คุณสมบัติของแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนที่ใช้ใน เครื่องมือไฟฟ้า

Customers Also Purchased

หากนึกถึงเครื่องมือไฟฟ้าที่ใช้ในงานช่างไม่ว่าจะเป็นแบบมีสายหรือไร้สาย เช่น สว่าน เลื่อย บล็อกไฟฟ้า และอื่นๆอีกมากมาย พูดได้เลยว่าเครื่องมือเหล่านี้ได้กลายเป็นที่นิยมในวงกว้าง ไม่ว่าจะเป็นการใช้งานของช่างมืออาชีพ หรือแม้แต่ผู้ชื่นชอบงาน DIY ซึ่งจะรู้กันดีว่าอุปกรณ์เหล่านี้ต้องการแหล่งพลังงาน ไม่ว่าจะเป็นการใช้พลังงานจากการเสียบสายไฟ หรือเป็นเครื่องมือไฟฟ้าไร้สายที่ใช้พลังงานไฟฟ้าจากแบตเตอรี่ ที่กล่าวมาทั้งหมดล้วนมีหัวใจสำคัญคือแหล่งพลังงานซึ่งหากไม่มีก็ไม่สามารถใช้งานเครื่องมือไฟฟ้าได้ ในบทความนี้เราจะมาเจาะลึกแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน (Li-ion) ที่ใช้กันอย่างแพร่หายในเครื่องมืออิเล็กทรอนิค แล้วจะมาคลายข้อสงสัยด้วยกันว่าทำไมเครื่องมือไฟฟ้าไร้สายจึงใช้แบตเตอรี่ชนิดนี้กันอย่างแพร่หลายในยุคปัจจุบัน

ประวัติการใช้แบตเตอรี่ที่นำไปสู่การใช้ในเครื่องมือไฟฟ้า

ก่อนที่จะมีการคิดค้นและพัฒนาแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน เทคโนโลยีแบตเตอรี่ในยุคแรกๆใช้แบตเตอรี่ตะกั่ว-กรด (Lead-Acid) ที่ใหญ่และหนัก จนพัฒนาเป็นแบตเตอรี่ นิเกิลแคดเมียม (NiCd) ในช่วงปี 1960 ที่มีน้ำหนักเบาลงและทนทานกว่า ซึ่งใช้กับสว่านไฟฟ้าไร้สาย แต่ยังมีข้อเสียเรื่องสารเคมีที่เป็นพิษและต้องชาร์จให้เต็มเพื่อไม่ให้อายุการใช้งานลดลง จากนั้นแบตเตอรี่ นิเกิลเมทัลไฮไดรด์ (NiMH) ก็เข้ามาแทนที่ในยุค 1990 ด้วยพลังงานที่สูงขึ้นและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ก่อนที่แบตเตอรี่ลิเธียมไอออน จะกลายเป็นมาตรฐานในปัจจุบัน เนื่องจากมีน้ำหนักเบา ความหนาแน่นพลังงานสูง และชาร์จได้รวดเร็ว พร้อมด้วยระบบจัดการแบตเตอรี่ที่ปลอดภัยและคงทน

คุณสมบัติของแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนที่ใช้ในเครื่องมือไฟฟ้า

