Customers Also Purchased
การเลือกปั๊มน้ำสำหรับสระว่ายน้ำขึ้นอยู่กับขนาดของสระและความต้องการในการไหลของน้ำ โดยทั่วไปแล้ว ปั๊มน้ำสำหรับสระว่ายน้ำควรมีความสามารถในการไหลน้ำให้เพียงพอสำหรับการกระจายน้ำไปทั่วสระ ควรเลือกปั๊มที่มีกำลังสูงพอที่จะทำงานได้อย่างเหมาะสมกับขนาดของสระของคุณ และควรเลือกปั๊มที่มีคุณภาพดีเพื่อประสิทธิภาพในการทำงานและความทนทานในการใช้งานในระยะยาว นอกจากนี้ ควรพิจารณาปัจจัยเสริมเพิ่มเติมอีก ต่อไปนี้เป็นคำแนะนำถึงขั้นตอนที่จะช่วยให้คุณเลือกปั็มสำหรับสระว่ายน้ำที่เหมาะสม จะเป็นยังไงไปลองอ่านกันเลย
ความสำคัญในการเลือกปั๊มน้ำ สำหรับสระว่ายน้ำ
สระว่ายน้ำเป็นส่วนเสริมที่ในสวนหลังบ้านที่หลายๆบ้านมีกัน ทั้งยังเป็นสถานที่สำหรับพักผ่อนและทำกิจกรรมกันในครอบครัวอีกด้วย อย่างไรก็ตาม เพื่อให้แน่ใจว่าสระว่ายน้ำของคุณมีความปลอดภัยและสะอาด การเลือกปั๊มที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญ เพราะมีหลายปัจจัยที่ส่งผลต่อการเลือกปั๊มสระว่ายน้ำเช่น ขนาดของสระ อัตราการไหลของปั๊ม ประสิทธิภาพ ประเภทของปั๊ม เป็นต้น ดังนั้น ต่อไปนี้เป็นคำแนะนำ 5 ขั้นตอนที่จะช่วยคุณเลือก ปั๊มน้ำ ที่เหมาะสมสำหรับ สระว่ายน้ำที่บ้านของคุณ
5 ขั้นตอนช่วยให้คุณเลือกปั๊มน้ำให้เหมาะสม
1. ดูว่าสระน้ำมีขนาดเท่าไหร่
ขั้นตอนแรกในการเลือกปั๊มที่เหมาะสมสำหรับสระว่ายน้ำของคุณคือการระบุขนาดของสระน้ำ เป็นอันดับแรกเพราะขนาดของสระจะเป็นตัวกำหนดขนาดของปั๊มที่คุณต้องการ สระที่ใหญ่จะต้องใช้ปั๊มที่ใหญ่ตามไปด้วย ในขณะที่สระที่เล็กกว่าอาจะใช้ปั๊มน้ำที่มีขนาดเล็กลงได้ นอกจากนี้ คุณจะต้องพิจารณาจำนวนคุณลักษณะในสระ เช่น มีน้ำตกหรือน้ำพุรึเปล่า เพราะจะส่งผลต่อขนาดของปั๊มที่ต้องการด้วย ควรคำนึงถึงปริมาณน้ำที่ต้องสูบผ่านระบบกรองด้วยหัวไดนามิกทั้งหมดโดยดูที่ค่า (TDH) ความต้านทานต่อการไหลที่ปั๊มสามารถรับได้เพราะ ยิ่ง TDH สูงเท่าใด ปั๊มนั้ก็จะยิ่งมีแรงดันที่มากขึ้นเท่านั้น
2. อัตราการไหล
อัตราการไหลของปั๊มจะวัดเป็นลิตรต่อนาที (LPM) สิ่งสำคัญคือต้องเลือกปั๊มที่มีอัตราการไหลให้เหมาะกับขนาดของสระว่ายน้ำของคุณ ยิ่งอัตราการไหลสูงเท่าไร ปั๊มก็จะสามารถสูบปริมาณของน้ำได้มากขึ้นเท่านั้นซึ่งเป็นสิ่งสำคัญในระบบการรักษาความสะอาดของน้ำภายในสระน้ำ นอกจากนี้ การพิจารณาอัตราการไหลโดยดูจากขนาดระบบการกรองของสระน้ำของคุณเป็นสิ่งสำคัญ ระบบการกรองที่เล็ก/ใหญ่จะรองรับอัตราการไหลที่ต่ำ/สูงขึ้น ตามความเหมาะสมเพื่อการกรองน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นนั่นเอง
3. ประเภทของปั๊ม
