสื่อมสภาพหรือไม่ นอกจากนี้ ควรตรวจสอบว่าสกรูและจุดเชื่อมต่อมีการหลวม หากทำความสะอาดและตรวจสอบแล้วยังมีเสียงดัง อาจเป็นไปได้ว่ามอเตอร์มีปัญหาหรือเกิดความเสียหาย ซึ่งควรพิจารณาเปลี่ยนพัดลมใหม่เพื่อประสิทธิภาพการทำงานที่ดีขึ้น

3. ทำไม พัดลมดูดอากาศ ไม่ดูดอากาศได้ดีเหมือนเดิม?

สาเหตุอาจมาจากตะแกรงอุดตัน ฝุ่นสะสมบริเวณใบพัด หรือมอเตอร์เสื่อมสภาพ ควรทำความสะอาดตะแกรงกรองฝุ่นและใบพัดอย่างสม่ำเสมอ นอกจากนี้ ควรตรวจสอบและนำสิ่งอุดตันออก หากพบว่ามอเตอร์ทำงานช้าลงหรือมีเสียงดังผิดปกติ ควรตรวจสอบระบบไฟฟ้าและพิจารณาเปลี่ยนอะไหล่หรือพัดลมใหม่หากจำเป็น

เลือก พัดลมดูดอากาศ ให้เหมาะกับการใช้งาน