Customers Also Purchased
กรรไกรตัดกิ่ง เป็นเครื่องมือที่สำคัญ หากคุณต้องการตัดแต่งกิ่งไม้ เพื่อให้ต้นไม้เจริญเติบโตอย่างแข็งแรง และมีรูปทรงที่สวยงาม ในการเลือกใช้งาน กรรไกรตัดกิ่ง ที่เหมาะสมและเทคนิคการตัดที่ถูกต้อง จะช่วยลดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นได้ แต่อย่างไรก็ตามหลายๆคนอาจทำผิดพลาดโดยไม่รู้ตัว เช่น การเลือกใช้กรรไกรตัดกิ่ง ที่ไม่เหมาะสม การไม่ลับคม หรือการตัดกิ่งผิดตำแหน่ง สิ่งเหล่านี้จะทำให้ต้นไม้ได้รับความเสียหาย หรือทำให้ กรรไกรตัดกิ่ง สึกหรอเร็วมากกว่าปกติ
ในบทความนี้ ผมจะพาคุณมาดูข้อผิดพลาดทั่วๆไปที่ควรหลีกเลี่ยง เมื่อใช้งาน กรรไกรตัดกิ่ง พร้อมทั้งแนวทางที่ถูกต้องในการใช้งาน เพื่อให้คุณสามารถดูแลต้นไม้ได้อย่างมืออาชีพและช่วยยืดอายุการใช้งานของอุปกรณ์ให้ยาวนานขึ้นได้ เพื่อไม่ให้คุณเสียเวลา ไปอ่านบทความนี้กันได้เลย
1. การใช้ กรรไกรตัดกิ่ง ผิดประเภท
เลือกใช้ กรรไกรตัดกิ่ง ไม่เหมาะสมกับงาน
กรรไกรตัดกิ่ง มีหลายประเภท เช่น Bypass, Anvil, Ratchet, กรรไกรตัดแต่งกิ่งไฟฟ้า และกรรไกรตัดแต่งกิ่งแบบมืออาชีพ ซึ่งแต่ละประเภทมีจุดเด่นและข้อจำกัดที่แตกต่างกัน การเลือกใช้ให้เหมาะสมกับงานจะช่วยให้การตัดแต่งกิ่งมีประสิทธิภาพสูงสุด และลดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับต้นไม้
การเลือกใช้กรรไกรตัดกิ่งที่ไม่เหมาะสมกับประเภทของกิ่งไม้ อาจทำให้การตัดไม่ได้ผลดี และอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพของต้นไม้ เช่น การเกิดบาดแผลที่ไม่เรียบทำให้เชื้อโรคเข้าทำลายได้ง่าย หรือทำให้ต้นไม้เติบโตผิดรูปแบบ นอกจากนี้ การใช้เครื่องมือตัดที่ไม่เหมาะสมอาจทำให้ผู้ใช้งานต้องออกแรงมากเกินไป ซึ่งอาจส่งผลให้เครื่องมือเสียหายหรือใช้งานได้ไม่ยาวนาน
- กรรไกรตัดกิ่ง Bypass เหมาะสำหรับกิ่งที่ยังสดและมีชีวิต แม่นยำ รอยตัดเนียน ดูเรียบร้อย
- กรรไกรตัดกิ่ง Anvil เหมาะสำหรับตัดกิ่งแห้ง และกิ่งไม่ที่มีความหนา
- กกรรไกรตัดกิ่ง แบบปากตรง เหมาะสำหรับตัดกิ่งไม้สดเล็กๆ หรือกิ่งของไม้ดอก เป็นต้น
ใช้ กรรไกรตัดกิ่ง ขนาดเล็กเกินไปหรือใหญ่เกินไป
การใช้ กรรไกรตัดกิ่ง ที่ไม่เหมาะกับขนาดของกิ่งจะทำให้การตัดยากขึ้น และอาจทำให้เกิดแผลที่ไม่เรียบ ซึ่งส่งผลให้ต้นไม้ฟื้นตัวช้ากว่าปกติ และมีโอกาสติดเชื้อได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ถ้าหาก กรรไกรตัดกิ่ง ขนาดเล็กเกินไปเมื่อเทียบกับขนาดของกิ่ง อาจทำให้ต้องออกแรงมากเกินไป จะทำให้ส่งผลให้ใบมีดเสียหาย หรือหักได้ง่าย แต่ในทางกลับกัน การใช้ กรรไกรตัดกิ่ง ที่ใหญ่เกินไปสำหรับกิ่งขนาดเล็กอาจทำให้เกิดแรงกดมากเกินความจำเป็น และส่งผลให้เกิดการบีบรัดของเนื้อเยื่อไม้โดยไม่จำเป็น