ปั๊มน้ำสำหรับสระว่ายน้ำที่นิยมกันในปัจจุบันจะมีอยู่สองประเภทหลักๆ ที่มักใช้กับสระว่ายน้ำขนาดเล็ก-กลางคือ ปั๊มน้ำแบบความเร็วเดียว (Single Speed Pump) และแบบปรับความเร็วได้ (Variable Speed Pump) ปั๊มแบบความเร็วเดียวให้การทำงานที่ความเร็วเดียวมอเตอร์จะหมุนใบพัดด้วยความเร็วเพียงระดับเดียวเท่านั้น ซึ่งจะขึ้นอยู่ตามแรงม้าของมอเตอร์ ในขณะที่ปั๊มแบบปรับความเร็วได้สามารถทำงานได้ที่ความเร็วต่างกัน ได้ ตอบโจทย์ในการใช้งานที่หลากหลาย ทำให้สามารถปรับความเร็วรอบ (RPM) ให้เหมาะกับการใช้งานแต่ละประเภทได้อย่างเหมาะสมที่สุด โดยทั่วไปแล้ว ปั๊มแบบปรับความเร็วได้มักจะประหยัดพลังงานมากกว่า แต่ก็อาจมีราคาแพงกว่าเช่นกัน
4. กำลังของมอเตอร์และกระแสไฟ
คุณอาจจะต้องพิจารณาว่าไฟที่จะติดตั้งเข้ากับปั๊มของคุณเป็นไฟแบบ เฟสเดียว (Single Phase) หรือแบบ สามเฟส (Three Phase) และปั๊มสระว่ายน้ำที่ต้องการสามารถเดินสายไฟเข้ากับระบบไฟฟ้าของคุณได้หรือไม่ ขนาดของแรงดันไฟอยู่ที่ 50Hz หรือ 60Hz เเพราะถ้านำมาใช้ไม่ตรงกัน อาจจะต้องเจอกับปัญหาว่า ปั๊มทำงานไม่เต็มที่หรือต่ำกว่ามาตรฐาน ซึ่งหมายความว่าข้อผิดพลาดนี้อาจจะส่งผลให้อัตราการไหลในปั๊มถูกลดประสิทธิภาพลงและทำให้ปั๊มมีอายุการใช้งานที่สั้นลง
5. ระดับเสียงของปั๊ม
โดยทั่วไปแล้วปั๊มน้ำมักจะมีเสียงดังซึ่งมากจากการทำงานของมอเตอร์ภายในเครื่อง ปั๊มน้ำในตลาดปัจจุบันมักจะมีค่าระดับเสียงที่ผู้ผลิตบอกไว้อยู่ที่ 70-80 เดซิเบล ซึ่งในบางครั้งอาจกลายเป็นเสียงรบกวนได้หาได้ยินเป็นเวลานานติดต่อกัน ดังนั้นหากจะเลือกปั๊มสำหรับสระว่ายน้ำแล้วก็ควรเลือกปั๊มที่มีเสียงเงียบจะดีกว่าเพราะจะได้ไม่รบกวนหากคุณกำลังผ่อนคลายหรือทำกิจกรรมกับครอบครัว อีกอย่างนึงหากปั็มยังมีเสียงดังให้ตรวจสอบดูว่าคุณยึดปั๊มเข้ากับฐานดีหรือไม่เพื่อลดเสียงรบกวนที่มักจะดังออกมา
สรุป
การเลือกปั๊มน้ำสำหรับสระว่ายน้ำ เริ่มง่ายๆจากการระบุขนาดของสระว่ายน้ำของคุณ เพราะมันจะช่วยกำหนดขนาดของปั๊มที่เหมาะสม จากนั้นพิจารณาคุณลักษณะของสระ เช่น การมีน้ำตกหรือน้ำพุ และจำนวนคุณลักษณะอื่นๆ ที่อาจส่งผลต่อขนาดและการทำงานของปั๊ม ต่อมาคำนึงถึงปริมาณน้ำที่ต้องสูบผ่านระบบกรอง โดยดูที่ Total Dynamic Head (TDH) เพื่อเลือกปั๊มที่มีแรงดันที่เหมาะสม จากนั้นเลือกอัตราการไหลของปั๊มให้เหมาะกับขนาดและระบบการกรองของสระน้ำของคุณ หลังจากนั้นเลือกประเภทของปั๊มที่เหมาะสมกับการใช้งานของคุณ สุดท้ายคือพิจารณากำลังของมอเตอร์และกระแสไฟที่เหมาะสม และพิจารณาระดับเสียงของปั๊มเพื่อความสบายในการใช้งานของคุณ
FAQ คำถามที่พบบ่อย
ปั๊มน้ำสระว่ายน้ำต้องใช้ประเภทใดดี
- ปั๊มแบบ Variable Speed Pump เป็นทางเลือกที่ดีเนื่องจากสามารถปรับความเร็วได้ตามความต้องการ ช่วยประหยัดพลังงานและลดค่าใช้จ่ายในการดำเนินการสระ
การเลือกปั๊มน้ำสระว่ายน้ำต้องพิจารณาสิ่งใดบ้าง
- การพิจารณาขนาดของสระน้ำ คุณลักษณะของสระ เช่น การมีน้ำตกหรือน้ำพุ และระบบการกรองน้ำ เป็นสิ่งสำคัญ
อัตราการไหลของปั๊มน้ำสระว่ายน้ำควรเป็นเท่าไหร่
- ควรเลือกอัตราการไหลที่เหมาะสมกับขนาดและระบบการกรองของสระน้ำ เพื่อให้สามารถรักษาความสะอาดของน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ
บทความอื่นๆที่น่าสนใจ - 8 ประเภทของ ปั๊มน้ำ และวิธีเลือกใช้งานให้เหมาะสม