Customers Also Purchased
หากคุณเป็นคนที่ทำงานอยู่กับสารเคบ่อยๆ คุณต้องมีการพิจารณา และประเมินความเสี่ยงที่จะเป็นอันตราย กำหนดวิธีการป้องกันที่เหมาะสม และมีขั้นตอนการบริหารจัดการเพื่อให้วิธีการป้องกันนั้นเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
หน้ากากกันสารเคมี เป็นอุปกรณ์ที่สำคัญในการป้องกันสุขภาพของผู้ใช้งานจากการสัมผัสกับสารเคมีที่เป็นอันตราย ในสถานที่ทำงาน หรือสถานการณ์ที่มีการใช้สารเคมีที่เป็นอันตราย ในการเลือก หน้ากากกันสารเคมี ที่เหมาะสม และการใช้งานอย่างถูกต้องเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยลดความเสี่ยงในการสัมผัสสารเคมี และป้องกันการเกิดโรค หรืออาการผิดปกติต่างๆได้
ประเมินผลและการควบคุม
1. การตระหนักถึงอันตราย ต้องรู้ชนิด ปริมาณแก๊สออกซิเจน ปริมาณของสารพิษในอากาศ
2. การประเมินอันตราย ควรมีการตรวจวัดปริมาณสารพิษปริมาณ แก๊สออกซิเจนอย่างถูกต้องแล้วเปรียบเทียบกับค่ ามาตรฐาน ตามความเหมาะสม
3. การควบคุมอันตราย ปรับปรุงสภาพแวดล้อม เป็นอย่างแรก และประเมินความจำเป็นใน การใช้ หน้ากากกันสารเคมี ถูกต้องและเหมาะสม
4. ข้อกําหนดของการปกป้องระบบทางเดินหายใจ ข้อบ่งชี้ของการใช้ หน้ากากกันสารเคมีไปตามมาตรฐานที่กำหนด
5. การเลือกประเภทของ หน้ากากกันสารเคมี โดยแบ่งตามชนิด และความเข้มข้นของสาร เคมี รวมทั้งความเหมาะสมกับลักษณะงานที่ใช้
6.การทดสอบความแนบสนิทของ หน้ากากกันสารเคมี เพื่อเลือกขนาดให้ถูกต้อง สวมใส่ ไ ได้พอดี
7. อย่าลืมตรวจสอบในการซ่อมบํารุง และการเก็บรักษา
มาตรฐานของ หน้ากากกันสารเคมี
มาตรฐานของสหรัฐอเมริกา แบ่งออกเป็น 9 ชั้น สัญลักษณ์ตัวอักษรแทนชนิดของอนุภาค และตามด้วยตัวเลขมักจะแสดงค่าประสิทธิภาพการกรอง ผมจะลองยกตัวอย่างให้ดูนะครับ หน้ากาก N95 หมายถึงหน้ากากนั้นใช้ป้องกันอนุภาคที่ไมใช่น้ํามัน และมีประสิทธิภาพการกรองไม่ต่ํากว่า 95% หรือ P10 หมายถึงหน้ากากนั้น ป้องกันอนุภาคทั้งที่เป็นน้ํามัน และไม่ใช่น้ํามันมีประสิทธิภาพการ กรองไม่ต่ํากว่า 99.97% และมีอายุการใช้งานานกว่า R100 นั่นเอง
มาตรฐานของสหภาพยุโรป แบ่งออกเป็น 3 ชั้นคุณภาพ พิจารณาโดยใช้ชนิดของอนุภาคประสิทธิภาพการกรอง และปริมาณการรั่วเข้า ของอากาศภายนอก (Total InwardLeakage/เป็นเกณฑ์หลักมาตรฐานของสหภาพยุโรปได้รับการเผยแพร่ไปใช้ยังประเทศต่างๆ เช่น นิวซีแลนด์ ออสเตรเลีย เป็นต้น
ออสเตรเลีย/ นิวซีแลนด์