VIBRATION CONTROL ระบบควบคุมการสั่นสะเทือนที่ช่วยให้คุณทำงานได้นานขึ้น

      กลไกในเครื่องมือไฟฟ้าจะมีแรงสั่นสะเทือนอยู่เสมอ ไม่มากก็น้อย สำหรับเครื่องใช้ไฟฟ้าทั่วไปหรืออุปกรณ์ขนาดเล็กจะมีแรงสั่นสะเทือนไม่มากนัก หรือไม่ค่อยส่งผลต่อผู้ใช้นอกจากก่อเกิดความรำคาญ แต่สำหรับเครื่องมือช่างไฟฟ้าหรือ Power Tools นั้น นอกจากความรำคาญแล้วมันยังส่งผลต่อสุขภาพร่างกายของช่างและงานที่ทำด้วย ดังนั้น ผู้ผลิตเครื่องมือช่างไฟฟ้าจึงได้พัฒนาสิ่งที่เรียกว่า VIBRATION CONTROL ขึ้นมา


ทำไมต้องมีระบบ VIBRATION CONTROL ?

      เครื่องมือช่างไฟฟ้าที่ต้องถือไว้ขณะทำงานและยังมีแรงสั่นสะเทือนสูงทำให้ร่างกายผู้ใช้งานต้องรับภาระหนัก ทั้งน้ำหนักที่มาก เสียงดัง และอุณหภูมิสูง ทำให้กล้ามเนื้อที่ต้องเกร็งและออกแรงค้างนานๆ เสื่อมสภาพเร็ว หรือเกิดความเสียหายของกระดูกถาวร และมีอาการมือแขนสั่น (HAVS) หรือภาวะต่างๆ อีกมาก เช่น Vibration White Finger หรือ Carpal Tunnel Syndrome ที่ผู้มีอาการมักประสบกับอาการนิ้วและมือเจ็บปวด รู้สึกซ่านใต้ผิวหนังหรือชา ซึ่งเป็นผลมาจากความเสียหายต่อเส้นประสาทและหลอดเลือดที่ได้รับแรงสั่นสะเทือนมากเกินไป นอกจากนี้ยังส่งผลให้กล้ามเนื้ออ่อนแรง การจับสิ่งของ กระชับมือ และความคล่องแคล่วลดลง ซึ่งทำให้งานในแต่ละวันหรือการใช้ชีวิตยากขึ้น

      ดังนั้น เครื่องมือที่คำนึงถึงหลักการยศาสตร์ (Ergonomics) จึงจำเป็นกับผู้ใช้งานมากกว่าที่คิด ในยุโรปมีข้อบังคับสำหรับผู้ผลิตที่ผลิตเครื่องมือช่างว่าต้องไม่เกินระดับใด ฉะนั้น ไม่ต้องแปลกใจที่เครื่องมือช่างมาตรฐานยุโรปจะมีราคาแพง เพราะนอกจากภาษีแล้ว ความใส่ใจด้านความปลอดภัยก็มีต้นทุนสูงเช่นกัน

      เครื่องมือช่างไฟฟ้า ที่มีแรงสั่นสะเทือนสูงส่วนมากจะเป็นเครื่องเจาะในอุตสาหกรรมหนักหรือการก่อสร้าง เช่น สว่านกระแทก สว่านโรตารี่ เครื่องเจาะคอนกรีต เครื่องสกัดปูน เป็นต้น เครื่องมือเหล่านี้เป็นสิ่งที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงแรงสั่นสะเทือนได้ ไม่เช่นนั้นจะไม่สามารถใช้งานตามวัตถุประสงค์ของเครื่องมือได้เลย ทำได้แค่ให้สั่นสะเทือนน้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

      ตั้งแต่วันที่ 25 มิถุนายน ปี ค.ศ. 2002 เป็นต้นมา ได้มีการประกาศข้อบังคับ Physical Agents Directive (Directive 2002/44/EC - vibration) ในยุโรปเพื่อสุขภาพและความปลอดภัยของแรงงานในชุมชน ซึ่งได้กลายเป็นกฎหมายบังคับใช้ในภายหลัง ทำให้ผู้ผลิตมีหน้าที่ให้คำแนะนำผู้ใช้เกี่ยวกับการปล่อยแรงสั่นสะเทือนผ่านการใช้งานเครื่องมือไฟฟ้าที่ผลิตออกจำหน่ายตามคำแนะนำความปลอดภัย (HSE) เช่น วิธีการใช้งานที่ปลอดภัย ข้อกำหนดและระยะเวลาในการใช้งานเครื่องมือไฟฟ้านั้นๆ ติดต่อกันเป็นเวลานาน เป็นต้น