แนะนำให้ใช้ กรรไกรตัดกิ่ง ที่มีขนาดเล็ก (7-8 นิ้ว) สำหรับกิ่งเล็กที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางไม่เกิน 1.5 เซนติเมตร เพื่อให้ควบคุมทิศทางการตัดได้ง่าย และลดแรงกดบนต้นไม้ ในกรณีที่ต้องการตัดกิ่งขนาดใหญ่ที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางมากกว่า 2.5 เซนติเมตร ควรเลือกใช้ กรรไกรตัดกิ่งขนาดใหญ่ หรือ กรรไกรตัดกิ่งแบบมีด้ามยาว เพื่อช่วยให้การตัดง่ายขึ้นโดยไม่ต้องออกแรงมาก
การไม่ลับคม กรรไกรตัดกิ่ง
ใช้ กรรไกรตัดกิ่ง ที่ทื่อ
กรรไกรตัดกิ่ง ที่ไม่คมจะทำให้เกิดแผลฉีกขาดบนต้นไม้ ซึ่งอาจทำให้ติดเชื้อง่ายและส่งผลให้ต้นไม้ฟื้นตัวช้ากว่าปกติ การตัดที่ไม่เรียบร้อยจะทำให้เนื้อเยื่อไม้ฉีกขาดแทนที่จะถูกตัดอย่างสะอาด ส่งผลให้ต้นไม้มีโอกาสสูงที่จะเกิดเชื้อราและแมลงเข้าทำลาย นอกจากนี้ ยังอาจทำให้ต้นไม้มีแผลเปิดเป็นเวลานาน ทำให้เกิดความเสี่ยงต่อโรคพืชต่าง ๆ ได้มากขึ้น
แนะนำให้ลับคม กรรไกรตัดกิ่ง ทุก 3-5 ครั้งที่ใช้งาน ถ้าหากว่า กรรไกรตัดกิ่ง ถูกใช้ในการตัดกิ่งไม้ที่แข็งหรือกิ่งที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางใหญ่ อาจต้องลับคมบ่อยขึ้นเพื่อให้การตัดมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้เอง การตรวจสอบสภาพของใบมีดก่อนใช้งานทุกครั้งเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อป้องกันปัญหาการตัดที่ไม่เรียบและช่วยลดแรงต้านขณะใช้งาน
วิธีลับคม กรรไกรตัดกิ่ง ที่ถูกต้อง
ใช้หินลับคมหรือไฟล์ลับมีดที่มีคุณภาพสูงเพื่อให้ใบมีดมีความคมและทนทาน ควรเลือกใช้หินลับที่เหมาะสมกับวัสดุของใบมีดเพื่อให้การลับมีประสิทธิภาพสูงสุด ควรลับใบมีดด้านเดียว (สำหรับ กรรไกรตัดกิ่ง Bypass) และเช็ดทำความสะอาดใบมีดหลังลับคมเสร็จด้วยนะครับ เพื่อป้องกันคราบสนิม การทำความสะอาดใบมีดหลังการลับยังช่วยขจัดเศษโลหะที่อาจตกค้างอยู่และลดโอกาสในการเกิดสนิมนั่นเอง
ใช้น้ำมันหล่อลื่นหรือสเปรย์กันสนิม เพื่อช่วยรักษาสภาพของใบมีดให้พร้อมใช้งาน ควรใช้น้ำมันชนิดที่เหมาะกับเครื่องมือตัดแต่งกิ่งเพื่อช่วยลดแรงเสียดทาน และป้องกันการสึกหรอของใบมีดนั่นเอง
3. การตัดกิ่งผิดตำแหน่ง
ตัดใกล้โคนเกินไป
การตัดชิดโคนกิ่งมากเกินไปจะทำให้แผลใหญ่ขึ้นและหายช้าลง ซึ่งอาจส่งผลให้ต้นไม้เสียความแข็งแรงในบริเวณนั้นและเกิดเชื้อราหรือแมลงศัตรูพืชเข้าโจมตีได้ง่าย นอกจากนี้ การตัดกิ่งที่โคนมากเกินไปอาจทำให้เนื้อเยื่อที่ช่วยปิดแผลของต้นไม้ถูกทำลาย ส่งผลให้เกิดความเสียหายถาวร และทำให้ต้นไม้ฟื้นตัวได้ช้าลง
