ไดอัลเกจ คืออะไร มีวิธีใช้งานอย่างไร

Customers Also Purchased

ไดอัลเกจ คืออะไร มีวิธีใช้งานอย่างไร

ไดอัลเกจ (Dial gauge) เป็นเครื่องมือใช้สำหรับการเปรียบเทียบเชิงกลประเภทหนึ่งที่ใช้ตรวจสอบหรือ ทำการวัดค่าของความคลาดเคลื่อนต่างๆ ของชิ้นงาน หรือชิ้นส่วนที่ผลิตขึ้น ในการใช้งานหลายประเภทสำหรับส่วนการผลิต ไดอัลเกจเป็นเครื่องมือที่สามารถวัดได้อย่างเที่ยงตรงแม่นยำเป็นเครื่องมือวัดละเอียดที่ใช้สำหรับงานวัดชิ้นงานต่าง ๆ เช่น ในส่วนของ ความคดงอของเพลา ความบิดเบี้ยว ความเรียบ และการขนานกันของชิ้นงาน ตัวไดอัลเกจ นั้นประกอบด้วยกลไกการทำงานและชิ้นส่วนที่ถูกออกแบบเพื่อการวัดละเอียดที่ได้ความแม่นยำสูง ขนาดของช่องวัดและช่องวัดระยะจะแสดงอยู่บนหน้าปัดของไดอัลเกจ มีลักษณะเป็นเสกลวัดและเข็มชี้ ช่องวัดจะเป็นสเกลอยู่โดยรอบหน้าปัด สเกลวัดและตัวกรอบของไดอัลเกจสามารถทำการหมุนปรับตั้งให้ขีดเสกล 0 ตรงกับเข็มวัดได้ และที่ส่วนของหน้าปัดของไดอัลเกจยังประกอบด้วยเกจวัดจำนวนรอบของเข็มวัดที่หมุนในขณะที่วัดได้ไดอัลเกจสามารถวัดค่าความละเอียดได้สูงสุดที่ 0.01 หรือ 0.001 มม.

ส่วนประกอบของไดอัลเกจ

ไดอัลเกจ

ไดอัลเกจ ประกอบด้วยส่วนต่าง ๆ ดังต่อไปนี้
1. เคส ส่วนกรอบนอกของไดอัลเกจ
2. Lock  ตัวล็อคทำหน้าที่ล็อคตัวเข็มชี้ในตำแหน่งที่กำหนดเมื่อจะอ่านผลการวัด
3. ตัวชี้ยาว (เข็มยาว) แสดงค่าที่วัดได้บนสเกล
4. ตัวชี้สั้น (เข็มสั้น) แสดงจำนวนรอบที่ทำโดยตัวชี้ยาว สำหรับการหมุนตัวชี้แบบยาวแต่ละครั้ง ตัวชี้แบบสั้นจะเน้นการเคลื่อนไหวโดยการเลื่อนแถบเสกลหนึ่งเส้น
5. Scale ส่วนของไดอัลเกจที่แสดงค่าของตัวเลขจากผลการวัด
6. Stem เป็นก้านที่ใช้สำหรับแกนเลื่อนขึ้นและลงและโดยทั่วไปแล้วผู้ถือจะใช้เพื่อวางไดอัลเกจให้อยู่ในตำแหน่งที่ต้องการวัดค่าชิ้นงาน
7. แกนวัด (เรียกอีกอย่างว่าลูกสูบ): สามารถเลื่อนขึ้นและลงซึ่งจะทำหน้าที่เป็นอินพุตค่าไปยังตัวเข็มชี้การหมุน
8. หัววัด จุดที่ต่อประสานระหว่างชิ้นงานกับเครื่องมือวัด ส่วนนี้เป็นหนึ่งในตัวบ่งชี้ที่สำคัญที่สุดและมีหลายประเภท เช่น
- ไดอัลเกจแบบยาว ใช้สำหรับชิ้นส่วนในพื้นที่จำกัด
- แบบล้อเลื่อนใช้สำหรับวัดผิวความโค้ง
- แบบโยกขึ้นลงใช้สำหรับวัดชิ้นงานที่มีการแกว่งไปมา ไม่สามารถสัมผัสกับชิ้นงานโดยตรง ๆ ได้
- แบบแผ่นแบนใช้สำหรับการวัดผิวนูนของลูกสูบ

