Customers Also Purchased
1. ความหมายและหลักการทำงานเบื้องต้น
1.1 รอกโซ่ (Chain Hoist)
- ลักษณะ: ใช้โซ่โลหะ (มักเป็นเหล็กกล้าเกรดสูง เช่น Grade 80/100) ทำงานร่วมกับชุดเฟือง (Gear) และตะขอ (Hook) เพื่อยกหรือดึงของหนักขึ้น-ลง
- การทำงาน:
- จุดเด่น:

1.2 รอกสลิง (Wire Rope Hoist)
- ลักษณะ: ใช้สลิงเหล็ก (Wire Rope) เป็นเชือกยก มีลักษณะเป็นเส้นลวดโลหะถักพันกัน แข็งแรงสูง มักใช้ร่วมกับกว้าน (Drum) หรือรอกที่หมุนดึงสลิงขึ้น-ลง
- การทำงาน:
- จุดเด่น:

2. เปรียบเทียบจุดเด่น-ข้อจำกัดหลัก
3. เลือกใช้รอกโซ่หรือรอกสลิงดี?
การเลือกใช้รอกชนิดใดขึ้นอยู่กับ “ความต้องการเฉพาะของงาน” และ “สภาพหน้างาน” เป็นหลัก สามารถพิจารณาได้ตามประเด็นต่อไปนี้
- น้ำหนักของสิ่งของที่ต้องยก
- ถ้าเป็นงานยกของไม่หนักมาก (หลักร้อยกิโลถึงไม่กี่ตัน) และย้ายหน้างานบ่อย รอกโซ่ (Chain Hoist) มักคุ้มค่ากว่า
- ถ้าเป็นงานอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ ยกหนักหลายตันต่อเนื่อง รอกสลิง (Wire Rope Hoist) มักเป็นทางเลือกที่ดีกว่าในระยะยาว
- ความเร็วและความต่อเนื่องในการยก
- รอกสลิงมักมีความเร็วในการยกสูงกว่า เหมาะกับสายการผลิตที่ต้องการ “ยกของหนักบ่อย ๆ”
- รอกโซ่มีความเร็วปานกลาง และหากเป็นมือสาว ความเร็วจะขึ้นอยู่กับแรงคน อย่างไรก็ตาม หากเป็นรุ่นไฟฟ้า ความเร็วจะเพิ่มขึ้น แต่ยังอาจต่ำกว่ารอกสลิง
- งบประมาณและค่าซ่อมบำรุง
- รอกโซ่มีราคาที่ถูกกว่า ดูแลรักษาง่ายและเปลี่ยนอะไหล่ไม่แพงมาก (โซ่, เฟือง, ตะขอ)
- รอกสลิงมีต้นทุนสูงกว่า โดยเฉพาะเมื่อสลิงเกิดความเสียหายและต้องเปลี่ยนใหม่ อาจมีค่าใช้จ่ายมาก อีกทั้งตัวเครื่องมีขนาดใหญ่ ต้องอาศัยผู้เชี่ยวชาญในการซ่อม
- พื้นที่ติดตั้งและเงื่อนไขหน้างาน
- รอกโซ่มีขนาดเล็กกว่า ติดตั้งในพื้นที่จำกัดได้ง่าย เคลื่อนย้ายสะดวก
- รอกสลิงมักติดตั้งถาวรบนเครน หรือรางเลื่อนไฟฟ้าในโรงงานขนาดใหญ่ ต้องใช้พื้นที่มากกว่า
- ทักษะของผู้ปฏิบัติงาน (Operator Skill)
- รอกโซ่มือสาวใช้งานได้ง่าย แต่ต้องอาศัยแรงคน
- รอกไฟฟ้าทั้งโซ่และสลิงต้องใช้ผู้ปฏิบัติงานที่มีความรู้ในการควบคุมความเร็วการยก เพื่อความปลอดภัย ไม่ยกกระชากแรงจนเกินไป
4. ข้อควรระวังในการใช้งานทั้งสองประเภท
- ระวัง Overload (การยกเกินพิกัด)
- ตรวจสอบพิกัดยก (Load Capacity) ของรอกอยู่เสมอ
- หากยกเกินกำลัง อาจทำให้โซ่ขาดหรือสลิงลวดฉีกขาด เกิดอุบัติเหตุร้ายแรง
- หมั่นตรวจเช็กอุปกรณ์และจุดยึด
- รอกโซ่: ดูสภาพโซ่, เฟือง, ระบบเบรก, ตะขอ
- รอกสลิง: ตรวจเช็กเส้นลวดว่าขาด หลุดลุ่ย หรืองอผิดรูปหรือไม่
- บำรุงรักษาและเปลี่ยนอะไหล่ตามระยะ
- โซ่ที่สึกหรอ หรือสลิงที่บิดเป็นปม ควรเปลี่ยนทันที
- หล่อลื่น (Lubricate) ตามคำแนะนำผู้ผลิต เพื่อลดการสึกหรอของเฟืองและลูกปืน
- ขณะใช้งาน ห้ามให้คนอยู่ใต้สิ่งของที่ยก
- เป็นมาตรการความปลอดภัยพื้นฐาน ไม่ว่าจะใช้รอกประเภทใด
- ควรมีป้ายหรือเครื่องหมายเตือนในบริเวณทำงาน
5. สรุป: เลือกให้ตรงงาน ปลอดภัยและคุ้มค่าที่สุด
- “รอกโซ่ (Chain Hoist)” เหมาะกับงานยกน้ำหนักปานกลางถึงหนัก (หลักร้อยกิโลถึงหลายตัน) ที่ต้องการความกระทัดรัด เคลื่อนย้ายง่าย ราคาย่อมเยา ดูแลรักษาง่าย
- “รอกสลิง (Wire Rope Hoist)” เหมาะกับอุตสาหกรรมใหญ่ ต้องการยกน้ำหนักมาก ๆ ต่อเนื่อง มีพื้นที่ติดตั้งถาวร และต้องการความเร็วในการยกสูง
ไม่ว่าจะเลือกใช้รอกโซ่หรือรอกสลิง สิ่งสำคัญคือต้องคำนึงถึง มาตรฐานความปลอดภัย ตั้งแต่การติดตั้ง ตรวจเช็กอุปกรณ์ ไปจนถึงการบำรุงรักษาต่อเนื่อง หากใช้งานถูกต้องและเหมาะสม คุณจะได้ทั้งความปลอดภัย ประสิทธิภาพ และความคุ้มค่าในระยะยาว
ข้อแนะนำเพิ่มเติม
- หากยังไม่แน่ใจว่าควรเลือกรอกแบบไหน ให้ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญหรือผู้จัดจำหน่ายที่มีประสบการณ์ ทั้งด้านการประเมินพิกัดน้ำหนักที่ต้องยก ลักษณะพื้นที่ติดตั้ง และงบประมาณที่มี
- ควรเลือกซื้อจากแบรนด์หรือผู้ผลิตที่ได้มาตรฐาน ผ่านการรับรอง เช่น CE, ANSI, ASME เพื่อมั่นใจในคุณภาพของวัสดุและระบบความปลอดภัย
หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจความแตกต่างระหว่าง “รอกโซ่” กับ “รอกสลิง” ได้ชัดเจนขึ้น และเลือกใช้งานได้เหมาะสมกับหน้างานของคุณ