เรื่องน่ารู้ของ รถเข็น ที่คุณอาจไม่เคยรู้มาก่อน!

รถเข็นอเนกประสงค์แบบ 2 ชั้น 2 ด้ามจับ PRESTAR NB-104WR

4,450 บาท

ตัวเบรกล้อรถเข็น PRESTAR ACC.STOPPER-NB สำหรับรุ่น NB

1,090 บาท

ตัวเบรกล้อรถเข็น PRESTAR ACC.STOPPER-NF สำหรับรุ่น NF

1,200 บาท

ตัวเบรกล้อรถเข็น PRESTAR ACC.STOPPER-PB สำหรับรุ่น PB

1,090 บาท

รถเข็น Wolfcraft 5525000 TS 1500 Transportsystem

10,070 บาท

รถเข็นอเนกประสงค์แบบมีตะแกรง 2 ชั้น 2 ด้ามจับ PRESTAR NF-327WR

9,450 บาท

การเคลื่อนย้ายวัสดุและอุปกรณ์ที่มีน้ำหนักมาก เป็นส่วนหนึ่งของขั้นตอนการปฏิบัติงานในคลังสินค้าและพื้นที่การผลิตหลายแห่ง เมื่อต้องเคลื่อนย้ายสิ่งของที่มีน้ำหนักมาก ต้องมีมาตรการป้องกันบางอย่างเพื่อให้แน่ใจว่าการจราจรในพื้นที่ร้านค้าได้รับการจัดการอย่างเหมาะสม และหลีกเลี่ยงอุบัติเหตุ คำนึงถึงความปลอดภัยทั้งพนักงานและสินค้า เช่น มีการแบ่งเส้นสำหรับคนเดินและสำหรับ --> รถเข็น <-- หรือรถต่างๆ แยกออกจากกันชัดเจน 

โดยทั่วไปหากจะเคลื่อนย้ายสิ่งของควรจะใช้ รถเข็น อุตสาหกรรม สำหรับงานหนักในการขนย้ายอุปกรณ์หนักทั่วพื้นที่คลังสินค้าหรือโรงงาน ฉะนั้น หากจะเลือก รถเข็น สำหรับงานหนักจึงมีรายละเอียดที่สำคัญบางอย่างที่ต้องระมัดระวัง บทความนี้จะกล่าวถึงเรื่องน่ารู้ของ รถเข็น ที่ใครหลายคนอาจไม่เคยรู้มาก่อน สิ่งเหล่านี้จะช่วยให้เลือก รถเข็น มาใช้งานได้อย่างถูกต้อง เหมาะสม

กำลังโหลดของ รถเข็น

ก็คือความสามารถในการบรรทุกน้ำหนักของ รถเข็น ขั้นแรกที่ต้องทำเมื่อเลือกซื้อ รถเข็น สำหรับงานหนัก คือการทำความเข้าใจกับน้ำหนักที่ต้องการบรรทุก ควรกำหนดน้ำหนักสูงสุดที่ต้องการบรรทุกไว้ก่อน และควรเพิ่มน้ำหนักจากที่กำหนดขึ้นอีก 25% หรือ 30% เพื่อให้แน่ใจว่าการใช้งาน รถเข็น จะปลอดภัยในสถานการณ์ต่างๆ ที่คาดไม่ถึง เช่น หากต้องการซื้อ รถเข็น มาบรรทุกของหนัก 300 กิโลกรัม รถเข็น ที่ซื้อจะต้องรับน้ำหนักได้มากกว่า 330 กิโลกรัม

ล้อหรือยางล้อหมุนของ รถเข็น

รถเข็น สำหรับงานหนักจะใช้ล้อเลื่อนหรือยางหมุนเพื่อการรองรับน้ำหนักที่ดี ซึ่งจำเป็นอย่างมากในการเคลื่อนย้ายสิ่งของต่างๆ ที่น้ำหนักมาก ดังนั้น ล้อจึงต้องมีความสามารถในการบรรทุกของหนักและเคลื่อนที่ไปมาให้ราบรื่น โดยต้องมีการโค้งงอภายใต้แรงเค้นที่เหมาะสม สามารถเลี้ยวหรือหมุนไปมาได้อย่างสะดวก ความเร็วที่ล้อสามารถเคลื่อนที่ได้ก็สำคัญเช่นกัน ซึ่งจะสัมพันธ์กับขนาดของล้อ วัสดุที่ใช้ก็ควรเหมาะกับพื้นที่ที่จะใช้งานด้วย เช่น หากพื้นเรียบ ลื่น วัสดุล้อ รถเข็น ก็ไม่ควรลื่นเกินไป อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่าย

วัสดุของ รถเข็น

วัสดุที่ใช้ทำฐานวางของและโครงสร้างของ รถเข็น มีผลต่อการรับน้ำหนักและประเภทงานที่จะนำไปใช้ จึงควรเลือกวัสดุของ รถเข็น ให้ถูกประเภท ตัวอย่างเช่น พลาสติกจะรับน้ำหนักได้น้อย เหมาะกับขนย้ายของที่มีน้ำหนักเบา ราคาไม่แพง อลูมิเนียมหรือโลหะอื่นๆ จะรับน้ำหนักได้มากกว่า แข็งแรงกว่า และมีราคาแพงกว่าตามไปด้วย