ควรตัดห่างจากโคนกิ่งประมาณ 1-2 เซนติเมตร เพื่อให้ต้นไม้ฟื้นตัวได้ดี การตัดในระยะนี้ช่วยให้ต้นไม้สามารถพัฒนาเนื้อเยื่อใหม่มาปิดแผลได้เร็วขึ้น ลดความเสี่ยงของการติดเชื้อราและแมลงศัตรูพืช นอกจากนี้ ยังช่วยกระตุ้นให้ต้นไม้แตกยอดใหม่ได้อย่างเป็นธรรมชาติ และรักษาความสมดุลของโครงสร้างต้นไม้
ตัดไกลจากโคนมากเกินไป
การตัดปล่อยให้กิ่งยื่นยาวเกินไป อาจทำให้เกิด "กิ่งงอกซ้อน" ซึ่งอาจทำให้ต้นไม้เติบโตผิดรูปและอ่อนแอลง นอกจากนี้ กิ่งที่งอกซ้อนกันอาจส่งผลให้เกิดการแย่งสารอาหารและแสงแดด ทำให้ต้นไม้โดยรวมมีสุขภาพที่ไม่ดี อีกทั้งยังอาจสร้างความยุ่งเหยิงให้กับโครงสร้างของต้นไม้ ทำให้ดูไม่เป็นระเบียบและเพิ่มโอกาสที่กิ่งจะหักลงมาได้ง่ายขึ้นโดยเฉพาะในช่วงที่มีพายุหรือลมแรง
4. การใช้ กรรไกรตัดกิ่ง ในช่วงเวลาที่ไม่เหมาะสม
ตัดกิ่งในช่วงฤดูที่ไม่เหมาะสม
ฤดูที่ดีที่สุดสำหรับการตัดกิ่งไม้ส่วนใหญ่อยู่ใน ช่วงปลายฤดูหนาวหรือต้นฤดูใบไม้ผลิ เนื่องจากช่วงเวลานี้ต้นไม้ยังคงอยู่ในภาวะพักตัวและสามารถฟื้นตัวจากการตัดแต่งกิ่งได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ การตัดกิ่งในช่วงนี้ช่วยกระตุ้นการแตกหน่อใหม่ที่แข็งแรงและลดความเสี่ยงของโรคพืชและแมลงศัตรูพืชที่มักเกิดขึ้นในช่วงฤดูร้อน
หลีกเลี่ยงการตัดกิ่งในช่วง ฤดูร้อนและฤดูฝน เพราะอาจทำให้ต้นไม้เครียดและติดเชื้อได้ง่าย ความชื้นสูงในฤดูฝนทำให้เชื้อราและแบคทีเรียเติบโตได้ดี ซึ่งเพิ่มโอกาสที่ต้นไม้จะเกิดโรค ส่วนในฤดูร้อน อุณหภูมิที่สูงอาจทำให้ต้นไม้เสียความชุ่มชื้นเร็วขึ้น ส่งผลให้กระบวนการฟื้นฟูจากการตัดกิ่งช้าลงและทำให้ต้นไม้มีความอ่อนแอมากขึ้น
การตัดกิ่งมากเกินไปในครั้งเดียว
ไม่ควรตัดกิ่งเกิน 25-30% ของปริมาณกิ่งทั้งหมด ในครั้งเดียว เพราะอาจทำให้ต้นไม้ช็อกและเติบโตช้าลง การตัดกิ่งมากเกินไปในครั้งเดียวอาจส่งผลให้ต้นไม้สูญเสียสมดุลของสารอาหารและพลังงานที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโต นอกจากนี้ ยังอาจทำให้ต้นไม้เกิดความเครียดสูงขึ้นและเสี่ยงต่อโรคและแมลงศัตรูพืชที่อาจเข้ามาทำลายได้ง่ายขึ้น เพื่อป้องกันปัญหานี้ ควรตัดกิ่งออกในปริมาณที่พอเหมาะ และเว้นระยะเวลาระหว่างการตัดเพื่อให้ต้นไม้มีเวลาฟื้นตัว
5. การไม่ทำความสะอาด กรรไกรตัดกิ่ง หลังใช้งาน
ปล่อยให้ กรรไกรตัดกิ่ง สกปรก
เชื้อโรคจากต้นไม้หนึ่งอาจแพร่กระจายไปสู่ต้นไม้อื่นได้หากไม่ทำความสะอาดกรรไกรหลังการใช้งานทุกครั้ง การสะสมของแบคทีเรีย เชื้อรา และไวรัสบนใบมีดกรรไกรสามารถทำให้เกิดโรคพืชที่รุนแรงและส่งผลต่อสุขภาพของต้นไม้โดยรวมได้ ควรทำความสะอาดกรรไกรด้วยแอลกอฮอล์ น้ำยาฆ่าเชื้อ หรือน้ำสบู่ และเช็ดให้แห้งก่อนเก็บทุกครั้งเพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อโรค
