เคยสังเกตกันหรือไม่ว่าบนกล่องเครื่องมือ ตัวเครื่องมือ หรือเอกสารของเครื่องมือมีสัญลักษณ์กำกับไว้หลายอย่างเลยทีเดียว ซึ่งสัญลักษณ์เหล่านี้ส่วนใหญ่มีขึ้นเพื่อแสดงมาตรฐานและความปลอดภัย เป็นการรับรองหรือเตือนผู้ใช้เครื่องมือ หนึ่งในนั้นมักจะมีสัญลักษณ์คล้ายตัวอักษร 2 ตัว นั่นก็คือ CE นั่นเอง
ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจก่อนว่า มาตรฐาน กับ คุณภาพ นั้นแตกต่างกัน มาตรฐาน คือบรรทัดฐานที่มีมาตรชี้วัดหรือตัวบ่งชี้ที่ชัดเจน มีหลักเกณฑ์ชี้ชัด เป็นค่าตายตัว ส่วนคุณภาพเป็นสิ่งที่ไม่อาจบ่งบอกได้ชัดเจน และคุณภาพของแต่ละคนก็อาจแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับความพอใจด้วยบางส่วน และอาจจะรับรู้ได้มากขึ้นเมื่อมีตัวเปรียบเทียบ ยกตัวอย่างให้เห็นภาพเช่น น้ำหนักตัวอยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสมคือมาตรฐาน ส่วนสุขภาพดีหรือไม่คือคุณภาพ ซึ่งคนที่มีน้ำหนักตัวเหมาะสมอาจจะสุขภาพดีหรือไม่ดีก็ได้
ซึ่งในที่นี้ CE คือเครื่องหมายที่แสดงเกี่ยวกับมาตรฐาน
เครื่องหมาย CE คืออะไร?
CE ย่อมาจากภาษาฝรั่งเศส Conformite Europeene ในภาษาอังกฤษคือ European Conformity เป็นเครื่องหมายรับรองมาตรฐานด้านความปลอดภัยของทวีปยุโรปที่สอดคล้องกับข้อบังคับของสหภาพยุโรป หรือ EU มีขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ. 1985 เครื่องหมาย CE ไม่ใช่กฎหมาย แต่เป็นกฎระเบียบว่าด้วยความปลอดภัยในสหภาพยุโรปที่กำหนดให้ผลิตภัณฑ์เชิงพาณิชย์บางประเภททั้งนำเข้าและส่งออกต้องผ่านการทดสอบที่ระบุไว้ ทั้งด้านสุขภาพ ความปลอดภัย และสิ่งแวดล้อม จึงจะสามารถจำหน่ายในสหภาพยุโรปและเขตเศรษฐกิจยุโรปได้อย่างถูกกฎหมาย
สำหรับผลิตภัณฑ์บางชนิด ผู้ผลิตสามารถแสดงเครื่องหมาย CE ได้ด้วยตัวเอง เว้นแต่ผลิตภัณฑ์ประเภทอื่นๆ ที่จำเป็นต้องผ่านการทดสอบโดยบริษัท สถาบัน หรือองค์กรอิสระที่ EU รับรอง เช่น TÜV SÜD ที่เป็นผู้ให้บริการทดสอบมาตรฐาน CE แก่บริษัทต่างๆ ทั่วโลก สามารถจัดเตรียมเอกสารทางเทคนิคเพื่อเป็นหลักฐานแสดงว่าผลิตภัณฑ์นั้นๆ มีความสอดคล้องกับข้อกำหนดหรือไม่ อย่างไร
การใช้บริการจากองค์กรอิสระในการช่วยตรวจสอบมาตรฐาน CE ของสินค้าทำให้ง่ายและสะดวกต่อผู้ผลิตมาก เพราะกฎหรือบทบัญญัติของ EU ก็มีการเปลี่ยนแปลงเป็นระยะ ซึ่งผู้ผลิตอาจไม่รู้ แต่องค์กรอิสระจะรู้และช่วยจัดการให้ที่เดียวจบอย่างครบครัน
เครื่องหมาย CE ช่วยยืนยันว่าผลิตภัณฑ์นั้นๆ ได้รับการทดสอบและตรวจสอบคุณภาพตามมาตรฐานของ EU แล้ว และได้รับการยอมรับให้จำหน่ายในตลาด EU ได้ ดังนั้น เราจึงจะเห็นว่าบนกล่องหรือตัวเครื่องมือช่าง โดยเฉพาะเครื่องมือที่ผลิตในประเทศแถบยุโยปหรือคนยุโรปนิยมใช้จะมีเครื่องหมาย CE ติดอยู่เสมอ ในทางตรงกันข้าม การไม่ปรากฏเครื่องหมาย CE อาจทำให้ไม่ได้รับการอนุมัติให้จำหน่ายในตลาด EU ได้
เครื่องหมาย CE มีความสำคัญอย่างไร?