สภาพแวดล้อมที่เหมาะสมต่อการใช้ รถเข็น

สภาพแวดล้อมที่ต้องใช้ รถเข็น ในอุตสาหกรรมต่างๆ เพื่อขนย้ายงานหนักก็เป็นปัจจัยสำคัญที่ต้องพิจารณาก่อนจะเลือกซื้อ รถเข็น เช่นกัน เนื่องจากต้องมีการกำหนดความกว้างเอาไว้ให้พอดีสำหรับการวิ่งของ รถเข็น และในบางกรณีความสูงของ รถเข็น ที่จะใช้ก็อาจมีผลด้วย ข้อสำคัญที่ควรพิจารณาด้านสภาพแวดล้อมในการใช้งานจึงมีหลายข้อ ได้แก่ พื้นที่ในการวิ่ง สภาพพื้น และน้ำหนักที่ต้องเข็นย้าย เช่น พื้นรับน้ำหนักสูงสุดได้เท่าไหร่ หากต้องการจะบรรทุกน้ำหนักเกินที่พื้นจะรับไหว พื้นก็จะเสียหาย ต้องซ่อมแซม ซึ่งใช้งบประมาณค่อนข้างมาก พื้นที่นั้นเรียบหรือขรุขระ แรงเสียดทานมากหรือน้อย ล้อของ รถเข็น ที่เลือกซื้อต้องวิ่งบนพื้นที่นั้นๆ ได้ดี เช่น หากจะใช้วิ่งในสวนหรือฟาร์มหรือเรือนกระจก ควรเลือกที่เป็นล้อลม รองรับการกระเทือนได้ดี

รถเข็น ขับเคลื่อนด้วยพลังงาน หรือ ขับเคลื่อนด้วยพนักงาน

รถเข็น มีหลายขนาด หลายประเภท และรองรับน้ำหนักได้ต่างกัน หาก รถเข็น นั้นหนักเกินไปพนักงานก็จะเข็นหรือลากไม่ไหว ดังนั้น ก่อนจะซื้อ รถเข็น การกำหนดน้ำหนักที่ต้องการบรรทุกไว้ตั้งแต่แรกจึงมีส่วนในการเลือกระบบขับเคลื่อนด้วยเช่นกัน หากซื้อไปเพื่อใช้บรรทุกขนย้ายของหนักๆ อย่างเช่น ชิ้นส่วนรถยนต์ และชิ้นส่วนประกอบขนาดใหญ่ แม้ รถเข็น จะเป็นเครื่องทุ่นแรงแต่ก็ยังไม่เหมาะจะใช้แรงของมนุษย์เข็นย้าย ดังนั้น จึงแนะนำให้ใช้ รถเข็น ประเภทไฟฟ้าจะดีกว่า นอกจากเข็นของหนักๆ ได้แล้วยังสามารถพ่วงติดกันหลายคันแล้วลากทีเดียวได้ด้วย 

ประโยชน์ของ รถเข็น

- ช่วยทุ่นแรงได้มาก ขนย้ายของหนักได้สะดวกสบาย

- น้ำหนักเบา จัดเก็บง่าย

- ขนย้ายของได้หลายประเภท มีอุปกรณ์เสริมที่ช่วยให้การใช้งานให้มีประสิทธิมากขึ้น เช่น เสา สายรัด ชั้นวาง ตะกร้า ลิ้นชัก รถต่อพ่วง ฯลฯ

- ประหยัดเวลา เพราะขนของได้ที่ละมากๆ และขนย้ายได้รวดเร็ว 

- ประหยัดคน ไม่ต้องใช้จำนวนคนเท่าจำนวนของ หรือของชิ้นใหญ่บางครั้งก็ต้องใช้หลายคนช่วยยก หากใช้ รถเข็น ก็สามารถใช้คนคนเดียวลากไปมาได้ตามที่ต้องการ

- ปลอดภัย ช่วยหลีกเลี่ยงการบาดเจ็บหรืออุบัติเหตุของพนักงาน เนื่องจากการยกของหนักเกินกำลัง หรือขนย้ายร่วมกันหลายคนแต่การก้าวเดินไม่ประสานกัน งานในลักษณะนี้มีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดอุบัติเหตุได้ง่าย อีกทั้งยังป้องกันไม่ให้สินค้าหล่นเสียหายด้วย

จากเนื้อหาด้านบน จะเห็นได้ว่า รถเข็น แม้เป็นอุปกรณ์ธรรมดาแต่ก็ไม่อาจเลือกซื้ออย่างไร้ความใส่ใจได้ ไม่เช่นนั้นจะเป็นการซื้อมาทิ้งเสียเปล่า หากนำเรื่องราวในวันนี้ไปใช้ประกอบการตัดสินใจก็จะช่วยให้เลือกซื้อ รถเข็น ได้เหมาะสมกับการใช้งานมากขึ้น เกิดประโยชน์มากขึ้น

ดู --> รถเข็น <-- เพิ่มเติม