TH
English
Customers Also Purchased
เมื่อเกิดเหตุการไฟฟ้าดับ เครื่องปั่นไฟ สามารถช่วยคุณได้ การมีพลังงานสำรองเมื่อไฟดับถือเป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ห่างไกล และในปัจจุบันนี้มี เครื่องปั่นไฟ ให้เลือกมากมาย แล้วแบบไหน? คือสิงที่คุณต้องการ?
คุณคงไม่อยากจ่ายไฟเกินความจำเป็น และคุณยังต้องการหลีกเลี่ยง เครื่องปั่นไฟ ที่ไม่สามารถจ่ายไฟฟ้าตามที่คุณต้องการ เพื่อช่วยคุณเลือกได้อย่างมั่นใจ การเลือก เครื่องปั่นไฟ ที่เหมาะสำหรับใช้ในบ้านอาจเป็นเรื่องยาก ต้องใช้เวลาเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับปัจจัยต่างๆ ที่ใช้กับ เครื่องปั่นไฟ ในที่พักอาศัย รวมถึงกำลังไฟฟ้าที่ส่งออก ความทนทาน เสียง และความน่าเชื่อถือ
คุณต้องการ เครื่องปั่นไฟ ขนาดไหน?
อย่างแรกเลยนะครับ การเพิ่มพลังงานสำรองคือการตัดสินใจสิ่งที่คุณต้องการ เพื่อให้ทำงานต่อไปเมื่อไฟฟ้าดับ วิธีนี้จะกำหนดขนาด หรือกำลังไฟ ของ เครื่องปั่นไฟ ที่คุณต้องการ มาพิจารณากำลังไฟ เพิ่มกำลังไฟของทุกสิ่งที่คุณต้องการจ่ายไฟผ่าน เครื่องปั่นไฟ ไม่ว่าจะเป็นในช่วงไฟฟ้าดับหรือในสถานที่ที่ไม่มีระบบไฟฟ้าจำกัดหรือไม่มีเลย ซึ่งอาจรวมถึงหลอดไฟ ตู้เย็น ที่ชาร์จแล็ปท็อป ที่ชาร์จสมาร์ทโฟน เครื่องชงกาแฟ เตาปิ้งขนมปัง เครื่องซักผ้า ฯลฯ การคำนวณนี้จะทำให้คุณพอทราบขนาด เครื่องปั่นไฟ ที่คุณต้องการได้คร่าวๆ
ข้อสำคัญเครื่องใช้ไฟฟ้าบางอย่าง เช่น เครื่องปรับอากาศ และตู้เย็น จะใช้กำลังไฟฟ้าเมื่อเปิดเครื่องมากกว่าเมื่อปิดเครื่องอย่างมาก คุณจะต้องคำนึงถึงกำลังไฟที่เพิ่มขึ้นเมื่อทำการคำนวณเพื่อให้ได้ค่าประมาณที่แม่นยำที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
ด้านความปลอดภัย
ก่อนที่จะเลือก เครื่องปั่นไฟ สิ่งสำคัญคือต้องเข้าใจข้อควรพิจารณาด้านความปลอดภัยที่เกี่ยวข้อง ไอเสียจาก เครื่องปั่นไฟ ประกอบด้วยคาร์บอนมอนอกไซด์ซึ่งเมื่อระบายอากาศไม่เหมาะสม อาจสะสมและวางยาพิษผู้คนได้
สิ่งนี้ห้ามทำโดยเด็ดขาด อย่าเปิด เครื่องปั่นไฟ ในพื้นที่ปิด เพราะตัวมันจะผลิตไอเสียไม่ต่างจากรถยนต์หรือเครื่องมือไฟฟ้าของคุณ และนั่นไม่ดีสำหรับทุกคนเนื่องจากพิษจากก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ให้คุณเอา เครื่องปั่นไฟ ให้ห่างจากพื้นที่อยู่อาศัยของคุณ อย่างน้อย 8-10 เมตร ในการใช้งาน
สิ่งที่ต้องพิจารณาเมื่อเลือก เครื่องปั่นไฟ ที่บ้าน
มีหลายสิ่งที่ต้องพิจารณาเมื่อซื้อ เครื่องปั่นไฟ ด้านล่างนี้ ผมจะพูดถึงข้อควรพิจารณาที่สำคัญ ที่สามารถช่วยคุณในการตัดสินใจได้จะมีอะไรบ้างไปดูกันได้เลย
ข้อกำหนดด้านพลังงาน
