Customers Also Purchased
เคยไหม? หลังจบงานทาสี แปรงคู่ใจที่เคยใช้งานคล่องมือกลับกลายเป็นขนแข็งติดกันเพราะลืมล้างในทันทีหลังใช้งานเสร็จ พอจะใช้อีกทีขนแปรงก็แข็งจนแทบใช้งานไม่ได้ ทำเอาคิดว่าต้องทิ้ง แปรงทาสี อันนั้นไปแล้ว… แต่เดี๋ยวก่อน! ไม่ต้องเสียเงินซื้อใหม่ เพราะแปรงที่ดูเหมือนหมดสภาพนั้น ยังสามารถกู้ชีวิตกลับมาให้เหมือนใหม่ได้ง่าย ๆ บทความนี้จะพาคุณไปเรียนรู้ เทคนิคกู้ชีวิตแปรงแข็ง ให้กลับมานุ่ม ช่วยให้คุณประหยัดทั้งเงินและเวลา พร้อมทั้งวิธีดูแลแปรงทาสีให้อยู่กับคุณไปนาน ๆ
1.ทำไมแปรงถึงแข็ง? ต้นตอของปัญหาที่คุณควรรู้
เคยไหมที่แค่ลืมล้างแปรงทาสีหลังใช้งานเพียงแค่วันเดียว แต่เมื่อต้องการใช้งานอีกครั้ง กลับพบว่าแปรงทาสีที่เคยนุ่มกลับแข็งจนใช้งานไม่ได้เลย ปัญหาแปรงทาสีแข็งมักเกิดจากสาเหตุหลัก ๆ ดังนี้:
- สีแห้งติดขนแปรง: สีที่หลงเหลือบนขนแปรงเมื่อแห้งจะจับตัวเป็นก้อนแน่น ทำให้ขนแปรงแข็งและจับตัวกันเป็นก้อน
- การไม่ล้างแปรงในทันที: หากปล่อยแปรงไว้นานเกินไป สีจะยิ่งแห้งและทำให้ล้างออกยาก
- การเก็บที่ไม่เหมาะสม: การเก็บแปรงทาสีในที่ที่มีอากาศแห้งจนเกินไป หรือล้างสีออกไม่หมด
ผลลัพธ์คือ ขนแปรงจับตัวเป็นก้อน แข็งกระด้าง และอาจถึงขั้นเสียรูปทรง จนไม่สามารถใช้ทาสีได้อย่างเรียบเนียนและมีประสิทธิภาพ
2.ล้างแปรงทาสีแบบมืออาชีพ: จัดการกับสีทุกประเภทอย่างง่ายดาย
2.1 สีน้ำ (Water-Based): งานง่าย ล้างสะดวก
สีน้ำนั้นเป็นสีที่ล้างออกง่ายที่สุด เพียงแต่ต้องล้างทันทีหลังใช้งาน
ขั้นตอนล้าง:
- ใช้น้ำสะอาด: จุ่มแปรงลงในน้ำอุ่น และเขย่าเบา ๆ
- ใช้สบู่หรือน้ำยาล้างจาน: ถูที่ขนแปรงหรือขจัดคราบสี
- หวีขนแปรง: ใช้หวีเล็ก ๆ สางขนแปรงเพื่อล้างสีที่ติดลึก
- ล้างซ้ำ: ล้างด้วยน้ำสะอาดอีกครั้งจนมั่นใจว่าสีออกหมด
“เทคนิคง่าย ๆ คือล้างแปรงไปในทิศทางเดียวกันกับขนแปรง เพื่อลดการเสียรูปและทำความสะอาดได้ทั่วถึง”
2.2 สีน้ำมัน (Oil-based Paint): สีติดแน่นก็ออกได้
สีน้ำมันนั้นต้องการตัวทำละลายเฉพาะ เนื่องจากสีไม่ละลายในน้ำ เช่น ทินเนอร์หรือน้ำมันสน
ขั้นตอนล้าง:
- แช่ในทินเนอร์หรือน้ำมันสน: เทตัวทำละลายลงในภาชนะ แล้วแช่ทิ้งไว้ 10 - 15 นาที แล้วเขย่าแปรงทาสีเบา ๆ เพื่อให้สีหลุดออก
- เช็ดด้วยผ้าหรือทิชชู่: เช็ดสีที่ตกค้างให้สะอาด
- ล้างด้วยสบู่/น้ำยาล้างจาน: เพื่อขจัดกลิ่นของทินเนอร์หรือน้ำมันสนที่ตกค้าง
- ล้างซ้ำด้วยน้ำสะอาด จนกว่าขนแปรงจะนุ่มและสะอาด
“อย่าลืมล้างแปรงทาสีในที่ที่มีอากาศถ่ายเท เพื่อหลีกเลี่ยงการสูดดมไอระเหยของทินเนอร์ หรือสวมถุงมือเพื่อป้องกันการระคายเคืองผิวหนัง”