วิธีการใช้ ไดอัลเกจ

การใช้งาน ไดอัลเกจ จะต้องใช้งานร่วมกับขาตั้งแบบแม่เหล็กและทำการยึดเอาไว้ให้อยู่ในตำแหน่งที่มั่นคง ดังนั้นในการวัดจะต้องแน่ใจว่าฐานยึดไดอัลเกจได้ทำการยึดติดกับชิ้นงานที่จะวัดนั้นแน่น และอยู่ในมุมที่ถูกต้องที่กำลังจะทำการวัดการเคลื่อนที่ของชิ้นงานจะต้องทำการงัดชิ้นส่วนให้เคลื่อนตัวจนสุดระยะทั้งสองทิศทาง ไดอัลเกจที่นิยมใช้ในอุตสาหกรรม คือ 
        • ไดอัลเกจรุ่นมาตรฐาน (Standard Type)
        • ไดอัลเกจวัดความหนา (Dial Thickness Gauge)
        • ไดอัลเกจวัดความลึก (Dial Depth Gauge)
        • ไดอัลคาลิปเปอร์ เกจ (Dial Caliper Gauge)
ให้ทำการปรับตำแหน่งวัดให้หัววัดอยู่ในตำแหน่งที่ตั้งฉากกับผิวงานที่จะวัด เมื่อติดตั้งไดอัลเข้ากับชิ้นงานที่ต้องการวัดให้ปรับแกนวัดยุบเข้าไปที่ 0 มิลลิเมตรให้สังเกตุที่เข็มสั้น จากนั้นปรับหน้าปัดให้เลขศูนย์ตรงกับเข็มยาว ไดอัลเกจที่ได้รับความนิยมใช้งานด้านการวัดจะเป็นแบบ 2 ทางโดยมีค่าความละเอียดที่ 0.01 มิลลิเมตร(1/100 มิลลิเมลตร) จะมีช่วงการวัด 10 มิลลิเมตร

บนส่วนหน้าปัดของไดอัลเกจจะมีขัดเสกลวัดอยู่ 2 ส่วนหลัก ๆ คือ 
- ขีดเสกล วงนอก ตัวของเข็มยาวจะชี้ที่ค่าที่ได้จากการวัด เข็มยาวจะหมุด 1 รอบ โดยมีค่าเท่ากับ 1 มิลลิเมตร ส่วนช่องเล็กมีค่าเท่ากับ 0.01 มิลลิเมตร
- ขีดเสกล วงกลมเล็ก เข็มสั้นจะหมุนสวนทางกับเข็มยาว โดยเมื่อเข็มยาวเคลื่อนที่ผ่านไป 1 รอบ เข็มสั้นจะเลื่อนไป 1 ขีดหรือเท่ากับ 1 มิลลิเมตร

ไดอัลเกจ

วิธีการวัดเพลาด้วยไดอัลเกจ
- วางเพลาที่จะวัดลงบนวี-บล็อกซึ่งวางอยู่บนแท่นระดับ
- ตั้งไดอัลเกจกับแท่นระดับ วางปลายแกนวัดของไดอัลเกจลงบนผิวของแกนเพลา
- ปรับระยะการวัด โดยให้แกนวัดกดลงบนแกนเพลาหมุนเพลาอย่างช้า ๆ หาจุดบนผิวงานที่เข็มวัดแสดงค่าน้อยที่สุด จากนั้นให้หมุนกรอบหน้าปัดของไดอัลเกจให้เลข 0 ตรงกับเข็มวัด
- หมุนเพลาไป-มาอย่างช้าๆ และอ่านคำที่ช่องเข็มวัดเคลื่อนที่ออกไป

วิธีวัดการหมุนหนีตามเพลา
↪ 
นำบล๊อกเกจที่มีขนาดเท่าๆกับชิ้นงานมาวัดสอบเทียบก่อน
↪ หมุนเสกลให้ตรงกับเลข 0
↪ กำหนดจุดบนเพลาที่ต้องการวัด
↪ ทำการหมุนเพลาด้วยมืออย่างช้า ๆ เพื่อทำการหาจุดสูงสุดหรือต่ำสุด
↪ หมุนเพลาอีกครั้งเพื่อดูการอ่านค่าที่สูงที่สุด ผลลัพธ์จะเรียกว่า “TIR” หรือ Total Indicator Runout

วิธีวัดความตรงของเพลา
↪ 
นำบล๊อกเกจที่มีขนาดเท่าๆกับชิ้นงานมาวัดสอบเทียบก่อน
↪ หมุนเสกลให้ตรงกับเลข 0
 กำหนดจุดบนเพลาที่ต้องการวัด
↪ ตั้งจุดบนเพลาที่ปลายด้านหนึ่งและทำให้ตัวบ่งชี้เป็น 0
↪ เลื่อนตัวบ่งชี้ไปตามความยาวของเพลาโดยที่ไม่ต้องหมุนเพลา
↪ ทำการอ่านค่าวัดบนตัวบ่งชี้