ในเชิงผู้ผลิต ผู้นำเข้าและจัดจำหน่าย : เมื่อมีเครื่องหมาย CE บน เครื่องมือไฟฟ้า และผลิตภัณฑ์ก็ทำให้ได้รับอนุญาตทั้งการนำเข้าและส่งออกอย่างสะดวกในสหภาพยุโรป สามารถเคลื่อนย้ายเข้าออกประเทศสมาชิก EU กว่า 30 ประเทศในเขตเศรษฐกิจยุโรปได้อย่างอิสระ นั่นหมายความว่าสินค้าจะสามารถเข้าถึงผู้บริโภคกว่า 500 ล้านคนได้
แต่ถ้าหากมีการตรวจพบว่าผลิตภัณฑ์ที่ควรจะมีเครื่องหมาย CE แต่ดันไม่มีเครื่องหมายปรากฏ ผู้ผลิตหรือตัวแทนจำหน่ายอาจโดนโทษปรับ และอาจต้องเรียกคืนสินค้าทั้งหมดเพื่อตรวจสอบอย่างละเอียดและดำเนินการตามระเบียบต่อไป ซึ่งจะทำให้ต้องสูญเสียค่าใช้จ่ายสูงขึ้นและขาดความน่าเชื่อถือ การจำหน่ายสินค้าครั้งถัดไปอาจยุ่งยากกว่าเดิม ทำให้เสียทั้งเวลาและทรัพสินโดยเปล่าประโยชน์ ดังนั้นจึงจำเป็นต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดให้ถูกต้องอยู่เสมอ เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบในภายหลัง
ผู้ผลิตมีบทบาทสำคัญในการทำให้ผู้บริโภคมั่นใจว่าผลิตภัณฑ์ที่วางจำหน่ายในตลาดเดียวกันและที่ขยายออกไปใน EEA ว่ามีความปลอดภัย เป็นความรับผิดชอบในการดำเนินการ ประเมินความสอดคล้องทางเทคนิคและออกประกาศเกี่ยวกับความสอดคล้องของสหภาพยุโรปและติดเครื่องหมาย CE ในผลิตภัณฑ์
ในส่วนของผู้นำเข้าและผู้จัดจำหน่ายก็ช่วยให้แน่ใจได้ว่าเฉพาะผลิตภัณฑ์ที่เป็นไปตามกฎของสหภาพยุโรปซึ่งมีเครื่องหมาย CE เท่านั้นที่จะวางในตลาด EEA ในฐานะตัวกลางระหว่างผู้ผลิตและผู้ค้าที่มีมาตรฐานในการทำการค้า พวกเขาต้องมีความรู้เกี่ยวกับระเบียบหรือข้อกำหนดทางกฎหมาย และต้องแน่ใจว่าผลิตภัณฑ์ที่พวกเขาจำหน่ายหรือนำเข้านั้นตรงตามข้อกำหนดหรือหรือไม่
ในเชิงผู้บริโภค : เพราะทางเลือกเยอะ จึงไม่แปลกที่ผู้บริโภคจะตัดสินใจจากหลายปัจจัยกว่าจะซื้อของอย่างใดอย่างหนึ่ง การที่ได้รู้ว่าสินค้ามีมาตรฐานใดบ้างก็ช่วยให้วางใจสินค้านั้นได้มาก อย่างน้อยก็รู้ว่าสินค้านั้นซื้อไปแล้วไม่เสียเงินเปล่า ใช้งานได้จริงและไม่เป็นอันตราย โดยเฉพาะสินค้าที่เป็นเครื่องมือเครื่องจักร มีการติดตั้งกลไกและผ่านการผลิตหลายขึ้นตอน ผู้บริโภคต้องมั่นใจได้ว่าสินค้านั้นปลอดภัย ไม่มีสารพิษเจือปนหรือตกค้าง ไม่สร้างมลพิษกับสิ่งแวด ซึ่งมาตรฐาน CE สามารถบ่งบอกเรื่องเหล่านั้นได้ เพราะถ้าไม่ผ่านมาตรฐานขั้นต้นเรื่องความปลอดภัยหลายๆ ด้านตามที่กำหนด สินค้านั้นๆ ก็จะไม่สามารถจำหน่ายในสหภาพยุโรปได้อย่างแน่นอน