ข้อที่ต้องพิจารณาที่สำคัญที่สุดเมื่อเลือก เครื่องปั่นไฟ คือปริมาณพลังงานที่คุณต้องการ และคุณสามารถตอบคำถามนี้ได้โดยการพิจารณาว่าคุณจะใช้ เครื่องปั่นไฟ เพื่ออะไร? เมื่อชั่งน้ำหนักตัวเลือกสำหรับ เครื่องปั่นไฟ คุณต้องพิจารณา และนับรวมอุปกรณ์ที่คุณใช้ยกตัวอย่าง ตู้เย็น ต้องการพลังงานประมาณ 600 วัตต์ ปั๊มน้ำ ต้องการพลังงานประมาณ 1,300 ถึง 2,150 วัตต์ในการเริ่มต้น และประมาณ 800 ถึง 1,000 วัตต์ในการทำงาน เมื่อเทียบกับเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดใหญ่ที่คุณต้องคำนึงถึง และประเมินว่าอะไรเหมาะสมกับความต้องการของคุณ
ตัวอย่างข้อกำหนดด้านกำลังไฟฟ้าของอุปกรณ์
► แอร์ ความต้องการวัตต์ 500 - 2,000
► เครื่องอบผ้า ความต้องการวัตต์ 1,800-6,000
► ไมโครเวฟ ความต้องการวัตต์ 600-1,500
► ตู้เย็น ความต้องการวัตต์ 300-800
► เครื่องทำความร้อน ความต้องการวัตต์ 700-1500
► ทีวี ความต้องการวัตต์ 50-300
การใช้งานทั่วไป
ไม่ใช่แค่ว่าคุณต้องใช้ เครื่องปั่นไฟ เพื่อผลิตพลังงาน แต่ยังรวมถึงสิ่งที่คุณจะใช้ด้วย การเลือก เครื่องปั่นไฟ เพื่อจ่ายไฟให้กับบ้านของคุณในภาวะไฟฟ้าดับนั้นแตกต่างอย่างมากจากการเลือก เครื่องปั่นไฟ เพื่อใช้ในการตั้งแคมป์ ให้คุณจำไว้ว่า การติดตั้ง เครื่องปั่นไฟ ไว้อย่างถาวรที่บ้านของคุณ และให้ไฟฟ้าสำรองในระหว่างที่ไฟดับ ในทางกลับกัน เครื่องปั่นไฟ แบบพกพาสามารถพกพาติดตัวไปได้ทุกที่ เพื่อความสะดวกในการพกพา คุณอาจเลือก เครื่องปั่นไฟอินเวอร์เตอร์ ที่เบากว่าและมีเสียงรบกวนน้อยกว่า หรือเครื่องปั่นไฟพลังงานแสงอาทิตย์
แหล่งเชื้อเพลิง
โดยทั่วไปมีสามวิธีที่แตกต่างกันในการเติมเชื้อเพลิงให้กับ เครื่องปั่นไฟ ของคุณ ตัวเลือกที่มีให้คุณจะขึ้นอยู่กับประเภทของ เครื่องปั่นไฟ ที่คุณเลือกและรุ่นเฉพาะ อย่างแรก เครื่องปั่นไฟเบนซิล มักถูกใช้เป็นเชื้อเพลิงให้กับ เครื่องปั่นไฟแบบพกพา แต่ เครื่องปั่นไฟดีเซล จะเหมาะกับ เครื่องปั่นไฟที่ตั้งถาวรมากกว่า เพราะเคลื่อนย้ายค่อนข้างยาก ในปัจจุบัน เครื่องปั่นไฟ แบบพกพาใหม่อาจไม่ต้องใช้เชื้อเพลิงเลยก็ว่าได้ มักมีการใช้แบตเตอรี่ และพลังงานแสงอาทิตย์จะเก็บไฟฟ้าไว้ให้คุณใช้ในภายหลังได้นั่นเอง
การดูแลรักษา เครื่องปั่นไฟ
ก่อนจากกันไป ผมขอบอกวิธีบำรุงรักษา เครื่องปั่นไฟ คร่าวๆก่อนล่ะกัน ไม่ว่าคุณจะเลือกเครื่องปั่นไฟ แบบไหนก็ตาม สิ่งสำคัญคือคุณต้องบำรุงรักษาอย่างสม่ำเสมอเพื่อให้แน่ใจว่าเครื่องทำงานได้ดี และปลอดภัยเมื่อคุณต้องการ
อย่างแรก สิ่งสำคัญคือคุณต้องตรวจสอบ และเปลี่ยนน้ำมันเครื่อง ผมขอแนะนำให้คุณตรวจสอบน้ำมันเครื่องก่อนใช้งาน และเปลี่ยนน้ำมันเครื่องทุกๆ 100 ชั่วโมงโดยประมาณ ขณะที่คุณกำลังตรวจสอบน้ำมันเครื่อง ให้ใช้เวลาตรวจสอบตัวกรอง และหัวเทียนเพื่อให้แน่ใจว่าอยู่ในสภาพดีอยู่ไหม
ควรใช้ เครื่องปั่นไฟ บ้างอย่าปล่อยให้ เครื่องปั่นไฟ อยู่นิ่งนานเกินไปโดยไม่ได้ใช้งาน การใช้เครื่องปั่นไฟ จะช่วยเผาผลาญความชื้น และชาร์จแบตเตอรี่ใหม่ และเมื่อคุณไม่ได้วางแผนที่จะใช้งานเป็นเวลานานกว่าสองสามสัปดาห์ ควรปล่อยให้มันแห้ง เพื่อไม่ให้มีน้ำมันอยู่ในท่อ สุดท้ายนี้ อย่าลืมจัดเก็บ เครื่องปั่นไฟ ของคุณอย่างเหมาะสม ไม่ควรเก็บ เครื่องปั่นไฟ ไว้กลางแจ้ง