ไดอัลเกจ

วิธีทดสอบการหมุนเพื่อหาจุดศูนย์กลางของรูกลม
↪ 
ทำการติดตั้งตัวบ่งชี้การทดสอบเข้ากับแกนหมุนของเครื่อง
↪ เลื่อนแกน X และ Y เพื่อทำการหาตำแหน่งตัวชี้ให้ใกล้กับศูนย์กลางของรูมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ด้วยตาเปล่า
↪ วางตำแหน่งของเข็มชี้ไว้ใกล้กับขอบหลุม
↪ ย้ายแกน X และ Y อีกครั้งตามความจำเป็นจนกว่าจะมีระยะห่างจากจุดของตัวบ่งชี้ถึงขอบของรู
↪ ตอนนี้ตัวบ่งชี้ที่อยู่ด้านในรูมห้แกนหมุนไปที่ X+ และ X- ในขณะที่ปรับแกน X จนกว่าจะเห็นการอ่านคาเดียวกันทั้งสองด้าน
↪ ทำซ้ำขั้นตอนก่อนนี้ แต่ใช้ แกน Y+ และ Y- และปรับแกน Y
↪ ตอนนี้ตรวจสอบเส้นรอบวงทั้งหมดของรูเพื่อสังเกตุการเคลื่อนไหวของเข็มของตัวเสกลปรับตำแหน่งที่ต้องการ

วิธีการวัดความสูงของชิ้นส่วน
↪ 
ขั้นตอนแรกเราจำเป็นต้องมีแผ่นพื้นผิว ที่เรียบและอยู่ในระนาบเดียวกัน เช่นโต๊ะ เครื่องกัด หรือสว่านแท่น
↪ ทำการกำหนดความสูงที่ต้องการของชิ้นงานและใช้เกจบล๊อกเพื่อวางซ้อนกันให้ได้ความสูงที่แน่นอน
↪ ติดตั้งตัวชี้เข้ากับขาตั้งที่มีความมั่นคงและเลื่อนได้ง่ายบนพื้นผิวหรือโต๊ะ
↪ ตั้งค่าตัวชี้ให้เป็นศูนย์โดยใช้เกจบล๊อก
↪ ค่อย ๆ เลื่อนเกจบล๊อกออกห่างจากตัวชี้และทำการเลื่อนชิ้นงานเข้าไป
↪ ทำการอ่านค่าความแตกต่างของตัวเข็มชี้

วิธีใช้ตัววัด วัดมุม
↪ 
จำเป็นต้องใช้แผ่นพื้นผิวที่มีความเรียบ และมีความสม่ำเสมออยู่
↪ กำหนดมุมที่ต้องการของชิ้นงานและใช้บล๊อกเกจ และแผ่นไซต์เพื่อให้ได้มุมที่มีความแน่นอน
↪ ทำการติดตั้งตัวบ่งชี้เข้ากับชิ้นงานและขาตั้งที่ตั้งได้อย่างมั่นคง และสามารถเลื่อนได้ง่าย
↪ ทำการวางชิ้นงานของคุณบนแผ่นไซต์ และตั้งค่าของตัวบ่งชี้ให้เป็นศูนย์ที่ปลายด้านหนึ่งที่กำลังทำการวัด
↪ ค่อย ๆ เลื่อนตัวบ่งชี้ไปตามความยาวของมุมในขณะที่ทำการอ่านค่าความแตกต่างบนตัวบ่งชี้

จุดเด่นของการใช้ ไดอัลเกจ
✔ 
การวัดขนาดเป็นการอ่านค่าโดยตรงจากเสกลหน้าปัดและเข็ม จึงมีความคลาดเคลื่อนในการอ่านค่าน้อยมาก
✔ มีขนาดเล็ก กะทัดรัด น้ำหนักเบา ราคาไม่แพง และใช้งานง่าย
✔ สามารถวัดขนาดด้วยช่วงการเคลื่อนที่กว้างและสามารถวัดแบบต่อเนื่องได้
✔ สามารถวัดขนาดได้หลายตำแหน่งพร้อมกันได้

ไดอัลเกจในอุตสาหกรรมมีมากมายหลายชนิดให้เลือกใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นประเภทไหน ๆ การอ่านค่าใกล้เคียงกันนอกจากนี้ในปัจจุบันมี ไดอัลเกจแบบดิจิทัล  เลือกดู ไดอัลเกจแบบ อื่น ๆ เพิ่มเติม ที่ช่วยให้สามารถอ่านค่าได้สะดวกยิ่งขึ้นอีกด้วย