แบตเตอรี่ลิเธียมไอออน

แบตเตอรี่ลิเธียมไอออน (Li-ion) เริ่มต้นการพัฒนาในช่วงทศวรรษ 1970 เพื่อเป็นแบตเตอรี่ทางเลือกใหม่ที่มีประสิทธิภาพสูงและน้ำหนักเบา จากการค้นพบว่าลิเธียมในฐานะวัสดุสามารถเก็บและจ่ายพลังงานได้ดี ซึ่งนำไปสู่การวิจัยเพิ่มเติม ต่อมาในปี 1991 ได้มีการเปิดตัวแบตเตอรี่ Li-ion เชิงพาณิชย์เป็นครั้งแรก ทำให้เกิดความก้าวหน้าในอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์อย่างรวดเร็ว และกลายเป็นแบตเตอรี่ยอดนิยมที่ใช้งานในเครื่องมือหลากหลายประเภททั้งในสมาร์ทโฟน แล็ปท็อป และเครื่องมือไฟฟ้า จนถึงปัจจุบัน Li-ion ยังคงได้รับการพัฒนาให้มีความปลอดภัยและประสิทธิภาพที่สูงขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้เป็นแบตเตอรี่ที่ใช้กันอย่างแพร่หลายไม่เพียงในเครื่องมือไฟฟ้าไร้สายเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงของใช้ในชึวิตประจำวันอื่นๆอีกมากมาย 
แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนทำงานโดยอาศัยการเคลื่อนที่ของไอออนลิเธียมระหว่างขั้วไฟฟ้าสองขั้ว ได้แก่ ขั้วแคโทด (ขั้วบวก) และขั้วแอโนด (ขั้วลบ) ภายในเซลล์ของแบตเตอรี่ ขั้วแคโทดมักจะทำจากวัสดุที่มีลิเธียม เช่น ลิเธียมโคบอลต์ออกไซด์ ส่วนขั้วแอโนดจะเป็นกราไฟต์ เมื่อชาร์จไฟ ไอออนลิเธียมจะ
เคลื่อนที่จากขั้วแคโทดไปยังขั้วแอโนด และสะสมพลังงานไว้ เมื่อปล่อยพลังงานออกมา (ใช้งาน) ไอออนลิเธียมจะเคลื่อนกลับมายังขั้วแคโทด กระบวนการนี้จะเกิดขึ้นซ้ำ ๆ ได้หลายรอบ โดยที่ประสิทธิภาพของการชาร์จและคายประจุขึ้นอยู่กับการควบคุมผ่านระบบจัดการแบตเตอรี่ ที่ช่วยรักษาความเสถียรและป้องกันความเสียหาย

ทำไมเครื่องมือไฟฟ้าถึงนิยมใช้แบตเตอรี่ลิเธียมไอออน

1. น้ำหนักเบา แต่ให้พลังงานสูง

แบตเตอรี่ ลิเธียมไอออน มีความหนาแน่นของพลังงานที่สูงเมื่อเทียบกับแบตเตอรี่ประเภทอื่น ๆ เช่น NiCd หรือ NiMH ที่ใช้ในเครื่องมือไฟฟ้ายุคแรกๆ และยุคก่อนที่จะมีแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน การใช้แบตเตอรี่ชนิดนี้ทำให้เครื่องมือไฟฟ้ามีน้ำหนักที่เบาขึ้นและส่งผลให้ใช้งานได้สะดวกมากขึ้นโดยไม่สูญเสียประสิทธิภาพเมื่อเทียบกับการใช้แบตเตอรี่ชนิดอื่น ที่ทั้งหนักกว่าและให้พลังงานน้อยกว่า

2. อายุการใช้งานที่ยาวนาน

แบตเตอรี่ ลิเธียมไอออน มีอายุการใช้งานที่ยาวนาน และสามารถรองรับการชาร์จได้หลายรอบ เนื่องจากมีประสิทธิภาพในการชาร์จและคายประจุที่เสถียร สามารถชาร์จได้หลายร้อยถึงพันรอบก่อนที่ความจุจะลดลงอย่างมีนัยสำคัญ อายุการใช้งานของแบตเตอรี่ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่าง ๆ เช่น อุณหภูมิ การดูแลรักษา และจำนวนรอบการชาร์จซึ่งขึ้นอยู่กับความถี่ในการใช้งาน

3. ไม่มีปัญหา Memory Effect

Memory Effect เป็นปัญหาที่พบในแบตเตอรี่ประเภท นิเกิลแคดเมียม (NiCd) และ นิเกิลเมทัลไฮไดรด์ (NiMH) ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อแบตเตอรี่ถูกชาร์จใหม่ก่อนที่จะใช้พลังงานหมดอย่างสมบูรณ์ แบตเตอรี่จะ "จำ" ระดับพลังงานที่ใช้ล่าสุดและลดความจุลงตามนั้น ส่งผลให้เก็บพลังงานได้ลดลงในการใช้งานครั้งต่อไปลิเธียมไอออนไม่มีปัญหาของ Memory Effect ที่เกิดขึ้นในแบตเตอรี่ NiCd ซึ่งหมายถึงไม่ต้องกังวลว่าจะต้องชาร์จให้เต็มทุกครั้ง หรือใช้งานจนหมดก่อนชาร์จใหม่