ประโยชน์ของ VIBRATION CONTROL

      จากตอนต้นของบทความทุกท่านคงจะทราบกันแล้วว่าแรงสั่นสะเทือนในเครื่องมือไฟฟ้าส่งผลร้ายแรงอย่างไรบ้าง เพื่อไม่ให้สุขภาพของคนทำงานได้รับผลกระทบ นอกจากข้อแนะนำในการใช้งานอย่างปลอดภัยแล้ว ผู้ผลิตเจ้าต่างๆ ยังพัฒนาสินค้าให้มีแรงสั่นสะเทือนน้อยลง หรือส่งไปที่มือและแขนของผู้ใช้น้อยลง การแข่งขันนี้เป็นประโยชน์กับผู้ใช้งานอย่างยิ่ง

      เครื่องมือไฟฟ้าที่ทันสมัยจำนวนมากในปัจจุบัน เริ่มใช้เทคโนโลยี VIBRATION CONTROL ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยลดการสั่นสะเทือนได้เป็นอย่างดี ลดความเสี่ยงของผู้ใช้งาน ส่งผลให้ประสิทธิภาพและประสิทธิผลจากการใช้เครื่องมือนั้นๆ ดีขึ้นรอบด้าน เช่น เมื่อแรงสั่นสะเทือนน้อยลงเสียงก็เบาลง เครื่องมือมีความคลาดเคลื่อนน้อยลง ช่วยให้ทำงานได้แม่นยำรวดเร็วขึ้น ลดเวลาการทำงานของช่าง


      แม้ว่าเครื่องมือไฟฟ้าจะมีระบบ VIBRATION CONTROL แล้ว แต่อันตรายที่เกิดจากการสั่นสะเทือนก็ไม่ควรมองข้าม โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับเครื่องมือที่ต้องใช้งานเป็นเวลานานหลายชั่วโมงติดต่อกันต่อวัน ซึ่งความเสี่ยงนั้นสามารถจัดการได้โดยการลดเวลาในการใช้เครื่องมือ และการหมุนเวียนงานที่ทำหากเป็นไปได้


เครื่องมือไฟฟ้าที่มีระบบ VIBRATION CONTROL

      เครื่องมือที่มีระบบ VIBRATION CONTROL ช่วยลดปริมาณการสั่นสะเทือนที่คนใช้งานจะได้รับในระหว่างวันทำงาน และยังสามารถช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานได้ด้วย เนื่องจากสามารถเพิ่มระยะเวลาในการใช้งานเครื่องมือได้อย่างปลอดภัยมากขึ้น ยกตัวอย่าง เครื่องมือไฟฟ้าของ BOSCH จากเยอรมันนี ที่มาพร้อมระบบควบคุมการสั่นสะเทือน ช่วยให้ผู้ใช้ทำงานได้นานขึ้นโดยมีความเหนื่อยล้าน้อยที่สุด และมีผลกระทบต่อสุขภาพน้อยลง

      ระบบป้องกันการสั่นสะเทือนของ BOSCH ใช้กลไกต่างๆ เช่น เครื่องถ่วงน้ำหนักในตัว หรือด้ามจับแบบลดแรงสั่นสะเทือน ซึ่งช่วยลดการสั่นสะเทือนได้เป็นอย่างมาก เมื่อทำงานกับเครื่องมือไฟฟ้ามักจะมีความเสี่ยงต่อการบาดเจ็บทางร่างกายหรือโดนฝุ่นเยอะ แต่คนทำงานต้องมุ่งเน้นที่ประสิทธิภาพและผลลัพธ์ที่ยอดเยี่ยมจากการใช้เครื่องมือเป็นหลัก ไม่อาจคำนึงถึงปัญหาเกี่ยวกับอันตรายที่อาจเกิดขึ้นได้

      ดังนั้น BOSCH จึงพัฒนาและผลิตเครื่องมือไฟฟ้าที่มีคุณสมบัติการป้องกันเชิงรุกแบบบูรณาการ ซึ่งเป็นเครื่องมือที่เป็นนวัตกรรมใหม่ ช่วยลดความเสี่ยงจากการบาดเจ็บหรือโรคในระยะยาว ในขณะที่ยังให้ประสิทธิภาพที่ดีที่สุดแก่ผู้ใช้แม้ในสภาวะที่ยากลำบากที่สุด


      ดูเรื่อง >>> เครื่องมือช่างไฟฟ้า <<< เพิ่มเติม