ใช้แอลกอฮอล์หรือน้ำยาฆ่าเชื้อเช็ดใบมีดหลังใช้งานทุกครั้ง เพื่อลดการสะสมของเชื้อโรคและป้องกันการแพร่กระจายของโรคพืช ควรใช้ผ้าแห้งหรือกระดาษทิชชู่เช็ดใบมีดให้สะอาดหลังจากฆ่าเชื้อ และหากเป็นไปได้ควรทาน้ำมันบาง ๆ ที่ใบมีดเพื่อช่วยป้องกันสนิม
การเก็บรักษา กรรไกรตัดกิ่ง ไม่ถูกต้อง
ควรเก็บกรรไกรไว้ในที่แห้งและหยอดน้ำมันหล่อลื่นที่ข้อต่อเพื่อลดการเกิดสนิม ควรใช้กล่องหรือปลอกเก็บเครื่องมือเพื่อป้องกันฝุ่นและความชื้น หลีกเลี่ยงการเก็บในที่ที่มีความชื้นสูง เช่น โรงเรือนที่อับชื้น หรือใกล้แหล่งน้ำ เพราะอาจทำให้เกิดสนิมและทำให้ประสิทธิภาพของกรรไกรลดลง
6. ใช้แรงมากเกินไปขณะตัดกิ่ง
ออกแรงมากเกินไปทำให้ กรรไกรตัดกิ่ง เสียหาย
ถ้าใช้แรงมากจนรู้สึกว่ากรรไกรจะหัก อาจเป็นไปได้ว่ากรรไกรไม่เหมาะกับขนาดของกิ่ง หรือใบมีดของกรรไกรอาจทื่อทำให้ต้องใช้แรงกดมากกว่าปกติ นอกจากนี้ การใช้กรรไกรที่ไม่เหมาะสมกับประเภทของกิ่ง เช่น ใช้กรรไกร Bypass กับกิ่งไม้แข็ง อาจทำให้เกิดความเสียหายต่อเครื่องมือและส่งผลให้การตัดไม่มีประสิทธิภาพ ควรเลือกใช้กรรไกรให้เหมาะสมกับลักษณะของกิ่งไม้ และตรวจสอบความคมของใบมีดเป็นประจำ
ใช้กรรไกรที่มีระบบช่วยผ่อนแรง เช่น กรรไกรแบบ Ratchet หรือกรรไกรที่มีระบบสปริงเพื่อลดแรงกดขณะตัด นอกจากนี้ หากกิ่งมีขนาดใหญ่เกินไปสำหรับกรรไกรตัดกิ่งทั่วไป ควรใช้เลื่อยตัดกิ่งหรือเลื่อยโค้งที่ออกแบบมาเพื่อการตัดไม้แข็งและลดแรงเสียดทาน ช่วยให้การตัดมีประสิทธิภาพมากขึ้นและลดความเสี่ยงที่เครื่องมือจะเสียหาย
การตัดกิ่งโดยไม่มีเทคนิค
ควรตัดกิ่งในมุม 45 องศา เพื่อช่วยให้ต้นไม้สมานแผลได้เร็วขึ้น โดยการตัดในมุมนี้จะช่วยให้น้ำไหลออกจากแผลได้ดี ลดความเสี่ยงของการสะสมของน้ำที่อาจทำให้เกิดเชื้อราและโรคพืช นอกจากนี้ ยังช่วยให้ต้นไม้สามารถสร้างเนื้อเยื่อใหม่มาปิดแผลได้เร็วขึ้น และช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตของยอดใหม่ที่แข็งแรง
ตัดกิ่งหนาเป็น 2-3 ช่วง แทนที่จะตัดในครั้งเดียวเพื่อลดแรงกระแทกและป้องกันความเสียหายต่อเนื้อเยื่อของต้นไม้ วิธีนี้ช่วยลดโอกาสที่กิ่งจะฉีกขาดอย่างรุนแรง และยังช่วยให้ต้นไม้สามารถฟื้นตัวจากการตัดได้ดีขึ้น ควรเริ่มต้นด้วยการตัดกิ่งออกเป็นส่วนเล็ก ๆ ก่อน และใช้การตัดสุดท้ายเพื่อให้เกิดรอยตัดที่เรียบและสะอาด
สรุป
การใช้ กรรไกรตัดกิ่ง อย่างถูกวิธี ไม่เพียงแต่ช่วยให้ต้นไม้เติบโตอย่างแข็งแรง แต่ยังช่วยยืดอายุการใช้งานของกรรไกรตัดกิ่งอีกด้วย หลีกเลี่ยงข้อผิดพลาดข้างต้นและปฏิบัติตามคำแนะนำที่ถูกต้อง จะช่วยให้คุณทำงานสวนได้ง่ายและมีประสิทธิภาพมากขึ้น