2.3 สีอะคริลิก (Acrylic Paint): แห้งไว แต่แก้ได้
สีอะคริลิกแห้งเร็ว ทำให้ติดแน่นกว่าสีน้ำ จึงต้องรีบล้างทันที
ขั้นตอนล้าง:
- แช่ในน้ำอุ่นผสมน้ำส้มสายชู: แช่แปรงทาสีในน้ำอุ่นผสมน้ำส้มสายชูประมาณ 10 นาที
- ขัดด้วยแปรงสีฟัน: ใช้แปรงสีฟันเก่า ๆ ขัดสีที่ติดแน่น
- ล้างซ้ำด้วยน้ำสบู่: ถูสบู่ลงบนขนแปรงและล้างด้วยน้ำสะอาดอีกครั้งจนสะอาด
3.กู้แปรงแข็งให้กลับมานุ่ม! เคล็ดลับง่าย ๆ ที่ใช้ได้ผล
3.1 น้ำส้มสายชูร้อน
แค่ 10 นาทีในน้ำส้มสายชูร้อน คุณจะเห็นสีที่แข็งติดหลุดออกมาอย่างง่ายดาย และขนแปรงจะเริ่มกลับมานุ่มเหมือนใหม่
- ต้มน้ำส้มสายชูให้พอร้อน
- แช่แปรงทาสีในน้ำส้มสายชู 10 - 15 นาที
- ใช้หวีหรือมือขยี้ขนแปรงเบา ๆ ให้สีที่แข็งหลุดออก
3.2 น้ำมันมะกอกหรือน้ำมันพืช
น้ำมันมะกอกที่มีอยู่ในครัวเรือนก็สามารถเป็นตัวช่วยที่ดีได้ นอกจากจะฟื้นฟูขนแปรงให้กลับมานุ่มแล้ว ยังช่วยหล่อลื่นขนแปรงให้ใช้งานง่ายขึ้นในครั้งต่อไป
- ชโลมน้ำมันลงบนขนแปรง
- นวดเบา ๆ จนขนแปรงเริ่มนิ่ม
- ล้างด้วยสบู่และน้ำสะอาดเพื่อขจัดคราบน้ำมัน
3.2 น้ำยาล้างสีเฉพาะทาง
สำหรับแปรงทาสีที่แข็งเกินไป น้ำยาล้างสีเป็นตัวเลือกสุดท้ายที่ช่วยแก้ปัญหาได้อย่างรวดเร็วและเห็นผลในทันที
- แช่แปรงทาสีในน้ำยาล้างสี 10 - 15 นาที หรือตามที่ระบุในฉลาก
- เช็ดคราบสีออกด้วยผ้า
- ล้างซ้ำด้วยน้ำสะอาดและสบู่
4.เคล็ดลับเก็บรักษาแปรงทาสีให้อยู่กับคุณได้นาน
4.1 หลังล้างแปรงทาสี
- ใช้มือหรือกระดาษช่วยจัดขนแปรงให้อยู่ในรูปทรงเดิม
- แขวนแปรงทาสีให้ปลายขนแปรงชี้ลง เพื่อทำให้แห้งสนิท หากไม่มีที่แขวน ลองใช้คลิปหนีบกระดาษใหญ่หนีบที่ด้าม แล้วตั้งไว้ขอบแก้วหรือภาชนะ เพื่อป้องกันไม่ให้ขนแปรงกดกับพื้น
4.2 การเก็บรักษาในระยะยาว
- ห่อขนแปรงด้วยแรปเพื่อป้องกันฝุ่น
- เก็บในที่แห้งและอากาศถ่ายเท
4.3 กรณีพัก.....งานระหว่างใช้แปรงทาสี
- ห่อขนแปรงด้วยพลาสติกแรปหรือฟอยล์
- เก็บแปรงในช่องแช่แข็งเพื่อป้องกันสีแห้ง
แปรงทาสี ที่แข็งหรือสีที่ล้างออกยากไม่ใช่จุดจบของแปรง! ด้วยวิธีที่ถูกต้อง คุณสามารถฟื้นฟูแปรงทาสีให้กลับมานุ่มเหมือนใหม่ได้ง่าย ๆ ! เพียงล้างทันทีหลังใช้งานและการเก็บรักษาอย่างเหมาะสมคือกุญแจสำคัญที่จะช่วยให้แปรงของคุณใช้งานได้นาน คุ้มค่าทุกบาททุกสตางค์
อย่าลืมว่าการล้างแปรงทันทีหลังใช้งาน และการเก็บรักษาอย่างเหมาะสมคือกุญแจสำคัญที่จะช่วยให้แปรงของคุณใช้งานได้นาน คุ้มค่าทุกบาทที่จ่ายไป
ลองเคล็ดลับเหล่านี้ดูสิ แล้วคุณจะรู้ว่าแปรงที่สะอาดและนุ่มเหมือนใหม่ไม่ใช่เรื่องยาก! พร้อมลุยงานครั้งต่อไปแล้วหรือยัง?