4. พลังงานคงที่ระหว่างการใช้งาน

แบตเตอรี่ลิเธียมไอออน มีจุดเด่นในเรื่องของการจ่ายพลังงานที่คงที่ระหว่างการใช้งาน ซึ่งหมายความว่าแรงดันไฟฟ้าจะไม่ลดลงมากจนส่งผลต่อประสิทธิภาพของอุปกรณ์เมื่อแบตเตอรี่ใกล้หมด ต่างจากแบตเตอรี่บางประเภทที่แรงดันไฟฟ้าจะลดลงเรื่อย ๆ เมื่อพลังงานลดลง แบตเตอรี่ Li-ion สามารถคงระดับแรงดันไฟฟ้าไว้ได้เกือบตลอดช่วงการใช้งาน ช่วยให้อุปกรณ์ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่องจนแบตเตอรี่หมด

5. สามารถชาร์จได้รวดเร็ว

เทคโนโลยีลิเธียมไอออน รองรับการชาร์จเร็ว เนื่องจากมีอัตราการรับไฟฟ้า (Charge Rate) ที่สูง และมีโครงสร้างทางเคมีที่เหมาะสมสำหรับการรับพลังงานได้รวดเร็ว ซึ่งหมายความว่าแบตเตอรี่ Li-ion สามารถชาร์จให้เต็มได้ภายในเวลาที่สั้นกว่า ช่วยให้ใช้งานได้ต่อเนื่องโดยไม่ต้องรอนาน

คุณสมบัติของแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนที่ใช้ในเครื่องมือไฟฟ้า

6. เทคโนโลยีการจัดการแบตเตอรี่ที่ล้ำสมัย

ปัจจุบันลิเธียมไอออน สามารถผนวกเทคโนโลยีการจัดการแบตเตอรี่ (Battery Management System - BMS) ซึ่งเป็นแผงวงจรที่ควบคุมและดูแลการทำงานของแบตเตอรี่คล้ายๆกับระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งสั่งการโดยอัตโนมัติ ช่วยป้องกันการลัดวงจร, ป้องกันการชาร์จเกิน และการคายประจุเกิน ซึ่งเพิ่มความปลอดภัยในการใช้งาน

7. เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากกว่าแบตเตอรี่ประเภทอื่น ๆ

ลิเธียมไอออน มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยกว่า NiCd เพราะไม่มีสารเคมีที่เป็นพิษอย่างแคดเมียม ซึ่งเป็นโลหะหนักที่เป็นพิษและก่อให้เกิดมลพิษต่อดินและน้ำ อีกทั้งยังมีประสิทธิภาพสูงและอายุการใช้งานที่ยาวนาน ทำให้ลดปริมาณขยะอิเล็กทรอนิกส์ที่ต้องทิ้งและเปลี่ยนบ่อย เมื่อหมดอายุการใช้งาน แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนยังสามารถนำไปรีไซเคิลได้บางส่วน โดยแยกเอาลิเธียมและวัสดุอื่น ๆ ไปใช้ใหม่ได้ เป็นการช่วยลดทรัพยากรและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

8. ลดความเสี่ยงการระเบิดหรือรั่วซึม

แม้ลิเธียมไอออน จะยังมีความเสี่ยงเรื่องการเกิดไฟฟ้าลัดวงจรและความร้อนสูงเกิน แต่ด้วยเทคโนโลยีปัจจุบันการออกแบบแบตเตอรี่ Li-ion ได้พัฒนาให้ลดความเสี่ยงเหล่านี้ ทำให้เหมาะกับเครื่องมือไฟฟ้าที่ใช้งานหนัก

สรุป

แบตเตอรี่ลิเธียมไอออน (Li-ion) ได้กลายเป็นมาตรฐานหลักสำหรับเครื่องมือไฟฟ้าสมัยใหม่ เนื่องจากคุณสมบัติที่เหนือกว่าแบตเตอรี่ประเภทอื่น ไม่ว่าจะเป็นความหนาแน่นพลังงานที่สูง น้ำหนักเบา ไม่มีปัญหา Memory Effect และชาร์จได้รวดเร็ว ทั้งยังมีระบบจัดการแบตเตอรี่ ที่ช่วยควบคุมความปลอดภัยและเพิ่มอายุการใช้งาน ด้วยคุณสมบัติเหล่านี้ ทำให้แบตเตอรี่ Li-ion ตอบโจทย์ทั้งช่างมืออาชีพและผู้ใช้งานทั่วไปที่ต้องการความสะดวกและประสิทธิภาพสูง